หลังจากการตรัสรู้ พระสิทธัตถะทรงพิจารณาถึงบุคคลแรกที่สามารถจะตรัสรู้ตามพระองค์ได้ ทรงเห็นปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ทรงตัดสินพระทัยเสด็จไปยังที่นั่นทันที เพื่อเริ่มต้นหมุนกงล้อแห่งธรรม 3 วาระ คือ แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร นั่นเอง
ประการแรก ในบรรดาการหมุนกงล้อธรรมจักร 3 วาระ คือ วาระแห่งการพิสูจน์ ดังนี้
1. นี่คือทุกข์ เป็นธรรมชาติที่บีบคั้น ถ้าคุณมีความโกรธ อารมณ์ฉุนเฉียวของคุณจะบีบคั้นให้คุณเป็นเหมือนไม่สบายตัวเมื่อเดิน(เหมือนวงเวียน) เมื่อยืน (เหมือนต้นสนโอนเอน) เมื่อนั่ง(เหมือนระฆังสั่น ๆ ) และแม้แต่เมื่อนอน(เหมือนคันธนูคุดคู้)
2. นี่คือสมุทัย เป็นธรรมชาติที่ล่อลวง มันจะกวักมือเรียกคุณ คุณก็ตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้น สิ่งนี้ย่อมนำมาสู่การสะสมความทุกข์ทั้งหลาย เป็นปัจจัยสืบเนื่องกันไป คุณไม่อยากมีความโกรธ แต่สถานการณ์บางอย่างก็ก่อให้เกิดการตอบสนองและคุณก็จะต้องทำ คุณจึงถูกล่อลวงเข้าไปสู่ความโกรธได้
3. นี่คือนิโรธ (ทางออกหรือความดับทุกข์) เป็นธรรมชาติที่สามารถทำให้แจ้งได้
4. นี่คือมรรค เป็นธรรมชาติที่สามารถฝึกฝนได้
ประการที่สอง ในบรรดาการหมุนกงล้อธรรมจักร 3 วาระ คือ วาระแห่งการเชิญชวน
1. นี่คือทุกข์ เป็นสิ่งที่คุณควรกำหนดรู้
2. นี่คือสมุทัย เป็นสิ่งที่คุณควรละขาด
3. นี่คือนิโรธ เป็นสิ่งที่คุณควรทำให้แจ้ง
4. นี่คือมรรค เป็นสิ่งที่คุณควรเจริญ(พัฒนาตนให้เกิดให้มี)
ประการสาม ในบรรดาการหมุนกงล้อธรรมจักร 3 วาระ คือ วาระแห่งการรับรองยืนยัน
1. นี่คือทุกข์ เป็นสิ่งที่เราได้รู้แล้ว เราไม่จำเป็นต้องรู้อีกในอนาคต
2. นี่คือสมุทัย เป็นสิ่งที่เราได้ละแล้ว เราไม่จำเป็นต้องละมันอีกในอนาคต
3. นี่คือนิโรธ เป็นสิ่งที่เราได้บรรลุแล้ว เราไม่จำเป็นต้องบรรลุอีกในอนาคต
4. นี่คือมรรค เป็นสิ่งที่เราได้เจริญแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเจริญ(ฝึกฝน)อีกในอนาคต
อริยสัจ 4
1. ทุกข์
2. สมุทัย (เหตุให้เกิดทุกข์)
3. นิโรธ (ความดับไปแห่งเหตุแห่งทุกข์)
4. มรรค (หนทางสู่ความดับเหตุแห่งทุกข์)
จะเห็นได้ว่า อริยสัจ 4 รวมทั้งอริยมรรคมีองค์ 8 เป็นรากฐานอันสำคัญของหลักคำสอนทั้งหมด ในวาระแรกของธรรมจักร พระศากยมุนีพุทธเจ้าทรงสอนถึงอริยสัจ 4 นี้ อริยสัจ 4 แสดงให้เห็่นอะไรและมาเกี่ยวข้องได้อย่างไร พระสิทธัตถะทรงชี้แจงต่อทุกๆ คนว่า โดยธรรมชาติแล้วสรรพสิ่งเป็นอนิจจัง(ไม่เที่ยง) และเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏ อันหมายถึงความทุกข์มีอยู่ด้วยกันทั้งนั้น
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา
สิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดับไป
การประชุมกันของสิ่งทั้งหลายย่อมจบลงที่การแยกสลายไป
สิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นก็ย่อมตายไป
สิ่งที่เป็นสังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง
สิ่งที่เป็นสังขารที่เกิดขึ้นเป็นทุกข์
ธรรมธาตุทั้งหลายทั้งปวงเป็นความว่างเปล่าและปราศจากตัวตน
สิ่งที่เรียกว่าตัวตนนั้นไม่มีอยู่จริง
ในวาระที่สองของธรรมจักร พระองค์ตรัสถึงศูนยตาและแง่มุมอันลึกซึ้งของมรรค และความไม่จริงแท้ของสรรพสิ่ง สรรพสิ่งซึ่งปรากฎขึ้นล้วนมีสาเหตุหรือปัจจัย ในการอธิบายเกี่ยวกับสาเหตุแห่งทุกข์ พระองค์ทรงแสดงว่า การพิจารณาโดยละเอียดถึงปัจจัยแวดล้อมของสถานการณ์บางอย่างมักจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ดีเยี่ยมเกี่ยวกับอารมณ์ที่เป็นลบ(ความทุกข์) สิ่งนี้จะนำวกไปสู่ความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในความจริงเกี่ยวกับมรรค
ในวาระที่สามของธรรมจักร การขยายความอย่างละเอียดละออเกี่ยวกับหนทางในการเข้าถึงการตรัสรู้ได้ถูกชี้แจงไว้ เป็นการเน้นย้ำถึงธรรมชาติแห่งพุทธะ : บางสิ่งบางอย่างที่เรามีอยู่เสมอ ธรรมชาติแห่งพุทธะไม่มีสิ้นสูญไป จะยังอยู่กับเรา เราไม่สามารถที่จะเปิดประตูซึ่งนำให้เข้าถึงธรรมชาติแห่งพุทธะนั้นได้ เนื่องจากจิตใจของเราถูกครอบงำด้วยอวิชชาและความยุ่งเหยิงต่าง ๆ ธรรมชาติแห่งพุทธะนี้ เป็นที่รู้จักกันว่า “ตถาคตคัพภะ” มีอยู่ในตัวเราเสมอ ไม่ใช่สิ่งภายนอกที่ผุดเกิดขึ้นทันทีในตัวเรา เมื่อเรามีความเพียรอย่างยิ่งยวดในโอกาสอันเหมาะสม ความมีอยู่ ณ ภายในของธรรมชาติแห่งพุทธะก็จะสามารถนำบุคคลให้บรรลุการตรัสรู้ได้ ดังนั้น ในขณะที่วาระที่สองของธรรมจักรได้เน้นหนักมากถึงใจความเกี่ยวกับศูนยตาและธรรมชาติของความว่างของศูนยตานั้น ส่วนวาระที่สามชูประเด็นคำสอนเกี่ยวกับปัญญา คือ ภาวะที่ใจบริสุทธิ์และสว่างไสว
อีกข้อหนึ่งซึ่งจะต้องตระหนักอยู่เสมอเกี่ยวกับวิถีทางทั้งปวงก็คือ อริยมรรคมีองค์ 8 คือ หนทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เกี่ยวกับความจริงทั้งปวง ไม่มีอะไรที่เกินเลยอริยสัจ 4 เมื่อเข้าถึงและพัฒนาแง่มุมทั้งสองประการนี้จนถึงที่สุด บุคคลก็จะหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงและเข้าถึงสถานะแห่งพระนิพพานโดยแน่นอน ครูที่ดีและความรู้ที่เก็บเกี่ยวจากหนังสือทั้งหมดสามารถนำเสนอและชี้แนะหนทางให้คุณเท่านั้น แต่ท่านทั้งหลายจะต้องดำเนินตามนั้นด้วยตนเอง เพราะไม่มีใครสามารถนำคุณให้เข้าถึงสถานะแห่งพระนิพพานนั้นได้เลย
บุญรักษา ธรรมคุ้มครองนะคะ
เพื่อนๆ สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมในแง่มุมต่างๆ ได้จากที่นี่ค่ะ
ประโยชน์ของการปฏิบัติกรรมฐาน
http://gotoknow.org/blog/bhuddabutr/257968
บวชที่วัดป่าเจริญราช
http://gotoknow.org/blog/makingmeditation
ปฎิบัติธรรม ณ ยุวพุทธิกสมาคมฯ
http://gotoknow.org/blog/gotoybat
ตามรอยพระอารยะวังโส
http://gotoknow.org/blog/arayawangso
ค่ายพุทธบุตร
http://gotoknow.org/blog/bhuddabutr
เรื่องเล่าในหนังสือธรรมะ
http://gotoknow.org/blog/storydhamma
Good Project
http://gotoknow.org/blog/goodproject
ไม่มีความเห็น