วันที่ 4 เมษายน ทางบริษัททัวร์นัดล้อรถหมุนตี 4 เพื่อจะได้ไปถึงเสียมเรียบเร็วขึ้น
นัดที่พักปลุกตั้งแต่ตีสาม รีบออกจากที่พัก เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีแท็กซี่เพราะเห็นแท๊กซี่หน้าที่พัก ชอบบริการเฉพาะฝรั่ง หรือไม่ก็อยากไปสุวรรณภูมิ นี่เรามาแค่สนามเป้า แต่ผิดคาด เดินออกมา ก็เจอคนจัดคิวเลย คนอิสานบ้านเฮาอีกแล้ว ไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงบริษัททัวร์ จ่ายค่าแท๊กซี่ไป 55 บาท
ถึงที่จุดนัดพบ เจอคนมารอ หลายคนแล้ว หมอคิดบัดดี้บอร์ดี้การ์ดเราก็มาถึงแล้ว เจอทุ้ย สตาฟทริป อัธยาศัยดีทีเดียว ดูทุกคนเป็นมิตร งานนี้น่าจะเป็นทริปที่มีความสุขพอสมควร ลูกทัวร์ทั้งหมด 15 คน แต่จะตามที่หลังอีก 2 คน ทุกคนล้วน เป็นคนตรงเวลา ถูกใจจัง
การเดินทางครั้งนี้เดินทางโดยรถตู้ และจะไปเปลี่ยนเป็นรถเขมรที่ปอยเปต เราถูกจัดให้นั่งรถตู้ 2 คัน เป็นการบริการแรกที่ประทับใจ คิดอยู่ในใจว่า สงสัยให้นั่งเบียดกันไปแน่เลย
รถคันที่ป้าแดงนั่ง มีคนนั่งแค่ 4 คนเพราะอีก 2 คน จะขึ้นเครื่องตามไปทีหลัง เลยได้นั่งแบบสบาย (ชิว ชิว) ตั้งแต่ เริ่มทริป
เราทั้ง 4 คน คุยกันได้ถูกคอ คงเพราะคอเที่ยวด้วยกันนั่นเอง แล้วเราทั้ง 4 คนก็กลายเป็นบัดดี้คู่หูรู้ใจโดยไม่รู้ตัว ไปไหน เข้านอน กินข้าว เป็นต้องรอกัน โดยไม่ต้องมีการบอกกล่าว
รถใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ คุยกันจนออกนอกกรุงเทพ แล้วเสียงคุยก็เริ่มเบาลง มาตื่นกันอีกที ก็เมื่อรถจอดให้เข้าห้องน้ำที่พนมสารคาม อากาศดีมาก ฝนตกพร่ำๆ นึกดีใจจะไม่ได้ร้อนมาก
ทัวร์ที่เราเลือกไป ใช้ชื่อ ecotour เป็นทัวร์เชิงอนุรักษ์อะไรประมาณ ทุ้ยบอก
เจ็ดโมงเช้า มาถึงอรัญประเทศ รถมาพาเรากินข้าวเช้าที่ร้านข้าวมันไก่ มื้อนี้จ่ายเอง ป้าแดง เลือกกินข้าวคลุกกะปิ ยังไม่หิว แต่ไม่รู้ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ท้องเต็มไว้ก่อน(นี่..ขนาดมีทัวร์ดูแล)
ครั้นพอไปที่ด่านคลองลึก ดูความวุ่นวายก็เกิดขึ้น คนเยะแยะไปหมด ตลาดโรงเกลือก็เปลี่ยนแปลงไปมาก เราคิดว่า ที่ชายแดนหนองคายวุ่นวายแล้วนี่มากกว่าหลายเท่า
เด็กเดินตามขอขนมขอเงินตลอด จนไปถึงเจ้าหน้าที่ด่าน จึงเลิกตาม แล้วมองหาเหยื่อรายต่อไป
พิธีการออกเมืองเข้าเมือง ทุ้ยให้เราดูแลตัวเอง ไม่เหมือนทัวร์อื่นๆที่มีสตาฟทำให้เรียบร้อย รอเดินผ่านอย่างเดียว ด่านไทยเร็วหน่อย แต่ไปที่ด่านเขมรไม่รู้ติดขัดอะไร ใช้เวลารอซะนาน
มีคนแซวทุ้ยว่า เพราะเป็น ecotour ลูกค้าชั้นประหยัดรึป่าวถึงต้องดูแลตัวเอง ทุ้ยได้แต่หัวเราะ เป็นคนอารมณ์ก็ดีอย่างนี้ แม้เกิดความขัดแย้ง ก็ไม่มีความขัดแย้ง
ร้านค้าปลอดภาษีก็ดูคึกคักตั้งแต่ รวมถึง คาสิโนด้วย มีมากันเยอะ สังเกตจากรถและผู้คน
เราถูกจัดให้ขึ้นรถมินิบัส รถแอร์แต่ไม่เย็นมาก ดีที่นุ่งกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อแขนสั้นๆ ทำให้ไม่ร้อนมากนัก สบายๆ เตรียมการดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ไกด์เขมร บอกว่าชื่อสาคร พูดไทยไม่ค่อยชัด ฟังเข้าใจยากมาก ส่วนคนขับรถพูดไทยไม่ได้เลย เข้าใจคำไทยเป็นบางคำ เขาไม่ได้อยู่ปอยเปตแต่อยู่เสียมเรียบเลยไม่เข้าใจภาษาไทย
ถนนจากปอยเปต คุณสาคร ออกเสียงว่า ปอยแปด ยังขลุกขลักเต็มไปด้วยหลุมบ่อ ฝุ่นกระจัดกระเจิง ตามคำเล่าลือ นานๆจะเจอถนนเรียบ แต่ก็เพียงระยะสั้นๆ
รถเริ่มร้อน ไปถึงเมืองอะไรซักอย่าง ฟังไม่เข้าใจ นายกมาประชุม ที่มหาลัยที่เมืองนี้ เรื่องการจัดสรรที่ทำกินว่าอย่างนั้น รถเลยติดอยู่ที่นี่ เกือบสองชั่วโมง ร้อนมาก ป้าแดง ติดพัดลมเล็กใช้แบตเตอรี่ไปด้วย เอาออกมาใช้ก็เสียงดังรบกวนคนอื่น
เลยต้องใช้พัดที่ทำเป็นหมวกได้ด้วย ซื้อจากท่าช้างเพราะคิดว่า ที่เสียมเรียมต้องร้อนแน่ๆ ราคา 99 บาท ทีเสียมเรียบก็ไม่น้อยหน้ามีเหมือนกัน ราคา 80 บาท เป็นดอลล่าร์ คิด 2 เหรียญ ไม่เป็นไรอุดหนุนคนไทยด้วยกัน สบายใจสุดๆ
เกือบบ่ายโมงเราถึงจังหวัดศรีโสภณ แวะทานข้าวที่ร้านพลายปรึก ทุ้ยบอกว่าไม่ต้องเลือกร้าน เพราะมีที่เดียว
เราได้อาหาร 5 อย่าง ส่วนทัวร์อื่น ได้อาหาร 7 อย่าง มีหมวกที่ใส่ที่เหมือนกันด้วย คาดว่า ทัวร์คงแจกมา เราบอกกันว่าไม่ต้องคิดมาก เรา ecotour
ทัวร์ทุกทัวร์มาลงที่นี่ แต่การบริหารจัดการดีมาก มีผู้ประสานงานสานต่อกันเป็นระยะ นั่งปุ๊บอาหารลงปั๊บ
มะเขือเทศที่นี่เป็นสีเขียว ไม่สีแดงเหมือนบ้างเรา อาหารรสชาดใกล้เคียงบ้านเรา ไม่ค่อยคุ้นลิ้น แต่กินข้าวเค้าไป 4 ทัพพี ปกติ 2 ทัพพี ไม่ค่อยอร่อย แต่กินได้เยอะ อิอิอิ
และอาหารต่อไปเกือบทุกมื้อ ของเราก็จะเจอผัดผัก ไข่เจียว ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม เดิมๆๆ หากไปกินร้านอาหารชุด
เราถึงเสียมเรียบเกือบบ่ายสามโมง เราได้โรงแรมประมาณ 3-4 ดาวชื่อ สาลิน่า ราคาน่าจะอยู่ที่ 60 เหรียญ สวย สะอาด ทีเดียว อาหารเช้าก็มีให้เลือกมากพอสมควร อร่อยถูกปากคนไทยด้วย
หลังจากเชคอิน เข้าที่พัก บ่ายสามโมงครึ่งเราไปเที่ยวโตนเลสาปกัน โชคดีที่บอกว่า พวกเราเป็นคนตรงเวลา เลยทำให้เรามีเวลาเยอะ จะติดขัดก็ที่ป้าแดง เห็นอะไรก็เป็นหยิบกล้องไปกด เลยมักเป็นคนสุดท้ายที่ขึ้นรถเป็นประจำ
เริ่มง่วงแล้ว ไปต่อที่บันทึกหน้า ชีวิตที่โตนเลสาปดีกว่า
ฝากเที่ยวด้วยคนนะครับ
หวัดดีครับเอื้อย
เริ่มทับรอยอาวแล้วครับ พื้นที่อาวไปทำงานอยู่เมืองบันเตียเมียนเจย ขึ้นไปทางเหนืออีกซาวกิโล มากินข้าวร้านประกายพฤกษ์นี่บ่อยๆครับ
ตาร้อนผ่าวอิจฉาคนไปเที่ยวแท้ๆ
สวัสดีครับ
น่าสนุกจังเลย
ผมว่าที่ป้าแดงมัวถ่ายรูป ก็จะได้เอามาให้พวกเราได้ดูกันนี่แหละ
ซาบซึ้งๆๆ
จะตามอ่านต่อนะครับ
สวัสดีค่ะ อ.ขจิต
สวัสดีค่ะ อ.จารุวัจน์
สวัสดีค่ะ อาจารย์พี่อึ่ง
สวัสดีค่ะ อาวปาลี
สวัสดีค่ะ อ. ธ.วัชชัย
สวัสดีค่ะ นู๋รักษ์
สวัสดีค่ะ น้องปลาเค็ม
ป้าแดงคะ
อยากไปด้วยจัง
สวยเหมือนที่คิดไว้ไหมคะ
มาตามคุณมณีแดงไปเที่ยวขแมร์ อิอิ
สวัสดีค่ะ อ.อุบล
สวัสดีค่ะ อ.เอื้องแซะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ท่านอัยการ