มีได้...มีเสีย


ลูก สินค้า และความเห็นแก่ตัว

   มะนาวหวานขอหยิบยกเรื่องจริงที่เคยเจอแต่ไม่ได้ผ่านจอ...หุหุ..มาเล่าให้ฟังนะคะ มะนาวหวานรู้จักน้องสาวคนนึงค่ะ เขาเคยมาเรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชั้นประถม-มัธยม ซึ่งมะนาวหวานก็เพียงได้แนะนำหนังสือที่ดีเพื่อประกอบการเรียนรู้ และการใช้ให้ถูกหลักในขั้นพื้นฐานน่ะค่ะ ก็มะนาวหวานไม่ได้เป็ครูมาก่อนนี่นา น้องคนนี้อายุ 21 ปีแล้วเคยผ่านการมีแฟนมาแล้วไม่ทราบกี่คน (มากกว่า1 นะคะ) เธอเป็นคนน่าตาพอใช้ได้ และรูปร่างดีพอสมควร เธอดูเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานพอสมควร วันนึงที่มีโอกาส มะนาวบอกเธอว่า..."เรียนไปเยอะๆเท่าที่เราจะเรียนและมีโอกาส"

"ดูพี่สิกว่าจะได้เรียน..ต้องดิ้นรนทำงานหาเงินเรียนแทบตาย"  "ความรู้น่ะไม่มีใครแย่งของเราไปได้ แต่ข้าวของหรือคนที่เรารักน่ะไม่มีความแน่นอนเสมอไปหรอกนะ หากเราไม่รักษาไว้ดีๆ วันนึงมันก็ไม่ใช้ของเรา"

      สิ่งที่มะนาวหวานบอกเธอ ก็เพียงอยากให้เธอได้รับสิ่งที่ดีๆ และมีโอกาสในสังคมที่ดีกว่านี้ ปัจจุบันเธอเป็นเมียน้อยของผู้รับเหมาคนนึง ซึ่งมีครอบครัวและลูกเรียบร้อย แต่เขาพอมีฐานะที่จะเลี้ยงดูให้เธอไม่ต้องลำบาก และที่สำคัญพ่อแม่และพี่สาวเธอต่างก็สนับสนุนเต็มที่....

    มะนาวหวานเห็นมามากค่ะ กับสิ่งใกล้เคียงกันแบบนี้ หลายๆคนที่มีลูกสาว ต่างพยายามผลักดันให้ลูกสาวไปมีผู้ชายที่รวยและเลี้ยงดูเธอได้ทั้งครอบครัว โดยไม่สนว่าชายคนนั้นจะมีครอบครัวหรือยัง

    แต่ผลที่ตามสิคะ เด็กสาวที่น่าจะมีอนาคตที่ดีและสดใส กลับต้องเป็นเมียลับๆ แค่ให้ผู้ชายใช้เงินแลกเธอเพื่อระบายความต้องการ แต่หาได้รักแท้จริงไม่ แล้วลูกเมียเขาล่ะคะ จะเป็นอย่างไร ผู้หญิงที่มีสามีแล้วหลายคนในที่นี้ คงไม่มีใครออกมาบอกมะนาวหวานว่า "ไม่เป็นไรค่ะ...พี่ยินดีที่จะเป็นเมียหลวงเสมอค่ะ" ใช่ไหมคะ

     นึกแล้วก็อดคิดถึงศีลข้อที่ 3 ที่ว่า กาเมสุมิจฉา จาราเวระมณีสิกขัง ปะทัง สะมาทิยามิ ไม่ได้เลยค่ะ

อยากบอกว่าความสุขที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่เราจะมีสามีที่รวย หรือมีเกียรติยศชื่อเสียง หากอยู่ที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ให้เกียรติเรา รักเราที่ตัวเราอย่างแท้จริง ไม่ขี้เกียจหาเลี้ยงตัวก็ไม่อดตายหรอกใช่ไหมค่ะ  ไม่อยากให้มีกรณีแบบนี้เกิดมาให้เห็นอีกเลยค่ะ จะว่ามะนาวหวานใจแคบก็ไม่ว่านะคะ แต่มะนาวหวานว่ารักที่ยั่งยืน หาใช่รักที่ทรัพย์สิน หรือน่าตาหรอกค่ะ

หมายเลขบันทึก: 180326เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2008 23:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

มาเรียนพิเศษ ภาษาอังกฤษด้วยคนครับ อิอิๆๆ เด็กๆๆต้องสอนให้เขาเข้าใจเรื่องศีลธรรมด้วยครับ.. ขอบคุณครับ

ต้องรอให้งูชุดเก่าๆหมดไปก่อนนะครับคุณมะนาวหวาน แล้วเราก็ค่อยรอดูผลงานของเราที่ปลูกฝังจิตใต้สำนึก ของเด็กรุ่นใหม่ในเรื่อง ศีลธรรมเหมือนที่ท่านอาจารย์ขจิตว่าน่ะครับ

ยินดีครับ

สวัสดีครับ คุณมะนาวหวาน

  • ว่าไปแล้วก็สงสารน้องคนนั้นเหมือนกัน ครูสุว่าลึก ๆ เขาเองคงไม่มีความสุขเหมือนกับเรารู้สึกไม่สบายใจครับ
  • ครูสุเคยสอนพิเศษเมื่อ 10 ปีที่แล้ว (ต่อมาจนถึงปัจจุบันไม่รับสอนอย่างเด็ดขาด แต่มาถามและช่วยสอนนิด ๆ หน่อย ๆ ได้) เด็กที่มาเรียนส่วนใหญ่จะมุ่งเอาแต่ความรู้ เรื่องคุณธรรมที่เราจะสอนเขาไม่ได้สนใจ บางรายกลัวเราพูดออกนอกเรื่องด้วยซ้ำครับ เพราะกลัวไม่คุ้มกับเงินที่จ้างเราสอน ..เฮ้อ
  • ขอบคุณครับ

ขอขคุณท่านอาจารย์ขจิต

ขอยคุณท่านรพี

ขอบคุณท่านประจักษ์แครูสุค่ะ

มะนาวหวานช่างเขลามากนะคะ ที่ไม่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่ดีๆ ให้เด็กผู้หญิงคนนั้นได้

หากเลือกได้ อยากให้เขาเลือกทางเดินชีวิตที่ดีกว่านี้ มะนาวหวานเคยพูดว่า

...สิ่งที่ทำด้วยใจและความตั้งใจของเราเองนั้นเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุด ..

.....แม้ว่ามันไม่มีค่าในด้านการตลาด

แต่มันจะมีค่าต่อเราในด้านจิตใจและความรู้สึก

ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะเก็บไว้กับเราไปจนตายอย่างภาคภูมิที่สุดค่ะ

ปัจจุบันสังคมมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วัฒนธรรม ความคิดของคนก็เปลี่ยนไป

ในเมื่อเหตุการณ์ที่คุณมะนาวหวานเขียนให้อ่าน(เล่าให้ฟัง ^_^) มันเป็นเรื่องของการเลี้ยงดูในครอบครัวด้วยส่วนหนึ่งใช่ป่าวค่ะ พ่อแม่ ให้ความเห็นชอบ ลูกก็ทำไปด้วยความที่ยังเรียนรู้ชีวิตได้ไม่เท่าไหร่ โดยหารู้ไม่ว่า สุดท้ายจะเกิดอะไรบ้าง

เฮ้อ..เขียนไปเศร้าไปค่ะ

by..kmseveral

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท