Praepattra
ผู้ช่วยศาตราจารย์ Praepattra Kiaochaoum

วันทีสิบสองของการเดินทาง บนเส้นทางสีขาว เส้นทางแห่งบุญ : เทวดาตัวน้อย (นางฟ้าของแม่)


สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ : การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง

           เช้าวันนี้ตั้งใจว่าจะถามเรื่องน้องพริมกับหลวงพ่ออีกครั้ง หลังจากที่แน่ใจแล้วว่า หลวงพ่อจะพูดกับคนที่ศรัทธาท่านแบบหนึ่ง และพูดกับคนที่ไม่ศรัทธาท่านอีกแบบหนึ่ง  ถ้าศรัทธาแล้วจะได้รู้อะไรดีๆอีกเยอะ ก็หลวงพ่อท่านเป็นพระธรรมดาที่ไม่ธรรมดานี่นา  อันนี้พี่นุ้กกับเราใช้เวลาพิจารณา วิเคราะห์ สังเคราะห์แล้ว คอนเฟริ์มแล้ว  จริงแท้ แท้จริงค่ะ

            เราก็กลุ้มใจน่ะสิ  ถ้าหลวงพ่อเป็นอย่างที่พี่นุ้กบอก คือ หลวงพ่อไม่ธรรมดา  ท่านรู้ ท่านเห็นอะไรที่เราไม่รู้ไม่เห็นได้ แล้วเรื่องที่ท่านบอกเราเมื่อครั้งที่เรามาที่นี่ใหม่ๆว่าน้องพริมจะป่วยหนักล่ะ  แค่คิดก็กลุ้มใจแล้วค่ะ  ต้องถามหลวงพ่อให้ได้  เผื่อจะมีวิธีแก้ไขได้บ้าง

            หลังจากทำวัตรเช้า ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจนถึงเวลา 6 โมงเช้าแล้ว ก่อนที่หลวงพ่อจะลุกไป เราก็ปรี่เข้าไปนิมนต์หลวงพ่อขอสอบอารมณ์อีกครั้ง (สองคนนี่มาหาทุกวัน ถามทุกวัน) เราก็ถามเรื่องอารมณ์กรรมฐานกับสภาวะธรรมก่อน พอได้คำตอบแล้วจึงถามเรื่องน้องพริมว่า

            หลวงพ่อเคยบอกว่า น้องพริมจะไม่สบายบ่อย  หนูกลุ้มใจค่ะหลวงพ่อ  จะแก้ไขยังไงได้บ้างค่ะ  หนูมาเข้ากรรมฐานจะช่วยส่งผลกับน้องพริมไหมค่ะ (ช่วยได้ ถ้าแม่ทำผลบุญจะส่งถึงลูกโดยตรง ลูกจะเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ  แข็งแรง) แล้วทำไมตั้งแต่หนูท้องเค้าแล้วหนูแพ้ท้องมากเลยค่ะ เหม็นมาก เหม็นทุกอย่างเหม็นทุกคน แม้แต่ตัวเองก็เหม็น  แล้วหนูก็ป่วยมาตลอดขนาดคลอดเค้าแล้วก็ยังเจ็บป่วยอยู่ไม่หาย มีอะไรหรือเปล่าค่ะหลวงพ่อ (คือเราสงสัยน่ะว่า น้องพริมเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราหรือเปล่า) แปลกนะ หลวงพ่อมองเรานิ่งๆตลอด แล้วก็พูดว่า  เค้ามีบุญเยอะ บุญบารมีไม่เท่ากัน เค้ามีบุญมากกว่า เค้าเป็นเทวดามาเกิด (หา...)  เค้ามาจากที่สูง  มาอยู่กับเรา ต่อไปเค้าจะป่วยมากกว่านี้  เรารีบถามเลยว่า แล้วแก้ไขได้ไหมค่ะท่าน หลวงพ่อตอบว่า ได้  ให้ยกเป็นลูกพระซะ เรารีบถามต่อเลยว่า ยกเป็นลูกหลวงพ่อได้ไหมค่ะ ท่านบอกว่า ได้ (ดีใจมากค่ะ)

แล้วเราก็ถามหลวงพ่อ  เรื่องน้องพริมอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเรากับคุณต้นสงสัยมากๆ มานานแล้วค่ะ คือว่าที่กลางหน้าผากระหว่างคิ้วทั้งสองของน้องพริม มีขนเส้นเล้กๆม้วนเป็นขวัญ วนขวาอยู่ (เห็นได้ชัด) อันนี้คืออะไร หมายความว่าไงค่ะ  แล้วจะเป็นอะไรไหมค่ะหลวงพ่อ ท่านมองหน้าเราแล้วก็ตอบว่า เค้ามีดวงตาที่ 3 มาด้วย ดวงตาแห่งปัญญา  เราก็ถามต่อว่า คืออะไรค่ะ ดีไหมค่ะท่าน แล้วใช้ทำอะไรค่ะ  หลวงพ่อบอกว่า ดี ก็แล้วแต่เราจะให้เค้า (งงค่ะ  ไม่เข้าใจก็เลยอึ้งไป) หลวงพ่อบอกต่อว่า เค้าจะเป็นยังไง จะได้อะไรอยู่ที่เราเลี้ยงเค้านั่นแหละ  แล้วท่านก็หันไปผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่น

            ระหว่างนั้น  พี่นุ้กก็ขอสอบถามอารมณ์กรรมฐานและสนทนาข้อธรรมะต่างๆ  พูดไปพูดมา หลวงพ่อก็มาพูดเรื่องทนายความ ผู้พิพากษา ทหาร ตำรวจ ผิดศีล ทำบาปกันเยอะ ตายไปแล้วก็อยู่ข้างล่าง (นรก) ทั้งนั้น  เราก็บอกท่านว่าพ่อหนูเป็นตำรวจค่ะ  แต่เสียไปนานแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไง

            แล้วเราก็นึกได้ว่าเคยอ่านหนังสือธรรมเจอว่า คนที่สั่งสมโทสะ (ความโกรธ  เคียดแค้น อาฆาต) จนเป็นนิสัย  เวลาตายก็จะไปเกิดเป็นสัตว์นรก อสูรกาย คนที่สั่งสมโลภะ (อยากได้ มักมาก อิจฉา ริษยาผู้อื่น) จนเป็นนิสัย  เวลาตายก็จะไปเกิดเป็นเปรต คนที่สั่งสมโมหะ (ความลุ่มหลง มัวเมา มองไม่เห็นสัจธรรม ขาดปัญญาในการดำเนินชีวิต มีความเขลา ไม่มีเหตุผล พวกซึมเศร้า หงอยเหงา ลังเลใจ สับสน) จนเป็นนิสัย  เวลาตายก็จะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน (หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ) ดังนั้น เราต้องหมั่นเจริญกรรมฐานไว้ เพื่อชำระโลภะ โทสะ โมหะ เวลาตายไปจะได้ไปเกิดในที่ดีๆ ส่วนพ่อของเรา ก่อนจะตายเค้าเจ็บป่วยหนัก เป็นโรคมะเร็งลำไส้ (คนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งจะทรมานมากและน่าสงสารมาก) พ่อรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ทุกอย่างก็อยู่ได้แค่ 3 ปี ทั้งๆที่เจอในระยะแรก เค้าก็ทรมานน่าดู (กรรมของพ่อเค้า) นึกได้ก็เป็นห่วงพ่อเค้านะว่า ตอนนี้เป็นยังไง  ไปอยู่ที่ไหน ไปเกิดหรือยัง  เราลองถามหลวงพ่อๆก็เมตตาตอบว่า เอารูปมาแล้วจะดูให้ โอ้โฮ..ไม่น่าเชื่อ  ไม่รู้เลยนะคะเนี่ยว่าหลวงพ่อก็ดูได้ด้วย

            พอลงจากศาลาใหม่เรารีบโทรไปเล่าเรื่องน้องพริมให้คุณต้นฟังทันที แล้วก็ขอให้คุณต้นเหมารถพาน้องพริมมาที่วัดเลย จากนั้นก็โทรหาแม่เราเล่าเรื่องพ่อเราให้ฟัง แล้วก็ให้แม่เค้าเหมารถเอารูปพ่อมาเลย เอาพี่กับน้องมาด้วยมาทำบุญที่นี่ด้วย  ต้องเชื่อไว้ก่อน  เพระมีอะไรอีกหลายอย่างในโลกที่เราไม่รู้ ไม่เห็น แต่หลวงพ่อรู้  หลวงพ่อเห็น แต่ถ้าไม่ถาม ท่านก็ไม่บอก  เราเดาว่า ถ้าท่านบอกโดยที่เราไม่ถาม ไม่เล่า  ท่านอาจจะผิดศีลก็ได้ ถึงท่านรู้ก็ต้องวางเฉย (อืม...)

ส่วนพี่นุ้กก็เข้ามาแสดงความยินดีกับเราที่ลูกเรามาจากข้างบน  บอกว่าดีใจด้วยนะ ได้เทวดา นางฟ้ามาเกิดเป็นลูกเรา  เราก็ดีใจนะที่เค้ามาจากที่ดีๆ  แต่ก็หนักใจเหมือนกัน  ตั้งใจไว้นานแล้วว่าเราจะต้องเลี้ยงให้เค้าได้ดีให้ได้  ให้เป็นคนดี อยู่ในศีลธรรม เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี เค้าจะได้กลับไปอยู่ข้างบน หรือไม่ก็ไม่ต้องเกิดมาอีกเลย  เพราะความเกิดมันเป็นทุกข์  พอเกิดแล้วมันต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย เป็นวัฏฏสงสารไม่มีที่สิ้นสุด  นิพพานเท่านั้นถึงจะหลุดพ้นทุกข์ทั้งปวง  เราสงสารเค้านะ (สงสัยด้วย) ว่าทำไมเค้าถึงเลือกมาเกิดเป็นลูกเราด้วย อยู่กับเราลำบากน่าดู  ก็เรานะ ไม่มีสมบัติอะไรเลย ไม่ได้ร่ำรวย สุขสบาย  ทำไมเค้าไม่เลือกไปเกิดกับคนรวยๆ สวยๆ ก็ไม่รู้ เฮ้อ!...พ่อกับแม่ไม่มีสมบัติอะไรจะให้  นอกจากอริยทรัพย์เท่านั้นแหละลูกเอ๋ย....

ทำบุญเพล วันนี้ที่ศาลาใหม่  คณะของแม่เรากับพี่ต้นก็มาเจอกัน  (ในที่สุดแม่กับพี่และน้องของเราก็มาวัดนี้ได้เสียที)  หลังจากพระฉันเพลเสร็จแล้ว  เราก็รีบพาน้องพริมเข้าไปกราบหลวงพ่อ แล้วให้หลวงพ่อดูเค้าว่ามีขวัญที่หน้าผากจริง ๆ  แล้วจะยกพริมให้เป็นลูกหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อบอกว่า เดี๋ยวลงไปทำพิธีข้างล่าง (ที่กุฏิรับแขก) มีโยมท่านอื่นสนทนากับท่าน  ระหว่างนั้นเราก็ดันแม่กับพี่น้องเราเข้าไป พอได้จังหวะก็ถามเรื่องพ่อเรา  เราเอารูปพ่อเราให้พลวงพ่อดู  หลวงพ่อรับไปดูนิ่งๆสักพัก ก็บอกว่าเค้ามีกรรมมาตัดรอน แล้วก็ไม่พูดอะไร (ฟังแล้วงงไหม  เราเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน) เราก็ถามว่าจะช่วยได้ไงค่ะ หลวงพ่อบอกว่าให้เข้ากรรมฐาน ช่วยแผ่บุญไปให้แล้วจะช่วยให้เค้าไปดี อยู่ดีได้ ยิ่งได้คนใกล้ชิดยิ่งดี  เพราะเค้าจะได้รับมากกว่าและเร็วกว่า  เราก็พยายามยุพี่กับน้องของเรา  รวมทั้งแม่เราด้วยให้มาเข้ากรรมฐาน  เค้าก็ยังไม่ยอมมา อ้างว่างานยุ่งบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ตามประสาคนไม่เคยมาปฏิบัติธรรมทั่วไปนั่นแหละ แล้วหลวงพ่อก็ไม่พูดอะไรต่อ  เราสังเกตว่าเวลาจะตอบหลวงพ่อมองหน้าพี่สาวเรา คุณต้นกับเราก็คิดได้ว่า  อาจจะเป็นเพราะพี่สาวเรา (ตอนนั้น) เพิ่งรู้จักหลวงพ่อ  ยังไม่ศรัทธาหลวงพ่อเท่าไร ท่านก็เลยไม่คุยมาก เพราะเท่าที่สังเกตดูหลวงพ่อจะพูดกับคนที่ศรัทธาท่านแบบหนึ่ง และพูดกับคนที่ไม่ศรัทธาท่านอีกแบบหนึ่ง  ถ้าศรัทธาแล้วจะได้รู้อะไรดีๆอีกเยอะ แล้วอีกอย่างช่วงนั้นมีคนอื่นอยู่เยอะ  ท่านก็เลยไม่ค่อยบอกอะไร เสียดายเหมือนกันค่ะ  แต่ไม่เป็นไรเรายังอยู่อีกหลายวัน  อาจจะมีโอกาสได้ถามต่อ

            หลังจากที่ท่านลงมาที่กุฏิ พวกเราก็ตามลงมา  หลวงพ่อจะทำพิธีรับน้องพริมเป็นลูก  ให้คุณต้นก็อุ้มน้องพริมเข้าไปใกล้ๆ ท่านก็เอาสายสิญจน์มาม้วนๆ ตัดเป็นเส้น สวดคาถา  ภาวนาจิต แล้วผูกสายสิญจน์สีขาวที่มือซ้าย  สายสิญจน์สีทองไว้มือขวา  เป่าหัว รดน้ำมนต์ ให้น้องพริม เสร็จแล้วก็บอกว่าเอาลูกหลวงพ่อไปเลี้ยงให้โต ตอนนั้นน้องณิชา น้องเบนอยู่ด้วยท่านก็เมตตาผูกสายสิญจน์ให้ด้วย  แต่น้องครีมไม่รู้เป็นไร  ไม่ยอมให้หลวงพ่อผูกข้อมือ พี่จ๋า (ลูกศิษย์หลวงพ่อ) นั่งอยู่ใกล้ๆ บอกว่า เข้าไปสิครีม หลวงพ่อท่านไม่ทำให้ใครง่ายๆนะ พี่นุ้กก็พยายามดันน้องครีมให้เข้าไป  แต่น้องครีมก็ไม่ยอมเข้าไป  เสียดายค่ะ ก็เลยไม่ได้สายสิญจน์ของหลวงพ่อ

            หลานของเรา คือ น้องเบน  ถ้าเพื่อนๆยังจำกันได้นะคะ ที่มีข่าวเด็กผู้หญิงมีลวดออกที่หู เป็นข่าวหน้าหนึ่ง (ดังมาก) เมื่อปีที่แล้วน่ะคะ  เราให้แม่เราพามาให้หลวงพ่อดูว่าเป็นอะไรกันแน่ เพราะเรื่องนี้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้  แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้ด้วย  ผู้ใหญ่ในจังหวัดนครนายกได้แต่แถลงข่าวว่าเป็นเรื่องโกหก หลอกลวงประชาชน หาว่าเด็กเอาลวดยัดใส่หูไปเอง (ใครเค้าจะไปทำอะไรบ้าๆแบบนั้นละคะ  แล้วลวดอะไรใช้แม่เหล็กดูดไม่ติด) เรียกร้องความสนใจบ้างล่ะ  สารพัดจะกล่าวหา แล้วก็ขู่แม่เราให้เงียบๆไว้ เรื่องมันก็เลยเงียบไป ทั้งๆที่เด้กก็ยังเป็นอยู่  ตอนนั้น ยายของเด็ก คือ แม่เราเอง ต้องการช่วยเด็ก จึงได้ประกาศออกข่าวไป เพราะแม่เราพาไปให้หมอรักษาแล้วก็ไม่หาย หาสาเหตุไม่เจอค่ะ ถ้าชาวบ้านก็เชื่อว่าเด็กโดนคุณไสย หรือไสยศาสตร์ นั่นเองค่ะ

