เมื่อคนใกล้ตัวต้องผ่าตัด ครั้งที่ 4
ครั้งแรกตอนเป็นสาว...
ตอนนั้นรู้สึกเจ็บที่หน้าอก...ดีที่หมอตัดแค่ “ซีส” ไม่ได้ตัดอย่างอื่น..
ครั้งที่ 2 เมื่อมาอยู่กับเรา ในวันที่ครบรอบแต่งงาน 1 ปี ก็ต้องเข้าผ่าตัดอีกครั้ง เพราะพยาบาลที่รับฝากท้องนับเดือนผิด หายไป 1 เดือน
“เด็กในท้อง 10 เดือนแล้ว...ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมา จะสร้างบ้านอยู่ข้างในเลยรึไง ผ่าเลยแล้วกัน”
(จริง ๆคือ แค่ 9 เดือน)
...วันเกิดลูก ก็เลยเป็นวันครบรอบแต่งงาน ดีเหมือนกัน....จำง่ายดี...
“หมอเก่ง ผ่าเร็ว แป๊บเดียวก็ได้อุ้มเด็กแล้ว”
... พยาบาลที่ตึกคลอดบอก แต่พยาบาลที่ตึกผ่าตัดไม่ว่าตาม.....
เข้าห้องผ่าตัดคิวแรก 2 โมงเช้า เด็กถูกอุ้มออกมาคนแล้ว....คนเล่า
แต่ไม่ใช่ลูกเราซักที เล่นเอาว่าที่พ่อคนใหม่ลุ้นจนเกือบเที่ยง......
“ทานนมมารึ...ต้องรอให้ย่อยก่อน...ค่อยผ่าได้นะ”
คำเฉลยหลังจากฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ แต่ก็ได้ของแถมหมอตัด ไส้ติ่งให้ด้วย..(เคยมีคน ผ่าคลอด 2 ครั้งแล้ว คิดว่าหมอตัดไส้ติ่งให้ แต่หมอลืมตัด พอไส้ติ่งอักเสบก็นึกว่าเป็นอย่างอื่น กว่าจะรู้ก็แทบแย่)
ได้เห็นหน้าลูกเพียง 1 วันกับ 1 คืน ก็ต้องไปสัมมนาที่ภูเก็ต ปล่อยแม่ลูกพักฟื้นหลังผ่าตัดคลอดที่โรงพยาบาลกับคุณยาย...
หลังผ่าลูกคนแรกได้ 4 ปี ก็ต้องผ่า อีกครั้ง....เด็กหัวยุ่ง ๆ ก็โผล่ออกมาอีกคน แล้วหมอก็แถมทำหมันให้อีก (เพื่อนบางคนต้องกลับไปทำหมันที่หลังนะ อีกคนก็กลับไปแก้หมันด้วยละ)
.....หลังจากนั้นก็ลืมความสัมพันธ์กับห้องผ่าตัดไปนาน แต่ลืมไปว่าเราเอาเปรียบเขาอยู่โข ปล่อยให้เขาผ่าเอา ๆ พอนึกได้ก็เลยเป็นไส้ติ่งให้หมอผ่าทีหนึ่ง....
เขากลัวเราจะตามทันรึอย่างไรไม่ทราบ เริ่มวางแผนเข้าผ่าตัดครั้งใหม่...
เริ่มมีรอบเดือนมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น
หน้าท้องเริ่มโตขึ้น รึว่าหมันหลุด แต่มีรอบเดือนนี่...
ตรวจสุขภาพประจำปีก็ตรวจแทบทุกปี
ไปคลินิกแล้วกัน
“เจอก้อนในมดลูก 1 ก้อน” คือคำตอบแรก “ไม่รู้เป็นเนื้อร้ายรึเปล่า” คือประโยคถัดมา
รอผลตรวจ..ไม่ใช่เนื้อร้าย...สบายใจไปหน่อย
รักษาอย่างไร....
หาหมอเฉพาะทาง
"เจออีกหลายก้อน ด้านหลังมดลูกอีก ผ่ายาก... "
หาอีก 6-7 หมอ
“ฉีดยาระงับฮอร์โมน ไม่ให้มีรอบเดือนไปเลี้ยงมัน”
นี่ สมให้มันเหี่ยว...
ห้ามได้วันเดียวละ วันที่ 2 เริ่มมา วันต่อมาเยอะเหมือนเดิม
สุดท้าย “ผ่าตัด” คือแนวทางการรักษาที่ตัดสินใจเลือก
“ถ้าเอาปีกมดลูกไว้ได้ หมอก็จะเอาไว้ แต่ถ้าจำเป็นต้องเอาออกหมด หมอก็จะทำ”
โรงเรียนปิดเทอม เหมาะสุด....
ส่งตัวเล็กไปอยู่กับคุณยาย คอยฟังเสียงโทรมาร้องไห้วันละ 3 ครั้ง
ลูกคนโตต้องสอบเข้า ม. 1 รอบแรกพลาด รอบสองพลาด รอบสามถ้าพลาดอีกก็คงต้องพึ่งดวงตอนจับฉลาก ( 23 คนเอง) ดีที่สอบติดรอบทั่วไป
หมดไปอีกประเด็น...แต่ใกล้วันความดันสูง 180
“ถ้ากินยาแล้วลดทัน ก็ผ่าได้ ถ้าลดไม่ทันก็ต้องรอคิวหมออีกเดือน”
ลูกก็จะเปิดเทอม เอาไงดี..
“ความดันลดลงแล้ว ถึงจะสูงกว่าปกตินิดหน่อยก็พอได้ ตกลงจะผ่าเลยไหม...หมอว่างวันที่ 4 วันเดียว หรือจะรอไปอีกเดือน”
“ผ่าค่ะ”
“ระบบจ่ายตรงที่ทำไว้จะใช้ได้ช่วงหลังสงกรานต์….ตอนนี้ต้องสำรองจ่าย หรือไม่ก็ทำหนังสือส่งตัวมาก่อน”
วันที่ 4 เมษายน 51 เช้า กำหนดผ่า
(งดน้ำงดอาหารก่อน 4 ทุ่มวันที่ 3)
หลังผ่าประมาณ 7 วันก็คงกลับบ้านได้
วันที่ 4 เมษายน 51 ประชุมผู้ปกครองเด็กเข้าใหม่ ม. 1
วันที่ 5 เมษายน 51 มอบตัวเด็กเข้าใหม่ ม. 1 พร้อมงานระดับภูมิภาคของบริษัทที่เรามีหุ้นส่วนอยู่
วันที่ 6-7 เมษายน 51 ร่วมประชุมนอกสถานที่ต่างจังหวัด เราเป็นวิทยากร
วันที่ 8-10 เมษายน 51 ต้องเป็นคนจัดประชุมเกษตรกร 50 คน พร้อมทั้งเป็นวิทยากร
วันที่ 22 เมษายน 51 เป็นต้นไปร่วมจัดเวทีชุมชนในศูนย์ข้าว10 ศูนย์ 10 จุด 10 วัน
งานนี้ท้าทาย งานนี้เสี่ยงสูง งานนี้มีผลต่อเนื่อง งานนี้ไม่ทำไม่ได้
แต่จะเป็นไรไป ก็ผ่ามาตั้ง 3-4 ครั้งแล้วนี่....ว่าไหม..
สวัสดีเจ้าค่ะ คุญยินดี ปรีดา
โห!! อ่านแล้ว เห็นใจเลยอ่ะค่ะ แหม!! แต่ทุ่มสุดตัวอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ คนรักซะอย่าง ว่าแต่ว่า ลูกๆอ่ะค่ะ สนใจมาเรียนกับน้องจิเปล่า สอนฟรี!! แถมสอนวิธีปีนต้นมะม่วงด้วยค่ะ 5555++
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---->น้องจิ ^_^
ถ้าพอมีเวลาอยากฟังคนถูกผ่าเล่าบ้างนะว่าผ่านมาได้อย่างไร ทั้งที่คนใกล้ๆก็ไม่มีเวลาซะขนาดนั้น แสดงว่าคนถูกผ่าก็เก่งไม่ธรรมดาเหมือนกัน/พยาบาลPCU
ไปดูงานลพบุรีมา กลุ่มเกษตรกรที่นั่นเข้มแข็งมาก เขามีค่าเฝ้าไข้ให้สมาชิกด้วยแนะ แต่เราก็ไม่ได้เป็นสมาชิกแหละ
มาเป็นกำลังใจให้ครอบครัวท่านเกษตรอีกคนค่ะ สู้ๆๆๆค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ เกษตร(อยู่)จังหวัด
โอ้โห ภารกิจมากมาย ยุ่งตลอดเลยนะคะ อ่านแล้วขอเอาใจช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ ขอให้ผ่าตัดปลอดภัยสุขภาพแข็งแรงนะคะ
สวัสดีค่ะ
* โห ...ครูพรรณาไม่อยู่ โรงเรียน ๕ วัน คุณปรีดาส่งภรรยาผ่าตัด.....
* เป็นกำลังใจให้ค่ะ...ขอให้ผู้ป่วยและญาติทุกคนมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงนะคะ
* เรื่องร้อนอย่างนี้...แซวไม่ออกเลย....