แล้วคุณล่ะครัีบ จะเลือกข้างหรือเป็นกลาง หรือไม่รู้ หรือเป็นเชือกชักกะเย่อให้คนทั้งสองข้างดึง....
กราบสวัสดีทุกท่านครับ
สบายดีกันนะครับ วันนี้ไปอ่านบันทึกท่านอัครราชทูตพลเดช วรฉัตร ในบันทึกนี้ เกี่ยวกับการเลือกข้าง
ต้องเลือกข้าง
ทำให้ตรงกับใจตนเองมากๆ และคิดกันมานานเรื่องความเป็นกลาง ข้าราชการต้องเป็นกลางมันคืออะไร ผมเป็นสงสัยจากการถามหลายๆ คน

(ภาพจาก... http://www.gearthblog.com/images/nightday.jpg)
แล้วผมก็แสดงความเห็นในบันทึกท่านพลเดชไว้ว่า
โยนลูกบอลลงในสนามหนึ่งพันลูกครัีบ มีแสงแดดส่องลงไปบนสนาม
ตามกาลเวลาแต่ละวัน เราจะได้พื้นที่สว่างเพราะแสงธรรมกระทบบอลเหล่านั้น
และอีกฝั่งเป็นเงามืดอธรรมเคลือบอยู่ ผิวที่เคยสว่างก็มืดได้
ที่เคยมืดก็สว่างได้ เสมือนคนเรามีทั้งมุมมืดและสว่างในตัว
การเลือกข้างหากเราเลือกข้างสว่าง เราก็เลือกทุกคน
หากทุกคนได้รับแสงธรรมเช่นกัน
การเลือกข้างไม่ได้หมายถึงว่าการเลือกตัวบุคคล
แต่เป็นการเลือกพฤติกรรม เลือกเวลาตามบริบท ของพฤติกรรมธรรมส่องแสง
หรืออธรรมคล้ำด้วยเงา
จะเห็นว่าคนเรามีกี่คนเราก็เลือกส่วนที่เป็นธรรมของทุกคนมาใช้
แต่บ้านเมืองเรา เราไปดันยึดตัวบุคคล
แต่ในตัวบุคคลมันมีทั้งมืดทั้งสว่างนี่ล่ะ จึงปัญหา
ดังนั้นการเลือกข้างธรรม ความดี คุณธรรม จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ดี
เลือกเป็นกรณีๆ ไป หากผมทำผิด ผมก็ต้องติดคุกครัีบ คุกกายไม่เท่าไร่ครัีบ
แต่คุกใจอย่างที่ท่านว่าครัีบ อาการหนัก
การพิจารณาว่าอะไรเป็นธรรมหรือไม่ธรรม
เราต้องมีธรรมก่อนใช่ไหมครัีบ จึงจะบอกได้ว่าอะไร
แล้วเราจึงตัดสินใจเลือกข้างอยู่ภายในของเรา
หากความเป็นกลางคือ การไม่อยู่ฝ่ายธรรม หรือ อธรรม
ผมไม่ขอเป็นกลางนะครับ ผมขอเลือกข้างด้วยคนครัีบ แล้วที่เราพูดๆ
กันว่าขอเป็นกลาง กันอยู่นี่ เป็นกลางอะไรกันล่ะครับ....
ขอบพระคุณมากๆ ครัีบ แล้วคุณล่ะครัีบ จะ เลือกข้างหรือเป็นกลาง หรือไม่รู้ หรือเป็นเชือกชักกะเย่อให้คนทั้งสองข้างดึง....

(จาก... http://www.bloggang.com/data/armydoc/picture/1193222677.jpg )
กราบขอบพระคุณมากๆ นะครัีบ
เม้งครับ