อาชีพต้องห้าม


มีหนึ่งมุมมองคำถาม จำฝังใจนับจากวัยเด็ก ยามผู้เฒ่าผู้แก่บอกกล่าว และสั่งสอนลูกหลาน เมื่อยามจะเติบใหญ่เติบโต ทำอาชีพการงานใดในชีวิต ยามนั้นจดจำขึ้นใจถึงอาชีพของความเป็นคน และอาชีพที่ชีวิตควรยึดมั่นเข้าใจ ยามนี้หลังเติบโตผ่านชีวิต ท่ามกลางทุกข์สุข และคำถามอันยากลำบาก ผมนึกถึงและมองเห็นความเปลี่ยนแปลง พร้อมคำตอบในความจริงวันนี้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย ผมเพียงแต่คิดว่า สังคมไทยเปลี่ยนไปเกินกว่าที่เราเข้าใจแล้วหรือไร

อาชีพต้องห้าม

อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways

จำได้ว่า

ตอนเด็กเล็ก

ผมได้ยินคนเฒ่าคนแก่

บอกกล่าวถึงความรู้สึก บางครั้งก็กล่าวเวทนาในรูปลักษณ์ของสัตว์ร่วมโลก สงสารในความจริงของชีวิต แม้เพียงจะทุบหัวปลา ก็ยังอุทานด้วยความสงสาร ขอโทษขออภัยในชะตากรรม อันต้องก่อเวรก่อกรรมร่วมกัน ไม่นับรวมความจริงยามเห็นสัตว์ใหญ่ล้มตาย จนถึงความเวทนาสงสารในชีวิตผู้คน

น้ำใจเอื้อเฟื้อเอื้ออารีไม่ได้อยู่เพียงวาจา

แต่อยู่ในทุกดวงตาและความรู้สึก

ในแต่ละดวงใจเรา

ที่สามารถสงสารได้มากกว่าหนึ่ง แต่เป็นความสงสารอย่างเป็นทางการ นับได้เอนกอนันต์ และมีความเป็นสากล ในแต่ละความรันทดหดหู่ใจ หรือกระทั่งในแต่ละแววตาที่เห็นความทุกข์ยากของผู้คน ซึ่งปรากฎอยู่เบื้องหน้า ไม่ใช่น้ำใจอารีจะทำให้ชีวิตอ่อนโยนจนอ่อนแอ

แต่น้ำใจอารี

และความปรานีเหล่านี้

กลับหล่อเลี้ยงและชะล้างใจ

ให้มองโลกอย่างงดงาม และเชื่อในความจริงของความดี เชื่อมั่นในแต่ละคุณค่าของชีวิต ซึ่งควรประกอบด้วยความดีงาม และชีวิตมนุษย์ ผู้คนในสังคมชุมชน ควรประกอบด้วยน้ำใจเช่นนี้ เราจึงจะดำรงอยู่ได้ด้วยรอยยิ้ม และความสุขจากเบื้องลึกภายในใจ

ทุกสิ่งอย่างจึงเกี่ยวพันกันไว้จนถ่วงความจริง

ให้ความกร้าวร้าวไม่มากมายไปกว่าใจ

และให้ชัยชนะไม่ใช่สิ่งสูงสุด

แต่เป็นหัวใจอันโอบอ้อมอารี มีน้ำใจ มีสายใยแห่งความผูกพัน จนกระทั่งสามารถรักใคร่ผู้อื่นได้ ด้วยใจอันบริสุทธิ์ และมากกว่าการรักใคร่ด้วยหวังผล หรือเงินตราทรัพย์สินเบื้องหน้า เบื้องนอกหัวใจอันอ่อนโยน วันวานวันนั้นผมเห็นหัวใจผู้คนใหญ่โตกว่าเงินทอง

จำได้ในวัยเด็ก

อาชีพบางอย่างถูกตักเตือน

หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง หลีกได้ก็ควรหลีก

พอมีพอกินกับชีวิต เพียงพอให้คนรอบข้างไม่ยากลำบากแล้ว ก็ละเลิกและหลีกพ้นจากบ่วงกรรม แห่งการประกอบอาชีพเหล่านั้นเถิด ความหมายของคนขายเหล้า สุรายาเมา ขายของดองของมึน อาชีพต้องฆ่าสัตว์ อาชีพกับการพนัน การค้าชีวิตคนอื่น กระทั่งการปล่อยเงินกู้

มักได้รับเสียงตักเตือน และท้วงติงเสมอ

ไม่นับรวมกับอาชีพแห่งแผ่นดิน

บางสิ่งบางอย่างแม้ต้องทำ

ก็ให้พึงสำนึกถึงบาปบุญที่จะติดตามมา นักฆ่าแห่งแดนประหาร ตำรวจผู้ตรวจจับและฆ่าฟันเหล่าร้าย ทหารที่ต้องแบกปืนพิทักษ์แผ่นดิน และในแทบทุกอาชีพ ซึ่งอยู่ท่ามกลางเส้นยาแดงแห่งคุณธรรม ภูมิธรรมชีวิต จิตใจอารีและน้ำใจไมตรี และความหวังดีให้ชีวิตงดงาม มักต้องตักเตือน

 

 

งานวิจัยหลายชิ้น

การศึกษาประวัติศาสตร์

ในเศรษฐกิจไทยหลายร้อยปีผ่านมา

ต่างอธิบายถึงความเปลี่ยนแปลง ของสังคมเกษตรกรรม สู่สังคมเกษตรกรรมที่รัฐเข้าไปรวบรวมอำนาจ ปรับสู่ยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง กระทั่งยุคแห่งนักวิชาการรุ่นใหม่ สมัยผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม สมัยสองพันห้าร้อยสี่ กระทั่งปรับสู่ยุคพัฒนา ยุคเกษตรกรรมใหม่ ยุคอุตสาหกรรมใหม่

ไทยจึงโตขึ้นอย่างภาคภูมิ ท่ามกลางรอยยิ้ม

ภาคภูมิในใจความเป็นเสือน้อย

เสือใหม่แห่งเอเชีย

พร้อมภาระมากมายในสังคม และวิถีชีวิตผู้คน เงินทองและสินทรัพย์กลายร่างเป็นเครื่องแสดงตน เป็นอาภรณ์ประดับความจริงมากกว่าหัวใจเบื้องลึก สายตาของผู้คนที่เหยียดกันด้วยเส้นทองคล้องคอ ไหลมาสู่โทรศัพท์มือถือ และทุกสิ่งอย่างของเปลือกทางสังคม

บ้านเมืองเราทุกวันนี้

จึงพร้อมจะขายทุกสิ่งอย่าง

ขายได้ทุกอย่างของชีวิต เพื่อความมั่งคั่ง

เราขายชีวิตได้ ขายจิตวิญญาณได้ ขายความรัก ขายแผ่นดินถิ่นเกิด ค้าความฉ้อฉล ขายเงินทอง ขายสัญญาเงินกู้ ทำไมเราจะขายผู้คนกันเองรอบข้างไม่ได้ ในวันนี้ที่เราทุกคน ถูกวัดค่าด้วยเงินตรา และสินทรัพย์ประดามี ความเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ ถูกบันทึกผ่านงานของ กนกศักดิ์ แก้วเทพ ผาสุก พงษ์ไพจิตร ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม และอีกหลากนักวิชาการ

มากมายของนักวิชาการคนไทย

ผู้สนใจความเปลี่ยนผ่าน

สนใจชีวิตคนไทย

ที่เปลี่ยนไปพร้อมความมั่งคั่ง พร้อมดวงใจดวงน้อย ที่หลุดลอยจากคำอุทานถึงความสงสารเสียใจ ในแต่ละวิชาชีพ แต่ละอาชีพการงานแห่งชีวิต มากบ้างน้อยบ้างของความจริงวันนี้ วันที่คนขายเหล้าในไทยคืออภิมหาเศรษฐีระดับโลก คนสั่งฆ่าไก่ฆ่าหมูฆ่าสัตว์นับล้านตัว คือผู้นำแห่งเศรษฐกิจไทย

คำอุทานว่าน่าสงสาร

อาจใช้ไม่ได้จริงของคนไทย

เมื่อวันนี้ เราขายทุกสิ่งอย่างรอบข้าง

ขายหมดแม้แต่จิตวิญญาณ เพียงเพราะความมั่งคั่ง แล้วจะนับประสาอะไร กับการขายแผ่นดิน ขายสินทรัพย์ขายสมบัติของแผ่นดิน แค่ลำพังลอกทองพระ ลักพระขโมยของวัด ตัดสายไฟสายสัญญาณโทรศัพท์ ถอดหมุดเสาไฟฟ้า ลักฝาท่อระบายน้ำ และทุกสิ่งอย่างที่ขายได้

เรากำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ก่อนจะจับใครประจาน

หรือกระทั่งจับคนขโมยของแผ่นดินยิงเป้า

เพราะสิ่งที่ขายอยู่นั้น ล้วนฝังลึกซึ้ง

อยู่ในใจที่ขายได้ของคนไทย

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 184969เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2008 17:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

... คนขายเหล้าในไทยคืออภิมหาเศรษฐีระดับโลก คนสั่งฆ่าไก่ฆ่าหมูฆ่าสัตว์นับล้านตัว คือผู้นำแห่งเศรษฐกิจไทย ....

... .... ปูก็เพิ่งรู้เพิ่งมาไม่นานมานี่เองค่ะ คุณ Kati ว่า ในวงการธุรกิจ ... ...  เขาทำกันถึงขนาดนี้หรือ ?

... ช่วงเป็นนิสิต มีบมจ. หนึ่งมาปชส. เพื่อรับนศ. เข้าฝึกงาน ... หลังจากจนท. กล่าวชี้ชวนจบ ... ปูเอ่ยถาม ...

... " ได้ข่าวว่าบ.คุณ เอาน้อง ... ไปทิ้งทะเล เพื่อให้กระตุ้นยอดขาย ? ในตลาดโลก ...

... .... ! ! !  ...  ...

แบบไม่น่าเชื่อ ก็ต้องเชื่อค่ะ ... ขออภัยนะคะ หากออกนอกเรื่อง ... แบบพออ่านบันทึกนี้ ก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเลยค่ะ ...

สวัสดีครับ คุณ Poo

สิ่งที่ตอบความมา ชัดเจนครับ

ไม่ใช่สิ่งที่ออกนอกเรื่อง แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในเรื่องจริงจริงครับ สำหรับคำตอบพื้นฐานของชีวิต ที่เราได้เห็น ได้ยิน และได้เข้าใจว่าโลกนี้เป็นเช่นไร ในท่ามกลางความจริงเหล่านี้ ผมเชื่อว่า เราคงได้คำถามอีกมาก หากจดจำได้ว่า สังคมไทยที่เราเคยเติบโตมานั้น สอนความจริงในชีวิตเช่นไรบ้าง

เป็นความคิดเห็นที่ต่อยอด ได้เยอะมากครับ

ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท