GotoKnow

ข้อเสนอแนวทางสันติวิธีและการหาทางออกจากวิกฤตทางการเมือง (ต่อ)

นาย ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2549 19:51 น. ()
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2555 14:29 น. ()

            (2 มี.ค. 49) หลังจากร่วมแถลงข่าวกับอาจารย์โคทม อารียา และอาจารย์ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เมื่อวานนี้ภายใต้หัวข้อ “ข้อเสนอการใช้แนวทางสันติวิธีกับวิกฤตทางการเมือง” แล้ว ผมได้รับเชิญให้ไปออกรายการ “จับประเด็น” กับคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ (หลังจากคุณดนัยสัมภาษณ์คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ไปล่วงหน้า) โดยอัดเทปไว้ก่อนตอนประมาณ 21.00 น. เศษ เพื่อออกรายการจริงๆเวลา 23.30 น.
            มาเช้าวันนี้ก็ได้รับเชิญให้ไปออกรายการ “เกาะติดเลือกตั้ง 49” กับคุณกิตติ สิงหาปัด โดยให้ความเห็นเกี่ยวกับการใช้แนวทางสันติวิธีและการหาทางออกจากวิกฤตทางการเมืองที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่

            สำหรับการแถลงข่าวเมื่อวานนี้นั้น ได้มีรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับในวันนี้ ที่ลงละเอียดพอสมควรคือ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ซึ่งปรากฏดังนี้
ผวารุนแรงเสนอนายกฯหาทางลง
            นักวิชาการเสนอ’ทักษิณ’ หาทางถอย ลาออกคลายวิกฤติ ตั้งรองนายกฯ รักษาการแทน เว้นวรรคผู้นำไปนั่งฝ่ายนิติบัญญัติ พร้อมเสนอทุกฝ่ายประนีประนอม ให้คนกลางไกล่เกลี่ยเจรจา
           

นายโคทม อารียา

ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวร่วมกับ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ประธานกรรมการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) รศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ สถาบันพระปกเกล้า
            นายโคทม กล่าวว่า หลังจากที่ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองภายหลังการยุบสภา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนก็พ้นจากตำแหน่งแต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น สังคมไทยยังมีความแตกแยก โดยแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย ซึ่งทุกฝ่ายก็ต่างมีเหตุผลที่แตกต่างกัน ฝ่ายค้านก็ประกาศจะไม่ลงรับสมัครเลือกตั้ง ส่วนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็เรียกร้องให้นายกฯ ลาออก ส่วนรัฐบาลก็ยังยืนยันจะไม่ปฏิบัติตามคำเรียกร้อง ซึ่งต่างฝ่ายก็มีต่างมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน
            เครือข่ายสันติ วิธีมีข้อเสนอ 4 ข้อ เพื่อให้ทุกฝ่ายนำไปพิจารณา คือ 1.นายกฯ ควรขอลาออกจากตำแหน่ง และหากต้องการยุติบทบาททางการเมืองด้วยการวางมือก็ถือเป็นการเสียสละเพื่อแก้ไขสถานการณ์

            2.ระหว่างการเลือกตั้งต้องมีคนเข้ามารักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจเป็นรองนายกฯ ที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคขึ้นมาทำหน้าที่แทน เพื่อทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้เกิดความเป็นธรรมกับพรรคการเมืองทุกพรรค หากเป็นความประสงค์ร่วมของพรรคการเมืองที่ต้องการให้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้ และพรรคฝ่ายค้านทบทวนมติไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งใหม่
            3.ควรมีการปฏิรูปการเมือง โดยทุกองค์กรและภาคประชาชนควรเข้ามามีบทบาท และ 4.หากมีการชุมนุมต่อควรให้เป็นไปอย่างสันติวิธี ปราศจากอาวุธ
หลักการของข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นการลดความรุนแรงเพราะไม่ต้องการเห็นสังคมเกิดความแตกแยกจนนำไปสู่การนองเลือด อีกทั้งไม่ต้องการให้มีการดำเนินการนอกกรอบรัฐธรรมนูญ เพื่อรักษารัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเพื่อสร้างสันติสุขให้กลับมาในสังคมไทย
            “วันนี้ต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเปลี่ยนเป็นความรุนแรง ซึ่งเราต้องหาทางออกที่เป็นทางเลือกแบบ win win solution ที่ทั้งสามฝ่ายต้องร่วมกันคิดและหาจุดร่วมที่พอจะเป็นไปได้ เพราะคงไม่มีฝ่ายใดชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ ควรมีคนกลางเข้ามาทำหน้าที่ดำเนินการเจรจาอย่างที่ทุกฝ่ายต้องการ และควรทำให้เร็วที่สุดยิ่งเร็วยิ่งดี ซึ่งอาจเกิดขึ้นในรูปแบบสานเสวนา แต่ปัญหาขณะนี้เกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ ทางเลือกที่ดีควรยกหูโทรศัพท์คุยกันหรือตั้งโต๊ะเจรจากันอย่างเร็วที่สุด“ นายโคทม กล่าว
            ด้านนายไพบูลย์ กล่าวว่า บรรยากาศของความเกลียดชังมักจะนำสังคมไปสู่ความรุนแรง โดยเฉพาะสถานการณ์ที่มุ่งการเอาชนะเช่นนี้ ยิ่งจะทำให้เกิดการทำลาย ถึงขั้นเสียเลือดเสียเนื้อ หากเปรียบเทียบการทะเลาะกันในครอบครัวคงไม่มีใครอยากเห็นคนหนึ่งคนใดชนะ เพราะถ้ามุ่งชนะกันด้วยวิธีใดก็ตาม ฝ่ายชนะก็ต้องพังยับเยินเหมือนกัน หากเราสามารถทำให้ทุกฝ่ายชนะทั้งหมดได้ก็จะเป็นการดี แต่ต้องมีการเจรจากัน เพราะใจลึกๆ ก็เชื่อว่าทั้งสามฝ่ายก็ต้องการคุยกัน แต่ต้องมีคนกลางมาช่วยให้การเจรจาเกิดความเข้าใจกัน
            “การลาออกของนายกฯ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เหตุการณ์ผ่อนคลายความตึงเครียดได้ และเป็นสัญลักษณ์ของการถอยออกมาอีกหนึ่งก้าว อยากให้นายกฯ รับข้อเสนอนี้ไว้พิจารณาเพราะเป็นการถอยอย่างมีท่า มีศักดิ์ศรี สร้างคุณประโยชน์ต่อทุกฝ่าย อีกทั้งยังถือเป็นการเสียสละเพื่อแสดงความใจกว้างและเป็นการเปิดทางให้คนอื่นขึ้นมาทำหน้าที่แทน และหากนายกฯ ขอเว้นวรรคทางการเมืองไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้พรรคไทยรักไทยที่จะนำไปสู่การเป็นสถาบันการเมืองอย่างที่นายกฯ ต้องการ ส่วนนายกฯ เองอาจจะเลือกทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติแทน ในฐานะประธานสภาที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายบริหารอีก” นายไพบูลย์ เสนอ
            ด้าน รศ.ดร.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า แนวทางสันติวิธีจะเป็นแนวทางที่ทำให้ทุกฝ่ายสร้างความเข้าใจกันได้ ดังนั้น ต้องมองทุกฝ่ายที่เกิดความขัดแย้งเป็นเหมือนญาติมิตรกัน จึงควรหาทางอยู่ร่วมกันเพื่อลดความขัดแย้งที่จะเป็นสาเหตุแห่งความเกลียดชังที่เป็นบ่อเกิดแห่งความแตกแยกและความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าวิธีที่นำเสนอสามารถทำให้สังคมที่มีความสุขได้ และสังคมไทยมีคนที่มีความสามารถในการคิดค้นทางเลือกให้สังคมได้อยู่แล้ว ดังนั้นควรผลักดันให้แนวทางดังกล่าวได้รับการยอมรับเพื่อแก้ไขให้สังคมเกิดความสงบสุขต่อไป

นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม

2 มี.ค. 49

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized 

ความเห็น

นายบอน
เขียนเมื่อ

ติดตามข่าวจากอาจารย์เรื่อยๆครับ กระผมอยากให้แนวคิดของท่านเป็นจริงเช่นกันครับ ไม่ทราบว่า ท่านทักษิณจะเล่นเกมอะไรต่อไปก็ไม่ทราบเช่นกันครับ

จาก ความคิดที่ไม่น่าจะหล่นหาย


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย