ความคิดที่ผุดขึ้นภายในใจ


นอกจากการมองออกไปเพื่อให้เห็นปัญหาแล้ว เราต้องมองเข้าเพื่อระแวดระวังปัญหาที่อาจจะเกิดจากตัวเราเองด้วยทุกครั้งเสมอ

การรู้ว่า"จะเรียนรู้"อย่างไร?

หาใช่คำตอบว่า"จะทำอย่างไร?"เสมอไปก็หาไม่

แต่การเข้าถึง"แก่นสาร"ที่แท้จริงของสิ่งที่เราเรียนรู้

จะทำให้เราเข้าใจ"แก่นแท้ของปัญหา"ที่เกิดขึ้น

และมันจะให้"วิธีการ"ในการแก้ไขแต่ละปัญหานั้น

แต่ละคน

เข้าถึง"แก่นสาร"นั้นแตกต่างกัน

แต่ละคนจึงมีวิธีการในการแก้ไขแต่ละปัญหาแตกต่างกันไปด้วย

หลายๆครั้งที่พบว่า

ความแตกต่างดังกล่าว

นำไปสู่"ความขัดแย้ง"

ที่เบี่ยงเบน ขยาย และเพิ่มปริมณฑลของปัญหาออกไป

แปลกที่"ผู้คิดจะแก้ปัญหา"

ทั้งที่อาสาเข้ามา ได้รับการแต่งตั้ง หรือโดยหน้าที่ และหรือ...

ในที่สุดก็กลายเป็น"ปัญหา"ของ"ปัญหา"ที่เขากำลังจะ"แก้ปัญหา"นั้นเสียเอง

นอกจากการเรียนเพื่อให้รู้ว่าจะแก้ปัญหาแต่ละปัญหาอย่างไรแล้ว

เรายังต้องเรียนรู้ที่จะไม่ทำให้การเข้าไปแก้ปัญหาของเรา

กลายเป็นปัญหาเสียเองด้วย

นอกจากการมองออกไปเพื่อให้เห็นปัญหาแล้ว

เราต้องมองเข้าเพื่อระแวดระวังปัญหาที่อาจจะเกิดจากตัวเราเองด้วยทุกครั้งเสมอ

หมายเลขบันทึก: 182849เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2008 22:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 15:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

แปลกที่"ผู้คิดจะแก้ปัญหา"

ทั้งที่อาสาเข้ามา ได้รับการแต่งตั้ง หรือโดยหน้าที่ และหรือ...

ในที่สุดก็กลายเป็น"ปัญหา"ของ"ปัญหา"ที่เขากำลังจะ"แก้ปัญหา"นั้นเสียเอง

>>> นั่นซินะ

นอกจากการเรียนเพื่อให้รู้ว่าจะแก้ปัญหาแต่ละปัญหาอย่างไรแล้ว

เรายังต้องเรียนรู้ที่จะไม่ทำให้การเข้าไปแก้ปัญหาของเรา

กลายเป็นปัญหาเสียเองด้วย

>>> อย่างนี้ละมัง ที่เป็นที่มาของคำว่า "ตัวปัญหา"

  • เป็นสิ่งที่ผุดขึ้นในใจมาหหลายสัปดาห์แล้วครับ ผมปล่อยให้มันพวยพุ่งอยุ่ในนั้น เฉกเช่นน้ำพุ ผ่านวันคืน และมันแวะมาพวยพุ่งในห้วงคิดเป็นช่วงๆ จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ที่น้ำนั้นได้เต็มปริ่มเกินที่ใจจะกักเก็บเอาไว้ได้อีกต่อไป และล้นออกมาเป็นบันทึกดั่งที่ปรากฏในบล็อก ไม่งั้นจะนอนไม่หลับครับ มันจะตามมาพูดคุยด้วย และวนเวียนอยู่ในห้วงคิดคำนึงตลอดเวลา จนเมื่อได้บันทึกลงไปแล้วนั่นแหละครับ จึงผ่อนคลายกลับคืนสู่ภาวะปกติ
  • ข้อสรุปของคุณซันไชน์ที่ว่า >>> อย่างนี้ละมัง ที่เป็นที่มาของคำว่า "ตัวปัญหา" นั้นมีส่วนมากทีเดียวครับ

  • แต่ก็นั่นแหละครับสว่นใหญ่"เราต่างก็มิได้นำพา"

     

แหม... แต่ก็มิได้นำพา กันเลยเหรอคะ? อินเทรนใช้ได้เชียว ^_^

อัสลามูอาลัยกุม คะอาจารย์

อาจารย์เขียน ยาชอบจังเลยคะ ยาเพิ่งเข้ามาอ่าน และเพิ่งเข้า ใน gotoknow เมื่อวานนี้เองคะ...ยินดีมากที่ได้เจออาจารย์คะ

การเข้าใจ"แก่นแท้ของปัญหา"ที่เกิดขึ้น

และมันจะให้"วิธีการ"ในการแก้ไขแต่ละปัญหานั้น

แต่ละคน....

ยาคิดว่้า มันขึ้นกับความสามารถในการมองปัญหาเหมือนกัน...การมีมุมมองที่หลายมิิติ ก็ช่วยได้นะคะ แต่คนในปัจจุบันนี้ มากกว่า 50% มองเป็นเชิงเส้นและประมาณ 35% มองเป็นระนาบ พวกนี้ดีหน่อยคะ และน้อยมากที่มองได้หลายมิติ จริงๆ อิสลาม ..เป็นการคิดอย่างหลายมิติ ....มันมีมิติที่เช่นเร้นอยู่มากมาย ....

รบกวนแค่นี้นะคะ

วัสลาม

อาญาเราะฮ์

  • วะอาลัยกุมุสสะลามครับคุณยา
  • ดีใจครับที่ได้รู้จักคุณยาและขอต้อนรับคุณยาสู่ครอบครัวโกทูโนครับ
  • ผมชอบconseptที่คุณยานำเสนอมากครับ "การคิดหลายมิติ" น่าสนใจมากครับ อย่างที่คุณยากล่าวไว้ความแตกต่างของความสามารถในการมองปัญหา เช่น เชิงเส้นตรง เชิงระนาบ รวมถึงการมองปัญหาแบบแยกส่วน ก็นำไปสู่วิธีการแก้ปัญหาที่บางทีแก้ปัญหาส่วนนั้นได้ แต่ก็กลับไปสร้างปัญหายังส่วนอื่นๆที่สิ่งดังกล่าวเกาะเกี่ยวยึดโยงกันอยู่
  • การคำนึงถึงมิติต่างๆที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้เราจัดการกับปัญหานั้นอย่างที่ควรจะทำ
  • ขอบคุณคุณยามากครับ ผมก็ดีใจที่ได้รู้จักคุณยา และหวังว่าเราจะได้แปลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอีกนะครับ
  • ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนความดีที่ดีกว่าครับ

อัสลามมุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบะรอกาตุฮฺ

kn ได้เขียนไว้เรื่องหนึ่ง

เกี่ยวกับการคิดไม่เป็น

เป็นประเด็นเกี่ยวกับการหัดคิด คิดให้เป็น นำมาใช้ และพัฒนาได้ ยกมาสั้นๆ นิดหนึ่ง

สิ่งที่จะแก้ไขปัญหาการคิดไม่เป็น

- การมองให้ออก ทำไม, อะไร, อย่างไร, หาเหตุ และ ผลออกมาได้

- แยะแยกประเด็น เนื้อหาสาระออกมาให้ได้ ออกจากสิ่งไร้สาระได้ เช่น คนหนึ่งอยากคุยเรื่องมีสาระ แต่พูดมากจนหาสาระแทบไม่ได้ เราก็ต้องพยายามจับเนื้อหาสำคัญให้ได้ ว่าเขาต้องการสื่อสารอะไรกับเรา

- หมั่นคิดทบทวน ความคิดของเราและศึกษาแนวความคิดของคนอื่นๆ (จะได้มีมุมมองเพิ่มขึ้น)

- หมั่นสังเกต และหาความน่าจะเป็น วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้

- ลองเขียน ความคิดของเราเองออกมา แล้วลองอ่านสิ่งที่เราเขียนว่าเราเข้าใจไหม วกวนไหม ประเด็นที่เราเขียน เราพูดคืออะไร

- รวมทั้งสร้างวิธีการใหม่ๆได้

 

การแก้ปัญหาเรื่องความเข้าใจศาสนาและสื่อสารเรื่องศาสนา ก็เช่นเดียวกัน

- การมองตัวเอง การวิเคราะห์ความคิดของตัวเอง - การสำรวจตัวเอง สรุปความคิด สิ่งที่เกิด สิ่งที่เห็นได้ เช่น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ สาเหตุ, เหตุผล

- หมั่นคิดทบทวน ความคิดของเราและศึกษาแนวความคิดของคนอื่นๆ (จะได้มีมุมมองเพิ่มขึ้น) เพราะสิ่งที่เราคิดและทำนั้นอาจไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะเราอาจจะมีมุมมองด้านเดียวอยู่ก็ได้

- ลองฝึกเขียนในสิ่งที่เราเข้าใจ (เช่นเขียนบันทึก) พูดออกมาให้คนเข้าใจได้ ถามผู้ที่สนทนาด้วยว่าเขาเข้าใจไหม - อ่านให้มาก คิดให้เป็น ศึกษาเพิ่มเติมจากที่อ่าน สอบถามคนที่เขารู้นอกเหนือจากกลุ่มที่เราศึกษา จะได้เกิดมุมมองเพิ่มเติม

- การยอมรับฟังผู้อื่น เพื่อการปรับปรุงตัวเอง และต้องปรับปรุงตัวเองด้วย

- และที่สำคัญทำทุกอย่างด้วยเจตนา(เนียต)ที่มุ่งสู่อัลลอฮฺ ซุบบะฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ใช่เพื่อเอาชนะ เพื่อสะใจ ทำตามอารมณ์ของตัวเอง (นัฟซู) นั่นเท่ากับคุณล้มเหลว เพราะคุณกำลังตามหลังชัยฏอน

- สำคัญที่สุด อย่าโอ้อวดความรู้ อย่าโอ้อวดโดยมีจุดประสงค์ว่าถ้าเราตอบ เราจะถูกยกย่องว่า,เก่ง,ดี,ได้ตำแหน่งคนสำคัญ, โดดเด่น เพราะนั่นคุณกำลังมุ่งสู่การริยาห์ (ความดีทั้งหลายที่คุณทำไปนั้นจะไม่ได้เลย เพราะเจตนานั้นไม่ได้มุ่งสู่ซุบบะฮานะฮูวะตะอาลา ) ปัญหาการริยาห์นั่นแก้ไขได้ ด้วยสิ่งเหล่านี้ ทำอะไร เพื่ออะไร ^^"

 

..................................................................

 

ไปดีกว่า มาเขียนอะไรเยอะแยะเนี่ยเรา ^^" (ทีแรกว่าจะเขียนสั้นๆ ^^)

ขอพระองค์คุ้มครองอาจารย์และครอบครัวค่ะ

วัสลามมุอะลัยกุม

  • ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งในความกรุณาปรานี ผู้ทรงยิ่งในความเมตตาเสมอ
  • วะอะลัยกุมุสสะลาม วะเราะฮฺมะตุลลอฮฺฮิวะบารอกาตุฮฺ
  • บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งมหาจักรวาล
  • ผมได้ตามลิงค์ที่คุณไคเนสให้ไว้(เกี่ยวกับการคิดไม่เป็น)และเข้าไปอ่านผลึกแห่งความคิดของคุณไคเนสแล้ว อัลหัมดุลิลละฮฺ เป็นข้อเขียนที่ดีและข้อเขียนนั้นได้สะท้อนพัฒนาการที่น่าสนใจของการคิดวิเคราะห์อันเป็นคุณสมบัติสำคัญของ"นักคิด"ทั้งหลายพึงมี ซึ่งแน่นอนที่ว่านั่นเป็นสิ่งที่สังคมมุสลิมในประเทศนี้ขาดแคลนอย่างยิ่ง การเกิดมีขึ้นของ"นักคิดมุสลิมไม่ว่าชายหรือหญิงก็ตาม" จึงเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
  • การคิดได้คิดเป็นถือเป็น"พรวิเศษ" ประการหนึ่งอย่างไรก็ตามมันไม่อาจเพียงพอต่อบริบทของปัญหาอันสลับซับซ้อนเฉกเช่นปัจจุบัน"พรแสวง"จึงเป็นวิถีแห่งการพัฒนาและเพิ่มเติมเครื่องไม้เครื่องมือที่เราจะสามารถหยิบขึ้นมาใช้ในการคิดแก้ปัญหาต่างๆที่ได้เกิดขึ้นแล้ว กำลังเกิดขึ้นและอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
  • สิ่งอื่นใดทั้งหมด"การศึกษาคัมภีร์อัลกุรอาน" ซึ่งถูกประทานลงมาผ่านท่านรอซูล (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ยังมวลมนุษย์นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในนั้นบรรจุไว้พร้อมมูลซึ่ง"คำแนะนำที่จำเป็น"สำหรับมนุษย์ทั้งมวล
  • การเชื่อมต่อองค์ความรู้จาก"ทางนำของพระเจ้า" เข้ากับองค์ความรู้ที่มนุษย์ศึกษาค้นคว้าและจัดระบบเป็นศาสตร์สาขาต่างๆนั้นจึงเป็นแนวทางที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะศาสตร์เหล่านั้นเป็นความรู้ตามนัยของอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลอะลัก ความว่า "ผู้ทรงสอนการใช้ปากกา ผู้ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้"(96:4-5) และในซูเราะฮฺกอลัม "นูน ขอสาบานด้วยปากกาและสิ่งที่พวกเขาขีดเขียน" (68:1)
  • หวังใจว่าคุณไคเนสจะก้าวรุกหน้าอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในวิถีทางนี้ และแม้จะเป็นเพียงมุสลิมะฮฺตัวเล็กๆคนหนึ่งก็หาได้มีบทบาทที่เล็กตามตัวไม่
  • เขียนมาถึงตรงนี้ทำให้นึกถึงคำขวัญของการประชุมพบปะมุสลิมะฮฺ อันเป็นปีกหนึ่งของกิจกรรมกลุ่มยุวมุสลิมยะลา (ย.ม.ย) เมื่อครั้ง 20 กว่าปีก่อนโน้น คำขวัญนั้นเขียนว่า "อุมเฮียอุลมัดราซะฮฺ" (ผมไม่แน่ใจว่าอ่านภาษาอาหรับถูกต้องหรือเปล่า) แต่คำแปลภาษาไทยมีว่า "แม่คือโรงเรียน"
  • แม่ที่เป็นนักคิดจึงสำคัญตรงนี้ เพราะแม่นั้นเป็นครูคนแรกของลูกและยังคงเป็นครูของลูกตลอดไปจวบจนวาระสุดท้ายที่ถูกกำหนดไว้ หมายความว่า แม่เป็นครูคนสุดท้ายของลูกๆด้วย
  • แม่ที่เป็นนักคิดย่อมให้กำเนิดนักคิด ตามหลักลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น อินชาอัลลอฮฺ
  • ขอบคุณคุณไคเนสที่แวะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ
  • วัสสะลามุอะลัยกุมวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺอฺวะบารอกาตุฮฺ

อัสลามมุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบะรอกาตุฮฺ ชอบ ประโยคนี้มาเลยค่ะ อาจารย์ ขออนุญาต นำไปใช้ อันนิสาอฺ   นะคะ เกี่ยวกับครอบครัวพอดี น่ะคะ ^^

 

  • "แม่คือโรงเรียน"
  • แม่ที่เป็นนักคิดจึงสำคัญตรงนี้ เพราะแม่นั้นเป็นครูคนแรกของลูกและยังคงเป็นครูของลูกตลอดไปจวบจนวาระสุดท้ายที่ถูกกำหนดไว้ หมายความว่า แม่เป็นครูคนสุดท้ายของลูกๆด้วย
  • แม่ที่เป็นนักคิดย่อมให้กำเนิดนักคิด ตามหลักลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น อินชาอัลลอฮฺ

จะแวะเวียนมาหาผลึกความคิดที่ผ่านตัวอักษรที่นี่บ่อยๆค่ะ  อินชาอัลลอฮฺ

ขอพระองค์ตอบแทนความดีงาม และประทานริสกีแต่ครอบครัวอาจารย์ค่ะ

วัสลามมุอะลัยกุม

 

  • ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงยิ่งในความกรุณาปรานี ผู้ทรงยิ่งในความเมตตาเสมอ
  • วะอาลัยกุมุสสะลามวะเราะฮฺมะตุลลอฮฺฮิวะบารอกาตุฮฺ
  • ด้วยความยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งครับที่คุณไคเนสจะนำข้อความดังกล่าว(บางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ครับ)ไปเผยแพร่ต่อผมหวังในรางวัลจากพระผู้ทรงกรุณาปรานี ขอทรงประทานความดี ความบารอกะฮฺ(ความจำเริญ) จากพระองค์แก่บ่าว แก่คุณไคเนส และแก่ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากบันทึกนี้ อามีน
  • ขอขอบคุณสำหรับดุอาครับคุณไคเนส และขออัลลอฮฺได้ทรงตอบแทนความดีแก่คุณไคเนสและขอทรงเพิ่มพูนริซฺกีแก่คุณไคเนสและครอบครัวเช่นกัน อามีน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท