เหตุจากข่าว "ศธ.เล็งเพิ่มเงินวิทยฐานะให้ครูสาขาขาดแคลน"


การศึกษา คือ การล้มตัวโดมิโน ... ถ้ามันล้ม มันก็จะล้มพร้อมกันทุกระดับ ถ้านโยบายของผู้บริหารประเทศ มีความฉลาดกันขนาดนี้ แถมให้ระบบ "เงินล่อ" โดยไม่คิดถึงผลกระทบอื่น ๆ ในทุกมิติ

พลิกอ่านข่าวการศึกษา "ศธ.เล็งเพิ่มเงินวิทยฐานะให้ครูสาขาขาดแคลน" จากเว็บไซต์ http://www.bangkokbiznews.com/2008/03/19/WW17_1701_news.php?newsid=240473

 

ข่าว..เขาเล่าว่า ...

" ... นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการ พ.ร.บ.สภาครูฯ ก้าวย่างปีที่ 5 : คุรุสภาพบผู้ประกอบวิชาชีพที่หอประชุมคุรุสภา กทม.ว่า มีแนวคิดต้องการให้มีการปรับเพิ่มเงินค่าวิทยฐานะและเงินค่าตอบแทน ให้แก่ครูสาขาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษซึ่งเป็นสาขาที่ขาดแคลนครูอย่างมาก จึงต้องการเพิ่มค่าตอบแทนให้ครูวิชาเหล่านี้เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนเก่งมากเรียนครู ..."

"... นายบุญลือ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราไม่สามารถจูงใจให้คนเก่งมาเรียนครูได้ เพราะค่าตอบแทนของวิชาชีพนี้ไม่สูงเท่าวิชาชีพอื่น ๆ เช่น แพทย์ ผู้พิพากษา หรืออัยการ ทั้งที่วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงเช่นกัน ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อเด็กโดยตรง เด็กไม่มีโอกาสได้เรียนกับครูเก่งโดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาสำคัญ จึงต้องมาวิเคราะห์หาสาเหตุว่า ทำไมเด็กเก่งจึงไม่อยากมาเรียนครู และเชื่อว่าเป็นเพราะค่าตอบแทนของวิชาชีพนี้ต่ำเกินไป ..."

"... การแก้ปัญหาคุณภาพครูนั้น ถ้าให้ถูกทางต้องแก้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ดึงเด็กเก่งให้มาเรียนครู และจากการที่ผมได้ไปตรวจเยี่ยม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มา ทราบข้อมูลว่า สสวท.เรามีเด็กเก่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยู่ แต่เด็กเหล่านี้ไม่ยอมมาเรียนครู ควรมีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนให้ครูสาขาขาดแคลนโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพื่อดึงเด็กเก่งมาเป็นครู ส่วนผู้ที่เป็นครูอยู่แล้วก็ต้องดึงมาเข้ารับการอบรมจากสสวท. ซึ่งมีหลักสูตรอบรมครูอยู่เพื่อให้ครูพัฒนาการจัดการสอนของตัวเอง  นายบุญลือ กล่าว ..."

 

ผมสรุปข่าวให้ฟังนะครับ ... รมต.ศธ.จะใช้วิธีการดึงคนเก่งมาเป็นครู ด้วยวิธีเพิ่มค่าวิทยฐานะและเงินตอบแทน สำหรับสาขาขาดแคลน ได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษ

 

อ่านแล้วเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย หรือ อื่น ๆ ? ..

ครูในประเทศไทยขาดแคลนหลายหมื่นตำแหน่ง  ... ตำแหน่งไม่เคยอนุมัติ ...

สาขาอื่น ๆ ไม่มีความสำคัญหรือยังไง ... เขาไม่น้อยใจกันแย่หรือไง ก็ครูเหมือนกัน ...

 

เป็นวิธีการแก้ปัญหาการขาดแคลนครู โดยใช้ "เงิน" มาวางกองไว้ตรงหน้า แล้วบอกคนที่อยากเป็นครูว่า "พวกเรามาเป็นครูกันเถอะครับ เป็นครูแล้วจะมีเงินมีทองเท่าสาขาวิชาชีพอื่นไงล่ะ มาเลย"

 

มันถูกต้องไหมนี่ วิธีคิดแบบนี้

 

ผมคิดว่า มันอยู่ที่สภาพแวดล้อมของครูทั้งหมด สภาพสังคม การยอมรับต่าง ๆ ที่จะทำให้คนในประเทศทุกคนหันหน้ามาเห็นความสำคัญของครู และการศึกษาของเรา

เมื่อทุกคนเห็นด้วย ทุก ๆ คนก็ช่วยกันคนละไม้ละมือ ... ทุกคนเห็นว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทำให้ลูกหลานของตัวเองมีความรู้ อ่านออกเขียนได้ เป็นอนาคตของเขาเอง ก็จะมีการสนับสนุนทุก ๆ ด้านมากขึ้น

 

แต่ปัจจุบัน ไม่ใช่ อย่างนั้นใช่ไหมครับ ... ครูไม่ได้ทำหน้าที่แค่ในโรงเรียน แต่ต้องทำเพื่อชุมชนท้องถิ่นของตัวเองด้วย ทำให้เวลาที่ตั้งใจสอนให้กับเด็กแทบจะไม่มี  ...

รัฐบาลหลัง ๆ ก็ยังมองเรื่องระบบของการใช้เงินวิทยฐานะและค่าตอบแทนเป็นเหยื่อล่อ ให้ครูต้องทำผลงานวิชาการเพื่อจะยกฐานะของตัวเองให้สูงขึ้นด้วย "เงิน" แต่สภาพความเป็นจริง ผลงานวิชาการมีการคัดลอก มั่วมาส่ง ผ่านกระบวนการมั่ว ๆ มา แต่ภาพลักษณ์บอกว่ามีหลักการ ก็ต้องเยอะแยะ

บวกงานที่ยกฐานะตัวเองเข้าไปอีก ... ก็ห้ามไปนึกฝันเลยว่า การสอนเด็กจะเป็นเป้าหมายของครูพวกนี้ เขาต้องเลือกเป้าหมายที่ทำให้ตัวเองมีเงินเยอะ ๆ ไว้ก่อน

 

กระทรวงฯ คิดแบบนี้หรือเปล่า ...

  • การพัฒนาผลงานวิชาการของครูจะทำให้นักเรียนเก่งขึ้น (แล้วครูจะนำผลงานไปใช้สักกี่เปอร์เซ็นต์ มีระบบตรวจสอบไหมล่ะครับ)
  • เมื่อครูพัฒนาผลงานวิชาการ กระทรวงฯ ก็ให้รางวัลครูในรูปของเงินวิทยฐานะ และค่าตอบแทน (ทำแล้ว ได้เงิน ... ครูที่เห็นแก่เงินไว้ก่อนจะมีชีวิตเพื่อทำผลงานวิชาการอย่างเดียว เพราะยิ่งทำยิ่งได้เงิน สารพัดวิธีโกงที่ให้ได้มาซึ่งผลงานก็จะออกมาล่ะที่นี้ จ้าง ลอก โกง ... แล้วนักเรียนก็เป็นหมาไปก่อนแล้วกัน เงินก็ไม่ได้กะเค้า ความรู้ยิ่งจะไม่ได้หรอก ครูไม่มีเวลาให้)
  • เมื่อคนมีเงินเยอะ ๆ สิ่งที่ทำต่อมาก็ ซื้อของที่ตัวเองอยากได้ ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แล้วนักเรียนหายไปไหน

การใช้ "เงิน" แต่เพียงอย่างเดียว คือ การทำร้ายครูและวงการการศึกษาชัด ๆ จากสมัยก่อนการเป็นครู คือ เป็นด้วยหัวใจ แต่สมัยนี้ เมื่อมีนักการเมืองเอาเงินมาเติมที่ตำแหน่ง ... การเป็นครู ก็คือ การหาเงินกินข้าวอย่างเดียวนั่นแหละ ศรัทธา ความนับถือ ในความเป็นครู จะเหลืออยู่ในสังคมไทยหรือ ครับ

 

ดังนั้น ถ้าต้องการจะใช้ระบบ "เงินล่อ" แบบนี้ ก็ต้องมีระบบตรวจสอบการให้ผลงานวิชาการของครูอย่างตรงไปตรงมา เข้มแข็ง และยุติธรรม ด้วย ...

ไม่งั้น ระบบอุปถัมภ์ เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ... โน้นรุ่นพี่ นี่รุ่นน้อง นั้นลูกของเพื่อน นะภรรยาเพื่อน สนุกสนานบานใจ ... เด็กไทยโง่ยังไงก็เรื่องของเด็กไทย ... ครูไม่เกี่ยว เพราะครูกำลังทำผลงานหาเงินค่าวิทยฐานะอยู่ ... ไม่งั้นลูกครูจะกินอะไร ... เจริญกันล่ะที่นี้

 

เคยได้ยินไหมครับ ... ถ้าต้องการให้ผลงานผ่านฉลุย ต้องให้อาจารย์มหาวิทยาลัยท้องถิ่นเป็นคนตรวจ เพราะถ้าให้อาจารย์มหาวิทยาลัยปิดของรัฐไปตรวจ ไม่ผ่านสักที ... ประเด็นนี้ เพื่อนผมที่เป็นครู .. เล่าให้ฟัง ได้ฟังแล้วก็ตกใจ ว่า คุณภาพอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ยังคงต่ำตามไปอีกหรือนี้ ระบบคุณธรรม จริยธรรม ความตรงไปตรงมาก็ไม่มี อย่าไปเอาอะไรเลยกับระบบการศึกษาสำหรับเด็กเล็ก ๆ อีกเลย ครูมหาวิทยาลัยยังเป็นเองเลย กรรมของประเทศ

 

การศึกษา คือ การล้มตัวโดมิโน ... ถ้ามันล้ม มันก็จะล้มพร้อมกันทุกระดับ ถ้านโยบายของผู้บริหารประเทศ มีความฉลาดกันขนาดนี้ แถมให้ระบบ "เงินล่อ" โดยไม่คิดถึงผลกระทบอื่น ๆ ในทุกมิติ

 

บันทึกนี้ ผมคิด ... ใจแคบ หรือ ใจกว้าง ไม่รู้แหละ ... ฟัง หรือ ไม่ฟัง ก็ไม่ทราบอีก ... แค่มุมมองของคนการศึกษาตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นคนกำหนดชีวิตใคร นอกจากลูกศิษย์

 

ขอบคุณครับที่ทนอ่าน :)  

หมายเลขบันทึก: 171887เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2008 15:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 20:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • มาอ่าน แบบตั้งใจ  และก็ไม่ได้ทนอ่านด้วยค่ะ
  • เห็นด้วย แต่เขียนอะไรมากไม่ได้
  • แต่เพียงแต่จะบอกว่า บางที การเอาเงินมาล่อ และให้ครูทำผลงาน (อ้างอิงด้วยเอกสารมากมาย ) ครูผ่านได้รับเงิน โดยเวลาที่ให้กับการสอนนักเรียนแทบไม่มี  เพราะมัวแต่ทำเอกสาร
  •  ตัวเองก็กำลังอยู่ในวังวนนั้น   โดยพยายามไม่ให้กระทบต่อการเรียนการสอน  เขาบอกว่าจะดูแบบเชิงประจักษ์  แต่จริงๆส่วนมาก มันก็เชิงเอกสาร(ที่มากมาย)เหมือนเดิมค่ะ

 

     *ค่านิยม ของการมาเป็นครู  มีน้อยมากในปัจจุบัน

     * ใครๆก็มองว่าอาชีพนี้จน

     * บางคนยังถามอีก คิดยังไงถึงมาเป็นครู

  • เย็นไว้ๆๆครับอาจารย์
  • ผมคิดว่าเป็นแนวคิดที่พลาดมาตั้งแต่ต้น
  • ตอนนี้อัตราครูขาดแคลนมากๆๆ
  • แต่สมัยก่อนครูเกษียณหรือ early ถูกตัดอัตรา
  • ผมว่า จำนวนนักเรียนเพิ่ม แต่จำนวนครูลดลง
  • ไม่รู้ว่าใช้อะไรคิด  แค่การให้ครูทำผลงานเพื่อเพิ่มเงินวิทยฐานะ ก็แย่แล้ว
  • ครูมีงานมาก ถ้าทำผลงานก็ทิ้งเด็ก(ที่ไม่ทิ้งก็มี) มีการลอกผลงาน การจ้างทำผลงาน ตัวเลข 6 หลัก(ผมยังได้รับเมล์ให้ทำให้เลย ส่งกลับไปด่าแล้ว)
  • ทำไม่ไม่มาประเมินในชั้นเรียนเลย ให้รู้แล้วรู้รอดไป
  • ไปอ่านบันทึกพี่นารี หนาวกว่านี้ มีการแจกทองด้วย
  • โห อะไรจะขนาดนั้น
  • กำลัง งง ว่า เพิ่มให้สาขาที่ขาดแคลนแล้วสาขาอื่นละ
  • ทำไมไม่พัฒนาให้กำลังใจครูที่มีอยู่แล้วบ้าง ทำให้เขาพออยู่ได้ มีความสุขกับการทำงาน
  • เซ็งเลย....

สวัสดีครับ คุณครู ณัฐยา  :)

  • บันทึกนี้กระทบต่อความเป็นไปของการศึกษาไทย และวงการครูอย่างยิ่ง ครับ ...
  • การอยู่ในสภาพของคุณครูอาจจะไม่สามารถบอกกล่าวความในใจออกมาได้มาก เพราะติดที่ คนบังคับบัญชา เราอีกที และอีกหลายชั้น
  • ผมมองความเป็นไปแบบนี้มานาน แต่ยังไม่กล้าที่จะเขียนอะไรมาก เนื่องจากเราไม่ได้อยู่ในวงการนี้โดยตรง
  • แต่หารู้ไม่ .. เป็นสอนครู สอนอาจารย์ในวงการนี้มามากมาย เห็นผลวิจัย ผลกระทบจากการใช้เงินล่อแบบนี้ไม่น้อย
  • ไม่เขียนบ้าง ... มันอาจจะช้าเกินไปก็ได้
  • เรียกว่า "เอกสารเชิงประจักษ์" ได้ไหมครับ ครู :)
  • คำถามที่ว่า * บางคนยังถามอีก คิดยังไงถึงมาเป็นครู
  • กระแทกใจคนที่รักอาชีพครูดีแท้ ครับ

ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญที่คุณครูได้แสดงความคิดเห็นในวันนี้ครับ

ขอให้มีแต่เรื่องดี ๆ นะครับ ... อนาคตคงได้แก้ไขสิ่งที่ไม่ดีออกไป

สวัสดีครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง

วันนี้อาจารย์มายาวนะครับ ผิด STYLE .. อิ อิ

"... ไม่รู้ว่าใช้อะไรคิด  แค่การให้ครูทำผลงานเพื่อเพิ่มเงินวิทยฐานะ ก็แย่แล้ว  ..."

ผมว่า ... เขาต้องใช้อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งนี่แหละครับ อาจารย์ แต่จะอยู่สูงหรือต่ำ อีกเรื่องหนึ่งครับ

อาจารย์กล่าวได้ตรงแล้วครับ ... ระบบทุนนิยมมีข้อดี แต่คนใช้มันไม่ดี .... ค่านิยมที่เป็นวัตถุนิยม ก็ยิ่งเลวใหญ่ ... ลอก จ้าง .. เพื่อตัวเองทั้งนั้น

นี่ถ้ารัฐ ... ออกกฏหมายว่า ลอก จ้าง เป็นการทุจริต คอรัปชั่นอย่างร้ายแรงล่ะ  ... กุญแจมือ ขายไม่ทันกันพอดี  (ดูเหมือนจะออกแล้ว แต่ไม่ค่อยมีใครจะใช้กัน ปล่อยให้มันทำกันไปเรื่อย ๆ)

"... (ผมยังได้รับเมล์ให้ทำให้เลย ส่งกลับไปด่าแล้ว) ..."

อันนี้ ฮา อ่ะอาจารย์ ...

ผมคิดเหมือนอาจารย์ก็คือ ความสุขในการทำงานต้องอยู่เหนือเงินและวัตถุนิยม ครับ ... สังคมมีคนเห็นแก่เงิน แก่ตัว เพิ่มขึ้น เพราะรัฐใช้ระบบ "เงินล่อ" นี่แหละ

ขอบคุณอาจารย์มากครับที่อุตส่าห์เขียนยาว ๆ ทั้ง ๆ ที่ปกติจะสั้น :(

สวัสดีครับ อาจารย์

  • มี ศธ. จะเพิ่มเงินเดือนครูข้างถนนหรือเปล่าครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ อาจารย์ที่เคารพ

  • เข้าใจอย่างลึกซึ้งครับว่า คนเป็นครู นั้นแสนลำบากยิ่ง 
  • เปรียบได้ เฉียบคม มากครับ การศึกษา คือ การล้มตัวแบบโดมิโน ...(ในบ้านเมืองเราจริง ๆ ครับ)
  • แล้วปัญหาครูขาดแคลน ครูน้อย ครูดอย ครูหลังเขา ครูบนเขา ครูหลังดอย ครูพนักงานราชการ  แล้วไหนจะครูอัตราจ้างอีกจำนวนไม่น้อยที่สอนอยู่ทั่วไปและ โดยเฉพาะในจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ข้าพเจ้าอยู่.....ไม่รู้เค้าหรือใครเบื้องบนพอเข้าใจหรือเปล่า?
  • เห็นด้วยกับท่านอาจารย์ขจิตที่ว่า ทำไมไม่พัฒนาให้กำลังใจครูที่มีอยู่แล้วบ้าง ทำให้เขาพออยู่ได้ มีความสุขกับการทำงาน      โดยเฉพาะครูอัตราจ้างที่กำลังจะถูกโละทิ้ง...จากสาเหตุที่ทางโรงเรียนไม่มีงบประมาณพอหรือไม่มีเลยที่จะจ้างต่อ (เอาใกล้ตัวกรณีโรงเรียนผมนี่แหละ! )
  • เพื่อนครูบางคนต้องไปสอนไกล เดินทางก็ลำบาก ขึ้นเขาลงดอย หนทางคดเคี้ยว...ค่าตอบแทนบางโรงเรียนครูอัตราจ้างได้เดือนละ 3000-4000 ต่อเดือน..อย่าตกใจนะครับ มีจริง ๆ.....ครับ
  • แต่ถ้ามองกลับกันบางครั้ง หรือในความเป็นมนุษย์ก็ต้องยอมเข้าใจ ระบบของความเป็นทุนนิยมเพราะโลกเราเปลี่ยนแปลงทุกวินาทีโดยที่ต้องมีทุน มาเลี้ยงปากท้อง
  • ครูบางคนไม่ยอมขายอุดมการณ์และยังมีหัวใจในความเป็นครูผู้เสียสละ  ผมขอยกย่องและเชิดชูเกียรติครับ
  • มีการจัดการงบประมาณ 2000 กว่าล้านของงบประมาณปีการศึกษาของรัฐบาลที่คิดว่าน่าจะพอดีและพอเพียง.......แต่ขอเหอะ..เพิ่มทั่วถึง เข้าไปด้วยได้ไหมครับ ??
  • ถามว่า  คิดยังไงถึงมาเป็นครู? ผมก็คงต้องตอบว่าผมทำเพื่อเด็ก ๆ ครับ...เด็กบนดอย...แค่ให้เขาอ่านออก เขียนได้และประพฤติดี ประพฤติชอบ แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ 
  • ขอบคุณมากครับที่มีเนื้อที่ให้มาร่วมบ่น....

สวัสดีครับ คุณ ครูข้างถนน :)

  • ครูครับ ... ถ้าฝนงบประมาณมันตกทั่วฟ้าเมืองไทย ... ครูไม่ต้องทำงานที่องค์กรพัฒนาเอกชนหรอกครับ ศธ. คงรับผิดชอบหมดไปแล้วครับ :)
  • ฝนงบประมาณมันชอบไปตกอยู่แถว ๆ จังหวัดที่อดีตนายกฯ หรือ นายกฯ เกิด
  • ไปไม่ถึงครูแน่ ๆ ผมว่า

ขอบคุณครับ ครู :)

สวัสดีครับ คุณครูเอกรัฐ :)

  • ขอบคุณครูที่แวะมาร่วมวิวาทะกับผม และกัลยาณมิตรที่ได้แวะเข้ามาในบันทึกนี้
  • เป็นเรื่องตลกไหมที่เอาคนที่เรียกว่า โควต้า .. พรรคการเมือง เลือกมาดูแลกระทรวงการศึกษาของชาติ ทั้ง ๆ ที่ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มีสักกะผีก น่าขำจริง
  • เห็นการศึกษาของชาติเป็นเรื่องที่ต้องเกิดจากในเมือง แล้วกระจายสู่เทือกเขาภูดอยหรือยังไง
  • กรุงเทพฯ ไม่ใช่ ประเทศไทย แน่ ๆ ล่ะผมว่า
  • ยังมีครูไทยด้อยโอกาส อยู่ในประเทศด้อยพัฒนาอย่างเราอีกมากมาย
  • เงินวิทยฐานะ สำหรับการต่อยอดเงินให้กับครูในเมือง หรือครูที่มีโอกาสอยู่ใกล้คนมีอำนาจเท่านั้นแหละ เงินมี ก็จ้าง จ้างแล้วได้เงิน วนอยู่แบบนี้ ...
  • มันไม่ถึงหรอกครับ คุณครูเอกรัฐ
  • เรากำลังถูกฆ่าด้วยอำนาจเงินอยู่ไงครับ ...
  • เงิน ซื้อความสุขไม่ได้ แต่ซื้อคนได้

ขอบคุณมากครับที่แอบเล่าให้ฟัง ครับ :)

ทุกคน พัฒนาได้ถ้าให้โอกาส แล้วรัฐเคยให้โอกาสคนจน บ้างไหม ในการศึกษาบนรากหญ้าที่เขาว่ากัน วันนี้รัฐดูแลหรือยัง โรงเรียนชนบท มุงหญ้าคา นั่งพื้นเรียน แถมเรียนรวม ครูผู้เสียสละ 1 คน ไม่ส่งเสริมครูที่มีอยู่แล้วจะมีครูที่เข้ามาใหม่ได้อย่างไร

ถามจริงเถิดกระทรวงศึกษาธิการอยู่ที่ไหน พรรคการเมืองไหน ก็งั้น ๆ

สวัสดีครับ คุณครูธีรภัทร :)

  • สบายดีเนาะ ... ใจเย็น ๆ ครับ
  • อารมณ์ขึ้นกันเลย ...
  • ศธ. กระทรวงเกรด A ที่เอาใครก็ได้มาบริหารไง ..
  • เอาแค่ผู้บริหารในโรงเรียน ยังวิ่งกันหัวขวิด เพื่อตัวเอง ... มีเหลือที่มีอุดมการณ์อยู่ไม่กี่คน แล้วไปเอาอะไรกับ ศธ. ใหญ่ ๆ ยืนบนหอคอยกันล่ะ

ขอบคุณครับ :)

สวัสดีครับ

มันน่าคิดจริง ๆ ครับ

ขอบคุณอาจารย์ ณรงค์ เพ็ชรเส้ง  ครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท