ผมอยู่บ้านหลังปัจจุบันนี้เป็นหลังที่ 3 ครับ ไม่นับบ้านเช่าตอนเข้าทำงานใหม่ๆ สองหลังแรกเข้าทำนองสร้างเรือนผิดคิดจนเรือนทะลาย จึงเอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังครับ
ทำไม่ไม่อยู่บ้านพัก ? ผมเข้าทำงานปี 2524 ตอนนั้นอายุ 22 ปี ขอบ้านพักภายในหน่วยงาน เขาไม่ให้ เหตุผลคือเป็นคนในพื้นที่สามารถหาที่อยู่ได้ (จะให้อยู่กับพ่อแม่) เลยซื้อที่ดินผ่อนทิ้งไว้ 100 ต.ร.ว. ในราคา 120,000 บาท (ดาวน์ 20,000 ผ่อนเดือนละ 1,000 บาท) ปี 2526 - 2529 ไปเรียนต่อ ป.โท กลับมาน้องสาวแต่งงาน อยู่กับแม่และครอบครัวน้องสาวไม่สะดวกใจเลยคิดสร้างบ้านหลังแรกบนที่ที่ยังผ่อนไม่หมด ไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ แต่ตัดสินใจสร้างเพราะขัดสนเรื่องที่อยู่จริงๆ เลยตัดสินใจสร้างบ้านหลังแรกบนที่ดังกล่าว
บ้านหลังแรก สร้าง พ.ศ. 2529 ด้วยแนวคิด ประหยัด ได้ประโยชน์ บนพื้นที่อันจำกัด ผมสร้างบ้านขนาด 122.5 ตร.ม.บนพื้นที่ 100 ต.ร.ว. ด้วยงบประมาณ 3.6 แสน เป็นที่อยู่เอง 7.00 X 7.00 ม. และสร้างห้องให้เช่าขนาด 3.50 X 7.00 ม. อีก 3 ห้อง เป็นอาคารโครงสร้างเสาและพื้นเป็น ค.ส.ล. ผนังก่ออิฐฉาบปูน โครงสร้างหลังคาใช้ไม้ที่เลื่อยจากไม้ในสวน ค่าจ้างเลื่อยไม้ถูกกว่าไม้ซื้อประมาณร้อยละ 80 บ้านหลังนี้สร้างติดพื้น เมื่อเข้าหน้าฝน โดนน้ำท่วม 2531 และ 32 กลายเป็นความทุกข์ แถมมีงูเข้ามาในห้องน้ำ ครั้นไล่มันออก มันไม่ยอมออกทางประตูครับ ดันหนีลงโถชักโครก ราดน้ำซ้ำลงไปเลย กะว่าจะให้มันลงไปอึดอัดตายอยู่ในอึ ที่ไหนได้ วันดีคืนดีมันโผล่หัวออกมาแลบลิ้นแผล็บๆ ให้เสียวเล่น ต้องปิดห้องน้ำร่วมสามเดือน จนแน่ใจว่ามันไม่อยู่แล้วจริงๆ ช่วงที่ไม่กล้าใช้ห้องน้ำ ต้องกันห้องเช่าห้องหนึ่งไว้ใช้ห้องน้ำ เมื่อแน่ใจว่างูไม่อยู่แล้วจึงได้ใช้ต่อตามปกติ เลยหาทางออกจะไปอยู่ที่สูงกว่า โดยไปดาวน์บ้านหลังที่ 2 ไว้ ช่วงแรกให้เขาเช่า พอโดนน้ำท่วมบ้านหลังแรกสองปี 6 ครั้ง เลยออกไปอยู่ที่บ้านหลังที่ 2 เสียเอง บ้านหลังแรกให้เช่าทั้งหมด ช่วงที่ไปอยู่บ้านหลังที่ 2 นี้เอง ที่ดินที่บ้านหลังแรกได้โอนกรรมสิทธิ์ ทำสัญญาซื้อ 2525 ได้โอน 2537 ถ้าผู้ขายจะเบี้ยวเสร็จแน่ๆ แต่เขาซื่อสัตย์ จัดการโอนให้ตามสัญญา ทั้งที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่าตัว
หลังที่ 2 ซื้อ พ.ศ. 2533 เป็นห้องแถวอาคารพานิชย์ ค.ส.ล. 2 ชั้น ขนาด 4.00 X 12.00 เมตร อยู่ในเขตเทศบาล เพื่อนกันเป็นคนจัดสรร ราคา 5.2 แสน ดาวน์ หนึ่งแสน ที่เหลือผ่อนธนาคารเดือนละ 7,500 บางเดือนผ่อนเงินต้นได้ 500 บาท เป็นดอกเบี้ย 7,000 บาท ที่เลือกบ้านหลังนี้เพราะน้ำไม่ท่วม แม้จะแคบ เวลาจอดรถต้องจอดในบ้าน จะวางชุดรับแขกยังไม่ได้เลย บางคืนนอนหลับเพลินๆ จะได้ยินเสียงขี้เมาร้านอาหารข้างๆ ตีกันบ้าง ด่ากันบ้าง ที่ร้ายหนักกว่า โดนขโมยงัดประตูเข้าไปยกทีวีพร้อมเครื่องเสียงหายจ้อยไปในกลีบเมฆ ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ท้ายที่สุดไม่มีความสงบสุขจากการอยู่บ้านหลังนี้ ขึ้นป้ายประกาศขายอยู่ 2 ปี มีพนักงานธนาคารเขาซื้อไปในช่วง 2538 แล้วก็ย้ายกลับไปอยู่บ้านหลังแรก ช่วงนี้มีหน้าที่ต้องดูแลนาที่กำลังจะร้างและสวนยางที่กำลังจะหมดอายุ พ่อกำลังจะโค่นแล้วปลูกใหม่ เลยวางแผนจะกลับไปดูแลนาและสวนยาง จึงวางแผนจะสร้างบ้านหลังที่ 3 ซึ่งเป็นหลังปัจจุบันครับ
หลังที่ 3 ออกแบบภายใต้แนวคิดเรือนกาแลภาคเหนือ แต่ใช้วัสดุแบบทั่วไป เพราะไม้หายากครับ ตัวอาคารยกพื้นสูง 3.00 เมตร เรียกว่าถ้ากั้นห้องก็จะกลายเป็นพื้นที่ใช้สอยอีกเท่าตัวครับ แต่ผมใช้พื้นที่นี้เป็นที่จอดรถยนต์ จอดแทรคเตอร์ จอดรถไถเดินตาม เก็บจอบเสียม ฯลฯ ครัวยกพื้นประมาณ 80 ซ.ม. ปัญหาที่แก้ได้คือสัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นหนู แมว สุนัข ขึ้นบ้านไม่ได้เลยครับ การป้องกันมดขึ้นบ้านยังทำได้เลยครับ บ้านของผมหันหน้าไปทิศตะวันตก หันหลังพิงเขา ผลก็คือในฤดูร้อน ลมตะวันออกโดนภูเขาบังร่องลม อากาศค่อนข้างร้อนครับ เลยออกแบบให้หน้าต่างทั้งหมดเป็นบานเกล็ดกระจกฝ้า ดีตรงที่ 1) ไม่ต้องปิดหน้าต่างทั้งหมด ลงบานเกล็ดแค่ไม่ให้ฝนสาดเข้าได้ 2) กระจกฝ้ามองไม่ทะลุ ไม่ต้องใช้ผ้าม่านและไม่ต้องกลัวโป๊เวลาเผลอ 3)อากาศถ่ายเทตลอดเวลาที่แง้มบานเกล็ดไว้ แม้ช่วงเย็นแดดส่องหน้าบ้านเพียงเวลาประมาณทุ่มอากาศก็เย็นสบายถ่ายเทดีครับ 4) บ้านที่ยกพื้นสูงจึงไม่ต้องติดเหล็กดัดกันขโมยเพราะขโมยปีนไม่ถึง ติดเพียงมุ้งลวดกันยุง หลังจากเข้าอยู่บ้นหลังใหม่ได้ประมาณปีเศษ ก็ขายบ้านหลังแรกได้ 8.7 แสน ทั้งที่ลงทุนเพียง 480,000 ได้อยู่เองกับค่าเช่าอีกส่วนหนึ่ง สรุปว่า การซื้อ-สร้างบ้านแล้วขายออกไปไม่มีขาดทุนเหมือนซื้อรถ
ผมชอบคติการสร้างบ้านของคนไทย(ทุกภาค) ที่นิยมยกพื้นสูง
มีใต้ถุนครับ เพราะใต้ถุนสามารถใช้ประโยชน์ได้เยอะ
สมัยก่อนจอดเกวียนเดี๋ยวนี้จอดรถยนต์ครับ จอดรถแทรคเตอร์
เก็บอุปกรณ์ทำมาหากินสารพัด
ใครจะสร้างบ้านคิดให้รอบคอบครับ
อะไรที่เป็นสิ่งดีๆ จากประสบการณ์เอาไปใช้ได้ครับ
ประสบการณ์ที่ไม่ดีของผมก็อย่าทำตามที่ผมเคยโดนนะครับ
ผมมีเวลาช่วง พ.ศ. 2529 - 2539 ลองผิดลองถูก ในช่วงอายุ 27 - 37
ปี ตอนนี้เลข 4 ที่นำหน้าอายุในปีนี้ กำลังจะถูกทดมา 1
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว
ผมคงไม่มีโอกาสแก้ตัวเพื่อสร้างบ้านหลังที่ 4 แล้วครับ