อัตภาพ บทบาท การเกิดและการตาย
มีข้ออ้างอิงถึงอัตภาพของตนของแต่ละบุคคลและบทบาทของเขาเอง
อัตภาพ หมายถึง ร่างกายของบุคคล ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนกระทั่งถึงปลายผม
บทบาท หมายถึง ระยะเวลาอันยาวนานของชีวิตตามที่ธรรมชาติกำหนดตั้งแต่การเกิดจนถึงวันตาย รวมทั้งกรรมของคุณตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดโดยกรรมของคุณเอง
เชตวันกับท่านผู้อุปการะช่วยเหลือคนตกยากและผู้สงบสันโดษ
ตอนนี้ขอแนะนำนักบุญชาวอินเดียในสมัยของพระศากยมุนี ผู้อุปการะช่วยเหลือคนตกยากท่านหนึ่งนามว่า สุทัตตะ หนึ่งในบรรดาข้าราชบริพาร(เศรษฐี)ของพระเจ้าประเสนชิต (ปเสนทิโกศล) สวนดอกไม้อันเป็นของเจ้าเชตผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าประเสนชิต คำว่า”เชต” ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ผู้ชนะเจ้าชายประสูติในวันแห่งชัยชนะของพระเจ้าประเสนชิต ดังนั้น จึงถูกขนานพระนามว่า “เชต” สุทัตตะได้ซื้อสวนดอกไม้จากเจ้าชายด้วยราคาที่แพงลิ่วโดยการปูแท่งทองคำลงบนพื้นที่ทุกตารางนิ้ว การที่ท่านซื้อสวนนี้เป็นผลเนื่องจากการที่ท่านได้นิมนต์พระพุทธเจ้ามาสู่เมืองสาวัตถีเพื่อทรงแสดงธรรม เรื่องนี้เริ่มต้นทีเดียวเกิดเมื่อสุทัตตะไปประกอบการค้าที่เมืองราชคฤห์ ท่านได้พำนัก ณ บ้านของเพื่อนของท่านคนหนึ่ง คืนหนึ่งระหว่างที่ท่านพักผ่อนอยู่ เพื่อนของท่านได้ลุกขึ้นตอนเที่ยงคืนและได้เริ่มประดับตกแต่งบ้านของเขา เขานำเครื่องประดับประดาต่าง ๆ มาจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสมบูรณ์ ทำตลอดทั้งคืนจนบ้านของเขาสละสลวย ท่านสุทัตตะได้ยินเสียงเกรียวกราวจึงได้ลุกขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเอ่ยถามว่า “สหาย มีโอกาสอันพิเศษอันใดหรือจึงทำให้บ้านของท่านสง่างามเช่นนี้? ท่านได้กราบทูลเสด็จพระราชามาที่นี่หรือ? หรือว่าใครบางคนในบ้านของท่านจะแต่งงาน? ทำไมจึงมีการตระเตรียมพร้อมสรรพ?”
สหายของท่านตอบว่า “ผู้ที่เรากำลังคาดหวังหรือรอคอยหาใช่พระราชาไม่ เราได้กราบทูลนิมนต์พระพุทธเจ้าให้เสด็จมาสู่บ้านของเราเพื่อรับการถวายภัตตาหาร (มังสวิรัติ)”
ครั้งนั้น ท่านสุทัตตะไม่เคยได้ยินคำว่า “พระพุทธเจ้า” มาก่อนและเมื่อสหายของท่านเอ่ยพระนามถึงพระพุทธเจ้า ขนทั่วสรรพางค์กายของท่านก็ลุกชูชันขึ้นในทันที “น่าอัศจรรย์จริง” ท่านคิดดังนี้แล้วเกิดความประหลาดใจว่า “ใครกันหนอคือพระพุทธเจ้า?”
สหายของท่านจึงเล่าว่า “พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ พระองค์ทรงสละการสืบราชสมบัติตามธรรมเนียมเพื่อออกจากชีวิตการครองเรือนและบำเพ็ญมรรค(ออกบวช) พระองค์ทรงแสวงหา(ทางพ้นทุกข์) เป็นเวลา 6 ปีในแถบหิมาลัย และหลังจากนั้น ณ คืนวันหนึ่ง ใต้ต้นโพธิ์พระองค์ทอดพระเนตรเห็นดาวตก และได้รู้แจ้งมรรคผลจนกลายเป็นพระพุทธเจ้า”
พื้นเพแห่งกุศลมูลที่ท่านสุทัตตะได้สร้างไว้ดีเป็นเหตุให้ท่านเรียกร้องด้วยความตั้งใจที่จะพบพระพุทธเจ้า ความเลื่อมใสอันลึกซึ้งของท่านได้เกิดขึ้นในพระพุทธเจ้า ผู้ประทับอยู่ในสวนไผ่(ประมาณ 60 – 70 ไมล์ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์) ซึ่งได้ทรงแผ่แสงสว่างมายังท่านสุทัตตะ “พบแสงสว่างแล้ว” ท่านสุทัตตะคิดตกลงใจดังนั้น และมีความกระตือรือร้อนอย่างมาก รีบแต่งกายและออกเดินทาง ตอนนั้นยังอยู่ในช่วงเที่ยงคืนและประตูเมืองก็ยังไม่เปิดแต่เมื่อท่านสุทัตตะมาถึงกำแพงเมือง ประตูก็ได้เปิดออกเนื่องจากพระญาณของพระพุทธเจ้า ท่านจึงผ่านประตูเข้าไปได้มุ่งหน้าเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าตามลำดับ ท่านสุทัตตะเดินตามทิศทางที่สหายของท่านบอกไว้และอาศัยพระรัศมีของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องนำทาง
เมื่อท่านมาถึงสวนไผ่ ท่านไม่ทราบธรรมเนียมปฏิบัติในการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ความเลื่อมในอันจริงใจก่อใก้เกิดอาการยอมรับอีกครั้งหนึ่ง ประกอบกับเทวดา 4 ท่าน ได้จำแลงกายเป็นภิกษุ ทำประทักษิณพระพุทธเจ้า 3 รอบแล้ว มาอยู่ด้านหน้าพระองค์ หมอบกราบพระองค์ 3 ครั้ง นั่งคุกเข่าและประนมมือขึ้น ท่านสุทัตตะได้กระทำตามแบบอย่างท่านเหล่านั้น จากนั้นจึงคุกเข่าอยู่เบื้องพระพักตร์พระพุทธเจ้าผู้ทรงผันพระพักตร์มาหาเขาแล้วตรัสว่า “ท่านมาทำไมหรือ?”
สุทัตตะกราบทูลตอบว่า “ข้าแต่พระพุทธองค์ พระองค์ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ ข้าพระองค์ไม่เคยพบพระพุทธเจ้ามาก่อน และบัดนี้ ข้าพระองค์ไม่อยากออกห่างพระองค์ไป พระองค์จะเสด็จไปและประทับอยู่ไกล้บ้านของข้าพระองค์ได้หรือไม่?”
พระพุทธเจ้าตรัสรับว่า “ตกลง แต่ว่าท่านมีสถานที่ให้เราอยู่หรือ? สาวกผู้ติดตามของเรามีจำนวน 1255 องค์ มีความจำเป็นต้องมีอาหารและที่อยู่อาศัย(กุฏิ) ท่านจะอำนวยความสะดวกได้เพียงพอต่อเราทั้งหลายได้ไหม?”
“ข้าพระองค์จะหาสถานที่ตามนั้น” ท่านสุทัตตะทูลตอบ(สัญญา) แล้วจึงกลับไปยังบ้านเพื่อดำเนินการพิจารณาหาพื้นที่ที่เหมาะสมซึ่งในที่สุดท่านก็ได้พบสวนดอกไม้ของเจ้าเชต เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์ในหลาย ๆ ด้าน มีบรรยากาศที่ดี ทั้งยังอยู่ใกล้ชานเมืองอีกด้วย เป็นพื้นที่ที่มีพลังอย่างน่าทึ่ง ทุกสิ่งเกี่ยวกับสถานที่นี้ถือว่าจัดอยู่ในขั้นยอดทีเดียว(อันดับหนึ่ง) แต่ว่าเป็นสถานที่ในความครอบครองของเจ้าชาย ขณะที่กำลังฉงนใจอยู่ว่าเขาจะสามารถซื้อสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร ท่านสุทัตตะจึงได้ส่งคนส่งสาส์นเพื่อทูลให้ทรงทราบว่าจะขอซื้อ
“เขามีเงินมาก เขาคิดว่าเขาสามารถซื้อสวนดอกไม้ของเราได้รึ! “ เจ้าชายทรงพระสรวญในข้อเสนออันน่าสนใจนั้น “ดีมาก” พระองค์ตรัส(เชิงล้อเล่น) “ถ้าเขาสามารถเอาแท่งทองคำมาปูบนพื้นที่ทั้งหมดได้ เราจะขายที่นั้นให้เขา ราคาของเราเท่านั้นแหละ” เจ้าเชตทรงคาดคะเนว่า ท่าน สุทัตตะจะไม่สามารถยอมรับราคานั้นได้ พระองค์ไม่ทรงเชื่อว่า เงินของท่านสุทัตตะและความปรารถนาที่จะฟังธรรมของเขาทั้งสองอย่างจะมีมากเพียงพอ(ที่จะตัดสินใจซื้อ) ฝ่ายท่านสุทัตตะได้นำแท่งทองคำออกจากคลังประจำบ้านมาปู ณ สวนของเจ้าเชตตามนั้น
เจ้าเชตตรัสเสียงดังลั่นว่า “เอาแท่งทองของท่านกลับไป! เราไม่สนใจที่จะขาย มันเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น ฉันไม่เคยเกิดความรู้สึกว่าท่านจะมีความตั้งใจที่จะจ่ายได้ในราคาขนาดนั้น สวนของเราไม่สามารถขายให้ใคร ๆ ได้”
ท่านสุทัตตะทูลตอบอย่างสงบเสงี่ยมว่า “บัดนี้ พระองค์ตรัสว่าไม่ต้องการขาย พระองค์ทรงเป็นพระรัชทายาท และพระราชาผู้ปกครองแผ่นดินมีพระวาจาเป็นสัตย์ กษัตรย์ไม่ตรัสมุสาวาทหรือไม่ตรัสโดยขาดการเอาพระทัยใส่ไตร่ตรอง ขอพระองค์ทรงขายเสียดีกว่า เพราะถ้าหากประชาชนไม่สามารถเชื่อใจในพระดำรัสของพระองค์ในบัดนี้ได้ พวกเขาจะเชื่อถือพระองค์เมื่อทรงเสด็จขึ้นสู่ราชบัลลังก์ทำไมกัน?”
พระราชาทรงระลึกถึงสถานภาพของพระองค์เองจึงตรัสว่า “ดีมาก “และตรัสต่อว่า “นับตั้งแต่ท่านใช้แท่งทองคำปูบนที่ของเรานี้ ถือว่าท่านได้ซื้อพื้นที่นี้แล้ว แต่ท่านยังไม่ได้ปูครอบคลุมต้นไม้ทั้งหลาย เพราะฉะนั้น สวนเป็นของที่ท่านถวายแด่พระพุทธเจ้า แต่ต้นไม่เป็นส่วนถวายของเรา ท่านมีอะไรจะกล่าวอีกไม่?”
ท่านสุทัตตะพิจารณาพระดำรัสนี้และตระหนักว่าข้อนั้นเป็นความชอบธรรม เป็นความจริงว่าไม่ได้มีการปูแท่งทองคำเหนือต้นไม้ทั้งหลาย และหากท่านปฏิเสธที่จะยินยอมตามนั้น เจ้าชายอาจจะทรงตัดต้นไม้เหล่านั้นเสีย เมื่อนั้นสวนแห่งนี้ก็จะไม่เป็นที่ดึงดูดใจ(น่าสนใจ)เลย จึงทูลว่า “พระเจ้าข้า พวกข้าพระองค์จะแยกส่วนต้นไม้นั้น”
ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงกล่าวกันว่า “เชตวันในสวนของผู้อุปการะช่วยเหลือคนตกยากและผู้สงบสันโดษ” พระนามของเจ้าชายถูกกล่าวถึงเป็นลำดับแรก เพราะพระองค์ทรงเป็นพระราชวงศ์ ส่วนท่าน สุทัตตะรู้จักกันในนาม “อนาถปิณฑิกะ” ผู้อุปการะช่วยเหลือคนตกยากและผู้สงบสันโดษ ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งศาสนูปถัมภกในพระราชสำนักของพระเจ้าแผ่นดิน ถูกกล่าวถึงเป็นลำดับที่สอง
ทำได้ดีมาก แต่ขอให้ปรับสีพื้นผิวสีหลังตัวอักษรให้นุ่มนวล อ่านแล้วปวดตา ทำให้หลงบรรทัด และให้มีหัวข้อ เพิ่มสีสันตัวอักษรอีกนิด ก็ถือว่าเกือบดีแล้วนะ
ติดต่อกลับ [email protected] หรือ 089-639-1075
ติดต่อกลับเพื่ออะไรค่ะ ไม่เข้าใจค่ะ