ทุกๆ วัน ทุกๆ ที่ ที่ได้ย่างกรายเข้าไป(ทำงาน) หกกว่าปีผ่านไป...ไวจริงๆ เกษตรกร(ส่วนใหญ่)เป็นอยู่อย่างไร...ตอนนี้ก็เป็นอยู่อย่างนั้น(หมายถึงเทคโนโลยีการผลิตพืชผัก) วิธีการจัดการ การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว...ส่วนใหญ่...ไม่พัฒนาขึ้นเลย...
เทคนิคการทำส่วนใหญ่ยังอิงเพื่อนบ้าน หากรอบใดใครทำได้ดี ผลผลิตดี โรคแมลงไม่มี ได้กำไรเยอะ... รอบต่อไปคนอื่นๆ ก็แห่ทำตามกัน โดยไม่ดูว่ามีปัจจัยใดส่งผลต่อผลผลิตบ้าง...
มีบ้างเกษตรกรบางคนหัวก้าวหน้า ระหว่างที่ทำก็สังเกตผล ว่าทำแบบไหนจะให้ผลผลิตสูงสุด หลายฤดูเกิดภูมิรู้ประยุกต์เป็นสูตรของตัวเอง...แต่ส่วนใหญ่สังเกตวิธีการใช้ปุ๋ยใช้ยา ว่ายี่ห้อไหน ชื่ออะไรจะให้ผลดีที่สุด...พอค้นพบด้วยตัวเองแล้ว..ปิด..แอบ...ซ่อน...ยานั้น เพื่อไม่ให้เพื่อนบ้านรู้...กลัวเพื่อนบ้านได้ดีเท่าตัวเอง...กว่า 80% ของเกษตรกรที่พบที่สัมผัสมา...เป็นเช่นนี้...
เมื่อหันกลับมามองภาคนักวิชาการนักวิจัยที่เกี่ยวข้อง...มีมากเหลือเกิน ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้อง...และอื่นๆ ทั้งจบใหม่ ทั้งจบมานานแล้ว มีมากขนาดนั้นน่าจะมีผลงานวิจัย...มากมาย...แล้วเทคโนโลยีที่ได้จากการวิจัยเหล่านี้ตกไปอยู่ที่ไหน?...
เคยถามเกษตรกร ทางราชการเข้ามาเยี่ยมบ้างหรือไม่ มาให้ความรู้บ้างหรือไม่...คำตอบส่วนใหญ่...ไม่...มีไม่กี่พื้นที่ที่ดูแลเกษตรกรดีมาก...ขอบคุณแทนเกษตรกรที่โชคดีเหล่านั้นด้วย...
ขอจบแค่นี้ก่อน...นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผม ที่ได้รู้ได้เห็นมา...ในบางพื้นที่...
สวัสดีค่ะคุณดินดอน
เกษตรกรเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น..และเป็นมานานหลายสิบปีแล้วค่ะ
การจะให้คนที่ทำการเกษตรเปลี่ยนแปลงทัศนะคติจากเดิมนั้นยากยิ่ง
...ยกตัวอย่างเช่น..เปลี่ยนจากการทำเกษตรที่พึ่งพาสารเคมีมาเป็นเกษตรแนวชีวภาพ..นั้นยาก..
...แต่มิใช่จะทำไม่ได้แต่ต้องอาศัยความอดทนของเจ้าหน้าที่พูดแล้วพูดอีก
มีกระบวนการที่หลากหลายและทุมเททั้งกายและใจโดยเฉพาะเจ้าที่เกษตร
เป็นกำลังใจให้ค่ะ..การเปลี่ยนแปลงคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ชื่นชมศิษย์เก่า ที่มีความคิดดีๆ ครับ
ขอบคุณ คุณ ทิกเกอร์ และ ดร.ภิญโญ ครับที่เข้ามาเยี่ยม
ผมเองไม่ได้เข้ามาเขียนอัพเดทนานๆๆๆๆมากๆๆๆๆเลย
ทั้งๆ ที่มีเรื่องในสต๊อกมากมาย
ขอบคุณ คุณ บุษรา ครับ ที่แวะมาทักทาย
ขอบคุณ คุณบุษรา มากครับ ต้องขอโทษด้วยนะคับที่มาตอบช้า ช่วงนี้ตัวเป็นเกลียวเลย แล้วจะเข้าไปเยี่ยมนะคับ