หมาดมยอ
ชัยพฤกษ์ หมาดมยอ กุสุมาพรรณโญ

AAR วันที่ 4 มิถุนายน 2551


เทคนิคการควบคุมอารมณ์โกรธด้วยตนเอง

ในฐานะ note-taker ขออนุญาตนำ dialogue (อันที่จริงต้องเรียก SST successful storytelling...) ของกลุ่มเราวันนี้มาสรุปเป็น AAR ลงใน blog

วันนี้คุณเอื้อคือเตี้ย กำหนดหัวปลาคือ เทคนิคการควบคุมอารมณ์โกรธด้วยตนเอง โดยจำเพาะลงไปอีกว่าเอาแต่เรื่องอารมณ์โกรธที่เกิดในที่ทำงาน เล่นเอาพี่โจ้ต้องชะงักไปชั่วครู่ เพราะเตรียมเล่าเรื่องที่บ้าน

ตาดำเล่าเรื่องงาน HA ตอนที่ กรรมการ RM ต้องให้แต่ละ PCT มานำเสนอ ปรากฏว่ามีอยู่คนนึงมาไม่ได้ เลยให้อาจารย์คนนึงมานำเสนอแทน อาจารย์คนนั้นเลยโทรมาต่อว่า HA ว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ถูกเกณฑ์ให้มา present ตาดำไม่ตอบโต้ (เหมือนน้องทรายที่ไม่ตอบโต้ เพราะคุณแม่ขอร้อง) เพราะเข้าใจดีว่าอาจารย์ต้องเจอกับอะไรมา บริบทเป็นอย่างไร อีกทั้งทราบดีว่าทุกคนก็เครียด จึงเข้าใจอาจารย์คนนั้นดี และชี้แจงไปตามปกติ ไม่ได้แสดงอาการโกรธ อาจารย์คนนั้นก็พอใจ

หาญเล่าเรื่องตอนถูกส่งไปดูงานใน OR neuro ของศิริราช พอกลับมาก็มาเข้าช่วยส่งเครื่องมือให้อาจารย์คนนึง และถูกต่อว่าว่าส่งไม่เป็น ไปดูงานมาแล้วทำไมยังไม่เป็นอีก (คำพูดแรงกว่านี้) แต่หาญเงียบเพราะ 1) ตระหนักว่า ยิ่งเถียงกลับจะยิ่งส่งเครื่องมือไม่ได้ เพราะโกรธไปส่งไปคงไม่ดีแน่ 2) ถ้าชี้แจงกลับไปว่า ตอนอยู่ศิริราชเค้ามได้ให้เข้าเคสแบบนี้ และถึงมีเคสแบบนี้ก็ทำนอกเวลาราชการ ก็จะกลายเป็นการเถียงกลับ 3) นิ่งซะ แล้วส่งไป เดี๋ยวก็เกิดการเรียนรู้เองจากการที่อาจารย์ผ่าไปบ่นไปนะแหละ

ผลก็คือ ไม่เกิดการโต้เถียงกัน เกิดการเรียนรู้ไปในตัว และไม่ต้องบาดหมางกัน

เตี้ยเล่าเรื่องเพื่อนที่ทำงานเอาเรื่องส่วนตัวของเตี้ยไปแซวเล่น (ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร ที่ประชุมถามย้ำแล้ว แต่เตี้ยบอกมันหยาบคาย ไม่อยากเล่า--ยิ่งอยากรู้นะเนี้ย) เจ้าตัวโกรธจึงดุกลับไปว่า ไม่ชอบอย่าทำ แต่สีหน้ายังยิ้มแย้ม เพราะไม่อยากให้เค้ารู้ว่าเราโกรธ--ซึ่งมันแปลกดี ... เราโกรธแต่ไม่อยากให้เค้ารู้ แต่ก็ยังไปดุเค้าแล้วยิ้ม พวกนั้นก็ไม่มาแซวอีก หลังจากนั้นจึงมาปรับความเข้าใจกับพวกนั้นทีหลัง ว่าวันนั้นโกรธจริงนะโว้ย

แก้มเล่าเรื่องคล้าย ๆ ตาดำ คืองาน HA เหมือนกัน มีคนโทรมาต่อว่าอย่างแรงว่า เค้าไม่ได้รับมอบหมายงานนี้ ทำไมมาให้เค้าทำ (ตรงนี้ก็ยังไม่เล่าละเอียดว่าตัวละครเป็นใคร งานนั้นเรื่องอะไร ฯลฯ สงสัยหยาบคาย...เหมือนเรื่องของเตี้ย) เทคนคของแก้มคือ ต้องหายใจลึก ๆ แล้วพูดช้า ๆ ทันที เพื่อให้อารมณ์มันไม่พาไปกระเจิดกระเจิง การสนทนาวันนั้นจึงผ่านไปด้วยดี

