เลขาฯ ก.พ.ร.คาดแจกโบนัสข้าราชการเริ่ม 23 เม.ย. เผยปีนี้พิเศษ เบิกจ่ายครั้งเดียว ตัดส่วนผู้บริหาร 50% สมทบ ขรก.ระดับปฏิบัติการ ยอดรวม 6,190 ล้านบาท แจงแต่ละกรม แต่ละคนได้ไม่เท่ากัน มากน้อยอยู่ที่ผลประเมิน-ฐานเงินเดือน ปี 2549 รับสูงสุดกว่า 5 หมื่น/คน ต่ำสุดแค่พันบาท/คน 7 สภาลูกจ้างเอาบ้างจี้ขึ้นค่าแรงวันละ 9 บาท ทั่วประเทศ
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 มีนาคม เกี่ยวกับการจัดสรรเงินรางวัลประจำปี (โบนัส)ให้แก่ส่วนราชการในเดือนเมษายน ว่า ขณะนี้ ก.พ.ร.กำลังประเมินผลงานตามตัวชี้วัดที่ส่วนราชการรวม 291 แห่ง ประกอบด้วยส่วนราชการระดับกรม 143 กรม สถาบันอุดมศึกษา 73 แห่ง และจังหวัด 75 จังหวัด ได้จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2550 เอาไว้ โดยจะรวบรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ก่อนนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 8 เมษายนนี้ เพื่อให้ส่วนราชการจัดสรรโบนัสให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำในสังกัดต่อไป ทั้งนี้ ก.พ.ร. ได้ส่งหนังสือเวียนถึงทุกส่วนราชการ ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์ในการจัดสรรโบนัสของข้าราชการและลูกจ้าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และสามารถอธิบายได้ และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนเป็นต้นไป
นายทศพรกล่าวว่า สำหรับความพิเศษของการจ่ายโบนัสให้แก่ข้าราชการในปีนี้มี 2 เรื่องคือ 1.การปรับหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายโบนัสเป็นก้อนเดียว จากเดิมที่แบ่งออกเป็น 2 งวด เพื่อให้ข้าราชการมีเงินก้อนเตรียมพร้อมในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน และ 2.การตัดโบนัสของผู้บริหารส่วนราชการ (เดิมตั้งไว้ 1,280 ล้านบาท) ร้อยละ 50 ไปสมทบให้ข้าราชการในระดับปฏิบัติการ ดังนั้นวงเงินรวมที่จะมีการเบิกจ่ายเป็นโบนัสข้าราชการจะเป็นเม็ดเงินถึง 6,190 ล้านบาท
"โบนัสที่แต่ละกรมได้รับจะไม่เท่ากัน ซึ่งการจัดสรรโบนัสให้แต่ละกรมจะคำนึงถึงคะแนนผลการประเมิน ฐานเงินเดือนของข้าราชการ และจำนวนข้าราชการในกรมนั้นๆ นอกจากนี้เม็ดเงินที่ข้าราชการแต่ละคนจะได้รับก็ไม่เท่ากันด้วย โดยตัวชี้วัดสำคัญคือ ผลการปฏิบัติงานตามหน้าที่ และผลการปฏิบัติงานที่ได้รับหมอบมาย คนที่ขยัน ทำงานเข้าเป้า จะมีสิทธิได้รับโบนัสมากกว่า ซึ่งในปีที่ผ่านมาเคยมีข้าราชการได้รับโบนัสสูงสุดกว่า 50,000 บาท/คน และต่ำสุดประมาณ 1,000 บาท/คน" เลขาธิการ ก.พ.ร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในปี 2549 ข้าราชการจากหลายส่วนราชการได้รับการจัดสรรโบนัสในจำนวนที่สูง อาทิ จ.อุดรธานี มีข้าราชการได้โบนัสสูงสุดกว่า 50,000 บาท จ.แพร่ มีข้าราชการได้โบนัสกว่า 42,000 บาท จ.สกลนคร มีผู้ได้รับโบนัส 37,000 บาท จ.บุรีรัมย์ มีผู้ได้รับโบนัส 33,000 บาท จ.สตูล มีผู้ได้รับโบนัส 27,000 บาท อย่างไรก็ตามมีส่วนราชการ 2 กรมไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของ ก.พ.ร. ทำให้ข้าราชการในสังกัดทั้งหมดไม่ได้รับการจัดสรรโบนัส
ด้านนายมนัส โกศล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานสภาลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย พร้อมประธานสภาองค์กรลูกจ้าง 6 แห่ง เข้าพบนางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่กระทรวงแรงงาน ยื่นข้อเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นอีกวันละ 9 บาทเท่ากันทุกจังหวัด โดยให้เหตุผลว่า ปัจจุบันราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับสูงขึ้น จึงทำให้ลูกจ้างที่มีรายได้น้อยไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ส่วนใหญ่ต้องอาศัยรายได้เสริมจากการทำงานล่วงเวลา ที่สำคัญขณะนี้รัฐบาลประกาศขึ้นโบนัสให้กับข้าราชการทั่วประเทศตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ดังนั้น หากไม่มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้กับผู้ใช้แรงงานเท่ากับเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน ทั้งนี้ในวันที่ 18 มีนาคม จะขอฟังคำตอบจากนางอุไรวรรณอีกครั้ง และในวันที่ 19 มีนาคม จะเดินทางไปยื่นหนังสือปรับขึ้นค่าจ้างกับนายกรัฐมนตรีต่อไป
นางอุไรวรรณกล่าวว่า จะส่งหนังสือข้อเรียกร้องของสภาองค์กรลูกจ้างทั้ง 7 แห่ง ไปให้นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ค่าจ้างกลาง เพื่อเร่งรัดให้มีการประชุมบอร์ดค่าจ้างกลางโดยเร็ว ส่วนรายละเอียดการปรับขึ้นจะเป็นเท่าไรนั้น เป็นหน้าที่ของบอร์ดค่าจ้างพิจารณา ฝ่ายการเมืองจะไม่แทรกแซง
มติชน 13 มี.ค. 51
ลาศึกษาต่อ เงือนเดือนไม่ขึ้น อดได้โบนัสอีกตามเคย
จะได้รับวันใหนน่ะ !!!
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
ไม่รู้จะได้รับเมื่อไหร่ ข้าราชการทหาร
ชาตินี้หรือเปล่าครับ
ที่กรมบัญชีกลาง ได้รับแล้วนะครับ ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2551 ใครได้รับและไม่ได้ครับ ส่งข่าวถึงกันด้วย