ชีวิตใน Launceston ของคนรู้ภาษาอังกฤษน้อย (ต่อ)Welcome BBQ


Welcome BBQ ……… 2 มีนาคม 2551

วันนี้ตื่นจริงเวลา 6.55 น. (ความจริงตั้งนาฬิกาปลุกเวลา 6.00 น.  แต่ตื่นไม่ได้เลยนอนต่อแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ)  ลุกขึ้นมารีบอาบน้ำสระผม เพราะเมื่อคืนไม่ได้อาบน้ำ กว่าจะปรับน้ำฝักบัวได้  หนาว แทบตาย  มิเชลและครอบครัวยังไม่ตื่นกันเลย  เราต้องค่อยๆย่อง ไม่กล้าส่งเสียงดัง 

                แต่งตัวเสร็จแล้ว มานั่งอ่านหนังสือที่มิเชลเอามาให้อ่าน  เป็นหนังสือเกี่ยวกับแทสมาเนีย  เป็นหนังสือภาพสวยงามมาก (ยังนั่งกลุ้มใจ...เมื่อวานมิเชลถามว่า Long  weekend  หยุดติดต่อกันสามวันจะให้พาไปที่ไหน... น่ากลุ้มใจ ก็เราไม่รู้จักสถานที่แล้วจะให้บอกได้อย่างไร ถ้าเป็นภาษาไทยก็ยังพอพูดได้ แต่ที่เป็นภาษาอังกฤษ ขนาดพูดประโยคง่าย ๆ ยังจะตาย แล้วจะได้เรื่องกันไหมเนี่ย)

                8.30 น.  มิเชลมาเคาะประตูแล้วถามว่าเราจะทำอะไรก่อนที่จะไป Welcome  BBQ  เราตอบว่า เราต้องการเขียนไดอารี  มิเชลถามว่าใช้เวลาประมาณเท่าไร      เราตอบว่าใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง มิเชลเลยบอกว่า....เวลาเก้าโมงครึ่งจะไปงาน  Welcome  BBQ  เราก็พยักหน้า  (ไม่ได้หมายความว่าฟังปั๊บรู้เรื่องปุ๊บนะ  จะบอกให้ ต้องทำท่างงก่อน มิเชลต้องพยายามพูดซ้ำ  ....น่าสงสาร มิเชลจริง ๆ )

                9.30 น. เรา มิเชล และสามีออกเดินทางโดยท้ายรถมีเรือพ่วงไปด้วย เราก็งง ๆ ว่าเราจะไปไหนกันแน่ จะไป Welcome  BBQ  หรือจะไปที่อื่น แล้วทำไมแอนดรูไม่ไปด้วย(เก็บความสงสัยไวในใจ  คือว่า...ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดตอนไหน) เรานั่งรถไปประมาณ  20 นาที ก็มาถึงสวนสาธารณะ(Trailrace) ซึ่งยังไม่ถึงเวลานัด(เวลานัด 12.30 น.) ปรากฏว่า  มิเชลพาเรามานั่งเรือ โดยให้สามีขับเรือวิ่งไปตามแม่น้ำ  “Tamar”  (อยากจะบอกมิเชลกับสามีเขาว่า  ขอบคุณในความกรุณาที่พวกเขามีให้กับเรา....พยายามนึกอยู่  แต่ยังนึกไม่ออก) เราถ่ายภาพวิวไว้หลายภาพมาก  มิเชลที่แสนดีก็พยายาม(มาก ๆ ) ที่จะอธิบายสองข้างทางว่ามันคืออะไร  เราตั้งใจฟังเกินร้อยเปอร์เซ็นต์แต่รู้ไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ (แต่แอบชมตัวเองว่าวันนี้ฟังรู้มากกว่าเมื่อวาน ฮิ..ฮิ )

สามีมิเชลพานั่งรอบแม่น้ำ  กลับมาขึ้นที่ท่าเรือเดิมที่ลง     ก่อนจะขึ้นเรากล่าวคำขอบคุณว่า “Thank  you for  your  take care.  (ถูกหรือเปล่าไม่รู้) มิเชลหันมากอด (แสดงว่าได้ผล)  ทำให้เกิดความมั่นใจเล็กน้อยหันไปขอบคุณสามีของมิเชล ก็ได้รับรอยยิ้มที่อบอุ่น (ค่อยโล่งอกไปหน่อย)

                งาน  Welcome  BBQ          เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อนัดให้ครอบครัวที่รับนักเรียนและครูไทยทุกคนใน LAUNCESTON  พานักเรียนมารวมกันโดยแต่ละครอบครัวเตรียมอาหารมาย่างบาบีคิว (BBQ) ซึ่งในสวนสาธารณะทุกแห่งใน   LAUNCESTON จะมีเตาย่างให้ ทุกคนมีสิทธิในการใช้ และหลังจากใช้แล้วต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย  (ดีจัง)  เด็ก ๆ  สนุกกันมาก  ไม่มีใครร้องไห้ (แต่ครูกำลังอยากร้องไห้...... จริง ๆ นะ)  เด็กมาเล่าบรรยากาศที่บ้านบิลเล็ท  การดูแลเอาใจใส่  บางคนได้ไปเที่ยวที่HOBART มาแล้ว  ถามเราว่าครูค่ะ ครูชาติมีรถหรือเปล่า หนูเห็นเขากำลังขับรถ  และมีเด็กผู้หญิง      ตัวเล็ก ๆ นั่งมาด้วย (เรานึกในใจว่า น่าจะใช่เพราะครูชาติหน้ามีเอกลักษณ์ )   บางคนเล่าว่า ที่บ้านผมห้องอาบน้ำเป็นกระจกแล้วไม่มีประตู   และเขาก็ไม่ได้ปิดประตูห้องนอนซึ่งตรงกับห้องน้ำที่ผมอาบอยู่   ผมอายน่าดู     บางคนบ้านอยู่แถวเดียวกันก็จะมาคุยกันบ่อย ๆ   ดูทุกคนมีความสุขกันดีมาก    ในงานนี้มีการแลกเสื้อจากทางสงวนหญิงและโรงเรียนใน LAUNCESTON  (เรารีบกลับมาดูเสื้อรู้สึกดีใจจังที่ได้เสื้อตัวเล็กใส่ได้พอดี) 

กลับถึงบ้าน  ก็เข้ามาเขียนบันทึกเพราะกลัวลืม  ตอนเย็นมิเชลมาถามว่าจะซักอะไรไหม เราก็หยิบเสื้อไปให้สามตัว แต่เราจะพูดว่าเราจะซักเสื้อในกับกางเกงในเอง  แต่ดันไปพูดว่า “Can you wash for  me ?  มิเชลพยักหน้าแล้วบอกว่า “Not  worry” (นึกในใจว่าบ้าฉิบเลยเรา  แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยตามเลยไป)    ได้เวลาทำอาหารเย็นเราก็รีบเข้าไปช่วย  แต่มิเชลบอกว่าการทำอาหารบางอย่างมีอันตรายไม่อยากให้เราช่วย แต่เราก็ยืนทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม  มิเชลก็เลยหันไปหยิบถั่วฝักยาว   แครอท และหยิบมีดมาให้   เราหั่นเสร็จแล้วก็ยืนรอว่าจะให้ช่วยทำอะไร  มิเชลเลยถามว่าเราอยากไปเดินรอบ ๆ บ้านไหม  เราก็พยักหน้า มิเชลร้องเรียกแอนดรูให้เดินไปเป็นเพื่อน (เรานึกในใจว่า แล้วเราจะคุยอะไรกับลูกเขาล่ะทีนี้)  รอสักครูหนึ่งแอนดรูก็เดินออกมาจากห้องพร้อมจะพาเราเดิน เราก็รีบใส่รองเท้า เดินไปด้วยกัน เราถามแอนดรูว่าช่วยพาไปถ่ายรูปต้นแอบเปิลได้ไหม  แอนดรูพยักหน้า  เรานึกดีใจว่าได้ถ่ายแน่ ๆ .....เดินไปเดินมาก็วกกลับมาที่เ ก่าทางหลังบ้าน (ไอ้ห่าเอ๋ย.....  เด็กมันฟังเราพูดไม่รู้เรื่องนี่หว่า) แต่พอเข้ามาทางหลังบ้านก็เห็นต้นแอบเปิลอยู่หลังบ้านของเขานี่เอง (วันนี้ได้กินอาหารอิตาลีด้วย กินแทบตายกว่าจะหมด พูดชมมิเชลไปว่า“It s  a good  taste”

คำสำคัญ (Tags): #ประสบการณ์
หมายเลขบันทึก: 189713เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2008 20:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท