ชีวิตของ "เฉิน" : เพียงแค่พลิกความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน


ชีวิตบทใหม่เขาจะเป็นอย่างไร? อยู่ที่เขาจะเลือกเเล้ว

"ผมไม่ไหวแล้วครับ มีร้านซ่อมคอมเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆอย่างนี้ผมจะอยู่ได้ยังไง"  น้องชายหนุ่มชาวจีน เปรยๆกับผมเหมือนปรับทุกข์ให้ฟัง เขาเล่าถึงภาระ ค่าใช้จ่ายกับรายได้ที่ไม่สมดุล รวมถึงกำลังใจที่เริ่มลดลงตามปริมาณเงินในกระเป๋า

 

"ไม่หรอกครับ มีร้านเปิดมากไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับเรามัดใจลูกค้าเราไว้ได้ "  ผมพยายามพูดให้กำลังใจเขาเสมอ

"ผมว่านะเราต้องสร้างความแตกต่างกว่าร้านอื่นๆซิครับ"  ผมบอกให้เขา ดูเหมือนผมเป็นกุนซือด้านการตลาดเลย แต่ผมก็เชื่อแบบนั้นในโลกของการแข่งขันแบบนี้

เรื่องนี้ทำให้ผมคิดถึงนิทานเรื่องหนึ่ง ผมเคยอ่านจากที่ไหนจำไม่ได้ แต่ผมชอบมาก ในแง่ของการพลิกวิธีคิดเพื่อต่อสู้

 

 


 

"....เรื่องมีอยู่ว่า มีเศรษฐีคนหนึ่งมีลูกชายสองคน ที่เติบใหญ่พร้อมที่จะสืบทอดธุรกิจจากผู้เป็นพ่อแล้วถึงแม้ว่าเขาเลี้ยงลูกมากับมือ แต่ก็ไม่ได้รู้ลึกซึ้งถึงวิธีคิดของลูกชายทั้งสองว่าเขาพร้อมขนาดไหนกับธุรกิจที่จะเป็นมรดกสืบทอด ธุรกิจที่ว่านี้คือ "ธุรกิจทำรองเท้า"

มีเกาะอยู่เกาะหนึ่ง ต้องออกเดินทางจากแผ่นดินใหญ่ออกไป เศรษฐีทราบดีว่า ในเกาะนั้นมีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย จึงส่งลูกชายทั้งสองเดินทางไปเพื่อหาลู่ทางทำธุรกิจ

ลูกชายทั้งสองได้รับคำสั่งจากพ่อ ก็เดินทางไปยังเกาะดังกล่าวทันที

พวกเขาพบว่า ผู้คนในเกาะมีมากมายจริงอย่างที่พ่อเขาบอก และสิ่งที่พวกเขาเห็นร่วมกันคือ ประชากรทุกคนบนเกาะไม่ใครสวมรองเท้าแม้แต่คนเดียว...

เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว ลูกชายทั้งสองของเศรษฐีก็เดินทางกลับมายังบ้านเพื่อมาแจ้งข่าวให้พ่อของเขา

"เป็นยังไงบ้างลูก ลู่ทางในการขยายธุรกิจของเรา"

ลูกชายคนที่หนึ่งตอบว่า "เห็นทีจะไม่มีทางครับ เพราะบนเกาะ ไม่มีใครสวมรองเท้าเลย แบบนี้ขายรองเท้าก็เจ๊ง" เขาตอบแบบมั่นใจ

ลูกชายคนที่สอง ยิ้ม กระหยิ่มแบบดีใจบอกพ่อว่า " โอ้  โชคดีมากเลยครับ คนบนเกาะไม่มีใครสวมรองเท้าเลย นี่ ถ้าเราเปิดธุรกิจขายรองเท้า ผมคิดว่าเราไปได้ดีมากๆเลยครับ"

นี่เป็นวิธีคิดของสองหนุ่ม ในสถานการณ์ที่ไปเหมือนกัน แต่วิธีคิดต่างกันโดยสิ้นเชิง


 

นี่เป็นเรื่องเล่าที่ผมเคยอ่านพบที่ไหนสักแห่ง และผมก็จำมาใช้ในการเล่าให้กำลังใจ กรณีของ น้องชายหนุ่มชาวจีน คนนี้ในเย็นวันหนึ่งที่เขาปรับทุกข์กับผม

ผมเองเดินทางไปมาโดยตลอด ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเขาที่ร้านเหมือนเคย ในใจก็ผมคิดว่ากิจการร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ของเขา น่าจะไปได้ดี เพราะข่าวคราวเขาก็เงียบไป

. . . . .

. . . . .

. . . . .

วันนี้ผมถือโอกาสไปเยี่ยมเขาอีกครั้ง

สภาพร้านของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่  วันนี้เขาก็ยังเปรยๆกับผมว่า "เขาไม่ไหว" อีกแล้ว หากเป็นแบบนี้ต่อไปเห็นท่าจะไม่รอด เขาพึมพัมเบาๆ ดูจากท่าทางเขาก็ยอมแพ้แล้วจริงๆ

ผมไม่ได้พูดอะไรมากนักหากดูตามสภาพก็เห็นว่าไม่ไหวจริงๆ ธุรกิจไม่เติบโต กำลังใจก็ไม่มีแล้ว

-----------------------------------------------------------------------------

"พี่ครับ...!!! "  เสียงเรียกดังจากข้างหลัง ก่อนที่ผมจะหยิบกุญแจเปิดรถ ผมหันหลังกลับตามเสียง

"พี่เอาไปใช้นะครับ ผมจะไปอยู่กรุงเทพฯแล้ว"  

ผมประหลาดใจกับคำพูดที่เขาตัดสินใจ ก่อนหน้านั้นผมก็ทราบมาบ้างว่าเขายอมแพ้ กับงานที่เขาตั้งใจทำแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะตัดสินใจเดินทางเข้าเมืองกรุงเหมือนหลายๆคน

สิ่งของในกล่องประกอบด้วย อุปกรณ์ต่อพ่วงไฮเทคของคอมพิวเตอร์ หลายชิ้น ยังใหม่แกะกล่อง ผมกวาดสายตามองไปในร้าน อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์เหล่านี้จะทำยังไงละ

"ผมรอคนเซ้งต่อ แต่ยังไม่มี"

"อุปกรณ์เหล่านี้ก็คงต้องฝากร้านแถวนี้ขายเลหลังไป"  เขาเอ่ยบอกให้ผม

"ตัดสินใจดีแล้วหรือ" ผมถามย้ำเขาเพื่อความมั่นใจ

เขาบอกผมทันทีว่า "ผมจะลองไปทำงานดู เผื่อว่าจะไปได้ดีกว่าที่ผมอยู่ที่นี่" 

-----------------------------------------------------------------------------

น้องชายชาวจีนคนนี้ เป็นผลผลิตหนึ่งของสงครามยาเสพติดในยุครัฐบาลทักษิณ และเขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการสร้างตัวเอง โดยใช้ความสามารถที่เขามีอยู่

และผมให้กำลังใจเขาเสมอๆ ประคับประคองเพื่อให้เขาอยู่ให้ได้กับสังคมทุนนิยมที่เขาต้องต่อสู้ จากที่เขาไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จนกระทั่งได้รับสัญชาติเป็นคนไทยโดยสมบูรณ์ซึ่งก็หมายความว่าเขาสามารถเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพได้โดยสะดวก ...นี่ก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาตัดสินใจเดินทางไปขุดทองที่เมืองหลวง

ชีวิตบทใหม่เขาจะเป็นอย่างไร? อยู่ที่เขาจะเลือกเเล้ว

โชคดีนะ เฉิน!!!


 

บันทึกให้กำลังใจนายเฉิน

ปาย,แม่ฮ่องสอน

๖ มีค.๕๑

 

 


 

หมายเลขบันทึก: 169597เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2008 18:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 20:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีค่ะ..อาจารย์เอก

ไม่ได้เข้ามาทักทายนานมาแล้ว..สบายดีนะคะ

อ่านหลาย ๆ บันทึกของอาจารย์เอก..แต่ไม่ได้เข้ามาคุยด้วยค่ะ

เพราะไม่ค่อยสบาย  และงานก็ค่อนข้างเยอะค่ะ

สะดุดใจกับ "เพียงแค่พลิกความคิด  ชีวิตก็เปลี่ยน" ของน้องเฉิน

ทำให้คิดถึงความจริงของชีวิตนะคะ..ว่าบางครั้งเราก็ไม่อาจให้คำนิยามที่แน่นอนของการมีชีวิตที่สมปรารถนาได้..

แต่ดูวิธีการคิดของน้องเฉินแล้ว..หนึ่งสมองและสองมือของเขาน่าจะทำใหเขาประสบความสำเร็จ..และอยู่รอดปลอดภัย จากการไปแสวงหาอะไรใหม่ ๆให้ชีวิต...ที่เมืองหลวง

อาจารย์เอกก็ยังคงเป็นพี่ชายที่เปี่ยมด้วยน้ำใจเช่นเดิม..

สวัสดีครับ คุณเอก :)

  • ได้ฟังเรื่องราวแล้ว ก็รู้สึกดีในแง่ของการต่อสู้ชีวิตที่ไม่กรอบของเชื้อชาติ สัญชาติ นะครับ
  • อุปกรณ์มีอะไรน่าสนใจบ้างครับ อิ อิ

แวะมาเยี่ยมครับ :)

สวัสดีครับ หวังว่า "เฉิน"คงไม่หลงเข้าสู่วังวนอันเลวร้ายนั้นนะ วันนี้ประชุม "ศตส" เข้มข้นมาก ว่าจะหาโอกาสเล่าลงบล๊อกต่อไป

ตามมาเยี่ยมค่ะ

การตกแต่งบล็อก บ่งบอกตัวตนของเจ้าของได้เหมือนกันค่ะ

ขอบคุณที่นำเรื่องที่น่าสนใจถึงสองเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ

สะดุดใจกับชื่อเรื่องค่ะ ตอนนี้เป็นประเด็นที่ใครๆ ก็ต้องพูดถึงค่ะ ความคิดของเรากำหนดวิถีชีวิตของเราจริงๆ

  • มุมมองที่แตกต่าง ย่อมทำให้การดำเนินชีวิตแตกต่างกันไปด้วย
  • เฉินคงจะก้าวต่อไป เพื่อความอยู่รอดของเขา  สู้! สู้!
  • ขอบคุณ คุณเอก ที่มีความห่วงใยในเพื่อนมนุษย์ชาติของเรา นำเล่าสู่กันฟังค่ะ

ขอบคุณน้องเอก  ที่นำเอามุมมองอีกมุมของชีวิตมาเล่าให้ฟังค่ะ...น่าคิดจริงๆ

P

 อ้อยควั้น

สวัสดีค่ะ...น้องเอก

  • อยากบอกว่า...ดีใจมากค่ะ
  • ที่ได้เจอกัน...นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลย
  • สายใยแห่งมิตรภาพของ G2K ไปได้ทั่วถึงจริง ๆ เชื่อเขาล่ะ
  • หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะค่ะ...หนุ่มเหนือแห่งเมืองปาย
  • น่ารักมาก...ขอบอก อิอิ
  • เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับมิตรภาพดี ๆ ที่มีให้
  • ขอบคุณสำหรับสาระดี ๆ ที่นำเสนอค่ะ

สวัสดีครับ P ท่าน ศน.อ้วน

P อ.WasP พี่หมอรอน P คุณCitrus

P พี่เอื้องแซะ Pพี่ติ๋ว Pพี่เหลียง และพี่อ้อยควั่น

P

 

สวัสดีจาก"ยะลา"ครับ

บ่ายนี้ร้อนระอุดีแท้ๆ พี่เกาตรยะลา กับพี่อ้อย พาไปกินขนมจีน ผมเลือกขนมจีน"ไตปลา" ยิ่งร้อนไปกันใหญ่ แต่อร่อยมากครับ ผักเหนาะเยอะดีครับ

ท่าน ศน.อ้วน  ผมเองก็เชื่อมมั่นในทางเลือกของ"เฉิน"ครับ ทุกวันนี้ก็ให้กำลังใจเขาตลอดเวลา

อ.Was  อุปกรณ์มีเยอะแยะครับ (อิ อิ) เรื่องของเฉิน ก็เหมือนกับชีวิตของหลายๆคนครับ ก็ต้องสู้ครับ

พี่หมอรอน ในฐานะคนรู้จักกัน ก็ให้กำลังใจกันต่อไป...ทั้งให้เขา และให้กำลังใจตัวเองด้วยครับ

คุณ Citrus 
ขอบคุณมากครับที่มาเยือนครับ บันทึกผมก็เล่าตามเรื่องราวที่พบไปเรื่อยๆครับ หยิบโน้น จับนี่ ผสมเพื่อปรุงรส ถูกใจคนชิมหรือไม่ ช่วยบอกหน่อยนะครับผม

พี่เอื้องแซะ การมองชีวิตของแต่ละคน "มุมมอง"ที่ต่าง ทำให้เส้นทางที่เลือกก็ต่างกันไป แต่เป็นเรื่องที่สวยงามครับ เพราะความหลากหลายทำให้เกิดการเรียนรู้ครับ ขอบคุณพี่มากๆครับ

พี่ติ๋วครับ เรื่องของเฉินมีแง่มุมที่น่าสนใจเยอะ รวมถึงคนที่ผมสัมผัส พบเจอ ล้วนแล้วแต่มีแง่มุมที่น่าสนใจ ได้เรียนรู้ ผมจะพยายามนำเรื่องราวเหล่านั้นมาเขียน เพื่อแลกเปลี่ยน ร่วมกันครับ

ขอบคุณครับ

พี่เหลียงครับ  ....เฉินไม่ยอมแพ้ครับ เพียงแต่ เขาตัดสินใจเพื่อจะสู้ต่อครับผม..และคอยติดตาม เฉิน ภาค สอง นะครับผม

พี่อ้อยควั้นครับ

ยินดี ดีใจ ที่ได้เจอครับ พี่อ้อย น่ารัก คุยสนุกมากๆครับ เสียอย่างเดียวพี่ชอบทำสีตกใส่ผม อิอิ

ขอบคุณที่ช่วยดูแลครับ

ไม่ใช่แฟนทำแทนก็ได้ :)))

จะมาเยี่ยมอีกนะครับผม

ขอบคุณขนมจีน ขอบคุณข้าวยำ ครับผม

สวัสดีคะ

เมื่อเรามั่นใจ ว่าทางที่เราเดิน มันตัน หรือ เป็นเส้นทางที่ไม่เหมาะ สำหรับเราแล้ว เมื่อเปลี่ยนเส้นทางใหม่ เราอาจเจอ อะไรที่ใช่ และ เจ๋งกว่าเส้นทางเดิมของเราอีก และ คิดว่าเฉิน คงเจอ เส้นทาง ที่ดีขึ้น ขอเพียงกำลังใจยังคงอยู่

สวัสดีคุณก้ามปู

ขอบคุณกำลังใจดีๆที่ให้เฉินครับ ผมเองก็เชื่อในเส้นทางที่เฉินเลือกครับ

สิ่งที่เลือก นั่นคือสิ่งที่เขาคิดแล้วว่าเหมาะสมกับเขาในบริบทขณะนี้ครับ

คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า เป็นธรรมดาของคนที่ไม่เคยลิ้มลอง สัมผัส ก็เป็นธรรมดาที่อยากแสวงหาอะไรใหม่ๆ ให้กับชีวิต แต่สำหรับเราอยู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่เกิด จนวันนี้สามสิบกว่าปี อยากออกไปใช้ชีวิต ทำเกษตรพอเพียง อยู่ต่างจังหวัดเหลือเกิน

ให้กำลังใจ คนเบื่อเมืองกรุงครับ ผมเองก็เข้ามาด้วยเหตุจำเป็นหรอกครับ เมื่อเสร็จภารกิจก็จะกลับบ้านนอกในทันที

-----------------------------------------

 

 

เรื่องของ "เฉิน" จบลงเเล้วครับ

 

 

เฉินประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ

ขอให้ดวงวิญญาณเฉิน ไปสู่สุขคติ ในสัมปรายภพ

มีความสุขมากๆบนสวรรค์นะน้องนะ

 

เขาพ้นทุกข์แล้วค่ะ

ขอให้ดวงวิญญาญไปสู่สุขคติ

 

Pครูเอ ครับ ผมตกใจมากที่ได้ทราบเรื่องเศร้าเรื่องนี้

เฉิน กลับไปเชียงใหม่ และทำร้านคอมฯ อย่างที่เขาถนัด ช่วงหลังเขามีความสุขดี จนกระทั่งผมมาทราบข่าวร้ายนี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท