ผมนั่งเขียนบันทึกนี้หน้าบ้านในขณะที่เสียงสวดมนต์ทำวัตรเช้ากำลังมาถึงช่วงปลายแล้ว จบแล้วจะเปิดธรรมบรรยายของท่านอาจารย์พุทธทาส เรื่อง พุทธศาสตร์-ไสยศาสตร์ หรือไม่ก็ เรื่อง พระคุณของแม่ ของท่านปัญญาฯ ต่อไปจนกว่าจะถึงเวลาที่พระจะมาถึง
ความจริงผมตื่นมาตั้งแต่ 3.50 น. และตั้งใจว่าจะทำอะไรตามลำดับอย่างไรไว้ชัดเจน ทั้งเรื่องตัวเอง เรื่องประสานงานการไปรับเพื่อนที่มาจาก กทม. ที่มาทั้งทางรถไฟและเครื่องบิน ผมออกมาจุดธูป เปลี่ยนเทียนที่หน้าศพแม่ กราบไหว้ท่านอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็คิดถึงเรื่องการบันทึกภาพนิ่งและ Video ซึ่งผมคิดว่าในโอกาสสำคัญในวันนี้จะมอบหน้าที่ถ่ายภาพที่ทำเองมาตลอด ให้ใครบางคนรับผิดชอบ เมื่อสักครู่ก็ขอดูรายการจากหลานติ๋ม เพื่อนำมาเป็นเครื่องช่วยให้คนบันทึกภาพ/Video ใช้เป็นเครื่องช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น แต่แล้วตอนตีสี่กว่าๆ หลานแอน ลูกพี่จำนง (Augustman) พร้อมสมาชิกอีก 4 คนจากศรีราชาก็มาถึง ก็ต้อนรับ เตรียมที่ทางให้ได้นอนพักกันอยู่ครู่หนึ่ง
เรื่องการรับอ.ชัยประสิทธิ์ หลานชาย นายจุมพล และแม่คือ อ.ขวัญจิตร มากมี น้องสะใภ้ที่ผมรัก เหมือนน้องคลานตามกันมา ไปรอรับที่สถานีไชยา และผมก็ประสานทางโทรศัพท์ทั้งกับคนที่มา และคนที่ไปรับเรียบร้อยแล้ว คงไม่มีปัญหา คุณเจี๊ยบ ศิวกร เย็นสรง ลูกศิษย์ ที่เป็นเหมือนลูกชายก็เดินทางมาโดยรถไฟชั้นสามขบวนเดียวกับ อ.ชัยประสิทธิ์ พี่ชายทีรักของผม เจี๊ยบไม่ได้มาคนเดียว ยกครอบครัวมาเลย ทั้งศรีภรรยา คือ กุ้ง (สุทธิดา) และลูกน้ำหอม ติดตามด้วยคุณยอด(ภูวดล ภูดิน) ที่ทำงานอยู่กับผม และผูกพันกันเหมือนคนในครอบครัว .. ทีมนี้จะเลยไปลงที่สุราษฎร์ เพราะจะไปพบพี่ชายของเจี๊ยบซึ่งเป็นทหารอากาศอยู่ที่กองบินสุราษฎร์ .. เลยได้ช่วยรับหน้าที่แทนหลานจุมพล ในการไปรับผศ.ชลลดาที่สนามบินตอน 10.30 น.ด้วย
เมื่อวานนี้ช่วงเที่ยงถึงบ่าย ผมพาหลาน-เหลน 3-4 คนไปทะเลที่พุมเรียง ให้เขาวิ่งชายหาดที่แหลมโพธิ์ และเล่นน้ำทะเลกันประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนผมนั้นนั่งพักรับลมเย็นอยู่ใต้ต้นไม้ชายหาด ถ่ายรูปเล่นให้ผ่อนคลาย เปิดอ่านและตอบข้อคิดเห็นของญาติๆ ใน Blog เล็กน้อย แล้วก็รีบเดินทางกลับ เพื่อเตรียมรับท่านเมธี สุเมธโส จากสวนโมกข์ที่จะมาพูดคุยกันล่วงหน้าก่อนถึงเวลาแสดงธรรมตอนค่ำ
ตอนเย็นได้ไปรับหนังสือจากร้านที่อยู่ใกล้ๆบ้านพี่สาวคนโต ผิดหวังเล็กน้อยที่เขาไม่ได้ทำ Laser Print ตามที่ตกลงกัน แต่ใช้วิธี Copy Print หรือ Risograph โดยไม่ได้แจ้งให้เราทราบ ทำให้รูปภาพที่มีอยู่เพียงไม่กี่ภาพ ไม่คมชัด แต่ตัวหนังสือนั้นพอยอมรับได้ จากนั้นมาช่วยกันตัดสติ๊กเกอร์ติดของชำร่วย โดยให้เหลนๆ ช่วยกันติดอีกประมาณ 700 ชิ้น .. รวมกับที่น้องผู้เป็นที่รักและศรัทธาคือ อ.วาสินี เวชชประสิทธิ์ จัดหาจัดทำฝากมาให้จากกทม.อีก 300 ชิ้นก็ได้ 1000 ซึ่งเชื่อว่าคงพอแจกจ่ายได้ทั่วถึง
ท่านเมธีมาถึงราว 18.30 น.และพูดคุยกับผมจนกระทั่งถึงเวลาแสดงธรรมตอน 19.00 น. และว่าไปถึงประมาณ 20.00 น. จึงต่อด้วยการสวดพระอภิธรรม ส่งพระแล้วผมได้มีโอกาสเป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานและช่วยเหลือทุกๆด้านด้วย เป็นการกำหนดให้พูดแบบกระทันหัน จึงพูดจากใจแบบไม่ได้เตรียมตัวใดๆ สาระที่สำคัญผมได้ชี้ให้เห็นคุณค่าของน้ำใจ ความรัก ความสามัคคี การเกื้อกูลกันที่คนในหมู่บ้าน ในตำบลของเรามีต่อกัน พูดถึงความดีที่พ่อแม่ ทำไว้ให้ลูกหลานได้ยึดถือเป็นแบบอย่าง และให้ข้อคิดที่ว่า ท่านไม่ได้จากพวกเราไปไหน หากเราได้สืบทอดและรักษาความดีเหล่านั้นไว้ได้
ต้องรีบยุติก่อนครับ .. แล้วจะมาต่อ เมื่อเวลาอำนวย พระมาถึงแล้วครับ.