หมอทำขวัญนาค ตอนที่ 2
นายชำเลือง มณีวงษ์
ผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม
(เพลงพื้นบ้าน พานพุ่มพนมมาลา ปี 2547)
โทร. 084-976-3799, 035-591271
เมื่อมาถึงยุคหนึ่ง ยุคทีศิลปินมานั่งร้องทำขวัญนาค มีผู้คนให้ความสนใจลงทุนด้วยทรัพย์สินค่อนข้างสูงเพื่อจ้างวานศิลปินคนดัง ๆ ไปเป็นโหรา เป็นผู้ประกอบพิธีทำขวัญนาค มีทั้งพระเอก นางเอกลิเก นักร้องเพลงลูกทุ่งที่มีชื่อเสียง จนไปถึงดารานักแสดงหันไปฝึกร้องทำขวัญนาคกันมาก จนทำให้พิธีกรรมที่น่าศรัทธาถดถอยลงไปบ้าง พ่อ แม่รุ่นหลังจึงปรับเปลี่ยนสิ่งที่เคยยึดถือจากหมอทำขวัญที่จะต้องจัดเตรียมสิ่งของต่าง ๆ มากมาย กลายมาเป็นนิมนต์พระคุณเจ้ามาเทศนาแทนพิธีการทำขวัญนาค ซึ่งในส่วนของเนื้อหาสาระแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระเทศน์สอนนาค หรือหมอทำขวัญก็เป็นไปในแนวทางเดียวกัน คือ สอนใจให้ผู้ที่จะบวชได้มีสติ ยั้งคิดถึงบุพการีที่ได้เลี้ยงดูมา และตระหนักในการกระทำหน้าที่ในฐานะสมมุติสงฆ์ให้ดีที่สุด
วัฒนธรรม มีการเปลี่ยนแปลงไปตามคลื่น ตามกระแสของความนิยม ความเสื่อมเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ยาก หากแต่ถ้าเรามีการเฝ้าระวังให้สิ่งที่เป็นระเบียบและความงามยังคงอยู่ ก็จะสามารถยืดอายุของวัฒนธรรมประเพณีนั้น ๆ ให้คงอยู่ได้นาน ๆ ต่อไป ประเพณีการทำขวัญนาคก็เช่นเดียวกัน ในยุคหนึ่ง ชาวบ้านเชื่อกันว่า หากลูกผู้ชายจะโกนหัวโกนคิ้วเข้าโบสถ์ บวชเรียนตามประเพณี จะต้องจัดหาผู้ที่รู้คัมภีร์ ทางศาสนมาอบรมสั่งสอนให้ได้เห็นความสว่างในทางธรรม รู้ผิดชอบ รู้ดีรู้ชั่ว เรียกได้ว่า ลูกจะได้เป็นผู้ที่มีความบริสุทธิ์ก่อนที่จะเข้าโบสถ์บวชเรียนตามประเพณี
บทบาทและหน้าที่ของหมอทำขวัญ หมอขวัญจะต้องเดินทางไปถึงบ้านงานก่อนเวลาทำขวัญนาค อย่างน้อย ๆ 1 ชั่วโมง ในสมัยก่อน พ่อคุณของผมจะเดินทางไปถึงบ้านงานแต่เช้า ทั้งที่การทำขวัญมีเอาตอนบ่าย (บ่าย 1-2 โมง) เป็นการเตรียมความพร้อมและช่วยให้เจ้าภาพมั่นใจ สบายใจว่า โหรา ผู้ประกอบพิธีมาแน่นอน เมื่อหมอขวัญไปถึงบ้านงาน ก็จะตรวจดูทิศ ด้านไหนทิศตะวันตก ทิศตะวันออก ซึ่งในแต่ละวันจะมีผีหลวงประจำทิศอยู่ยกเว้นทิศตะวันออกเฉียงใต้ (รายละเอียดดูใน ทำขวัญนาค “ความเชื่อและศรัทธา”)
หมอทำขวัญนาคจะต้องจัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็นต่าง ๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีการทำขวัญนาค หมอขวัญจะทำการตั้งหลักบายศรีให้มีความมั่นคง เตรียมสำรับเครื่องสังเวย (ขนมต้มแดง ขาว ข้าวปากหม้อ ไข่ต้ม มะพร้าวอ่อน) เหล้าขาว ยาสูบ หมาก 5 คำ พานกำนล ในพานมีดอกไม้ ธูป เทียน เงิน 12 บาท (สมัยก่อนค่ากำนล 6 บาท) หมอขวัญจัดวางสำรับอาหารไว้อย่างเป็นระเบียบ ทำการไหว้ครู คำนับครู บอกครูเสียก่อน แล้วจึงนำขันน้ำมาทำน้ำมนต์ แล้วหยิบใบพลู 7 ใบ มาเขียนอักษร พุท ธะ สัง มิ แล้วลอยไว้ในขันน้ำมนต์
ที่หลักบายศรีซึ่งนิยม บายศรี 5 ชั้น หรือ 7 ชั้น มีไม้ซีก 3 ซีกขนาบบายศรีเอาไว้ เมื่อบอกลาครูแล้วก็นำเอาเครื่องคาว หวานมาจัดใส่กระทงวางไว้ในแว่นบายศรีแต่ละชั้นจนถึงยอดสุดมีข้าวปากหม้อและไข่ต้ม และปักเทียนชัยเอาไว้ที่ยอดบายศรี 1 แท่ง ใช้ใบตอง 3 ก้าน หุ้มบายศรี จากนั้นนำเอาผ้าสีมาห่อหุ้มบายศรีโดยหุ้มเวียนขวา ผูกผ้าไว้ที่ยอดสุด แล้วหมุนชายผ้าเวียนไปรอบบายศรีจนสุดผ้า นำเอาพวงเงินพวงทองมาคล้องที่บายศรีอีกชั้นหนึ่ง ปัจจุบันอาจจะไม่ต้องหุ้มบายศรี เพราะเป็นบายศรีดอกไม้สดและบางทีเป็นบายศรีพานโตกซึ่งเป็นการจัดในลักษณะพิเศษเฉพาะ โชว์ความสวยงามของดอกไม้สด
เมื่อได้จัดการอาบน้ำให้นาคเป็นที่เสร็จสรรพ หมอทำขวัญจัดเตรียมการเครื่องประกอบพิธีจนเสร็จเรียบร้อยก็จะเข้าสู่พิธีการทำขวัญนาค ผู้ที่ทำหน้าที่โหราหรือหมอขวัญจะต้องอยู่ในชุดขาว หรือชุดที่ดูสุภาพ น่าเชื่อถือ ตอนนี้ใช้เสียงเรียกนาคมานั่ง เชิญพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้องมาพร้อมกันที่บริเวณพิธีทำขวัญนาค นัดหมายเรื่องของเวลาที่จะใช้ในการประกอบพิธี ซึ่งโดยมากจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้เล็กน้อย
ไม่มีความเห็น