สวัสดีค่ะ สาวลาดพ้าว pa_daeng
และหนุ่มลาดพ้าวเกษตร(อยู่)จังหวัด
สังเกตว่า มาจากหนองคายทั้งคู่น้อ...ไปกันทำไมบ่อยๆกรุงเทพเนี่ย.. ลาดพร้าวนี่อยู่กทม.หรอคะ อิอิ ไปบ่อยแบบนี้ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง(อ่านนะคะ)
ไปกทม.อีกแล้วหรอ? ไป กทม. ทำไมบ่อยๆ ?
นั่นสิคะ ประโยคนี้ ผู้เขียนโดนถามบ่อยจริงๆแหละค่ะ
มาล่าสุดนี้ 28-29 กพ. 2551 APCD เป็นเจ้าภาพค่ะ ( หมายถึงทุกอย่างออกให้ ขอให้เจ้าตัวตอบตกลง )
APCD : Asia-Pacific Development Center on Disability คือ ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก ตามชื่อเลยค่ะ แต่ศูนย์ฯนี้ไม่ได้ฝึกและอบรมเฉพาะคนพิการนะคะ คนที่ทำงานกับคนพิการด้วยค่ะ ผู้เขียนเองก็เป็นศิษย์เก่าของ APCD อยู่ 1 หลักสูตร แต่ได้มาหลายวิชาค่ะ อิอิ ครูพักลักจำ เช่น ไปอบรม ICT for All: Training of Digital Accessible Information System (DAISY) for Persons with Print Disability มาตั้งแต่ 16 January – 2 February 2006 ค่ะ นอกจากวิชาเกี่ยวกับ การผลิตหนังสือเสียงเดซีแล้ว ผู้เขียนยังได้วิชา เดาคำ อิอิ ก็เป็นหลักสูตรนานาชาติไงคะ เพื่อนๆผู้เข้าร่วมอบรมนั้น ก็มาจากหลากหลาย ทั้งภูฐาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ แถมวิทยากรก็เป็นคนญี่ปุ่นซะงั้น เป็นช่วงที่สนุกจริงๆ อิอิ เพราะปกติเวลาพูดภาษาอังกฤษเราจะเมื่อยมือ ใช่ไหมคะ แต่ครั้งนี้เพื่อนร่วมรุ่นเป็น ผู้ที่มีความบกพร่องทางการเห็นมากกว่าครึ่งรุ่นไม่รู้จะใช้ภาษามืออย่างไร สัปดาห์แรกผู้เขียนจับไข้ค่ะ จับไข้จริงๆนะคะ ไข้สูงมากจนไม่สามารถเข้าร่วมอบรมได้ต้องทานยาลดไข้และพักอยู่ครึ่งวัน เดือดร้อนผู้ดูแลและไม่ดีเลยเพราะต้องมาตามเพื่อนๆอีก งงกว่าเก่า 555 แหม..เสียดายตอนนั้นยังไม่รู้จักน้องชาย คนเก่งอังกฤษ ไม่งั้นชวนไปเป็นล่ามส่วนตัวแล้ว อิอิ สนุกมากค่ะ ทางAPCD จะให้ทุนและดูแลทุกอย่างตลอดหลักสูตร ดีเนอะ ความรู้ก็ได้ แถมฟรีทุกอย่าง
แต่...ผู้ที่ผ่านการอบรมทุกหลักสูตรของ APCD มีการติดตามผลเป็นประจำค่ะ ครั้งแรก ทางDSS@MSU เราก็ได้ต้อนรับ Mr.Chiba hisao ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น ( JICA Expert ) และคุณโอ๋ กัลยา กมลวาทิน มาเยี่ยมให้กำลังใจ ในโครงการผลิตหนังสือเดซี่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เดือนมีนาคม 2549
และในแต่ละปี ทางAPCD จะคัดเลือกผู้ที่ผ่านการอบรมแต่ละหลักสูตรที่มีการขยายผลและดำเนินการต่อเนื่อง มาประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน สร้างเครือข่าย ผู้เขียนจึงมีโอกาสไปอีกในการสัมมนา Seminar on Networking for Empowerment of Persons with Disabilities (NPWD) เมื่อ 30 April - 2 May 2007
และปีนี้ ล่าสุดThai Ex-Participants Evaulation Domestic Course เมื่อ 28-29 February 2008 ที่ทาง APCD แจ้งมาในหนังสือเชิญว่า เลือกเชิญเฉพาะ ผู้ผ่านการอบรมที่เป็น best practice ในแต่ละหลักสูตร เฉพาะคนไทยค่ะ ส่วนของต่างชาติ จะมีทีมติดตามไปในแต่ละประเทศ เป็นครั้งคราว ทำเอาผู้เขียนลอยนะคะเนี่ย...( แต่น้ำหนักเกิน เลยลอยไม่ไหว ) รีบตอบตกลงและขมีขมัน ทำ power point ประมาณ 10 นาทีไปนำเสนอค่ะ
Blog นี้โม้ยาวไปแล้ว
กั๊กไว้เล่าใหม่ให้ติดตามดีกว่า ว่า...
ไปครั้งนี้ best practice ศิษย์สำนักนี้เขาทำอะไรกันบ้าง นะคะ เรามีกัน 18 ชีวิตเชียวค่ะ เป็น
- ผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย 6 คน
- ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน 1 คน
- ผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา 1 คน
- และสุดท้ายผู้ที่มีความบกพร่องทางความรู้ใหม่ อิอิ ต้องการขวนขวายอีก 10 คนค่ะ
555 ล้อเล่นนะคะ พี่ๆน้องๆ ร่วมรุ่นขา กลุ่มสุดท้ายคือ พวกเราที่ทำงานกับคนพิการค่ะ work with disability
ปล. จะโดนแซวว่า มีแต่ภาษาอังกฤษไหมหนอ...
น่านะ ผู้เขียนเองก็ไม่ค่อยคุ้นกับภาษาอังกฤษเหมือนกันค่ะ แต่พยายามไว้ อิอิ
สวัสดีค่ะ น้องหนิง
อ่านแล้วน่าภูมิใจนะคะ เครือข่ายนี้
สวัสดีครับอาจารย์หนุงหนิง
น่าภูมิใจครับ...ผลประโยชน์ตกแก่น้อง ๆ คนไทยเยอะมาก...เห็นภาพแล้วรู้สึกอิ่มทุกภาพ...อิอิ
โชคดีสี่ขั้นครับ
สวัสดีค่ะ สาวลาดพ้าว pa_daeng
และหนุ่มลาดพ้าวเกษตร(อยู่)จังหวัด
สังเกตว่า มาจากหนองคายทั้งคู่น้อ...ไปกันทำไมบ่อยๆกรุงเทพเนี่ย.. ลาดพร้าวนี่อยู่กทม.หรอคะ อิอิ ไปบ่อยแบบนี้ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง(อ่านนะคะ)
ขอบพระคุณค่ะ พี่sasinanda และพี่นายช่างใหญ่
ที่เป็นกำลังใจเสมอมา ติดตามตอนต่อไปนะคะ หนิงกำลังจะบันทึกเรื่องราว ในกทม. เอ๊ย..ไม่ใช่ค่ะ เรื่องเล่าของกลุ่มคนทำงานกับคนพิการค่ะ
สิ่งต่าง ๆ ซึ่งหมายรวมถึงระยะทางแห่งการเดินทางอันถี่ครั้งนี้ น่าจะเป็นตัวชี้วัดพัฒนาการของระบบงานได้บ้างกระมังครับ ...และการเดินทางเหล่านั้น ไม่มีเพียงไปบอกกับสังคมว่าที่ตรงนี้มีอะไร แต่ก็น่าจะหมายถึงการไปเพื่อเก็บเกี่ยวบางอย่างกลับมายังที่ "ตรงนี้.."
ระวังไปบ่อย จนบ้านร้างคนดูแลนะครับ ..(ยิ้ม ๆ ...)
555 คุณพนัส ก็หนุ่มลาดพ้าว เหมือนกันนี่นา เข้ากทม. ไม่น้อยกว่าพี่หรอกนิ
ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
บ้านพี่ไม่ร้างหรอกค่ะ ลูกๆ DSS มาพร้อมหน้าเสียงดังทุกวัน จนช่วงก่อนพี่จะสอบfinal (ของนิสิตโข่ง) พี่ยังต้องตัดสินใจลาพักผ่อน เพื่ออ่านหนังสืออยู่ที่คอนโดฯอ่ะค่ะ ขืนมาทำงานไม่ได้อ่านหนังสือสอบแน่ๆ สมาธิยิ่งน้อยลงตามวัย อิอิ
ขอบพระคุณค่ะคุณน้อง
พี่หนิงพยายามเดินสายเฉพาะเรื่องเอดส์และนิสิตพิการ แล้วนะคะเนี่ย... ไม่อยากเดินทางมากหรอกค่ะ (เปลือง อิอิ เหนื่อยค่ะ ) เพราะพี่เรียนหนังสือ เสาร์/อาทิตย์ แค่ทำงานกับเรียน 7 วันในสัปดาห์นี่ก็รู้สึกว่า บริหารเวลาไม่ถูกแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่หนิง
ครูเอเคยทำงานกับคนพิการนะค่ะ ได้เป็นระดับรากหญ้าค่ะ
ไม่เคยได้รับการอบรมแบบนี้เลย ส่วนมากคนพิการที่เคยทำงานด้วย จะได้รับการฝึกอาชีพจากศูยน์ฝึกอาชีพเพื่อคนพิการมาก่อน ถ้าที่เชียงใหม่รู้สึกว่าจะชื่อ ศูนย์หยาดฝน ถ้าจำไม่ผิดนะค่ะ
แล้วเครือข่ายนี้เขาทำอะไรบ้างค่ะ เผื่อได้ความรู้เป็นประโยชน์ให้แก่พี่ๆน้องๆคนพิการที่รู้จักค่ะ
ขอบพระคุณค่ะครูเอ
พี่หนิงก็คนทำงานกับคนพิการ ระดับปฏิบัติการค่ะ เราไม่ใช่รากหญ้านะคะ เราเป็นรากแก้ว เพราะเราลงทำด้วยกันกับคนพิการจริงๆ สัมผัสจริง เข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้
แล้ว best practice รุ่นนี้ พี่หนิงเจอ ตัวแทนผู้พิการทางการเคลื่อนไหวระดับรุนแรงด้วยนะคะ พี่เขาทำงาน กลุ่ม IL (Independent Living ) ของจ.นครปฐม ที่เคยมีผู้เสนอชื่อเข้ารับการVote ให้เป็นคนดีของสังคม จากรายการของดีแทค อ่ะค่ะ
ในส่วนอปท.ก็มีด้วยนะคะ ปลัดจากอบต.โจดหนองแกค่ะ
ผู้พิการทางการได้ยินก็มี น้องๆตัวแทนจากหลายองค์กรค่ะ
ครูการศึกษาพิเศษก็หลายท่านค่ะ ที่จำได้ก็จาก โสตฯอุดร
รอติดตามในบันทึกต่อไปนะคะ พี่หนิงจะเล่าสู่ฟัง ว่ารุ่นนี้ทำอะไรกันบ้าง เป็นสองวันที่สนุกมาก ไม่เสียดายเวลาที่ไปเลย ได้รู้ว่าในแต่ละมิติของการทำงานกับคนพิการที่เข้มแข็งทำกันอย่างไร
แหะๆ อายจัง ยังไม่ได้เขียนต่อเลยว่า
แต่ละกลุ่มไปทำอะไรกันมาค่ะ คร่าวๆไว้ก่อนนะคะ
สวัสดีคะพี่หนิง
กำลังอ่านเพลินเลยคะ ยินดีด้วยนะคะ แล้วคนพิการด้านอื่นเค้ามีล่ามแปลให้ต่างหากเหรอคะพี่หนิง ปู เห็นตอนทีม ศวพถ จัดกันที่หาดใหญ่ล่ามภาษามือน่างสงสารมากคะ เพราะมีกันน้อย มาก
จะคอยฟังเรื่องเล่าเมื่อกลับมาคะ
สวัสดีค่ะ...พี่หนิง
555 อายจัง ยังไม่ได้มาเล่าต่อเลย
มาเยี่ยมนะคะ และมาเป็นสมาชิกตามคำชวนแล้วด้วยค่ะ ลองแวะไปที่ napa_dss นะคะ วันที่ 19 พ.ค. เจอกันค่ะ
รูปถ่ายประจำ blog ดูดีมากค่ะน้องหนิง