คุณหมอจริยา มาชวนให้เล่น Tag ก็เลยมาค่ะ แม้จะ เป็นครั้งแรก เหมือนกันที่จะบอกความลับของตัวเองออกมา...ให้ใครๆทราบบางส่วน ...
ความลับ บางส่วน ....ที่บอกว่า บางส่วน เพราะ ยอมรับว่า เป็นคนที่ มีบุคลิกหลากหลาย ในตัวเองพอสมควร....แต่ก็รู้ตัวว่า บุคลิกข้อใด เป็น ข้อเด่น ข้อด้อย ของตัวเอง สำหรับข้อด้อยก็ได้พยายาม แก้ไขให้ดีขึ้น ด้วยตัวของตัวเอง....ต่อไปนี้ เป็นความลับ บางส่วนค่ะ...
1.ความลับอย่างหนึ่งคือ จริงๆแล้วไม่ค่อยชอบเรียนอักษรศาสตร์ค่ะ ...ชอบและสนใจ เรื่องที่เกี่ยวกับ การบริหาร การเงิน ธุรกิจ การค้า แต่ทำไมถึงมาเรียน ก็ยังงๆอยู่ (น่าจะไปเรียนเศรษฐศาสตร์) อาจจะเพราะ ได้แรงบันดาลใจจากคุณพ่อ ที่เก่งด้านภาษามาก (สมัยทำงานอยู่ที่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ตัวเองเคยได้รับมอบหมาย ให้เขียนสุนทรพจน์ ให้ท่านนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ที่ทางที่ทำงาน เชิญท่านมาเปิดงานสัมนา เป็นภาษาอังกฤษ เขียนแล้ว นำไปให้คุณพ่อแก้ไข แต่ลงเอย ด้วย ท่านเขียนให้ใหม่หมด) ต่อมา ไปเรียนด้านการบริหารธุรกิจ และ สุดท้าย ก็ดิ้นรนออกมาทำธุรกิจด้วยตัวเองจนได้ โดยได้แรงหนุนจาก เพื่อนร่วมงานเก่าๆด้วยว่า มีบุคลิก ไม่เหมาะ ที่จะทำงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจเลย จะทำต่อไปก็ได้ แต่ไม่สนุก
2.เป็นคนมีความฝันและจินตนาการ ....ฝันซ้ำซาก อยู่ได้ ในเรื่องซ้ำๆกัน....และก็แปลกที่...ความฝันมักเป็นจริง... ในหลายๆเรื่อง ...(อย่างกับหนังสือ เรื่อง..The Secret…เรื่องนี้ ขอยืนยันว่า การมีพลังจิต การเพ่งพลังไปยังเรื่องใดมากๆ มีโอกาสที่ เกิดเป็นจริงได้ พิสูจน์มาแล้ว ) พอฝันเรื่องไหน เป็นจริง ก็หาเรื่องใหม่มาฝันต่อไป ตอนนี้ ก็ยัง ฝันอยู่ ทุกวัน... อย่างเรื่อง งานด้านธุรกิจของตัวเอง ก็เป็นความฝันว่า...ต้องเป็นเจ้าของกิจการ ต้องมีธุรกิจของตัวเอง... ความฝัน ก็เป็นจริง...และยังมีอะไร อีกหลายอย่าง ที่เกิดขึ้นจาก ความฝันที่เป็นจริง ของตัวเองค่ะ...
3.โดยธรรมชาติ เป็นคนไม่ยึดติดอะไรเป็นพิเศษ (นอกจากลูกและหลาน) จึงไม่ค่อยจะเกิดอารมณ์เศร้า หรือเหงา กับใครหรืออะไร สักเท่าใด ถ้าพบเจออะไร ที่ไม่ค่อยถูกกับจริต ของตัวเอง ก็พร้อมที่จะปล่อยวางได้ทันที โดยที่เกือบไม่รู้สึกอะไรเลย อาจจะเป็นเหตุหนึ่ง ที่นั่งสมาธิได้ ค่อนข้างดี (หลวงพ่อบอก) เพราะเกิดจิตว่างได้โดยง่าย
4 เป็นคน ที่มีความมานะพยายามค่อนข้างมาก เป็นนิสัยประจำตัว จำได้ว่า ตอนเด็กๆ คะแนนสูสีกับเพื่อน ผลัดกันแพ้ชนะมาตลอด แต่ส่วนใหญ่เขามักจะสอบได้ดี กว่าเรา เสียเรื่อย
เพราะเขาเก่งด้านศิลปะ เช่น วาดรูป เย็บปักถักร้อย ในขณะที่เราไม่เก่งเลย วิชาพวกนี้ คือ ตัวช่วยดีๆนี่เอง เรื่องนี้ ทำให้เกิดมุมานะมาก พยายามฝึกจนให้ดูเหมือนเก่ง (ครูจับตัวเป็นตัวแทนโรงเรียน ไปประกวดวิชาการบ้าน การเรือน เช่น ร้อยมาลัยบ้าง แกะสลักขิงข่า เป็นรูปต่างๆบ้างหลายครั้ง เคยได้รางวัลดีที่สุด คือที่ 2 ...แถมไม่เพียงแต่ ต้องพยายามฝึกทำการฝีมือเท่านั้น ต้องพยายามเอาใจครูการฝีมือ เป็นพิเศษอีกด้วย ให้ครูรัก เพื่อ จะได้ให้คะแนนเราเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องการทำให้ผู้ใหญ่รัก นี้ เป็นเรื่องถนัด กว่าเรื่องการฝีมือจริงๆ
(บางทีแกล้งป่วย ครูก็ยังตามไปจับตัวมาจากบ้านจนได้) ซึ่งในช่วงนั้น สงสัยในใจตลอดเวลาว่า ทำไม ครูจึงดูนักเรียนไม่ออก ว่า ใครเก่งอะไร ไม่เก่งอะไร แต่ถึงจะรู้สึกกดดันอย่างไร ก็ทนได้ เพราะความอยากได้คะแนน และอยากเห็นคุณพ่อคุณแม่ยิ้ม อย่างภูมิใจ ที่ลูกสาวสอบได้อย่างที่หวังไว้
5. สิ่งที่ไม่ค่อยดีนัก แต่คนใกล้ชิด จะรู้ดี และยอมรับได้ คือ เป็นคนค่อนข้าง เจ้าระเบียบไปเกือบทุกอย่าง ชอบจัดบ้าน แต่งบ้าน จัดงานเลี้ยง คิดและแต่ง รายการอาหาร(แต่ไม่ชอบทำ) ชอบรับแขก ชอบจัดการอะไรต่ออะไรให้เข้าที่เข้าทาง ชอบการวางแผนทุกอย่าง ...ถ้าไม่เป็นตามแผนที่คิดไว้ จะออกหงุดหงิดเล็กๆ....ดูๆแล้ว ไม่น่าดี แต่โชคดี ที่ครอบครัวและคนที่ทำงานด้วย เกิดความชิน และยอมรับ ( ในระดับที่ ส่วนใหญ่ ก็มักเก็บไปเป็นนิสัยของเขาเองด้วยส่วนหนึ่ง )ได้มาตลอด ไม่งั้น คงน่าเบื่อพิลึกละ!!!
สิ่งที่อยากทำ ตอนนี้ คือ อยากทำกับข้าวเก่งๆ อยากมีชุดเครื่องครัวสวยๆ ครบชุด อย่างในหนังสือที่อ่านประจำคือ Martha Stewart Living หรือ Vogue Living ค่ะ (นี่คือที่มาของชื่อบล็อก Good Living ด้วย) แต่พอจะไปเรียน ลูกก็ห้ามว่า อย่าไปเลย อยากกินอะไร ให้แม่บ้านทำดีกว่า .. อยากให้แม่ทำในสิ่งที่ แม่ถนัด