จารุวัจน์ شافعى
ผศ.ดร. จารุวัจน์ ชาฟีอีย์ สองเมือง

ขวดนมลูก


กำลังจะเริ่มงานครับ แต่สารคดีข่าวจากช่องไทยทีวี น่าสนใจครับ เลยต้องเหลียวมองและฟังอย่างตั้งใจ เนื้อข่าวคือ พบว่าจากผลการทดลองสารบีพีเอ (ถ้าผมฟังไม่ผิดนะครับ ซึ่งเป็นสารชนิดหนึ่งที่มีผสมอยู่ในพลาสติกใส ซึ่งหนึ่งในหลายๆ พลาสติกใสก็คือ ขวดนมลูกครับ) มีผลต่อสมอง ต่อมลูกหมาก และการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งสารชนิดนี้จะละลายออกมาเมื่อมีโดนความร้อน หรือการต้ม

อาการที่พบจากการทดลองในสัตว์ คือ มีผลต่อสมอง เป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วขึ้น และมีผลต่อต่อมลูกหมาก

เอาละสิครับ ขวดนมลูกจะต้มหรือไม่ต้มดี ไม่ต้มแล้วลูกท้องเสียบ้าง อะไรบ้างไปอีกหลายอาการ 

งานนี้ต้องยอมรับครับว่า ของที่พระเจ้าประทานมาให้แต่ตั้งแต่เดิมมีแต่ผลดีจริงๆ และความจริงคือ ผมก็ตั้งใจจะให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกันครับ จึงไม่ยอมให้ภรรยาทำงานนอกบ้านตั้งแต่แต่งงานกัน ปรากฏว่าพอมีลูกคนแรกก็ต้องพึงเจ้าขวดนมจนได้ครับ เนื่องจากนมแม่ไม่ไหล

แล้วบังเอิญเคยได้รับงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า สาเหตุสำคัญที่น้ำนมไหลน้อยหรือไม่ไหลก็เนื่องจากภาวะความตึงเครียดของคนเป็นแม่ครับ และงานวิจัยชิ้นนั้นยังระบุว่าไม่เกี่ยวกับการบำรุงคุณแม่เลย (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ)

ตอนนั้นผมก็ลองเอาผลงานวิจัยนี้แหละครับมาประยุกต์ใช้ดู ก็คิดว่ามีส่วนจริงอยู่มากกครับ ให้บำรุงยังไงนมแม่ก็ยังไหลน้อย แต่พอบำรุงใจก็ปรากฏว่าได้ผลดีกว่า ฮิฮิฮิ แต่ธรรมดาครับ ภาวะกังวลเป็นเรื่องปกติ โดยเพราะกับการได้เจอกับสิ่งใหม่ๆ ความท้าทายใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน

พูดมาถึงตรงนี้แล้วอดเล่าย้อนหลังไปอีกนิดหนึ่งไม่ได้ว่า ตอนจะถึงกำหนดคลอดลูกคนแรก ผมก็พยายามสอบถามพี่ๆ ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง แล้วผมก็เตรียมทุกอย่างไว้พร้อม บางอย่างก็ใส่หลังรถไว้ แต่พอเอาเข้าจริง ถึงเวลาผมก็ต้องไปซื้อใหม่ที่โรงพยาบาลอีก จนพี่สาวต้องถามว่า ก็บอกให้เตรียมไว้แล้ว แล้วไปอยู่ไหนเสียล่ะ ผมก็ตอบไปว่า เตรียมไว้แล้ว แต่เข้าใจว่าอันนั้นอันนี้ใช้ตอนพาลูกกลับไปบ้านแล้ว ไม่นึกว่าที่โรงพยาบาลต้องใช้ด้วย (ไอ้ครั้นจะกลับไปเอา กับซื้อใหม่ ซื้อใหม่สะดวกกว่าเยอะ) สรุปว่า หลายอย่างซื้อสองครั้ง ฮิฮิ

วันคลอดก็เป็นกลางค่ำกลางคืนครับ ไปกันสองคนสามีภรรยา (ว่าที่คุณพ่อคุณแม่) แต่ก็โทรไปบอกแม่ซึ่งตอนนั้นท่านก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว โดยมานอนรอที่บ้านพี่สาว ปรากฏว่าพี่เขยรับ และบอกว่าจะพาแม่ไปเช้าพรุ่งนี้แล้วกัน ผมก็ตอบไปว่าดีเหมือนกัน (ก็คนไม่รู้อะไรนี้ครับ) ปรากฏแค่เห็นหน้าพยาบาลที่เข็นรถของภรรยาออกมาที่ห้องพัก(เป็นห้องรวมครับ) ก็เจอคำถามเลยว่า พี่คนเดียวหรือค่ะ? ก็ตอบไปว่า ครับ ทำไมหรือครับ? ไหวหรือค่ะ คนเดียวดูทั้งแม่ (ซึ่งผ่า)กับลูกอีก ผมก็ได้แต่ยิ้ม แล้วก็เริ่มตั้งคำถาม แล้วผมมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้างล่ะ แฮะแฮะ

ความกังวลก็เกิดครับ ลุ้นอย่างเดียว ลูกอย่าเพิ่งร้องนะ (รอย่ามาก่อน วันพรุ่งนี้ ฮิฮิ) ภรรยาก็อย่าเพิ่งเจ็บอะไรเพิ่มนะ แต่ให้ดีช่วยรู้สึกตัวมาเป็นกำลังใจให้ผมก่อน ฮาฮาฮา

ตอนนั้นก็พยายามรื้อฟื้นความรู้เดิมว่า เด็กแรกเกิดจะเริ่มหิวนมครั้งแรกเมื่อไร แต่แล้วตอนตีสอง สมาชิกใหม่ของตระกูลสองเมืองก็ส่งเสียงดังลั่นให้ผมได้ตื่นเต้นเป็นครั้งแรก เอาไงดีละตู?

หญิงสูงอายุจากเตียงข้างๆ บอกให้ไปชงนมมาป้อนให้ลูก แก่บอกว่า ลูกคงหิวแล้ว อ้าว ไหนความรู้เดิมผมมันบอกว่าหลายชั่วโมงงัย นี้คลอดตอนสี่ทุ่ม ตีสองหิวแล้วเหรอ

มองหาขวดนมลูก แฮะแฮะ เตรียมไว้เหมือนกัน แต่เหลือบไปเห็นหัวเตียง ประกาศอย่างชัดเจน โรงพยาบาลปราศจากขวดนม ชงในแก้วครับ ชงเสร็จกว่าจะเย็น ลูกก็ร้อง ฮาฮาฮา ตื่นเต้น เครียด ไม่เคยอุ้มเด็กที่เพิ่งเกิดมาไม่ถึงหนึ่งวันเลย (แต่ก่อนขนาดหลานอายุสัปดาห์กว่าแล้ว แม่ยังไม่ยอมให้ผมอุ้มเลย) อุ้มลูกอายุไม่ถึงสิบชั่วโมง ป้อนนมด้วยช้อนอย่างทุลักทุเล หมดไปแก้วหนึ่งแล้ว (2 ออนซ์) ลูกก็ยังไม่อิ่มครับ สุดท้ายหญิงสูงอายุเตียงข้างๆ ก็มาช่วยอุ้ม ส่วนผมวิ่งไปชมนม แล้วเอากลับมา ซึ่งแก้วที่สองหญิงคนดังกล่าวเป็นคนป้อนครับ

เช้าวันรุ่งขึ้น โล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยครับ เมื่อเห็นคุณแม่เข้ามาในห้องพัก รอดตายแล้วตู ทำไมจะไม่ให้ดีใจ ก็หลานๆ ทั้งสิบคนที่ผ่านมา ผ่านมือแม่ทั้งนั้นแหละครับ แถมด้วยการต่อว่าจากแม่ว่า ทำไมไม่ให้พี่เขยบอกแม่ตั้งแต่เมื่อตอนโทรไปบอก ซึ่งความจริงใจนะอยากให้แม่มาช่วย แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นใหม่ๆ ผมก็กลัวอันตรายจะเกิดขึ้นกับแม่ตอนเดินทางมาโรงพยาบาลเหมือนกัน

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เล่าก็เป็นเรื่องของเด็กคนนี้ในปัจจุบันละครับ

                

แหม่. แค่ข่าวขวดนม ทำผมคิดไปไกลเลยครับ ขออภัยที่ขึ้นต้นด้วยเรื่องหนึ่งแล้วดันมาจบด้วยกับอีกเรื่องหนึ่งครับ

คำสำคัญ (Tags): #ขวดนม#อิลฮาม
หมายเลขบันทึก: 177679เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2008 21:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เป็นความรู้ใหม่เลยครับ มิน่าคนแถวๆๆสงขลาถึงหาขวดนมแก้ว อิอิๆๆ ไม่บอกว่าใคร ว่าแต่ว่ารูปสุดท้ายรูปใครครับ น่ารักมากๆๆ

สวัสดีครับอ.ขจิต

แสดงว่า คนแถวสงขลาน่าจะมีข้อมูลดีกว่าผม เพราะผมเพิ่งรู้เมื่อกี้นี้เอง ในขณะที่อิลฮาม (คนในรูป) ใช้ขวดนมที่ต้มทุกวันมาสามปีแล้ว ฮิฮิ

ออ. ส่วนความน่ารักของอิลฮาม ก็น่าจะมาจากคุณพ่อน่ารักนะครับ ฮิฮิฮิ (ไม่ได้หลงตัวเองเลยยยยยยยย.....ย)

สำเนาถูกต้องครับผม อยากได้ข้อมูลเรื่องขวดนมปรึกษาแถว มอ นะครับ อิอิๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท