วันนี้ก็เป็นวันที่ 5 แล้วที่มาที่สวนป่าครูบา และก็เป็นวันที่ 2 ของการฝึกอบรมของคูโบตม ในตอนเช้าก็มีการไปออกพื้นที่เพื่อไปดูคนจริงซึ่งชาวบ้านให้ฉายาว่า ตาคนนี้ว่า พ่อใหญ่ไม่ยาก ทำอะไรก็ไม่ยาก ชื่อของแกคือพ่อไลเป็นเกษตรกรที่มีความขยันอดทนเป็นที่ตั้ง ไม่ไปเบียดเบียนใคร แกบอกว่า แกก็ค่อยทำมาเรื่อยๆไม่ได้ทำทีเดียวเลยค่อยๆปลูกไป
ประกอบกับการนำเอาความรู้ที่ได้ฝึกอบรมจากครูบานำไปประยุกต์ใช้ เหมือนพ่อไหลนี้ได้ข้อมูลต้องมีการวิเคราะห์สังเคราะห์ก่อนที่จะลงมือทำ ไม่ใช่ว่าเห็นใครพูดว่าอันนั้นดีอันนี้ดีก็ทำตามเลยโดยไม่มีการกลั่นกรองข้อมูลก่อนเราก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของคนที่ฉลาดกว่าได้
สวนพ่อไลนี้จะปลูกเกือบทุกอย่างทำแทบจะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นทำเสื่อ ต้มเกลือกินเองเป็นสิ่งเราสามารถทำได้เองก็ไม่จำเป็นต้องไปซื้อ ก็เป็นการประหยัดรายจ่ายไปได้ แสดงถึงพ่อไหลจะพึ่งตนเองเป็นที่ตั้ง ไม่ต้องรอรับจากภายนอก
และตอนนี้ที่สังเกตเห็นแกจะให้ความสนใจในเรื่องยางพาราเป็นพิเศษ เป็นพืชที่ให้ผลิตระยะยาว ยางที่ได้จากภาคอีสานจะมีความเหนียวมากยางจากภาคใต้ ยางพาราใช้เวลาปลูกประมาณ 7 ปี ถึงจะเริ่มกรีดน้ำยางได้ กรีดสูงจากพื้นประมาณ 150 ซม. อายุการกรีดอยู่ที่ 20 ปี ตาบอกว่าปีที่แล้วแกขายยางพาราได้ประมาณ สองแสนบาทและปีนี้ก็ขายได้หนึ่งแสนบาท
แล้วตาก็บอกว่าต้นไม้ที่ปลูกร่วมกับต้นยางพาราได้ดีก็คือ ขนุน และตายังบอกเทคนิคการทำให้ขนุนติดผลดีด้วยว่าต้องตัดแต่งกิ่งออก แล้วมันก็จะติดผลเอง แล้วก็มีเตาถ่านที่น่าสนใจผมก็อยากนำไปทำที่บ้านเหมือนกันเพราะเห็นพ่อแม่เผาถ่าน ถ้าทำเตาถ่านก็น่าจะดีกว่าไหม จะใช้ความร้อนที่เกิดขึ้นในการอบไม้ให้เป็นถ่าน
แล้วในตอนบ่ายเราก็ได้เจอกับครูปลาบู่กับครูไผ่ ที่มาให้คติเตือนใจ ข้อคิดดีๆที่จะนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันในการฟังบรรยายในครั้งนี้ทำให้ผมได้รู้ว่าเราต้องคิดให้หลายๆด้านเข้าไว้ ไม่ใช่คิดเพียงด้านเดียว สิ่งที่พูดมานี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงมากน้อยแค่ไหนเราต้องศึกษาหาข้อมูลถึงมูลเหตุที่แท้จริง ว่ามีคนที่เคยทำแล้วหรือยังทำแล้วเป็นอย่างไร เราต้องดูถึงเจตนาที่แท้จริงของเขาว่าเป็นเช่นไร
ศาสนาพุทธเราสอนว่า "กินได้ทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวที่ห้ามกินคือ ของดิบ" ในที่นี้ก็ข้อมูลที่ดิบๆที่ยังไม่ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์และการลองทำดูก่อน แต่เรื่องการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนก็เป็นเรื่องที่ดีจะทำให้ชุมชนเกิดความแข้มแข็งได้ สามารถต่อรองกับรัฐได้ แต่ไม่อยากให้คิดถึงแค่เรื่องเงินเพียงปัจจัยหลักเราต้องอยู่ด้วยตัวเองก่อนแล้วก็มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอยู่เป็นประจำ เพื่อให้เราได้มีความรู้ที่ใหม่อยู่เสมอเพราะความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วในวันพรุ่งนี้จะเจอกับเทคนิคดีๆในการปลูกข้าวแบบไม่ต้องหว่าน ไม่ต้องไถ ไม่เกี่ยว และการปลูกพืบในพื้นที่เป็นดินเค็ม ต้องทำอย่างไรบ้าง คอยแกะรอยในวันพรุ่งนี้ครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีจ้ะเทพ
ตามอ่านมาทุกบันทึกเลย เขียนได้ดีมาก เก็บประเด็นที่ได้เรียนรู้ได้ดีมากๆเลย... แล้วบันทึกของศุภกิจละจ้ะ บอกลิงค์ด้วยนะ ...
ขอบคุณครับ นี่คือลิงค์ของศุภกิจครับ