หลังจากที่ข้าพเจ้าสมัครที่ดารุลอุลูมแล้ว และได้ทราบกำหนดการตรวจร่างกายและการสอบเข้า ซึ่งข้าพเจ้าต้องเดินทางไปยังกรุงไคโร ตอนนั้นตรงกับเดือนรอมาฎอนพอดี บิดาต้องการไปพร้อมกับข้าพเจ้าด้วย แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่จำเป็น เพียงให้ท่านขอดุอาอ์ให้ข้าพเจ้า และบอกถนนหนทางให้ก็พอแล้ว ท่านฝากจดหมายไปกับข้าพเจ้าให้เพื่อนของท่านคนหนึ่งผู้มั่งคั่งซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจร้านหนังสือในไคโร ซึ่งบิดาเคยให้ความช่วยเหลือเขาไว้อย่างมากมาย และเชื่อว่าเขาเป็นคนดีและมีน้ำใจไมตรี
ข้าพเจ้าไปกรุงไคโรครั้งแรกในชีวิต ตอนนั้นข้าพเจ้ามีอายุได้สิบหกปีกว่าๆ ข้าพเจ้าถึงไปที่บาบหะดีด ประมาณเวลาอัศร์ แล้วขึ้นรถรางมายังอะตะบะฮฺ และต่อรถเมล์มายังหุเซ็น ข้าพเจ้าไปหาร้านหนังสือนั้นแล้วมอบจดหมายให้ แต่เขาไม่สนใจต่อข้อความในจดหมายนั้น เพียงแค่มอบหมายให้คนงานในร้านคนหนึ่งช่วยดูแลข้าพเจ้า ซึ่งคนงานนนี้เป็นคนดีมีน้ำใจ ซึ่งบิดาและข้าพเจ้าเคยรู้จักมาก่อน เขาจึงให้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีและนำข้าพเจ้าไปพักที่บ้าน เราละศีลอดร่วมกัน เสร็จแล้วจึงออกมาข้างนอก และกลับไปรับประทานสะหูร (อาหารก่อนตะวันขึ้นเพื่อการถือศีลอดในวันนั้น – ผู้แปล ) แล้วจึงนอนหลังละหมาดศุบห์ ข้าพเจ้าตื่นแต่เช้าตรู่ ขอให้เขาช่วยบอกทางไปยังโรงเรียนดารุลอุลูม ซึ่งข้าพเจ้ามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งคือ มุฮัมมัด ชะรอฟ ฮัจญาจ เข้ามาเรียนก่อนแล้วหนึ่งปี เพื่อสอบถามถึงการเตรียมตัวเพื่อตรวจสุขภาพ และการสอบเข้า คนงานผู้มีน้ำใจก็ช่วยบอกทางให้ ข้าพเจ้าจึงขึ้นรถเมล์มายังอะตะบะฮฺ แล้วขึ้นรถรางไปยังถนนกอศร์อัยนีย์ ตรงข้ามกับโรงเรียนดารุลอุลูม เพื่อรอพบเพื่อน เมื่อเราพบกัน เขาก็พาข้าพเจ้าไปยังบ้านเช่าถนนอับดุลบากีย์ เขตบะรอกะฮฺฟีล บ้านอยู่ชั้นสอง เขาพักอยู่กับเพื่อนๆกลุ่มหนึ่ง
ในวันที่สองข้าพเจ้าเริ่มเดินเรื่องตั้งแต่เช้าตรู่ หลังจากเพื่อนไปโรงเรียน ข้าพเจ้าไปหาเจ้าของร้านหนังสืออีกครั้งเพื่อสอบถามถึงร้านตัดแว่น เพื่อเตรียมการสำหรับการตรวจสุขภาพ แต่เขาก็ไม่ใยดีเช่นเดิม ข้าพเจ้าจึงไม่อยากเสียเวลา จึงตรงไปยังมัสยิดอัซฮัร และเข้าไปเป็นครั้งแรกในชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกครั่นคร้ามในความกว้างใหญ่และการศึกษาเป็นกลุ่มๆในมัสยิด ข้าพเจ้าแวะดูทีละกลุ่มๆ จนไปถึงกลุ่มหนึ่งข้าพเจ้าได้ยินวงสนทนากันถึงเรื่องการสอบเข้าดารุลอุลูม ข้าพเจ้าจึงรู้ทันทีว่าพวกเขาก็สมัครเรียนที่ดารุลอุลูมเช่นกัน ข้าพเจ้าจึงเข้าร่วมวงสนทนาด้วย และบอกถึงความประสงค์ของข้าพเจ้าในการหาจักษุแพทย์เพื่อตัดแว่น พวกเขาคนหนึ่งจึงให้ความช่วยเหลือและพาไปยังคลีนิกแพทย์หญิงที่เข้าใจว่าเป็นชาวอิตาลีที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นอียิปต์แล้ว เขาบอกว่าแพทย์คนนี้มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง เคยสั่งตัดแว่นที่เหมาะสมในราคาย่อมเยาให้เขามาแล้ว เมื่อเราไปถึงแพทย์ก็ทำการตรวจในทันที โดยคิดค่าตรวจเป็นเงินห้าสิบเปียส และช่วยแนะนำร้านตัดแว่นให้ด้วย ร้านแว่นคิดราคาหนึ่งร้อยห้าสิบเปียส และตัดแว่นให้แล้วเสร็จ ข้าพเจ้าจึงเตรียมการเสร็จสิ้นรอคอยเพียงการตรวจสุขภาพในอีกสองวันต่อมา
ไม่มีความเห็น