ฝนมฤตยู


ฝนมฤตยู


ฝนตกแล้วเหวย ฝนตกแล้ววา
ไม่แต่พวกเรา พวกเขาก็มา
ตะละล้า

มาเล่นน้ำฝน กันคนละหน่อย
ให้มันอร่อย ลูบหน้าลูบตา
ให้หายเร่าร้อน เหงื่อย้อนลงพุง
แก้ผ้าอย่านุ่ง กันเลยละหวา

ลูกเล็กเด็กอ่อน ล่อนจ้อนจูงกัน
ทุกครัวหัวสั่น สนุกกันตะละล้า
เม็ดฝนหล่นทั่ว ตามตัวเต็มปรึง
ทั้งกูทั้งมึง เย็นชุ่มกายา

พายุพัดเฉียง ไม่เลี่ยงปากรับ
กินกันคนละหมับ มันซาบซับอุรา
เร่าร้อนผ่อนหาย หญิงชายทั้งผอง
เด็กเล็กเนืองนอง สนุกเล่นฝนฟ้า

เลิกเล่นน้ำฝน ถลกก้นขึ้นเรือน
ร้องลาเหล่าเพื่อน เลิกแล้วละหวา
ครั่นเนื้อครั้นตัว เข้าครัวผิงไฟ
ลงนอนจับไข้ เป็นอะไรเล่าหนา

ตัวร้อนไฟรุม ยังไม่รุ่มร้อนเท่า
เอ๊ะแขนขาหน้าเฮา ไหงผื่นแดงดั่งบ้า
นอนแบบแสบไส้ น้ำตาไหลพรากพราก
เลือดรินจากปาก ซิบซิบจากกายา

เป็นอะไรไม่รู้ หมอดูไม่ประจักษ์
พออ้าปากสำลัก ก็ดิ้นชักมรณา
หามศพไปเผา ลูกเราหลานแก
โธ่เอ๋ยพ่อแม่ แทบแผ่ สิ้นสังขาร์

ตายเป็นร้อยร้อย ป่วยน้อยนับพัน
โอ้โรคอะไรกัน ตายทุกวันนักหนา
เรียกว่าห่าน้ำฝน ปนมาในอากาศ
ฤาว่าเป็นแสงธาตุ ระเบิดชาติอเมริกา

ฝุ่นระเบิดนิวเคลียร์ เหมือนไฟเลียลามโลก
อ้ายรังสีโสโครก โชกน้ำฝนปนมา
ตกสู่ลูกเล็ก- เด็กแดงทั้งหลาย
โอ้สุดแสนเสียดาย ต้องมาตายเหมือนหมา

โอ้ว่าไทยหนอไทย ต้องจำใจมรณา
ฝนลงแล้วเหวย ฝนลงแล้ววา
ตายแต่พวกเรา พวกเขามะริกา
สนุกละวา-หวา-วา
ตะละล้า


อัศนี พลจันทร (นายผี) : ปิยมิตรวันจันทร์,2501


เรื่องราวของการใช้อาวุธทำลายล้างมวลชนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เป้าหมายคือจักรวรรดิญี่ปุ่น วันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ระเบิดที่ไม่เหมือนลูกไหนๆ ได้หล่นลงมาจากท้องฟ้าเหนือเมืองฮิโรชิมา  ระเบิดลูกนี้ได้รับการออกแบบโดยนักวิทยาศาสตร์ชั้นยอดของโลกและการนำมันมาใช้คือการตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์โลก  เรื่องราวของลูกเรือบนเครื่องบินที่ปฏิบัติภารกิจลับในการทิ้งระเบิดที่ทำให้เมืองฮิโรชิมาทั้งเมืองต้องพังพินาศภายในไม่กี่วินาที  ระเบิดลูกนั้นช่วยยุติสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่ของประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ




ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 ที่ศูนย์วิจัยลับสุดยอดในลอส-อลามอส รัฐนิวเม็กซิโก ระเบิดชนิดใหม่ถูกนำไปใส่ในรถบรรทุกติดอาวุธเต็มอัตราศึก นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางซึ่งจะไปสิ้นสุดลงที่ฮิโรชิมา ระเบิดลูกนี้เป็นผลผลิตจากการวิจัยเป็นเวลาสามปี และใช้เงินในการพัฒนาไปถึงสองพันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังไม่เคยมีการทดสอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว


 

16 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 ที่อลามากอร์โด รัฐนิวเม็กซิโก

การทดสอบก็มาถึง กลางทะเลทรายของรัฐนิวเม็กซิโก บรรดานักวิทยาศาสตร์และทหารในโครงการแมนฮัตตันได้มารวมตัวกันเพื่อทดสอบการระเบิดของระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรก การระเบิดครั้งนี้ทำให้หอคอยสเตนเลสสตีลที่รองรับลูกระเบิดถึงกับระเหยกลายเป็นไอ ความร้อนอันแรงกล้าทำให้ทรายในทะเลทรายหลอมละลาย กลายเป็นแก้วปกคลุมไปทั่วบริเวณ

แรงระเบิดประมาณได้ว่ารุนแรงเท่าระเบิดไดนาไมต์ 67 ล้านแท่ง เดิมทีอเมริกาตั้งใจจะใช้ระเบิดนี้กับนาซีเยอรมัน แต่เวลานี้ผู้ทำระเบิดมีเป้าหมายอื่นอยู่ในใจ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1945 สงครามในยุโรปสิ้นสุดลงแล้ว นาซีเยอรมันพ่ายแพ้ไปแล้ว แต่ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก สงครามกับญี่ปุ่นยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด


หลังจากการโจมตีแบบไม่ทันให้ตั้งตัวที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ กองกำลังอเมริกาก็ได้ต่อสู้ฟันฝ่าเพื่อชิงดินแดนในแถบแปซิฟิกคืนทีละเกาะๆ แต่ทัพหลักของญี่ปุ่นยังคงไม่บุบสลายและไม่เคยแพ้ อเมริกาเคยลองใช้ระเบิดเพลิงเพื่อทำให้ญี่ปุ่นยอมแพ้ เมืองแล้วเมืองเล่ากลายเป็นซากปรักหักพัง แต่ฝ่ายญี่ปุ่นก็ยังไม่ยอมจำนน

ดังนั้น เวลานี้ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงมีแนวโน้มที่จะต้องบุกอย่างเต็มอัตรา โดยที่บางคนประมาณการว่าพวกเขาอาจต้องเผชิญกับความสูญเสียมากมาย ทหารอาจบาดเจ็บล้มตายถึงหนึ่งล้านนาย และฝ่ายญี่ปุ่นก็ต้องสูญเสียมากกว่านั้นเยอะ




ญี่ปุ่นสมัยนั้น จักรพรรดิคือประมุขของประเทศ และยังเป็นเทพที่มีชีวิต แต่อำนาจอยู่ที่คณะที่ปรึกษาพิเศษซึ่งกำกับกิจการสงคราม นายกรัฐมนตรีซูซูกิและรัฐมนตรีต่างประเทศโทโกกำลังพิจารณาว่าจะยุติสงครามตามที่มีการเจรจาต่อรอง แต่รัฐมนตรีกองทัพ นายพลโคเรชิกะ อานามิ ยังมุ่งมั่นที่จะสู้ต่อไป แผนของอานามิคือการสู้รบขั้นแตกหักเต็มอัตราศึก

อเมริกาได้ถอดรหัสลับของญี่ปุ่น จึงทราบดีว่า การเรียกร้องให้ยอมจำนนอย่างสิ้นเชิงโดยไม่มีเงื่อนไขจะถูกฝ่ายญี่ปุ่นมองว่าเป็นการคุกคามองค์จักรพรรดิ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และเสนอทางออกแก่ฝ่ายญี่ปุ่น

 

วันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945

คำขาดที่ผ่านการแก้ไขแล้วได้ถูกส่งไปยังญี่ปุ่นทางคลื่นวิทยุ แต่ดูเหมือนเงื่อนไขการยอมจำนนที่อ่อนลงนี้จะก่อให้เกิดผลในทางตรงกันข้าม นายกรัฐมนตรีซูซูกิประกาศว่ารัฐบาลของเขาจะไม่สนใจแถลงการพ็อทสแดม เขาใช้คำว่า "โมกุซัทสึ" ซึ่งแปลว่าการฆ่าโดยไม่แยแส และนับจากวินาทีนั้น การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ระเบิดเดินทางจากซานฟรานซิสโกโดยเรือ ยูเอสเอส อินเดียนาโปลิส ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นเวลาสิบวัน จนไปถึงเกาะทิเนียน จากจุดนั้นจะใช้เวลาบินไปถึงญี่ปุ่นเพียงหกชั่วโมงเท่านั้น


เกาะทิเนียน คือฐานทัพอากาศใหญ่ที่สุดในโลก มีรันเวย์ขนาดใหญ่ 4 รันเวย์ เป็นที่เก็บเครื่องบิน บี-29 ซูเปอร์ฟอร์ทเตรส กว่า 500 ลำ และยังเป็นที่มั่นของหน่วยผสมที่ 509 กลุ่มคนที่จะทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่น หัวหน้าหน่วยแห่งนี้คือ นาวาเอกพอล ทิบเบ็ตส์ ซึ่งมีประสบการณ์โชกโชนในการทิ้งระเบิดต่อสู้กับเยอรมัน เขามีลูกเรือคนสำคัญสองคนคือพลเล็งเป้า ทอม เฟอเรอบี และต้นหน ดัทช์ ฟาน เคิร์ค


เย็นวันที่ 4 สิงหาคม 1945 พอล ทิบเบ็ตส์เรียกคนของเขามาประชุมกัน ภารกิจการทิ้งระเบิดถูกกำหนดไว้สำหรับคืนต่อไป วันที่เมฆเหนือประเทศญี่ปุ่นมีทีท่าว่าจะปลอดโปร่ง แต่เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นบรรดาลูกเรือบนเกาะทิเนียนต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังสนั่น เครื่องบินบี-29 ตกที่รันเวย์อีกครั้ง เครื่องบินตกครั้งนี้ทำให้ พอล ทิบเบ็ตส์ ในฐานะผู้บัญชาการ ตัดสินใจที่จะขับเครื่องบินโจมตีลำนี้เอง และเขาเลือกชื่อของเครื่องบินตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมา

คืนนั้น ในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนออกเดินทาง มีการสรุปภารกิจให้ลูกเรือทุกคนที่กำลังจะมุ่งหน้าไปฮิโรชิมาฟังเป็นครั้งสุดท้าย ภารกิจนี้เป็นความลับมาก ทิบเบ็ตส์ได้รับยาเม็ดฆ่าตัวตายไว้ใช้ในกรณีที่พวกเขาถูกฝ่ายญี่ปุ่นจับได้ เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพนิ่งและภาพยนตร์ได้รับคำสั่งให้บันทึกภารกิจประวัติศาสตร์ครั้งนี้

ระเบิดลูกนี้หนักกว่าสี่ตัน ทำให้การทะยานขึ้นมีอันตรายมากกว่าปกติ หลังจากทะยานขึ้นไป 15 นาที ขณะที่เครื่องบินยังอยู่ในระดับต่ำ พาร์สันส์ก็พร้อมแล้วที่จะประกอบระเบิด พวกเขารู้ว่าความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจทำให้ภารกิจทั้งหมดล้มเหลวได้ สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบิน อีโนล่า เกย์ สมทบกับเครื่องบินบันทึกภาพและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เวลานี้เครื่องบินทั้งหมดอยู่ห่างจากฮิโรชิมาราวสามชั่วโมง

 


6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เมืองฮิโรชิมา

เครื่องบินบี 29 อีกลำหนึ่งได้บินอยู่เหนือเมืองฮิโรชิมาเพื่อตรวจสอบสภาพอากาศ ทำให้ประชาชนตื่นกลัวและหลบอยู่ในที่กำบัง เครื่องบินตรวจสอบสภาพอากาศรายงานผลไปยัง อีโนล่า เกย์ และเมื่อเครื่องบินตรวจสอบอากาศบินเลยไปโดยไม่มีการโจมตี ช่วงนั้นดูเหมือนภัยคุกคามจะผ่านไปแล้ว

แต่ต่อมาไม่นานเครื่องบิน อีโนล่า เกย์ ก็บินอยู่เหนือน่านฟ้าฮิโรชิมา ระเบิดลูกประวัติศาสตร์ถูกปล่อยออกมา หลังจากหล่นลงมา 43 วินาที กลไกที่ทำงานตามเวลาและแรงดันอากาศก็เริ่มกระบวนการจุดระเบิด กระสุนยูเรเนียมถูกยิงไปตามลำกล้องเข้าใส่ยูเรเนียมที่เป็นเป้าหมาย ยูเรเนียมทั้งสองเริ่มทำปฏิกิริยาลูกโซ่ อณูของแข็งเริ่มแตกตัวและปล่อยพลังงานออกมาในปริมาณมหาศาล



ระเบิดปล่อยอานุภาพทำลายล้างออกมาทีละขั้น ประกายไฟที่ออกมาจากลูกไฟยักษ์ที่กว้างถึง 300 เมตร ทำให้อุณหภูมิที่อยู่ด้านล่างลูกไฟนั้นสูงถึง 4,000 องศาเซลเซียส รังสีความร้อนหลอมละลายทุกอย่างที่อยู่ในที่โล่งถ้าไม่ระเหยกลายเป็นไอ ก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปในทันที ปฏิบัติการของทหารอเมริกันครั้งนั้นคร่าชีวิตคนไปราว 200,000 คน และเป็นการยุติสงครามโดยสิ้นเชิง


วันที่ 6 สิงหาคม ของทุกปี ที่เมืองฮิโรชิมาจะมีพิธีรำลึกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่ถูกลืมและไม่เกิดขึ้นซ้ำสอง และเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เทียนนับพันๆ เล่มจะถูกจุดขึ้น และปล่อยให้ลอยไปตามสายน้ำ เทียนแต่ละเล่มแทนดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณูลูกนี้ 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง
 http://www.artsmen.net/ --> ฮิโรชิมา : มหาระเบิดปรมาณูสะท้านโลก

คำสำคัญ (Tags): #ฝนมฤตยู
หมายเลขบันทึก: 182127เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2008 21:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ฝนตกหยิมๆ

ยายฉิม

เก็บเห็ดฯ

  • สวัสดีครับอาจารย์  ธ.วั ช ชั ย
  • นฐ. ฝนตกเหรอครับ
  • รักษาสุขภาพนะครับ นว. ก็ตกแต่หยุดแล้วครับ

 

สวัสดีครับคุณกวิน

มาเพิ่มเติมความรู้ครับ

       ขอบคุณครับ

               รพี

สวัสดีค่ะคุณกวิน

ฝนแบบนี้น่ากลัวจังนะคะ

ทำให้คิดไปว่ามนุษย์คือผู้สร้าง หรือผู้ทำลายกันแน่

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ แวะมาอ่านบทกวีค่ะ

ขอสมัครเป็นแฟนคลับของคุณกวินค่ะ

ติดความไพเราะของบทกวี อ่านแล้วได้ความรู้สึกร่วมค่ะ

มาเยี่ยม...

อ่านแล้วละ เพราะดี ฮิ ฮิ ฮิ

นึกถึงความหลัง ญิปุ่นเองก็เชื้อชาติที่กล้าแกร่งไม่ยอมผู้ใดเลยนะ ผลของสงครามแล้วเห็นการหายไปทั้งเมืองอย่างน่าใจหายเลยนะ

  •  jaewjingjing ไม่ต้องกลัวนะครับ เพราะฝนตกไม่ทั่วฟ้า
  • . berger0123  ยินดีมากๆ ครับ จะพยามเขียน เรื่อยๆนะครับ ขอบคุณครับ
  • .สวัสดีครับอาจารย์ ดร. umi อ่านแล้วนึกถึง โกโบริ นะครับ 

สวัสดีครับ น้องกวิน อิอิ

  • ฝนตก ลมแรง
  • น่ากลัว ครับ
  • แต่ว่า ไปให้กำลังใจ บันทึกนี้ หน่อยนะครับ
  • สวัสดีค่ะคุณกวิน
  • ขอบคุณสำหรับเพลงที่มีความหมายดี ๆ ค่ะ
  • ตอนนี้ยังฟังไม่ได้ค่ะ เพราะไม่มีลำโพงเสียง
  • กลับบ้านจะลองฟังนะคะ...^_^
  •  ครูโย่ง ครับขอบคุณมากตามไปฟังเพลงมาแล้วด้วยครับเพราะดี ดนตรีเพราะ เสียงร้องมีเอกลักษณ์ ขอบคุณมากครับๆ
  • คนไม่มีราก เพลง badday อิๆ
  • คิดถึงมากมายนะครับ....ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สู้ๆนะครับนักรบ..เป็นกำลังใจให้...........อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆๆ
  • ครูมิม ขอบคุณครับครูมิม

ขอบคุณค่ะ  แวะมาทีไรได้ความรู้ดีๆกลับบ้านทุกทีค่ะ

 

หายไปเสียนานยังฉียบ...นะน้อง...ชีวิตโดนฝนแบบนี้บาดเจ็บถึงตายได้ง่ายๆ...เพียงชั่วขณะเล่นน้ำฝนเปียกฝนถึงตายคุ้มกันไหมนี่....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท