วันนี้อาหารเช้าก็มีของที่ชอบคือพะโล้เจ-ไขไก่ และผัดกระเพราเต้าหู้เจ..วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับมูลนิธิข้าวขวัญคือ เจ้าหน้าที่ครึ่งหนึ่ง 5 คน มีคุณเดชานำทีม ไปรับ "พันธุ์ข้าว" ดั้งเดิมที่เก็บไว้ ที่กรมการข้าวประมาณ 20 พันธุ์มาเก็บรักษาไว้...เป็นเรื่องที่ต้องจารึกไว้ (ผมเกือบได้ไปรับพันธุ์ข้าวกับเขาด้วยเหมือนกัน)
8.00-8.30 น. คุณอนัญญา หงษา ผู้จัดการมูลนิธิ มานำกิจกรรมแทน ชมพู่ (ไปรับพันธุ์ข้าว) เนื่องจากวันนี้มีการปฏิบัติการ จึงต้องมีการ ซ้อมจัดขบวนรถไฟ
8.30-12.00 น. เป็นการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ การจัดการระบบนิเวศน์ในแปลงนาโดยชีววิธี โดยคุณเหรียญ ใกล้กลาง (คุณเหรียญนี้ beeman เคยรู้จักเมื่อไปเรียนรู้เรื่อง การจัดการความรู้แห่งชาติ ที่กรุงเทพฯ และเธอก็ทราบว่า beeman เชี่ยวชาญเรื่องผึ้ง เนืองจากเคยอ่านบันทึกในบล็อกนั่นเอง)
ช่วงแรก เราก็ออกไปในแปลงนาของแม่ครัว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมูลนิธิเท่าไร เดินไม่เกิน 200 เมตร.. ทีมผู้เข้าร่วมฝึกอบรมหรือนักเรียนชาวนา ก็ใช้สวิงโฉบแมลงในแปลงนาแล้วก็เอามาแช่น้ำร้อน หลังจากนั้นก็เอามาแยกประเภทกันที่ห้องเรียน...แมลงที่ทีมงานผมจับมาได้หลังจากผมลองนับจำนวนคร่าวๆ แล้วก็ปล่อยไปหมด...ค่อยไปเรียนรู้ที่ห้องเรียนดีกว่า...
ไปถึงที่ห้องช้ากว่าเขาหน่อย เพราะมัวแต่นับแมลงที่จับได้ (ความจริงคุณประมวลเขาเป็นคนจับน่ะ แกลงทุนรองเท้าไปคู่หนึ่ง-ขาดไปข้างหนึ่ง..อิอิ) โดยครูเล็กเป็นผู้บันทึกจำนวน...พอไปถึงห้อง เห็นเขาแบ่งเป็นทีม..บนโต๊ะญี่ปุ่นประมาณ 6 ทีม กำลังแยกชนิดของตัวแมลง เป็นกลุ่มๆ พร้อมนับจำนวนด้วย
ผมมีโอกาสไปเป็นที่ปรึกษา ด้านแมลงให้กลุ่มต่าง (ผันตัวจากนักเรียนไปเป็นครูชั่วคราว) งานนี้รู้สึกสนุกมาก เพราะตอนสอนนักเรียนก็ไม่เคยทำแบบนี้ เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำมาก....นักเรียนทุกกลุ่มสนุกกับการคัดแยกแมลงมาก....โดยสรุปว่า "แมลงตัวดี" มากกว่า "แมลงตัวร้าย" มาก มากทั้งจำนวนชนิดและจำนวนตัว
ที่น่าแปลกใจคือ นักเรียนจับแมลงปอเข็มมาได้เยอะมากๆ และผมยังได้ความรู้ใหม่อีกหน่อย ที่เห็นมวนเพชรฆาตอยู่ในกลุ่มด้วย มันน้อยกว่าคาดคิดเพราะว่าเห็นเพียงตัวเดียว และจากที่เคยเรียนมาว่า พบมวนแค่ ๒ ชนิด ที่เป็นตัวห้ำ คือ มวนเพชรฆาต Reduviidae กับ มวนพิฆาต Pentatomidie
คราวนี้ได้ความรู้ใหม่มาว่า ไอตัวเล็กๆ สีเขียวคล้ายเพลี้ยจักจั่น ที่สามารถแทรกตัวเข้ามาในมุ้งลวดยามหน้าฝนแล้วมากัดเรา (คล้ายๆ ยุง) นั้นเป็น มวนเจาะไข่เพลี้ย (ตัวมันเล็กกว่าเพลี้ย)
สรุปว่า หากนาที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี จะมีแมลงร้าย (มีพวกเพลี้ยจักจั่น, เพลี้ยกระโดด และพวกหนอนผีเสื้อและผีเสื้อเป็นส่วนใหญ่) น้อยกว่าแมลงดีมากๆ เลย ดังนั้นเราก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะใช้สารเคมีกำจัดแมลง...แต่ด้วยความเคยชิน เกษตรกรอยากจะฉีดยา ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้ฉีดยาที่ทำจากสมุนไพร เช่น สะเดา เป็นต้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะได้ผลผลิต...อิอิ (เรียกว่าขอให้ได้ฉีดหน่อยก็แล้วกัน)
พอพักเบรคแล้ว คุณเหรียญก็นำภาพแมลงชนิดต่างๆ ฉายผ่าน Power point ให้ได้ดูกัน สำหรับผมซึ่งรู้เกี่ยวกับแมลงดีแล้วก็ไม่ตื่นเต้นอะไร แต่เห็นสมาชิกหลายท่านสนใจจดและถ่ายภาพ และบางคณะก็เก็บตัวอย่างไป ทำให้ปลื้มใจกับความใส่ใจในการเรียนรู้ของเกษตรกรมากๆ เลย
ช่วงบ่ายเราก็ทำกิจกรรมคลายความง่วงหลังอาหารเที่ยงกัน โดยคุณอนันยา และหลังจากนั้นคุณพรชัย ชูเลิศ ก็มาเล่าเรื่องเกี่ยวกับการใช้จุลินทรีย์ในการปรับปรุงดินให้พวกเราฟัง...ช่วงนี้เป็นภาคบ่าย ผมอยากไปปฏิบัติมาก แต่คุณพรชัย แกร่ายยาว พร้อมให้ดูหนังอีก 1 เรื่อง ทำให้ผมง่วงนอนเป็นอย่างมาก
และแล้ว เราก็ได้มีโอกาสออกไปเก็บตัวอย่างดิน ในป่าข้างมูลนิธิ (ไม่น่าเชื่อว่าจะมีป่าแอบซ่อนอยู่ที่นี่) ต่อจากนั้นเราก็นำจุลินทรีย์มาฝึกขยายพันธุ์โดยใช้สูตรแห้ง....
การเพาะจุลินทรีย์สูตรแห้ง
หลังจากนั้นก็นำไปทำจุลินทรีย์สูตรน้ำ หรือเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป..
ในกิจกรรมได้มีการเตรียมขี้วัวไว้ให้พวกเราได้ทำปุ๋ยหมักชีวภาพไว้ใช้ด้วย ทีมงานของผมชำนาญเรื่องนี้อยู่แล้วก็ช่วยกันทำ ส่วนผมซึ่งยังไม่เคยเป็นเกษตรกรตัวจริงได้แต่นั่งดูครับ...อิอิ
ในวันนี้ทั้งวัน ทาง UBC True vision ได้มาถ่ายทำเรื่องราวของมูลนิธินี้ ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลยครับ ช่วยบ่ายแก่ๆ แกก็ได้สัมภาษณ์แนวคิดของโกซีนักเรียนของโรงเรียนด้วย...
ช่วงค่ำเป็นกิจกรรม "การออม" เริ่มจากให้แต่ละกลุ่มไประดมความคิดและออกมานำเสนอเรื่อง รายได้และรายจ่ายในครัวเรือน โดยให้แต่ละกลุ่มเขียนโอ่งมา 1 ใบ แล้วเติมรายได้เข้าไปในโอ่ง แต่ขณะเดียวกันก็มีรูรั่วที่เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ....หลังจากมานำเสนอแล้ว ก็ให้แต่ละกลุ่มกลับไปหาวิธีอุดรูรั่วของแต่ละกลุ่ม.....โดยสรุปก็คือ รายได้-รายจ่ายที่ลดลง+การออม ทำให้เรามีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น...
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์
神奇的蜂爷
(shen2 qi2 de1 feng1 ye2)
แล้วจะตามมาอ่านต่อนะคะ
ตามพี่ใบบุญมาคะ จะติดตามอ่านตอนต่อไปนะคะ
น้องเม ม.วลัยลักษณ์
ต้องขอขอบคุณทั้งคุณใบบุญและน้องเมย์
ตามมาอ่านด้วยคนนะคะ อาจารย์ beeman นักเรียนชาวนารุ่นที่ 8 นี้ ก็มีทีมเครือข่ายภาคเหนือตอนล่างมาอีก ทั้งพี่น้องจาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร ตาก อุทัยธานี ทั้งหมด 29 คน กับรถตู้คนใหญ่เบ้อเริ่มเหมือนเดิม นำทีมโดยน้องทิพย์ มาสมทบกับเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงรายและน่าน จำนวน 25 คน อย่างเหมาะเจาะ แต่ทีมเหนือตอนบน ใจสู้สุดๆ เพราะเค้านั่งรถโดยสารจากเหนือ มาลงที่หมอชิค ทั้งน่านและเชียงราย ต่างทีมต่างมา แล้วมาเจอกันที่หมอชิต และนั่งรถจากหมอชิต มาลงสุพรรณ และเหมารถสองแถวเล็กจากตัวเมืองสุพรรณ มาลงในร่ข้าวขวัญ ใจเอาจริงๆ ค่ะ เพราะทีมหนึ่งมาแบบสบายๆ อีกทีมหนึ่งมาแบบลำบากหน่อย แต่พอสองทีมมารวมกัน ก็เฮฮาสนุกสนาน เพราะทีมเหนือตอนบนผู้หญิงจะเยอะ ส่วนเหนือตอนล่างหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ ทั้งนั้น พอได้แซวกันระหว่างเรียนรู้พอหอมปากหอมคอ
ทุกคนก็มีความตั้งใจจริงไม่แพ้รุ่นที่ผ่านมา อย่างนี้คนทำงานสู้ไม่ถอยค่ะ
ชมพู่ เอง
ขอบคุณ น้องชมพู่
มาเยี่ยมครับ เป็นบันทึกที่ละอียดเห็นวิธีปฏิบัติ อิอิ อาจารย์พอจะมีภาพแถมหน่อยไหม