Praepattra
ผู้ช่วยศาตราจารย์ Praepattra Kiaochaoum

พระศากยมุนีพุทธเจ้า : บทที่ 8 สวนเจ้าเชต (เชตวัน) ตอนที่ 2


ททมาโน ปิโย โหติ : ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก

อัตภาพ  บทบาท  การเกิดและการตาย

            มีข้ออ้างอิงถึงอัตภาพของตนของแต่ละบุคคลและบทบาทของเขาเอง  

อัตภาพ หมายถึง ร่างกายของบุคคล ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนกระทั่งถึงปลายผม 

บทบาท หมายถึง ระยะเวลาอันยาวนานของชีวิตตามที่ธรรมชาติกำหนดตั้งแต่การเกิดจนถึงวันตาย รวมทั้งกรรมของคุณตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย  ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดโดยกรรมของคุณเอง

 

เชตวันกับท่านผู้อุปการะช่วยเหลือคนตกยากและผู้สงบสันโดษ

            ตอนนี้ขอแนะนำนักบุญชาวอินเดียในสมัยของพระศากยมุนี   ผู้อุปการะช่วยเหลือคนตกยากท่านหนึ่งนามว่า สุทัตตะ  หนึ่งในบรรดาข้าราชบริพาร(เศรษฐี)ของพระเจ้าประเสนชิต (ปเสนทิโกศล)  สวนดอกไม้อันเป็นของเจ้าเชตผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าประเสนชิต  คำว่าเชต ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ผู้ชนะเจ้าชายประสูติในวันแห่งชัยชนะของพระเจ้าประเสนชิต  ดังนั้น จึงถูกขนานพระนามว่า เชต    สุทัตตะได้ซื้อสวนดอกไม้จากเจ้าชายด้วยราคาที่แพงลิ่วโดยการปูแท่งทองคำลงบนพื้นที่ทุกตารางนิ้ว   การที่ท่านซื้อสวนนี้เป็นผลเนื่องจากการที่ท่านได้นิมนต์พระพุทธเจ้ามาสู่เมืองสาวัตถีเพื่อทรงแสดงธรรม    เรื่องนี้เริ่มต้นทีเดียวเกิดเมื่อสุทัตตะไปประกอบการค้าที่เมืองราชคฤห์  ท่านได้พำนัก ณ บ้านของเพื่อนของท่านคนหนึ่ง  คืนหนึ่งระหว่างที่ท่านพักผ่อนอยู่  เพื่อนของท่านได้ลุกขึ้นตอนเที่ยงคืนและได้เริ่มประดับตกแต่งบ้านของเขา   เขานำเครื่องประดับประดาต่าง ๆ มาจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสมบูรณ์  ทำตลอดทั้งคืนจนบ้านของเขาสละสลวย  ท่านสุทัตตะได้ยินเสียงเกรียวกราวจึงได้ลุกขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้น  จึงเอ่ยถามว่า  สหาย  มีโอกาสอันพิเศษอันใดหรือจึงทำให้บ้านของท่านสง่างามเช่นนี้?  ท่านได้กราบทูลเสด็จพระราชามาที่นี่หรือ? หรือว่าใครบางคนในบ้านของท่านจะแต่งงาน? ทำไมจึงมีการตระเตรียมพร้อมสรรพ?

            สหายของท่านตอบว่า ผู้ที่เรากำลังคาดหวังหรือรอคอยหาใช่พระราชาไม่   เราได้กราบทูลนิมนต์พระพุทธเจ้าให้เสด็จมาสู่บ้านของเราเพื่อรับการถวายภัตตาหาร (มังสวิรัติ)

            ครั้งนั้น ท่านสุทัตตะไม่เคยได้ยินคำว่า พระพุทธเจ้า มาก่อนและเมื่อสหายของท่านเอ่ยพระนามถึงพระพุทธเจ้า ขนทั่วสรรพางค์กายของท่านก็ลุกชูชันขึ้นในทันที น่าอัศจรรย์จริง  ท่านคิดดังนี้แล้วเกิดความประหลาดใจว่า ใครกันหนอคือพระพุทธเจ้า?

            สหายของท่านจึงเล่าว่า พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ  พระองค์ทรงสละการสืบราชสมบัติตามธรรมเนียมเพื่อออกจากชีวิตการครองเรือนและบำเพ็ญมรรค(ออกบวช)  พระองค์ทรงแสวงหา(ทางพ้นทุกข์) เป็นเวลา 6  ปีในแถบหิมาลัย และหลังจากนั้น    คืนวันหนึ่ง  ใต้ต้นโพธิ์พระองค์ทอดพระเนตรเห็นดาวตก และได้รู้แจ้งมรรคผลจนกลายเป็นพระพุทธเจ้า

            พื้นเพแห่งกุศลมูลที่ท่านสุทัตตะได้สร้างไว้ดีเป็นเหตุให้ท่านเรียกร้องด้วยความตั้งใจที่จะพบพระพุทธเจ้า  ความเลื่อมใสอันลึกซึ้งของท่านได้เกิดขึ้นในพระพุทธเจ้า  ผู้ประทับอยู่ในสวนไผ่(ประมาณ 60 – 70 ไมล์ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์) ซึ่งได้ทรงแผ่แสงสว่างมายังท่านสุทัตตะ   พบแสงสว่างแล้ว  ท่านสุทัตตะคิดตกลงใจดังนั้น และมีความกระตือรือร้อนอย่างมาก รีบแต่งกายและออกเดินทาง  ตอนนั้นยังอยู่ในช่วงเที่ยงคืนและประตูเมืองก็ยังไม่เปิดแต่เมื่อท่านสุทัตตะมาถึงกำแพงเมือง  ประตูก็ได้เปิดออกเนื่องจากพระญาณของพระพุทธเจ้า ท่านจึงผ่านประตูเข้าไปได้มุ่งหน้าเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าตามลำดับ  ท่านสุทัตตะเดินตามทิศทางที่สหายของท่านบอกไว้และอาศัยพระรัศมีของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องนำทาง

            เมื่อท่านมาถึงสวนไผ่  ท่านไม่ทราบธรรมเนียมปฏิบัติในการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า  ความเลื่อมในอันจริงใจก่อใก้เกิดอาการยอมรับอีกครั้งหนึ่ง ประกอบกับเทวดา 4 ท่าน ได้จำแลงกายเป็นภิกษุ  ทำประทักษิณพระพุทธเจ้า 3 รอบแล้ว  มาอยู่ด้านหน้าพระองค์  หมอบกราบพระองค์ 3 ครั้ง  นั่งคุกเข่าและประนมมือขึ้น  ท่านสุทัตตะได้กระทำตามแบบอย่างท่านเหล่านั้น จากนั้นจึงคุกเข่าอยู่เบื้องพระพักตร์พระพุทธเจ้าผู้ทรงผันพระพักตร์มาหาเขาแล้วตรัสว่า ท่านมาทำไมหรือ?

            สุทัตตะกราบทูลตอบว่า ข้าแต่พระพุทธองค์  พระองค์ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่  ข้าพระองค์ไม่เคยพบพระพุทธเจ้ามาก่อน และบัดนี้ ข้าพระองค์ไม่อยากออกห่างพระองค์ไป พระองค์จะเสด็จไปและประทับอยู่ไกล้บ้านของข้าพระองค์ได้หรือไม่?

            พระพุทธเจ้าตรัสรับว่า ตกลง แต่ว่าท่านมีสถานที่ให้เราอยู่หรือ?  สาวกผู้ติดตามของเรามีจำนวน 1255 องค์ มีความจำเป็นต้องมีอาหารและที่อยู่อาศัย(กุฏิ)  ท่านจะอำนวยความสะดวกได้เพียงพอต่อเราทั้งหลายได้ไหม?

            ข้าพระองค์จะหาสถานที่ตามนั้น ท่านสุทัตตะทูลตอบ(สัญญา) แล้วจึงกลับไปยังบ้านเพื่อดำเนินการพิจารณาหาพื้นที่ที่เหมาะสมซึ่งในที่สุดท่านก็ได้พบสวนดอกไม้ของเจ้าเชต  เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์ในหลาย ๆ ด้าน  มีบรรยากาศที่ดี ทั้งยังอยู่ใกล้ชานเมืองอีกด้วย เป็นพื้นที่ที่มีพลังอย่างน่าทึ่ง  ทุกสิ่งเกี่ยวกับสถานที่นี้ถือว่าจัดอยู่ในขั้นยอดทีเดียว(อันดับหนึ่ง)  แต่ว่าเป็นสถานที่ในความครอบครองของเจ้าชาย  ขณะที่กำลังฉงนใจอยู่ว่าเขาจะสามารถซื้อสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร  ท่านสุทัตตะจึงได้ส่งคนส่งสาส์นเพื่อทูลให้ทรงทราบว่าจะขอซื้อ

            เขามีเงินมาก  เขาคิดว่าเขาสามารถซื้อสวนดอกไม้ของเราได้รึ! “ เจ้าชายทรงพระสรวญในข้อเสนออันน่าสนใจนั้น  ดีมาก พระองค์ตรัส(เชิงล้อเล่น) ถ้าเขาสามารถเอาแท่งทองคำมาปูบนพื้นที่ทั้งหมดได้  เราจะขายที่นั้นให้เขา  ราคาของเราเท่านั้นแหละ เจ้าเชตทรงคาดคะเนว่า ท่าน   สุทัตตะจะไม่สามารถยอมรับราคานั้นได้   พระองค์ไม่ทรงเชื่อว่า  เงินของท่านสุทัตตะและความปรารถนาที่จะฟังธรรมของเขาทั้งสองอย่างจะมีมากเพียงพอ(ที่จะตัดสินใจซื้อ)   ฝ่ายท่านสุทัตตะได้นำแท่งทองคำออกจากคลังประจำบ้านมาปู ณ สวนของเจ้าเชตตามนั้น

            เจ้าเชตตรัสเสียงดังลั่นว่า เอาแท่งทองของท่านกลับไป! เราไม่สนใจที่จะขาย  มันเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น ฉันไม่เคยเกิดความรู้สึกว่าท่านจะมีความตั้งใจที่จะจ่ายได้ในราคาขนาดนั้น  สวนของเราไม่สามารถขายให้ใคร ๆ ได้

            ท่านสุทัตตะทูลตอบอย่างสงบเสงี่ยมว่า บัดนี้ พระองค์ตรัสว่าไม่ต้องการขาย  พระองค์ทรงเป็นพระรัชทายาท และพระราชาผู้ปกครองแผ่นดินมีพระวาจาเป็นสัตย์  กษัตรย์ไม่ตรัสมุสาวาทหรือไม่ตรัสโดยขาดการเอาพระทัยใส่ไตร่ตรอง  ขอพระองค์ทรงขายเสียดีกว่า  เพราะถ้าหากประชาชนไม่สามารถเชื่อใจในพระดำรัสของพระองค์ในบัดนี้ได้  พวกเขาจะเชื่อถือพระองค์เมื่อทรงเสด็จขึ้นสู่ราชบัลลังก์ทำไมกัน?

            พระราชาทรงระลึกถึงสถานภาพของพระองค์เองจึงตรัสว่า ดีมาก และตรัสต่อว่า นับตั้งแต่ท่านใช้แท่งทองคำปูบนที่ของเรานี้  ถือว่าท่านได้ซื้อพื้นที่นี้แล้ว  แต่ท่านยังไม่ได้ปูครอบคลุมต้นไม้ทั้งหลาย  เพราะฉะนั้น สวนเป็นของที่ท่านถวายแด่พระพุทธเจ้า  แต่ต้นไม่เป็นส่วนถวายของเรา  ท่านมีอะไรจะกล่าวอีกไม่? 

            ท่านสุทัตตะพิจารณาพระดำรัสนี้และตระหนักว่าข้อนั้นเป็นความชอบธรรม  เป็นความจริงว่าไม่ได้มีการปูแท่งทองคำเหนือต้นไม้ทั้งหลาย และหากท่านปฏิเสธที่จะยินยอมตามนั้น  เจ้าชายอาจจะทรงตัดต้นไม้เหล่านั้นเสีย เมื่อนั้นสวนแห่งนี้ก็จะไม่เป็นที่ดึงดูดใจ(น่าสนใจ)เลย  จึงทูลว่า พระเจ้าข้า  พวกข้าพระองค์จะแยกส่วนต้นไม้นั้น

            ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงกล่าวกันว่า เชตวันในสวนของผู้อุปการะช่วยเหลือคนตกยากและผู้สงบสันโดษ  พระนามของเจ้าชายถูกกล่าวถึงเป็นลำดับแรก  เพราะพระองค์ทรงเป็นพระราชวงศ์  ส่วนท่าน  สุทัตตะรู้จักกันในนาม อนาถปิณฑิกะ ผู้อุปการะช่วยเหลือคนตกยากและผู้สงบสันโดษ  ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งศาสนูปถัมภกในพระราชสำนักของพระเจ้าแผ่นดิน  ถูกกล่าวถึงเป็นลำดับที่สอง

 

           

หมายเลขบันทึก: 184416เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2008 11:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ทำได้ดีมาก แต่ขอให้ปรับสีพื้นผิวสีหลังตัวอักษรให้นุ่มนวล อ่านแล้วปวดตา ทำให้หลงบรรทัด และให้มีหัวข้อ เพิ่มสีสันตัวอักษรอีกนิด ก็ถือว่าเกือบดีแล้วนะ

ติดต่อกลับ [email protected] หรือ 089-639-1075

ติดต่อกลับเพื่ออะไรค่ะ ไม่เข้าใจค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท