เครื่องมือไฮเทคสมัยนี้
แทบจะบอกว่าเดินไปที่ไหนก็เจอคนมีอุปกรณ์ชนิดนี้
คงเดาไม่ยากว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็คือ “มือถือ” แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5
แล้วละคะ ที่เกือบทุกอาชีพมีสิทธิ์ซื้อหามาไว้ครอบครอง
ตั้งแต่คนเก็บถนน กระเป๋ารถเมล์ คนขับแท็กซี่
จนถึงนักธุรกิจระดับหมื่นล้าน
คงไม่แปลกใจที่มือถือขายดิบขายดีเพราะราคาถูกมากเมื่อเปรียบเทียบกับ
3-4 ปีก่อน หรือย้อนไปอีก 10 ปีที่แล้วที่มือถือมีรูปร่างใหญ่โต
เทอะทะ สมัยนั้นอาจเรียกว่ารุ่นกระบอกน้ำ
แต่ในปัจจุบันมือถือรุ่นใหม่มีรูปร่างโฉบเฉียว ไฉไล บางมาก
ทำให้คนในยุคสมัยนี้นิยมเป็นอย่างมาก
และในการจะเลือกซื้อมือถือนี้หลายท่านคงมีปัจจัยหลายข้อที่นำมาใช้พิจารณา
อันดับแรกก็คือรูปลักษณ์ภายนอก สีสันโดนใจ Function ต่างๆ
อาทิฟังวิทยุ ถ่ายรูปได้ อัดวีดีโอ เป็นต้น
แต่หลายท่านมักลืมเรื่องที่สำคัญไปนั่นคือการบริการหลังการขายและการประกันเครื่องเมื่อเกิดความเสียหาย
และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาดิฉันได้รับข่าวจากเพื่อนสนิทในเรื่องการบริการหลังการขายของร้านที่ขายโทรศัพท์มือถือ
ความจริงแล้วดิฉันก็เคยเจอเหตุการณ์นี้มากับตัว
แต่ของเพื่อนดิฉันอาจจะสาหัสกว่าเพราะต้องไปติดต่อร้านค้านั้นหลายครั้ง
เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนซื้อมือถือรุ่นใหม่ Sony
Ericsson W 550 เน้น function การใช้งานด้านเสียงที่ชัดเจน โดยเป็น
MP3 Phone ที่มีคุณภาพเสียงยอดเยี่ยมแล้ว การใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ
ก็ทำได้ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน ทั้งวิทยุ FM
หรือว่าความละเอียดของตัวกล้องขนาด 2 ล้านพิกเซล ในร้าน I-mobile
มาบุญครอง
เมื่อชำระเงินและตรวจสอบอุปกรณ์ภายนอกว่าให้ครบแล้วจึงเดินทางกลับไป
แต่หลังจากใช้ได้เพียงหนึ่งวันก็เกิดปัญหาว่าเครื่องรุ่นนี้ดับเองโดยอัตโนมัติ
เพื่อนของดิฉันก็เลยรีบกลับไปที่ร้ายเดิมเพื่อให้ทางร้าน I-mobile
แก้ไข เมื่อไปถึงและแจ้งข้อบกพร่องของเครื่องนี้
ช่างในร้านก็บอกว่าต้องไปที่ศูนย์ใหญ่ของมือถือรุ่นนี้
เพราะร้านเป็นแค่ตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น
เพื่อนของดิฉันเลยต้องไปที่ศูนย์ใหญ่ฯ ที่อยู่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่
เพื่อแก้ไขมือถือให้ใช้งานได้
และเพื่อนได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับมือถือ
ซึ่งช่างของศูนย์ได้แจ้งว่า มือถือรุ่นนี้ได้โหลดโปรแกรมรุ่นเก่า
ไม่ได้ upgrade
ใหม่ทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่และช่างก็ได้แก้ไขให้เรียบร้อยแล้ว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ดิฉันรู้สึกฉงนกับเรื่องนี้ในความไม่รับผิดชอบของผู้แทนจำหน่าย
เราเป็นผู้บริโภคแต่ต้องมารับผิดชอบในเรื่องนี้เอง ทั้งๆ
ที่น่าจะมีมาตรการในเรื่องนี้อย่างชัดเจนและจริงจัง
เพราะทำให้ผู้บริโภคเสียเวลา
และความรู้สึกกับการได้รับบริการที่ไม่มีคุณภาพเช่นนี้
โดยผู้แทนจำหน่ายควรจะลดของเสียหรือทำการแก้ไขสินค้าให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ทันที
นั่นก็คือไม่มีกลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าไว้เลย ซึ่งในหลักของ CRM
(Customer Relationship Management) มีข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือ
การลดของเสีย/สินค้าซ่อมแซมให้ลูกค้า
ด้วยการตรวจสอบคุณภาพสินค้า ก่อนส่งมีการรับประกันคุณภาพ
หากสินค้าเกิดความเสียหายก็มีระบบการตรวจสอบและชดใช้ที่รวดเร็ว
ซึ่งเป็น “การเพิ่มคุณค่า” หรือ “ประโยชน์” ให้ลูกค้า เท่ากับว่าร้าน
I-mobile
มาบุญครองนี้ไม่มีกลยุทธ์สร้างความพอใจให้ลูกค้าปัจจุบันเพื่อใช้เป็นลูกค้าอ้างอิงในการหาลูกค้าใหม่เลย
และเมื่อสอบถามเพื่อนอีกคนที่อยู่ใน USA
ซึ่งให้รายละเอียดว่ามีระบบการจัดการปัญหาเรื่องนี้คือ
การซื้อประกันที่แหล่งขาย โดยประกันเครื่องต้องจ่ายเพิ่มเดือนละประมาณ
4$ แต่ถ้าไม่ได้ซื้อประกันไว้ก็เปลี่ยนไม่ได้
ซึ่งก็เป็นวิธีการหนึ่งที่น่าสนใจแต่มาตรฐานการให้บริการของแต่ละร้านค้าในเมืองไทยจะมีตัวชี้วัดได้อย่างไร
ว่าจะไม่ถูกโกงหรือใช้เล่ห์กลในการหลอกลวงผู้บริโภค
แล้วคุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้