            เราเล่าเรื่องเด็กให้หลวงพ่อฟัง  แล้วพาเค้ามาให้หลวงพ่อดู  หลวงพ่อบอกว่าดูที่ตัวเด็กแล้วไม่มีอะไรมาก หลวงพ่อถามหาแม่เด็ก  แต่เค้าไม่ได้มาด้วย  หลวงพ่อบอกว่าให้พาแม่มาดูด้วย เพราะจะถามแม่เด็ก จะได้รู้ว่า โดนตั้งแต่เมื่อไหร  โดนตั้งแต่แม่ตั้งท้อง  หรือโดนตอนเด็กโตแล้ว โดนเพราอะไร  แม่ไปดื่มน้ำสาบานที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า หรือเด็กโดนเพราะลมเพ ลมพัด เราก็เลยถามหลวงพ่อว่า ตกลงเป็นเรื่องไสยสาสตร์จริงๆหรือค่ะ  ไสยศาสตร์มีจริงหรือค่ะ ท่านก็ตอบว่ามีจริง  เห็นไหมล่ะ ว่าใช่จริงๆ เรื่องพวกนี้นะ  ถ้าไม่ได้เกิดกับครอบครัวเราๆก็ไม่อยากจะเชื่อหรอก  แต่นี่มันเกิดใกล้ๆตัวเรา แล้วหลวงพ่อก็รับรองแล้ว  งานนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ  เราถามหลวงพ่อว่าแล้วแก้ไขได้ไหมค่ะ  หลวงพ่อให้เด็กมาเข้ากรรมฐานที่นี่ แล้วจะช่วยดูให้  พอดีวันเสาร์ที่ 19 เมษายนนี้ ที่วัดจะจัดอบรมพุทธบุตร สำหรับเยาวชน  เราก็เลยบอกแม่เราให้น้องเบนมาบวชจะได้เข้าค่ายอบรมด้วย  แม่เราเค้าก็ตกลง

            ช่วงบ่ายหลวงพ่อต้องไปบรรยายธรรมให้เณรที่วัดแถวๆดอนเมือง แต่เนื่องจากลูกศิษย์เก่าๆของหลวงพ่อ  เอาสื่อการสอนต่างๆของหลวงพ่อไปหมด  แล้วก็หายไป  หลวงพ่อไม่มีสื่อการสอน พอดีคุณต้นเป็นวิทยากรบรรยายธรรมต่างๆ  อบรมค่ายพุทธบุตรมาตลอด มีสื่อเยอะ ก็อยากจะถวายสื่อการสอนต่างๆให้กับหลวงพ่อ เค้าเลยหิ้วโน้ตบุ๊คมาด้วย ขณะที่กำลังไรท์ซีดีให้หลวงพ่อ อยู่ๆหลวงพ่อก็ถามคุณต้นว่า รีบกลับไหม  ถ้าไม่รีบก็ไปด้วยกันเลย  เอาน้องพริมไว้ที่นี่ คุณต้นก็เลยได้ทดลองงาน (อบรมธรรม) กับหลวงพ่อ  เราก็เลยต้องเลี้ยงลูกที่กุฏิตลอดช่วงบ่าย (ดีใจมาก  ที่ได้อยู่ใกล้ๆลูกสาว) เราเอาน้องพริมเล่นน้ำในกะละมังหน้ากุฏิดับร้อน ป้อนนมกล่อมให้หลับ ส่วนพี่นุ้กก็มานอนหลับ (เล่นๆ) ข้างๆเราด้วย  ลูกศิษย์พากันอู้ไม่ไปเจริญวิปัสสนากรรมฐาน  พระอาจารย์หนุ่ยท่านก็เดินมาตามหาลูกศิษย์ 2 คนนี่ว่าหายไปไหนกัน  พอรู้ว่าสามีเราต้องไปกับหลวงพ่อ แล้วทิ้งลูกไว้ให้เราเลี้ยงก่อน ท่านก็เมตตาไม่ได้ว่าอะไรพวกเรา (ฮิๆ)

            4 โมงเย็นคุณต้นก็กลับมาแวะมารับน้องพริมที่กุฏิแล้วต้องรีบกลับ เพราะแท็กซี่รออยู่ เราก็เลยต้องโทรคุยกัน  ถามเค้าว่าไปกับหลวงพ่อเป็นยังไงบ้าง เค้าบอกว่า  พอไปถึงหลวงพ่อให้เค้าบรรยายเลยเกือบ 2 ชั่วโมง แล้วหลวงพ่อมาสรุปช่วงท้าย  เค้าดีใจมากที่ได้บรรยาย  เพราะเค้าอยากบรรยายธรรมให้เณรฟังอยู่แล้ว ตอนแรกเค้าว่าจะขอหลวงพ่อบรรยายสักครึ่งชั่วโมง  แต่หลวงพ่อให้เค้าลุยเต็มที่เลย คุณต้นก็มีข้อสังเกตว่า  หลวงพ่อท่านรู้วาระจิตเรา  รู้ใจคน  ท่านคงจะรู้ว่า พี่ต้นอยากบรรยาย พอไปถึงท่านก็ให้พี่ต้นบรรยายเลย  พี่ต้นว่าหลวงพ่อไม่ธรรมดาจริงๆ  (อืม...เห็นไหม จริงๆ ด้วย)

            คืนวันนี้  หลังจากสวดมนต์ ทำวัตรเย็น ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว (วันนี้ทำได้ไม่ค่อยสงบ ไม่ค่อยดีเท่าไรค่ะ  เพราะมีเรื่องวุ่นวายใจทั้งวัน) ก่อนนอนเราก็โทรไปกล่อมญาติพี่น้องทางบ้านให้มาบวชกัน  ดีนะได้เรื่องพ่อมาเป็นข้ออ้าง หาทางให้แม่เรา พี่ กับน้องเรามาบวชกัน แต่เค้ายังไม่ตัดสินใจกัน  ก็เริ่มเอียงๆมาทางนี้แล้วล่ะ ส่วนน้องเบนจำเป็นต้องมาอยู่แล้ว  ไม่บวชก็รักษาตัวไม่หาย (ได้ข้ออ้างที่ดีเลยค่ะ) ก็ดีนะคะ  ถือว่าใกล้สำเร็จแล้วล่ะ  ชวนคนมาบวช เข้าวัดปฏิบัติธรรมนี่ยากจริงๆค่ะ   โดยเฉพาะชวนคนใกล้ตัวนี่ยากที่สุด  ยากมาก  เราอยากให้แม่เราได้บุญมากๆค่ะ  ก็ต้องพยายามต่อไปค่ะ

            บุญรักษา  ธรรมคุ้มครองค่ะ เพื่อนๆ

 

หมายเลขบันทึก: 182249เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2008 14:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 13:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

วัดไหนหรอครับอยากไปมั้ง

ตอบกลับหน่อยนะครับ

คุณแอร์ถามว่า ทำไมคุณแพรคิดว่า น้องพริมเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคุณแพรมาเกิดล่ะค่ะ อะไรน๊า ทำให้คุณแพรคิดอย่างนั้น

แพรขอตอบนะคะว่า

คือ ว่าตอนท้องเค้าน่ะคะ แพ้ท้องมาก ขนาด7 เดือนยังแพ้อยู่เลย

กินอะไรไม่ได้ก็เลยรู้สึกทรมานมาก

แล้วชอบทำบุญปฏิบัติธรรม แต่ไปไม่ได้ เพราะแพ้ท้องเวียนหัว คลื่นไส้ตลอด

รู้สึกเหมือนขวางเราไปปฎิบัติธรรม ซึ่งจริงๆแล้วสังขารเรา รองรับเค้าไม่ไหวต่างหาก

แต่ตอนนั้นคิดไม่ได้แบบนี้ไงค่ะ รู้สึกว่ามีลูกแล้วทำไมมันทุกข์จัง

อยากมีลูกมาก แต่ไม่คิดว่าจะแพ้ท้องหนักขนาดนี้

ทุกข์หนักตั้งแต่แพ้ท้องเลย เหม็นทุกอย่าง เหม็นตัวเองมาก

ตอนนั้นปัญญามันบอกว่า เทวดาเค้าเหม็นมนุษย์ เค้าไม่มาใกล้มนุษย์

เข้าใจเลยค่ะว่ามนุษย์เหม็นยังไง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเค้าจะมาสูงขนาดนั้น

ตอนท้องเค้าก็พยายามทำบุญ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรมบ่อยๆ เท่าที่สังขารจะรับไหว

พอจะคลอด ครบ 9 เดือนแล้ว ไม่ยอมเอาหัวลง คุณหมอเลยตัดสินใจให้ผ่าออกเลย

กลัวเจ็บท้องคลอดก่อน ตอนนั้นจะทำให้คลอดลำบาก

คุณหมอผ่าเข้าไปดูก็ไม่มีเหตุผลอธิบายว่า ทำไมไม่ยอมเอาหัวลงช่องคลอด เค้าก็ปกติดีทุกอย่าง

สงสัยเค้าจะไม่ยอมคลอดเอง ให้แม่ผ่าท้องควักออกมา สบายกว่า

แล้วแพรเลี้ยงลูกเองนะคะ เจ็บแผลผ่าคลอดด้วย มือใหม่ด้วย ยิ่งทุกข์ ยิ่งเครียดค่ะ

พอเค้าคลอด เค้าก็แข็งแรงนะคะ แต่เค้าจะอ้วกนมออกตลอด

หมอบอกว่า หูรูดกระเพาะยังทำงานได้ไม่ดี

เวลาหลับๆ นมก็ทะลักออกปาก ออกจมูก ดิ้นๆ หายใจไม่ได้ น่าสงสารมาก

ทำให้เราต้องเฝ้าเค้าตลอดเวลา 3 เดือนแรก เลยรู้สึกทุกข์มากค่ะ

แค่สงสัยค่ะ เพราะคิดว่าเจ้ากรรมนายเวรมา จะทำให้เราทุกข์มาก

จริงๆแล้ว ทุกข์มันอยู่กับเราตลอดตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ตอนนั้นยังไม่เห็นค่ะ

พอไปปฏิบัติธรรม รู้ทุกข์ ก็เลยรู้ธรรมค่ะ

ทุกข์เพราะเกิด เจ็บ แก่ ตาย

ทุกข์เพราะพลัดพราก ฯลฯ มีแต่ทุกข์ล้วนๆ

เป็นบุญนะคะ ได้มาปฏิบัติธรรม ได้เจอหลวงพ่อวีระนนท์

จึงได้คำตอบที่ถูกต้อง

เรื่องนี้แบบนี้คิดเองไม่ได้ค่ะ ต้องให้ท่านบอกค่ะ ถึงจะเชื่อ

อยากได้ อีเมล ของคุณแพรจังเลยคะ มีอะไรจะได้ เมลถาม ให้ได้มั่ยคะ

ส่งเมลผ่านที่นี่ได้เลยค่ะ

ระบบจะติดต่อแพรโดยอัตโนมัติ

แล้วแพรจะเมลกลับไปค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท