แหม...มะนาวหวานว่าจะเก็บไว้ไม่เล่าให้ใครฟังแล้ว(อีกนั่นแหละค่ะ) แต่พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็อดอมยิ้มไม่ได้ทุกทีซินะ เรื่องก็มีอยู่ว่า...มะนาวหวานเป็นน้องคนสุดท้องที่เข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ นานกว่าพี่ๆคนอื่น เลยเหมือนว่ากลายเป็นที่พึ่งในเรื่องการเดินทางไปไหนๆ ก็ต้องให้มะนาวหวานนำทางไปว่างั้นเถอะ พอดีวันนึง..พี่สาวคนโตต้องมีธุระที่ต้องเดินทางมาเยี่ยมลูกชายของเขาที่ทำงานอยู่ที่แปดริ้ว แต่ว่าเขาไม่ค่อยชอบการนั่งรถนานๆ เพราะว่าสังขารเริ่มไม่เอื้ออำนวย(ไขข้อเริ่มปวดนู่นปวดนี่บ่อยๆ) พี่สาวเลยตัดสินใจที่จะนั่งเครื่องบิน(ครั้งแรกในชีวิต) แทน และก็กะให้มะนาวหวานช่วยไปรับที่สนามบินหน่อย....อุอุ... มีอะไรเกิดขึ้นจากการนั่งเครื่องของพี่สาวเหรอ?.....เปล่าหรอกค่ะ... พี่สาวเป็นคนที่เมารถเมาเรือง่ายค่ะ มะนาวหวานก็เลยหวังดีและเเป็นห่วง ก็บอกเขาว่าเวลาเครื่องมันกำลังจะขึ้นน่ะ เราจะรู้สึกเหมือนว่าหูอื้อๆนิดหน่อยนะ แต่ถ้าไม่อยากหูอื้อก็หาลูกอมติดมาด้วยซัก สองสามเม็ดนะ .... ค่ะ..ทันทีที่บอกเสร็จ...พี่สาวคนซื่อสวนมาทันทีด้วยความข้องใจบวกกับอารมณ์งงเล็กน้อย
พี่สาวถาม"ไอ้ที่แกบอกฉันให้เอาลูกอมไปด้วยน่ะ..เอาไปทำไมวะ"
...แกคงนึกขึ้นได้อีก"อ้อ..แกจะให้ฉันเอามาอุดหูใช่มะ..."
อืม...ช่างเป็นเหตุและเป็นผลดีจริงๆ ใช้ลูกอมอุดหูกันหูอื้อเวลาขึ้นเครื่องค่ะ
(ฮา.....มะนาวหวานขำน้ำตาเล็ดเลยค่ะ)
โอ้...พี่สาวเรา...ไหงซื้อซื่อดีแท้....
สวัสดีค่ะคุณมะนาวหวาน
ว้าว!!น่าขำเหมือนกันนะค่ะ..."อ้อ..แกจะให้ฉันเอามาอุดหูใช่มะ..." พี่ท่านนึกได้ไงค่ะ...แต่อย่าไรก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ
ค่ะ..บางทีคนเราคิดมุมตรงหรือไม่ต้องคิดให้มันซับซ้อนมากไป
ก็อาจทำให้เรามีความสุข
และไม่เป็นทุกข์มากก็ได้ค่ะ
ที่จริงแล้ว..พี่สาวคุณมะนาวหวาน..ท่านมีความคิดสร้างสรรค์ดีนะคะ..^_____^
ว้าว ขึ้นเครื่องครั้งหน้า จะเตรียมลูกอมไปด้วยค่ะ...
ขอบคุณเรื่องเล่าสบายๆ วันนี้ค่ะ
ธุ พี่แนน..
ต้อมรอดตัวเลย เพราะเป็นคนกลัวเครื่องบิน ชาตินี้คงจะไม่ขึ้นเครื่องบินแน่ๆ อดเอาลูกอมอุดไว้ในหูเลย
โอ๊ยโย๊ยโหย๋...ดีใจใหญ่เลยค่ะ ที่พี่ๆที่น่ารักชอบนะคะ
มะนาวหวานว่าจะเก็บเรื่องขำๆ(บ้าง)มาเล่าให้ฟังอีกค่ะ จะได้หายเครียดกันไงคะ