ระหว่างเดินทางกลับจากสวนป่ามหาชีวาลัย..ของครูบาสุทธินันท์
ได้รับโทรศัพท์บอกว่า...ที่บ้านฝนตกราวกับฟ้ารั่วมาหลายชั่วโมงแล้ว
ใจก็นึกถึงวันรุ่งขึ้น...ด้วยเป็นวันสำคัญ
เป็นวันแห่งประสบการณ์แรกของใครอีกหลายคน
ยังจำได้ไหม..วันที่ใส่เครื่องแบบนักเรียนเป็นครั้งแรก
วันที่ต้องผละจากความคุ้นเคย..ก้าวสู่ประสบการณ์ใหม่ในชีวิต..
วันแรกเข้าโรงเรียน...
แม้ผ่านชีวิตการเป็นครูมาหลายปี
เช้าวันนี้ ยังคงตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
โชคดีที่ฟ้าฝนเป็นใจ..ให้ได้เจอกับอากาศสดใหม่..
พื้นดินเปียกชุ่มด้วยน้ำฝน แต่ยังเข้าแถวตามถนนหน้าอาคารเรียนกันได้
พี่ๆ ประถม มัธยม เข้าแถว เข้าห้องกันเรียบร้อย
คุณครูเตรียมงานกันมาดีแล้ว
เปิดเทอมใหม่แบบนี้..
มีหน้าที่ต้องไปให้กำลังใจและต้อนรับผู้ปกครองนักเรียนอนุบาล
ที่บางบ้าน..ส่งใจมาช่วยทั้งปู่..ย่า..ตา..ยาย
บ้างก็กลายมาเป็นคุณครูผู้ช่วยไปชั่วคราว...
ทั้งนั่งเฝ้า..และพลอยช่วยงานคุณครูดูแลเด็ก
บ้างก็ต้องหาเทคนิคในการผละจาก..หลังฝากลูกไว้กับคุณครู
เจ้าหนูตัวเล็กบางคนก็พะวักพะวนทั้งอยากฟังครู ทั้งกลัวแม่ทิ้ง
ก็คุณครูมีเพลงทั้ง..งู..ช้าง..ไก่..มด...ฯลฯ..ขนกันมาร้องแทบจะหมดป่า
ชวนกันเฮฮา..เคาะจังหวะ..ตบมือ..กระพือแขน..
ชวนกันโลดแล่นกับนิทาน เรื่องดีสีสวย..
จึงเห็นภาพ..เจ้าตัวเล็กแหงนเงยมองตามครู..พลางหันมาคลำดูว่าแม่อยู่ไหม
มีบ้างที่ร้องไห้โยเย..ยามแม่จากไป..ให้ครูต้องต่อรองเจรจากันอยู่เป็นครู่ใหญ่
กว่าจะได้เช็ดน้ำตา..และหันมาร่วมวงกับเพื่อนในกลุ่ม
บ้างก็นั่งๆ ไป..น้ำตาไหลปริ่มตา...คุณครูต้องพามานั่งอิงแอบอยู่แนบตัก..
สักพักก็ตบมือตามเพื่อนได้ทั้งน้ำตาที่ยังไม่ทันแห้งหาย
คุณครูต้องวาดลวดลาย..จนถึงเวลาพากันมากินนม
เห็นแก้วนม..ก็นึกถึงแม่...น้ำตาไหลมาอีกแล้ว..
ต้องคอยเว้าวอน..ล่อหลอกไปพลาง..
บ้างก็เริ่มสนใจสิ่งรอบข้าง ชวนกันเล่นสนุก
วันนี้ของคุณครูจึงเป็นดังจอมพลังที่ต้องสร้างสีสันอันสดใส
เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าตัวเล็ก อย่างต่อเนื่อง
เป็นมนุษย์ผู้ว่องไว..ที่จะหยิบจับ..ช่วยเหลือ..
เป็นที่ซบซุกอิงแอบ..กล่อมนอนและซับน้ำตายามเศร้า...
เป็นผู้สร้างความมั่นใจ..ให้พ่อแม่ ปู่ย่า..รู้ว่าเจ้าตัวเล็ก..ยังอยู่สบายดี
จนถึงยามเย็น..อันเป็นเวลาที่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นเสมอ..
เพราะเจ้าตัวเล็กเจ้าของบ่อน้ำตา..กลับยิ้มร่า..สบายใจ..
แย้มยิ้มล้อเล่นกับกล้อง..จูงแขนพี่..สวัสดีคุณครูอย่างงดงาม..
ราวกับว่า..เมื่อเช้านี้...ไม่เคยมีเรื่องราวที่แสนเศร้าเคล้าน้ำตาและเสียงฮือๆ..ลั่นห้อง !!!
ท่ามกลางความรักและความอ่อนโยน..
ก้าวแรก..ก้าวใหม่..ของเจ้าตัวเล็กเริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้
จะเริ่มก้าวอีกในวันพรุ่ง และอีกต่อๆ ไป
ผู้ใหญ่อย่างเราๆ..ก็มีก้าวแรก..และก้าวใหม่ได้เสมอ
หากทำใจให้ผ่านพ้นจากความกลัว..ความวิตก..
เมื่อเริ่มก้าวแรก..ก้าวใหม่ก็ตามมา..
และจะพบว่า..โลกและชีวิต..มีเรื่องราวอีกมากมาย..
ให้ได้พบ...ได้สัมผัส..ได้เรียน..ไม่รู้จบ..
สวัสดีค่ะอาจารย์
- อยากกลับไปเป็นเด็กอีกจังเลยค่ะ
อิจฉาเด็ก ๆ
รัก "แม่พิมพ์"ทุกท่านค่ะ
สวัสดีค่ะครูพี่อึ่ง
ว่าจะลืมคุณแม่แล้วเชียว...เห็นแก้วนมแล้วคิดขึ้นได้ว่าแม่กลับไปบ้านแล้ว...
ฮือๆ แงๆ (อิ.อิ.)
คิดถึงค่ะ :)
เด็กๆ น่ารักจัง ชอบนั่งดูเวลาไปรับหลานที่โรงเรียน เด็กเล็กๆ น่ารักดี
พี่อึ่ง หนูพึ่งจะรู้อายุจากคุณ Conductor อยากจะบอกว่าพี่หน้าเด็กอย่างแรง ตอนแรกนึกว่าน้อยกว่านั้นไปสักสิบปีได้ นี่พอรู้เลยบอกว่าจะแอบมาขอสูตรหน้าเด้ง แต่ห้ามตอบว่าปฎิบัติธรรมนะคะ เดี๋ยววัดเขาแตกเพราะหนูจะกลายเป็นบาป ^ ^
ชอบที่พี่ ดีดี เล่ามากเลยค่ะ (ต่อไปจะเรียกพี่อึ่งตามคนอื่นๆ แล้วนะคะ ^ ^)
ยิ่งดูภาพประกอบการบรรยายยิ่งประทับใจ นึกถึงหลานเล็กๆ ที่ไปโรงเรียนในวันแรกเหมือนกัน ถ้าไ้ด้คุณครูช่วยดูแลแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็เบาใจ
ขอบคุณมากค่ะ ^ ^
ต้อมจำภาพในวัยเยาว์ของตัวเองไม่ค่อยได้ แต่ต้อมชอบอ่าน-ชอบฟัง เรื่องเล่าของเด็กๆ ตัวน้อยนะคะ ยิ่งอ่านหนังสือของปราชญ์อินเดียที่ชื่อ "รพินทรนาถ ฐากูร" ก็รู้สึกว่าเด็กนี่..น่ารักจริงๆ หลายๆ ครั้งเขาทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราต้องอึ้งกับความน่ารัก-น่าอ้อน-ความคิด ทั้งยังช่างเจรจา ฉอเลาะ
หลายปีก่อนที่ยังสนิทสนมกับพี่สาวคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้จัดการ ร.ร.อนุบาล พี่เหี้ยม(จริงๆ แล้วเธอชื่อส๊วย-สวย และหน้าตาดีมากๆๆๆ แต่เราชอบสาดใส่ตรรกะใส่กัน ลับหลังเลยเรียกพี่เหี้ยมเสียเลย)ชอบชวนให้ต้อมไปนั่งเล่น นั่งมองดูเด็กในโรงเรียน ตอนนั้นนะ ต้อมอยากไปมาก แต่ไม่เคยจะได้ไปทำอย่างนั้นสักที ยิ่งเวลาที่เธอเล่าถึงเด็กคนโน้นคนนี้..หน้าต้อมก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มพราว มีความสุขค่ะ
สวัสดีค่ะพี่อึ่ง
ดีใจที่สุดอีกครั้งที่ได้เจอพี่อึ่ง พี่สร้อย ราม..กอดรวดด้วยความชื่นใจ อิ อิ
ภาพเจ้าตัวเล็กที่น่ารักเหลือใจ ร่วมกับคำบรรยายที่อบอุ่นเหลือแสน ทำให้เห็นความรัก ความเข้าใจ ความอ่อนโยนที่สัมผัสได้อย่างนุ่มนวล ...เอาใจช่วยคุณครูจอมพลังทุกท่านในการฉุดรั้งเจ้าตัวเล็กให้มีความสุขในการมาโรงเรียนทุกๆวันนะคะ เพราะสิ่งที่คุณครูช่วยกันทำคือการปูพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการเรียนรู้โลกกว้างของคนตัวเล็กเหล่านี้เลย
ธรรมรักษาคนดีค่ะ...กราบและกอดด้วยความคิดถึงอย่างสุดแสน
สวัสดีคะ
อ่านบันทึกนี้แล้ว อยากชวนคุณ dd_L มาร่วมโครงการ ครูดี "ครูเพื่อศิษย์" คะ
ลองอ่านดูนะคะ อยากมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาไทยคะ ^_^
น้องต้อมเจ้า
น้องต้อมทำให้พี่คิดถึงตอนที่จะมาทำงานที่โรงเรียนใหม่ๆ มีความฝันอยากทำให้เป็นแบบโรงเรียนใต้ร่มไม้ ของ ท่านรพินทรนาถ ฐากูร อ่านหน้งสือเสรีภาพไม่ใช่การตามใจ ของอีวาน อิลลิช ฯลฯ คนก็บอกคิดแปลกๆ ใช้เวลานานอยู่เหมือนกันกว่าจะได้ทำให้ครูเห็นด้วย เข้าใจ และทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้นอกห้องเรียนบ้าง มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่สนุกๆ และเรียนรู้โลกภายในไปพร้อมกับโลกภายนอก แม้ตอนนี้คุณครูทั้งหลาย รวมทั้งพี่ ก็ยังเรียนรู้กันไม่จบ เพราะเรื่องของเด็ก ไม่เล็กอย่างที่คิดจริงๆ
ถ้าได้เข้าเมือง แวะมาแอ่วโรงเรียนเน้อ..วันหยุดก็ได้..มานั่งคุยกับพี่โหดใต้ร่มไม้..อิ..อิ..
สวัสดีค่ะน้องเบิร์ด
ต้อมชอบเด็กตัวน้อยๆ และรักกับความคิดของพวกเขานะคะ ต้อมก็เก็บเรื่องเด็กไปคุยกับพี่สาวคนสวยบ่อยๆ (คนละคนกับพี่เหี้ยม) แอบยกตัวอย่างมาอวดก่อนก็ได้ เพราะยังไงก็จะต้องมีในหนังสืออยู่ดี อิอิ
น้องกะเหรี่ยง เขียน
เรื่อง : missing
พี่คะ..เมื่อคืนไอมี่เอาอีกแล้ว พอดีต้อมโทรหาเพื่อนแต่เธอไม่ทันได้รับสาย คงยุ่งหรืออยู่ในระหว่างการเดินทางกลับบ้าน ผ่านไปราวชั่วโมงกว่าๆ ก็โทรกลับมาบอกว่าถึงบ้านแล้วจ้าแต่ตอนนี้ไฟฟ้าดับ เพื่อนเล่าให้ฟังว่าไปมุมไหนและทำอะไรในเมืองเชียงใหม่บ้าง และทันใดนั้นเอง เสียงใสๆ ที่ต้อมได้ยินก็..น้าวีค๊า น้าวีคุยกะใครค๊า? เพื่อนว่า..น้าวีคุยกับน้าต้อมอยู่ค่า ไอมี่บอก.."ขอหนูคุยมั่งจิ หนูก็ูอยากคุยกะน้าต้อม" แต่เพื่อนไม่ยอมให้คุย สักพักเสียงไอมี่ก็ดังเข้ามาแทรกในบทสนทนาของต้อมกับเพื่อน
ไอมี่กรี๊ดกร๊าดมาว่า.."น้าวีๆ แมงอารายยยก้นเขียวๆ มีแสงด้วยน่ะค่ะ" เพื่อนต้อมตอบหลานตัวน้อยพร้อมๆ กับที่ต้อมขำไปว่าแมงก้นเขียวๆ นั่นน่ะหิ่งห้อยจ้า ไอมี่เงียบแล้วโพล่งขึ้นมาว่า.."พี่ห้อยจะมาช่วยเราให้มีแสงสว่างใช่ไหมค๊า?" ต้อมกับเพื่อนขำกันแทบตาย สักพักพอไฟฟ้ามา บ้านก็สว่าง ไอมี่ก็วิ่งๆๆ มาบอกว่า.."น้าวีๆ พี่ห้อยมาช่วยเราจริงๆ ด้วยค่ะ ไฟมาแล้วนะค๊า"
สิ่งหนึ่งที่ต้อมชอบใจไอมี่ก็คือไอมี่จะลงท้ายทุกประโยคสนทนาก็คำว่า "ค่ะ" เสมอ ซึ่งเป็นไปโดยธรรมชาติของตัวเด็กเองโดยที่ไม่ได้เสแสร้งแกล้งแต่งขึ้นมาน่ะค่ะ
ตอนนี้ต้อมอะไร อะไร ก็ไอมี่จริงๆ ด้วย ก็พี่คะคนนี้ชอบหายตัวอยู่เรื่อยนี่นา ถ้าไม่อยากให้ต้อม อะไร อะไรก็ไอมี่ พี่ก็อย่าหายไปบ่อยสิคะ แหมๆ ว่าไหมล่ะ?
อ๊าววว หลานตัวน้อยของพี่มีชื่อแปลกๆ เนอะ ชื่อ "กู" เสียด้วย เอ๊ ว่าแต่มีคนชื่อนี้จริงๆ หรือเนี่ย?
พี่คนสวย เขียน
เรื่อง : สวัสดีเช้าวันจันทร์
สวัสดีแต่เช้าค่ะ ก่อนอื่น เรื่องหลานพี่ขอแก้ไขก่อนค่ะ เขาไม่ได้ชื่อ "กู" ค่ะ แต่เขา (ตอนเข้าไปอนุบาล 1 ขึ้น อนุบาล 2) บอกว่าเพื่อนเขาชื่อแปลกจังชื่อ "กู" พอมาปีนี้ ยิ่งแปลกใหญ่ เพราะน้องเขาก็ชื่อ "กู" เหมือนกัน!!!!! หมายความว่า หลานพี่น่ะ มีเพื่อน เพื่อนเขาเรียกตัวเองว่า "กู" หลานพี่ไม่รู้จักคำนี้ นึกว่าเป็นชื่อเขา พอมาปีนี้จึงยิ่งแปลกที่น้องเขาชื่อเหมือนกัน ก็บ้านเพื่อนเขาน่ะพูดกันแบบนั้น แต่หลานพี่ไม่รู้จักคำนี้ เนื่องจากไม่เคยได้ยินใครที่บ้านพูดไงคะ นั่นแหละจึงเป็นเรื่องโจ๊กเลย แต่ต้อมถามกลับมา กลับกลายเป็นเรื่องไม่โจ๊กเสียนี่
ส่วนหนูเอมี่ กว่าจะโตต้องมีแฟนคลับเยอะเลย ต้อมต้องเฝ้าดีๆ ล่ะมั้ง พี่เองก็คงสู้ไม่ได้ ถึงอย่างไรต้อมก็ต้องทอดทิ้งพี่ไปหาหนูเอมี่อยู่ดี (ฮา
น้องต้อมเจ้า
ค่อยกลับมาตอบอีกรอบนะ..ต้องไปโรงเรียนแล้วจ้า..
ถ้าได้เข้าเมือง แวะมาแอ่วโรงเรียนเน้อ..วันหยุดก็ได้..มานั่งคุยกับพี่โหดใต้ร่มไม้..อิ..อิ.. << หมายถึงเมืองลำพูนใช่ไหมคะ? ปีที่แล้ว..ไปหามื้อเย็นแถวนั้นทานอยู่บ่อยๆ แต่ปีนี้..ไม่ได้โฉบผ่านไปทางนั้นเลย หากมีโอกาส..จะไปนั่งคุยกับพี่โหดใต้ร่มไม้ค่ะ ^^
ทำไมไม่รู้ เวลาเจอพี่อึ่งในบันทึกจะทำให้ต้อมนึกถึงพี่เหี้ยม คิดถึงเธอน่ะค่ะ คงเพราะทำงานอยู่ในโรงเรียนเหมือนกัน และบางครั้งหวนนึกถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับเด็กๆ ของเธอแล้วก็แอบหัวเราะกิ้กอยู่คนเดียว มีอยู่คืนหนึ่ง..คืนวันลอยกระทง ต้อมยกอุปกรณ์ผสมค้อกเทลไปนั่งข้างสระว่ายน้ำที่โรงเรียนของเธอ คุยกันเรื่อยเปื่อย และไล่จุดประทีปสว่างไสวทั่วอาคารเรียนเลย ดูส๊วย-สวย
น้องต้อมเจ้า..
ถ้ามาวันหยุดได้คุยกันใต้ร่มไม้..ถ้ามาวันทำงานจะจับตัวไปสอนงานศิลปะให้เด็กๆ..เน้อ นี่พูดจริงทำจริงนา^_^
น้องต้อมเล่าถึงวันลอยกระทง..ไม่รู้ว่าพี่จะแปลกคนหรือเปล่า..ที่ไม่ค่อยชอบไปดูขบวน..(แห่แหนแต๋นแต้..) รู้สึกวิงเวียนกับผู้คนและเสียง นั่งดูฟ้า..ดูพระจันทร์ที่บ้านไปตามเรื่อง..ว้า..เขียนแบบนี้ใครจะว่า ไม่ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีมั๊ยเนี่ย..แต่ก็ชอบจุดประทีปเป็นทิวแถวนะ เคยนั่งรถผ่านหมู่บ้านในซอยทางเชียงใหม่ มีรั้วชา และ แสงประทีปสวยๆ ได้บรรยากาศดีค่ะ
อ่านเรื่องของน้องเอมี่แล้ว..สงสัยพรุ่งนี้ต้องไปสำรวจแล้วว่า มีนักเรียนชื่อ "กู" กับชื่อ "ข้า" หรือชื่อ "ฮา" สักกี่คน...555..555..
ไอมี่ เป็นเด็กผู้หญิงช่างฉอเลาะ ซึ่งเป็นคนละคนกับน้องที่ชื่อ "กู" น่ะค่ะ ^^
ต้อมไม่ชอบดูขบวนแห่ คืนนั้น..ที่ริมสระว่ายน้ำของพี่เหี้ยมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
เห็นหายไปก็เข้าใจว่างานคงยุ่งๆๆ ^^
หนังสือทำมือปีนี้ไม่ได้ทำค่ะ แต่มีแพลนอยู่เล่มหนึ่ง (แพลนข้ามปี) ตอนนี้ก็เก็บต้นฉบับใกล้เสร็จแล้ว กลางเดือนหน้าคงได้พิมพ์(เอง)ในจำนวนจำกัด(ก็แบบว่างบน้อย) เป็นการคุยกันทางเมล์ของผู้หญิงสองคนที่มาเจอกันในโลกไซเบอร์ ที่แตกต่างกันทั้งวัย สถานภาพทางสังคม หน้าที่การงาน ทัศนคติต่อเรื่องราว ต่อโลก ต่อผู้คน อิอิ..เล่าให้หรู จริงๆ แล้วก็เม้าท์คนโน้น-คนนี้นั่นล่ะค่ะ อุ๊บ! (รวมถึงเม้าท์เรื่องหนูน้อยไอมี่ด้วย)
หลายๆ ครั้งที่น้องร้องไห้ ทำไมเขาจึงทำเช่นนั้น พี่คนสวยก็จะโอ๋ๆๆ อุ้มๆๆ ก็เพราะพวกเขาเป็นผู้คนที่ดำรงอยู่บนโลกใบนี้ยังไงล่ะ ผู้คนมีทั้งเลวและดี พี่จะปลอบโยนน้องด้วยถ้อยคำหวานจับใจ (แต่ไม่ให้เหลิง) หลายๆ ทีที่พี่เหนื่อยล้าจากงานหนักหนา น้องกะเหรี่ยงก็จะโอ๋ๆ พี่อย่าร้องไห้นะคะ ก็น้องอยู่ตรงนี้ไง ก็นั่งเป็นเพื่อนพี่ ส่งยิ้มหวานๆ เอื้อมมือไปบีบมือ(นุ่มๆ )พี่เบาๆ เมื่อวันอารมณ์เบิกบาน..น้องนอนหนุนตัก ให้พี่ลูบผมเบาๆ ร้องเพลงให้ฟัง
หนังสือเล่มนี้ ไม่เน้นสาระใดๆ เน้นแต่ความรู้สึกล้วนๆ ความรู้สึกผูกพันที่ค่อยๆ สานให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้นไปทุกวันๆ มีบ้างที่การสื่อสารทางเมล์ติดขัด พี่ส่งเมล์ไปตั้งนาน..ทำไมน้องไม่ตอบมา อ้าว ก็เพราะมันมาถึงนะสิ น้องก็โมโห ฮึ! งอน ไม่รักพี่แล้วด้วย มีครบทุกอารมณ์ค่ะ ตั้งแต่หวานๆ ปวดร้าว หัวเราะ ร้องไห้ ปรี๊ดๆ ดังตัวอย่างเรื่องของไอมี่นั่นล่ะค่ะ ^^
มีท่านพี่นารีเป็น บ.ก.จำเป็น ด้วยค่ะ โฆษณาตั้งกะปีที่แล้ว ผ่านมาครึ่งปีก็ยังไม่เสร็จเสียที ถูกทวงทุกวันๆๆๆ ^^ ยังสนใจอยู่ไหมคะ?
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