จิ เล่าเรื่องเบิกยา cef-3 จากห้องยา แต่ยามาไม่ถึงวอร์ด 9 ตั้งแต่ 18.00 จนถึง 23.00 จึงได้เช็คไปทางห้องยาพบว่าจ่ายยามาแล้ว ในที่สุดก็รู้ว่า ยาไปอยู่ที่วอร์ด 12 แล้วก็ใช้กับคนไข้รายอื่นไปแล้วด้วย ความรู้สึกคือโกรธทันที จึงโทรไปสอบถามวอร์ด 12 พบว่าทางนั้นก็ยังไม่ยอมรับผิดว่า เอายาไป แค่บอกว่าเดี๋ยวเอายาใน stock มาให้วอร์ด 9 ใช้ไปก่อน ยิ่งทำให้โมโหใหญ่ แต่อาศัยว่าเคยอ่านในหนังสือเกี่ยวกับการฝึกจิต ควบคุมอารมณ์อะไรเทือกนั้น จึงได้นำเทคนิคเหล่านั้นมาใช้ทันที คือพูดด้วยคำพูดธรรมดา ไม่แสดงอารมณ์ และยังขอบคุณเค้าด้วยที่อุตส่าห์แบ่งปันยามาให้ ผลก็คือ ไม่ต้องเกิดความบาดหมางกันระหว่าง 2 วอร์ด

พี่โจ้เล่าเรื่องการประชุมภาค เกี่ยวกับการนำนิสิตไปออกภาคสนาม commed ปี 2 ที่อยุธยา พี่โจ้ได้รับการบอกเล่าจาก สสจ มาว่า เพื่อความสะดวกและปลอดภัยควรให้ นสพ นอนโรงแรม แต่คนในภาคไม่เห็นด้วย บอกว่าผิดหลักการผิด concept ของ commed ที่ควรกินอยู่หลับนอนในพื้นที่ ที่แสบกว่านั้นคือ คนที่พี่โจ้ไป lobby เรียบร้อยแล้วกลับพลิกลิ้นในที่ประชุมซะนี่ ก็เลยโกรธซ้า ณ เวลานั้น พี่โจ้รู้ตัวเองดีว่าโกรธมาก จึงยังคิดได้อยู่ว่า ไม่ควรผลีผลามทำอะไรลงไป แต่ใช้วิธีลดความโกรธด้วยการ project ไปยังผู้อื่น กล่าวคือ ในเมื่อที่ประชุมไม่เห็นด้วยก็ให้คนอื่นมารับผิดชอบการออกภาคสนามนี้แทนแล้วกัน ผลลัพธ์จึงไม่รุนแรงอย่างที่คิด

KSF ที่พอรวบรวมได้ คือ 1) เมื่อใดที่โกรธ ต้องรู้ตัวเองว่าโกรธ ต้องมีสติ ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองโกรธอาจทำอะไรไปโดยไม่รู้ 2) เมื่อใดที่โกรธ แล้วมีสติ รู้ตัวว่าโกรธแล้ว ต้องคิดซักนิดว่าผลที่ตามมา (consequences) จากการที่เราโกรธนั้นมีอะไรบ้าง กระทบผู้เกี่ยวข้อง เช่น คนไข้หรือนิสิตหรือไม่ 3) ขณะโกรธควรรู้ว่ากำลังทำงานอะไรอยู่ และควร focus ที่งาน ที่เป้าหมายงาน จะได้ควบคุมอารมณ์ไม่ให้โกรธแล้วพยายามบรรลุเป้าหมายนั้น 4) ควรใช้ body language ที่มันสุนทรีหน่อยในการควบคุมอารมณ์โกรธ จะด่าก็ต้องยิ้มไปด่าไป พูดให้ช้า หายใจลึก ๆ และ 4) ถ้าเคยอ่านหนังสือ how to ทั้งหลายเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์โกรธ ให้นำข้อควรปฏิบัติที่แนะนำในหนังสือมาใช้ทันที

สรุปแล้ว มันก็ยังมีทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ เคนรู้มา ไม่เคยรู้มาปน ๆ กัน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้มานั่งคุยกัน วันนี้ดีกว่าคราวที่แล้ว (อ.วู้ดดี้ว่า) เพราะคราวที่แล้วแย่สุด ๆ ตั้งแต่ทำมา ไม่ได้ว่าใครทั้งนั้นนะ เพียงแต่รู้สึกเองว่า การเล่าเรื่องมันแกน ๆ ยังไม่ถึงแก่นอย่างที่อาจารย์ comment แหละ วันนี้พี่หนูทำหน้าที่ fa ได้ดี จี้ถามแต่ละคนแบบติด ๆ เพื่อให้ได้ tacit จริง ๆ มีพี่โจ้และคนอื่น ๆ ช่วยเสริมด้วย

 

เอวังจึงมีด้วยประการฉะนี้....

คำสำคัญ (Tags): #km9กระโดด
หมายเลขบันทึก: 186194เขียนเมื่อ 4 มิถุนายน 2008 18:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม 2012 20:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดี ค่ะ ได้แวะมาอ่านบล็อกดีๆ เห็นด้วยนะคะ สติคือคำตอบของการควบคุมอารมณ์ค่ะ (^_^)

วันสิ่งแวดล้อมโลก : 5 มิถุนายน ของทุกปี

3331

เห็นด้วยเป็นอย่างมากว่าการบังคับใจตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

เราเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ใน gotoknow.org/blog/ped08/my dessert

เข้ามาเยี่ยมชม ผลงานของกลุ่ม KM9กระโดด

วันนี้กระโดด ได้ดีและไกลกว่าเดิมมากครับ

"หมาดมยอ หมอดมยา วิสัญญี

หมอพันนี้ หมีพันน้อ ก็มีด้วย

เขียนบันทึก คึกบันเทียน ก็แสนสวย

ขอร่วมด้วย ข้วยร่วมดอ ขอแลกเปลี่ยน"

ด้วยคารวะครับหมอ ชอบชื่อหมอจัง จาก...บ้าวอญัง เผ้าถู้ เหน้ยตาฉา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท