ผมเคยบันทึกเรื่องคุณเดชา ศิริภัทร ไว้ที่
http://gotoknow.org/blog/thaikm/7531 และ http://gotoknow.org/blog/thaikm/6310
วันที่ ๑๘ – ๑๙ พ.ค. ๕๑ มูลนิธิข้าวขวัญและพันธมิตรร่วมกันจัดงานฉลองอายุครบ ๖๐ ปี ของคุณเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ที่ผมยกย่องให้เป็น “คนพิเศษ” ของแผ่นดิน ที่กล้าประกาศว่าจุดหมายของชีวิตคือนิพพาน
ต้องอ่านหนังสือ ๒ เล่ม ที่แจกในงานจึงจะซาบซึ้งกับเส้นทางสู่นิพพานของคุณเดชา เพราะมีหลายแง่มุมเหลือเกิน
เช้าวันที่ ๑๙ ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา ผมอ่านหนังสือ “จิตวิญญาณในเมล็ดข้าว : หกศตวรรษเดชา ศิริภัทร” จบในเวลา ๒ ชั่วโมง โดยอ่านอย่างละเอียด ได้เห็นเหตุปัจจัยของชีวิต ที่ค่อยๆ โน้มนำไปสู่ความดีงาม หรือ “นิพพาน” ของคุณเดชา จากชีวิตวัยเยาว์ในฐานะลูก-หลานเศรษฐีใหญ่บ้านนอก ชีวิตนักเรียน-นักศึกษา ที่ไม่ใช่แค่เรียนวิชา ยังเรียนโลกกว้างโดยการอ่านหนังสือ ชีวิตข้าราชการ ชีวิตนักการเกษตรธุรกิจ แล้วเดินสู่ชีวิตของนักพัฒนาอิสระ ผมนึกขอบคุณความอยุติธรรมที่คุณเดชาได้รับจากราชการ ทำให้หันเหชีวิตออกจากแนวทางนั้น จนเดินทางมาสู่ชีวิตนักพัฒนาอิสระอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ไม่ทราบว่าคนอื่นๆ ตีความการเกิดมาในครอบครัวเศรษฐีว่าอย่างไร แต่ผมตีความว่า “สมบัติ” (assets) ที่คุณเดชาได้ติดตัวมากับความเป็นลูกหลานเศรษฐี คือ “หน่ออ่อนแห่งปัญญา”
สังคมไทย โดยเฉพาะสังคมภาคเกษตรกรรม โชคดีที่คุณเดชารับมรดกเศรษฐีมาถูกด้าน คือรับมาเฉพาะด้านปัญญา ไม่รับด้านกิเลส มา หรือมีจริตในการขยายพืชพันธุ์ด้านปัญญาได้เก่งกว่าด้านกิเลส ชีวิตของคุณเดชาจึงเป็นการเดินทางไปสู่ “ปัญญาแตกฉาน” ในหลากหลายด้าน รวมทั้งด้านจิตวิญญาณ ที่ไม่ใช่เห็นได้ด้วยการพูดหรืออธิบาย แต่แสดงให้เห็นด้วยการกระทำ
ผมเรียนรู้จากคุณเดชาว่า “มรดกเศรษฐี” นั้น ไม่ได้มีแค่ทรัพย์สมบัติ แต่มี “อริยะสมบัติ” แฝงฝังลึกอยู่ด้วย ลูกหลานเศรษฐีส่วนใหญ่โชคไม่ดีพอที่จะได้สมบัติส่วนที่ฝังอยู่ลึกมาก แต่คุณเดชามีอริยปัญญาสูงพอ หรือสั่งสมมามากพอที่จะขุดเอาอริยทรัพย์ของบรรพบุรุษออกมาทำคุณให้แก่แผ่นดิน
การเดินทางชีวิตสู่นิพพาน คือการ “ขุดสมบัติ” และ “สั่งสมสมบัติ” ในส่วนที่เป็นอริยทรัพย์ โดยการทำความเพียรด้วยการปฏิบัติ
นี่คือ AAR ความรู้ด้านลึกที่ผมได้รับจากการมีโอกาสสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุณเดชา และมูลนิธิข้าวขวัญ เป็นเวลา ๕ ปี กลั่นออกมาเผยแพร่เพื่อประโยชน์แก่ “ลูกหลานเศรษฐี” ทั้งหลาย
คนที่สนใจด้านจิตตปัญญา หรือจิตวิวัฒน์ ควรได้อ่านหนังสือ “จิตวิญญาณในเมล็ดข้าว : หกศตวรรษเดชา ศิริภัทร”
หนังสืองานแซยิดคุณเดชา
|
หนังสือรวมบทความของคุณเดชาเกี่ยวกับเกษตรกรรมยั่งยืน
|
คุณเดชาคือคนซ้ายสุด อายุ ๖๐ แต่ดูเหมือน ๔๐
|
อีกมุมหนึ่งของเวที ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนชาวนาขึ้นมาเล่าความประทับใจ
|
บรรยากาศของลานเสวนาถ่ายจากเวที
|
วิจารณ์ พานิช
๑๙ พ.ค. ๕๑
พี่เดชา ศิริภัทร หรือ พี่เขี้ยวของน้องชาวเกษตร ม.ขอนแก่น เป็นตัวอย่างของความเติบโตทางจิตวิญญาณของชีวิต ที่งดงามอย่างแท้จริงคนหนึ่ง
"ถ้าเรามีศักดิ์ศรีก็จะทำให้คิดได้ว่าไม่ต้องคิดเรื่องปมด้อย เพราะเรามีอย่างอื่นตั้งเยอะ ทำไมต้องไปพูดถึงเรื่องนี้ (ที่เป็นปมด้อย) เรื่องเดียวเท่านั้น " (จาก:http://gotoknow.org/blog/thaikm/7531)
ดีใจค่ะ...ที่ได้อ่านเรื่องดีดี...ที่มีคนดีดี...เช่นคุณเดชา...จักพาพัฒนา...เกษตรกรรมให้ยั่งยืน
ขอร่วมชื่นชมคุณเดชา ศิริภัทร ขอเป็นกำลังใจให้ก้าวต่อไปของชีวิตเต็มไปด้วยพลังความแข็งแกร่งในทุกด้าน เห็นคุณเดชาในรายการทีวีเมื่อคืน ดูอ่อนกว่าอายุจริงๆ
เมื่อคืนนี้ดูรายการเจาะใจ ได้รู้จักคุณเดชา ศิริภัทร รู้สึกประทับใจมาก
อยากให้ชาวนาไทยทุกคนคิดได้แบบคุณเดชาบ้าง