โรจน์
นาย โรจนศักดิ์ ทองคำเจริญ

แนะนำหนังสือ "โรงเรียนทำเอง" โดย อ.วิศิษฐ์ วังวิญญู


ทำไมลูกที่เรียนจบปริญญาโท ต้องมายืมเงินแม่ที่จบแค่ประถมสี่ ตกลงใครกันแน่ที่จัดการระบบชีวิตได้ดีกว่าใคร ใครกันแน่ที่ควรจะเป็นต้นแบบทางการศึกษา

วันนี้มีหนังสือดี ๆมาแนะนำครับ หนังสือเล่มนี้คือ " โรงเรียนทำเอง" เขียนโดยอาจารย์ วิศิษฐ์ วังวิญญู

  

 อาจารย์วิศิษฐ์ เป็นที่รู้จักกันดีจาก "โครงการจิตวิวัฒน์" และเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่ม "สุนทรียสนทนา" ที่นิยมกันมากในปัจจุบัน ประวัติของอาจารย์อ่านเพิ่มเติมได้ใน "โครงการ การศึกษากับมิติจิตใจ"

อาจารย์จบมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดม ได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์ในสมัยรวมคณะหนึ่งปี แล้วตัดสินใจออกมาศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองนอกระบบ จะเห็นได้ว่าเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในการศึกษาอย่างแท้จริง

โรงเรียนทำเองเป็นหนังสือที่เขียนจากประสบการณ์ตรงของอาจารย์วิศิษฐ์ ที่ได้ทำ home-made school กับลูกชายของอาจารย์เอง สำนวนของอาจารย์มีความโดดเด่นและเฉพาะตัว การดำเนินเรื่องน่าสนใจ

เนื้อหา

กล่าวถึงวิธีการเรียนรู้ของมนุษย์นั้น โดยเฉพาะเด็ก จะเรียนจากการลงมือทำผ่านประสบการณ์จริงมากกว่าการเรียนจากนามธรรม (หรือทฤษฎี) การเรียนจะเกิดจากความรู้สึกอยากเรียนรู้จริงๆ โดยที่ไม่บังคับ เรียนรู้อย่างสนุกสนานและปราศจากความกลัว และที่สำคัญคือเน้นความสำคัญของ เวลาที่มีคุณภาพระหว่างคนในครอบครัว+การรับฟังอย่างไม่ตัดสิน+ใช้ role model สอนลูก (การทำตนให้เป็นตัวอย่าง) และการจัดสภาวะแวดลล้อมในบ้านให้เหมาะแก่การเรียนรู้(ไม่มีทีวี มีหนังสือหลากหลาย มีต้นไม้ และทุกคนในบ้านทำหน้าที่ของตนเอง)

หนังสือเล่มนี้ สวนกระแสวัตถุนิยมอย่างชัดเจน โดยเน้นถึงการใช้ชีวิตแบบพึ่งตัวเอง และเรียนรู้เพื่อการพัฒนาปัญญา 3 ฐาน ปัญญากาย( ทักษะที่จำเป็น/อาจารย์ใช้คำว่าปัญญาของสัตว์เลื้อยคลาน) ปัญญาอารมณ์(คล้ายๆ EQ) และ ปัญญาความคิด (คล้ายๆ IQ) และ มองว่าการเรียนรู้เพื่อความเป็นอิสระ มิใช่ยึดความร่ำรวยเป็นเป้าหมายชีวิต  เรียนเขียนอ่านเพื่อพัฒนาตนเอง เป็นต้น

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือดีที่ทุกคน โดยเฉพาะคนที่ต้องการพัฒนาตน+ต้องการจะเลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้ถูกครอบงำด้วยวัตถุ

และประโยคที่อาจารย์วิศิษฐ์ ให้สัมภาษณ์ใน กรุงเทพธรุกิจ วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2544 เป็นประโยคที่น่าสนใจ ขอส่งท้ายด้วยประโยคนี้ครับ

"การศึกษาแบบโฮมสกูล ไม่มีความจำเป็นที่พ่อแม่จะต้องเรียนสูง ผมคุยกับเพื่อนหลายคนว่า ทำไมลูกที่เรียนจบปริญญาโท ต้องมายืมเงินแม่ที่จบแค่ประถมสี่ ตกลงใครกันแน่ที่จัดการระบบชีวิตได้ดีกว่าใคร ใครกันแน่ที่ควรจะเป็นต้นแบบทางการศึกษา"

หมายเลขบันทึก: 176978เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2008 15:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • คุณหมอโรจน์สบายดีนะคะ ไม่ได้แวะมาคุยเสียนาน พอเข้ามาครั้งนี้เลยมาเก็บอ่านที่ยังไม่ได้อ่านหมดเลยค่ะ
  • ตามไปเที่ยวสิมิลันมาด้วยค่ะ ภาพสวยมาก
  • พี่อักษรสนใจเรื่อง home schooling อยู่พอดีเลยค่ะเพราะคิด ๆ จะทำเหมือนกัน เหตุผลคือ ย้ายที่อยู่บ่อย ปีที่แล้วอยู่สามประเทศ มาเก๊า แคนาดา เม็กซิโก ลูกสาวเรียนเทอมละประเทศ สงสารเขาต้องปรับตัวอยู่เรื่อย พอมาถึงเม็กซิโก ก็เลยคิดว่าจะ home school แต่ศึกษาดูแล้วงานใหญ่ทีเดียว ต้องมีวินัยในตัวเองมาก ๆ แต่พี่อักษรเป็นประเภทสบาย ๆ ไม่ค่อยมีวินัยเท่าไร ก็เลยไม่เอาดีกว่า
  • ผู้ปกครองที่อเมริกาและแคนาดาให้ความสนใจเรื่อง home schooling กันพอสมควรค่ะ ทางรัฐบาลก็ให้การสนับสนุน มีกลุ่มซัพพอร์ทอยู่ทั่วไป ส่วนใหญทีี่ทำกันก็เพราะเหตุผลทางศาสนาและทางสังคม ไม่อยากให้ลูกไปได้รับอิทธิพลทางความเชื่อที่แตกต่างไปจากตน หรือได้รับอิทธิพลพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากเพื่อนที่โรงเรียน และอีกอย่างปัจจุบันนี้ที่โรงเรียนไม่ค่อยมีความปลอดภัย มีข่าวเรื่องการขู่วางระเบิด การยิงกราดไปทั่วห้องเรียน อะไรต่าง ๆ พวกนี้ให้ได้ยินอยู่บ่อย ๆ
  • อีกเหตุผลนึงก็คงอย่างที่ อ.วิศิษฐ์กล่าวไว้ในหนังสือ คือเรื่องสไตล์การเรียนรู้ ความสามารถ และความสนใจของเด็กแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน และครูที่จะเข้าใจเด็กได้ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นพ่อแม่นั่นเอง
  • จดชื่อหนังสือไว้แล้วค่ะ มีโอกาสไปเมืองไทยต้องไปหาซื้อมาอ่านแล้วค่ะ ขอบคุณที่แนะนำค่ะ 
  • ขอโทษค่ะ ยาวไปหน่อย แล้วจะแวะมาเยี่ยมใหมค่ะ

ขอบคุณพี่อักษรที่แวะมาเยี่ยมครับ

โดยแก่นแท้หนังสือเล่มนี้เชื่อในการเรียนรู้ที่เกิดจากความสนใจของเด็กโดยที่เรามีเวลาให้+ส้รางสภาวะแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนรู้ เรียนรู้โดยเป้าหมายคือ เรียนรู้เพื่อสร้างปัญญา มากกว่าเรียนรู้ เพื่อ หากิน (การกินเป็นส่วนหนึ่ง แต่มิใช่ให้เรียนเพื่อเป็นทาส)

อาจารย์วิศิษฐ์ เชื่อว่าหากมีปัญญาอย่างแท้จริง จะเบียดเบียนตนและคนอื่นน้อยลง กินน้อ ช่วยเหลือคนอื่นมาก และสุดท้ายเขาจะโตเป็นคนที่มีความสุขและเป็นอิสระ

ไม่จเป็นว่า home school ต้องเข้มงวด แต่ต้องการความสม่ำเสมอ และต้องการผู้ที่มีความตั้งใจจริงและเชื่อมั่นในวิธีนี้ พ่อแม่ กับลูกจะเรียนรู้ไปพร้อมกัน

ผมคิดว่า ถ้าเรียนเพระความกลัวจะไม่ได้อะไร ขอให้เรียนด้วยความกระหาย

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ

  • ชอบประโยคนี้ของหมอ
  • ........
  • "ถ้าเรียนเพระความกลัวจะไม่ได้อะไร ขอให้เรียนด้วยความกระหาย"
  • ........
  • สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ

สวัสดีวันสงกรานต์ครับอาจารย์ หมอเจ้

  • พี่สนใจหนังสือนะหมอ
  • หาได้ที่ไหนจ๊ะ

อ่านหนังสือของสวนเงินมีมา แต่ยังไม่เคยเห็นเล่มนี้ค่ะ ไม่ทราบว่าเล่มนี้เป็นของสวนเงินมีมาด้วย??

พูดและคุยกับลูกชายคล้าย ๆ แบบนี้ แล้วก็พาเขาหัดปลูกต้นไม้ วางแผนอยากให้เขาได้เรียนรู้กสิกรรมพื้นฐาน

มองว่า..พลังงานมีวันหมด กสิกรรมสิคะ ของแท้แน่นอน

มาคุยอีกค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท