ไม่มาคุยเรื่องปัญหาแต่ครั้งหน้าเรามาแลกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน
วันนี้เป็นวันดี ที่ผู้บริหารในหน่วยงานให้บริการในมหาวิทยาลัยได้ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและซักซ้อมการทำงาน ภายใต้ปรัชญาการรวมบริการประสานภารกิจ หารือแนวทางการจัดเวทีพูดคุยเรื่องหลักการทำงานภายใต้หลักการรวมบริการ ประสานภารกิจ ว่าทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ท่าน ดร.กีร์รัตน์ สงวนไทร
รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒน
ประธานในที่ประชุมครั้งนี้
หลักการทำงาน “รวมบริการ ประสานภารกิจ”
เป็นระบบการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรและความชำนาญร่วมกัน จัดให้มีระบบบริการแบบรวมศูนย์ ใช้อาคารสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกัน ทำให้ระบบบริการและการจัดการมีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบการบริหารจัดการดังกล่าวทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า คุ้มค่า และมีการประสานภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุพันธกิจหลักขององค์กร
บรรยากาศการพูดคุยแลกเปลี่ยน
ของหัวหน้า หน่วยงานสนับสนุนของมหาวิทยาลัย
จากการพูดคุยแลกเปลี่ยนทำให้เราพบข้อควรพิจารณาภายใต้หลักการทำงาน “รวมบริการ ประสานภารกิจ” ซึ่งไม่รู้ว่าผิดหรือถูกนะคะ ว่า
-
การให้บริการภายใต้หลักการรวมบริการต้องเป็นการให้บริการซึ่งกันและกัน ทั้งสองฝ่ายเป็นทั้งผู้ให้และเป็นทั้งผู้รับ โดยเฉพาะการให้บริการในความชำนาญเฉพาะเรื่อง ที่จะต้องมองที่เนื้อหาสาระ (Content) จำเป็นต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเชิงวิชาการจากหน่วยรับบริการ
-
บุคลากรทุกคนในองค์กรต้องปฏิบัติตามหลักการทำงานนี้อย่างจริงจัง
-
ทรัพยากรไม่มีใครหรือหน่วยงานใดเป็นเจ้าของหลัก แต่จัดให้มีหน่วยงานกลางที่จะคอยแบ่งปันทรัพยากรเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการใช้งานและเกิดการควบคุมมาตรฐานง่าย
-
หลักการทำงานนี้ต้องทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับคนปฏิบัติงานหน้างานที่ต้องเอื้อต่อกัน ในการปฏิบัติงานภายใต้หลักการรวมบริการประสานภารกิจ รู้รักองค์กร และสิ่งสำคัญในการประสานภารกิจให้สำเร็จคือ การใช้ถ้อยคำที่มีมิตรจิตมิตรใจ ใช้ภาษาให้เขายอม เน้นการให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
และทำให้เราเห็นแนวทางการทำงานภายใต้หลักการทำงาน “รวมบริการ ประสานภารกิจ” ดังนี้
-
ควรให้มีคณะทำงานหรือ Key Person ในแต่ละเรื่องและในแต่ละหน่วยงาน เพื่อจัดให้มีการจัดการประชุมแลกเปลี่ยนและประสานการทำงานในงานนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง
-
ฝ่ายปฏิบัติการทำงานลักษณะเป็น Function และพบว่าในแต่ละงานงานจะมีกระบวนการทำงานและในกระบวนการทำงานก็จะมีกระบวนการทำงานที่เชื่อมต่อร่วมกัน
-
การให้อำนาจการตัดสินใจกับหน่วยงานให้บริการปลายสุด
พบปัญหาอุปสรรคจากการทำงานดังนี้
-
ลักษณะการทำงานยังเป็นการทำงานตามความถนัด ทำงานของใครของมัน ยังไม่มีการทำงานต่อเนื่อง ประสานกัน
-
พบว่าการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างจะไม่เป็นไปตามหลักหลักการทำงาน “รวมบริการ ประสานภารกิจ” พบว่ามีการใช้ทรัพยากร งบประมาณเฉพาะส่วน ทำให้เกิดการใช้แบบแบ่งส่วนเกิดการใช้งานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ
-
การใช้ภาษาที่เกิดความเข้าใจผิด ไม่คำนึงถึงจิตใจของคนอื่นทำให้มีผลต่อการประสานงาน
-
ระดับความเข้าใจในปรัชญาหลักการรวมบริการประสานภารกิจไม่เท่ากัน พนักงานที่อยู่นานจะเข้าใจในระดับหนึ่ง แต่พนักงานที่มาใหม่จะเข้าใจระดับหนึ่งการเข้าใจที่ไม่เท่ากันส่งผลต่อแนวทางในการปฏิบัติงาน
-
งานบางงานไม่สามารถมีเจ้าภาพเพียงหน่วยงานเดียวหรืองานบางอย่างไม่แยกเด็ดขาด ซึ่งจำเป็นต้องมีเจ้าภาพร่วม ทำให้เกิดการเกี่ยงกันทำจึงทำให้ต้องมีการประสานภารกิจ
-
หากหน่วยงานต้นสายสามารถเคลียร์ในกระบวนการทำงานได้ จะทำให้หน่วยงานบริการสามารถดำเนินการส่งข้อมูลต่อให้กับหน่วยงานรับบริการ (นักศึกษา) ต่อได้
-
ไม่เข้าใจกระบวนการทำงาน (Work flow) การทำงานที่แท้จริงของกันและกันระหว่างหน่วยกลาง หน่วยให้บริการและหน่วยรับบริการ
การพูดคุยแลกเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้ได้ข้อเสนอแนะสำหรับการเสนอแนวทางจัดเวทีครั้งต่อไป ดังนี้คะ
-
การจัดเวทีครั้งหน้า ไม่ใช่การมาคุยเรื่องปัญหาแต่เป็นการมาแลกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน
-
ทุกหน่วยงานต้องกลับไปวิเคราะห์ระบบหรือกระบวนการให้บริการ ว่า....
- งานที่ต้องให้บริการมีอะไรบ้าง
- การดำเนินการที่ผ่านมามีผลเป็นอย่างไร (เกิดผลสำเร็จ ไม่สำเร็จอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไร ให้เรียงลำดับความสำคัญ) พร้อมเตรียม flow chart และจุดเชื่อมต่อการให้บริการ
- นำสิ่งที่ต้องได้รับการพัฒนาที่สำคัญและเร่งด่วนมาหารือ พูดคุยกันต่อถึงแนวทาง กระบวนการทำเส้นทางต่อเชื่อมงานกัน ระบุทั้งทรัพยากรและประสบการณ์ที่มีอยู่ ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ใครเป็นผู้รับผิดชอบรอง
-
ถามความคาดหวังหน่วยรับบริการว่าหน่วยรับบริการอยากให้บริการอะไรเพิ่มเติม การใช้บริการ หรือการให้บริการมีปัญหาติดขัดอย่างไร ให้เรียงลำดับความสำคัญ
-
ทำความเข้าใจร่วมกันอย่างทั่วถึง ถึงหลักการรวมบริการประสานภารกิจ
-
ให้ Key Person แต่ละส่วนงานมาร่วมประชุมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อร่วมงานแผน แก้ปัญหาการทำงานร่วมกัน
-
ควรจัดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนจริงๆ ในทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรจัดแยกฝ่าย ควรคิดร่วมและมีการพูดคุยทั้ง 2 ด้าน คือทั้งที่เราเป็นผู้รับและผู้ให้ และทำให้เกิดการประสานงานอย่างต่อเนื่อง
-
การจัดเวทีครั้งหน้าเสนออยากให้มองไปที่กระบวนการ ไม่ใช้มองไปที่งาน
-
หาวิธีอย่างไรให้พนักงานใหม่ทราบและเข้าใจ ในหลักการรวมบริการและประสานภารกิจ
-
ให้หน่วยงานผู้ให้และผู้รับมาพูดคุยในกระบวนการทำงาน เพราะบางครั้งคนปฏิบัติงานไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น และทำเช่นนั้นไปทำไป
-
ควรทำในเวทีเล็กก่อนเพื่อให้เห็นปัญหาร่วมกัน เห็นแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน
-
ทำอย่างไรไม่ให้เกิดการเกี่ยงกันทำงานภายใต้หลักการรวมบริการประสานภารกิจ
-
ควรจัดเวทีใหญ่ ให้คนอื่นแสดงความคิดเห็นด้วย ทำให้ไม่รู้สึกห่างเหิน
-
การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอยู่ที่คนทำงาน ทำอย่างไรจึงให้แนวคิดนี้อยู่กับทั้งผู้รับและผู้ให้บริการ
แรงสนับสนุนที่มีเป็นทุนที่ดี ที่จะทำให้เราก้าวต่อไป
กิจกรรมหลักๆ ในแต่ละงานขณะนี้ มี Flow chart และขั้นตอนการทำงาน ทำให้การจะพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายใตหลักการรวมบริการประสานภารกิจเริ่มต้นไม่ยาก และที่มาเราก็เห็นความสำเร็จเป็นระยะๆ และการให้ความร่วมมือของผู้บริหารของหน่วนให้บริการเป็นอย่างดี และการเห็นประโยชน์ร่วมกันของหน่วยรับบริการ
ทำให้เกิดเวทีการแลกเปลี่ยนในครั้งหน้า โดยกำหนดเป้าหมายดังนี้
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายใต้หลักการรวมบริการประสานภารกิจ และให้คนทำงาน ทำงานอย่างมีความสุข
ทำให้พอจะสรุปการจัดเวทีแลกเปลี่ยนในครั้งหน้าได้ดังนี้
- เชิญทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ได้แก่ หน่วยงานให้บริการและสำนักวิชา
-
ทำความเข้าใจ ตระหนักรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงปรัชญาหลักการรวมบริการประสานภารกิจในการใช้ทรัพยากรและความชำนาญซึ่งกันและกัน ให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ให้รู้ว่าทุกหน่วยงานเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับบริการซึ่งกันและกัน เนื่องจากบางครั้งคนเก่าก็เข้าใจผิดโดยไม่รู้ตัว และคนใหม่ก็ฟังต่อๆ กันมา
-
หน่วยงานต้องกลับไปวิเคราะห์ระบบหรือกระบวนการให้บริการ ว่า....
3.1 งานที่ต้องให้บริการมีอะไรบ้าง
3.2 การดำเนินการที่ผ่านมามีผลเป็นอย่างไร (เกิดผลสำเร็จ ไม่สำเร็จอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไร ให้เรียงลำดับความสำคัญ) พร้อมเตรียม flow chart และจุดเชื่อมต่อการให้บริการ
3.3 นำสิ่งที่ต้องได้รับการพัฒนาที่สำคัญและเร่งด่วนมาหารือ พูดคุยกันต่อถึงแนวทาง กระบวนการทำเส้นทางต่อเชื่อมงานกัน ระบุทั้งทรัพยากรและประสบการณ์ที่มีอยู่ ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ใครเป็นผู้รับผิดชอบรอง
4. หลังจากนั้นก็จัดเวทีแยกเป็นกิจกรรมที่ต้องให้บริการ ร่วมพูดคุยกันระหว่างหน่วยงานรับบริการกับหน่วยงานให้บริการที่ต้องประสานภารกิจร่วมกันหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ผลการแลกเปลี่ยนเป็นเช่นไร จะนำมาเล่าสู่กันฟังต่อนะคะ
ปิติกานต์ จันทร์แย้ม