เสนอตะกอน อย่างไรในวันตรวจเยี่ยม "โรงเรียนในฝัน"
ท่านที่จะประเมิน อ่านเรื่องเตรียมการประเมินโรงเรียนในฝันรุ่นที่ 2 ใน "ตาสว่าง"นะคะ
ท่านที่สนใจเข้ามาอ่านถ้าต้องการอ่านข้อสรุป ให้อ่านเรื่อง ประเมินโรงเรียนในฝัน ตะกอนการเรียนรู้ ดิฉันเขียนสรุปไว้ 3 ตอน ติดตามนะคะ อ่านเรื่อง"มารักการอ่านกันเถอะ" และเรื่อง "เซียนโคนเซียน"กับ"เจ้าหนอนน้อยต่อ"นะคะ
จากการที่มีโอกาสไปเยี่ยมไปเยี่ยมโรเรียนในฝันรุ่น2 เป็นโรงเรียนที่สอนช่วงชั้นที่ 2-3 เพื่อน ๆ ครู อยากให้ยกตัวอย่าง กิจกรรมการเรียนการสอนในวันที่นำเสนอเพื่อให้กรรมการประเมินโดยเฉพาะการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ซึ่งก่อนอื่นคงต้องขอทำความเข้าใจใน 3 เรื่อง คือ
1.Lab schoolเป็นโรงเรียนที่ปฎิรูปการเรียนการสอนเน้นการเรียนการสอนที่สนับสนุนให้นักเรียนลงมือปฏิบัติจริง ให้นักเรียนได้สืบค้นข้อมูล ครูเป็นผู้จัดกิจกรรมให้นักเรียน ได้เรียนรู้ ให้ได้เชื่อมโยงข้อมูลเป็นความรู้ของนักเรียน ฯ
2.เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนดังกล่าวจำเป็นต้องมีแหล่งเรียนรู้ มีห้องเรียนที่มีความพร้อมให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามข้อ1 เช่นห้องปฏิบัติการวิทย์ที่มีอุปกรณ์ ประกอบการทดลอง การปฏิบัติอย่างเหมาะสม มีสภาพห้องที่เอื้อต่อการเรียน มีCom ที่ช่วยการเรียนจากe-learning เรียนจากโปรแกมทดลองเสมือนจริง สืบค้นข้อมูลและนำเสนองาน
3. และท่านต้องมั่นใจว่าก่อนถึงวันประเมินท่านเป็นไปตามข้อ1และ2 ซึ่งถือว่าดำเนินการเป็นปกติ
เมื่อถึงวันประเมินเป็นวันที่สะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนปกติ ภายในเวลาจำกัดจึงจำเป็นที่ต้องนำเสนอกิจกรรมการเรียนการสอนที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามข้อ1และ2
ตัวอย่างการสอนเรื่องชีวิตกับสิ่งแวดล้อม นร.ทดลองหาค่า pH ของน้ำจากแหล่งน้ำในชุมชน นร.ได้ใช้ ยูนิเวอร์ซัลอินดิเคเตอร์ /pH paper/pH meter วัดเปรียบเทียบได้รู้ว่าน้ำที่มีค่าpHเท่าใดสิ่งที่มีชีวิตอยู่ได้ เรียนเชื่อมโยงกับการทำให้นำสะอาดก่อนส่งลงแหล่งน้ำ ต่อยอดมีสิ่งประดิษฐ์คือเครื่องบำบัดนำเสียอย่างง่าย หรือเชื่องโยงกับการทำนำหมักเพื่อบำบัดน้ำเสีย(กรณีนี้ต้องเรียนรู้ที่มาของน้ำหมักชีวภาคก่อน)
อีกเรื่องเด็กๆทดลองเปรียบเทียบการหาความเป็นกรดที่ เหมาะสมของผลไม้นานาชนิด เปรียบเทียบกับยาลดกรดที่อย.รับรอง เพื่อแนะนำใช้แทนยาลดกรด นร.ได้คั้นน้ำผลไม้ ได้เปรียบเทียบจากแถบวัดความเป็นกรด ได้ล้างอุปกรณ์ อย่างสนุกสนานและได้ความรู้
การเรียนต่อวงจรไพฟ้า เรียนจากโปรแกมการทดลองเสมือน(โครงการได้แนะนำและให้กับครูComแล้วน่าจะส่งต่อครูวิทย์) จากนั้นทดลองจริงด้วยเครื่องมือง่ายๆในห้องทดลองสามารถทำกริ่งปิดเปิดตู้เย็น ทำสัญญาน ได้สนุกสนานและนร.มีความรู้ได้ทดลองแม่หล็กไฟฟ้า รู้จักส่วนต่างๆของแบตตารี่ เช่นเดี่ยวกันบางกลุ่มเรียน รู้วงจร elractronic การใช้ไดโอด ทดลองเชื่อมต่อ ทำไฟหัวเตียง ทำวิทยุ เป็นต้น(มีต่อนะคะ) ถ้ามีผู้เข้ามาเยี่ยมจะเขียนต่อ วิชาอื่นๆก็ได้
อยากแลกเปลี่ยน ตัวอย่างกิจกรรมนะคะ ช่วงชั้นที่4 มีกิจกรรมการทดลองเยอะ เช่นเคมี เรียนสารชีวะโมเลกุล กรดอะมิโน และพันธะเพปไทค์ การแปลงสภาพโปรตีน เด็กทดลองและต่อยอดเป็นการทำสาร (จากพืช)ทำให้เนื้อเปื่อย เห็นเด็กใช้อุปกรณ์ ทดลอง บันทึก เปรียบเทียบ อย่างคล่องแคล่ว นำเสนอรายงาน โดย Power point มีภาพประกอบ สนุกค่ะ เพื่อนครูที่สอนเคมีคงรู้ดีกว่าดิฉัน อีกเรื่องก็สนุกค่ะเรื่อง ลิพิด (สารชีวโมเลกุล) ไขมัน นำมันซึ่งเป็นการเรียนด้วยโมเดลโมเลกุลทีจับตองได้(โรงเรียนจัดให้เป็นสื่อในห้องLab เคมี) เชื่อมโยงไปสู่การทดลองการเกิดปฏิกริยาสปอนนิฟิเคชั่น สู่การทำสบู่ เป็นต้น เด็กๆใช้ห้องทดลองอย่างคุ้มค่า เด็กๆนำเสนอเป็น Annimation สนุกเช่นเดียวกันค่ะ เด็กๆอธิบายและตอบคำถามว่าทำใม การล้างมือด้ยสบู่จึงรู้ว่าสะอาดโดยใช้โมเดลโมเลกุลประกอบการอธิบาย เ กิจกรรมแบบนี้เชื่อว่าครูสอนด้วยการลงมือปฏิบัติจริง เด็กโรงเรียนในฝันจึงมีโอกาสดีที่ได้เรียนแบบนี้
ติดตามอ่านเรื่องประเมินโรงเรียนในฝัน ตะกอนการเรียนรู้ 3 ตอน นะคะ จะอ่านตัวอย่างจากโรงเรียนที่ประเมินผ่านก็ได้ค่ะ
ความเห็น (35)
- สวัสดีค่ะ
- การสอนเดี่ยวนี้เน้น IT
- แต่ไม่มีอุปกรณ์ IT ให้นักเรียน
- เออแค่คิดก็เคร้าแล้วค่ะ
- ตอนนี้สอนโดยใช้ IT ในฝันไปก่อน
- สวัสดีค่ะ
กิจกรรรมที่สำคัญมากที่เพื่อนครูขอตัวอย่าง คือ "กิจกรรมส่งเสริมรักการอ่าน" ขอให้แนวคิดนิดหน่อยนะคะที่ได้ไปพบและประมวณมา กิจกรรมที่สนุกมากได้แก่ "เซียนโค่นเซียน"(คล้ายกับแฟนพันธ์แท้) หลักการสำคัญ
1) จัดกลุ่มหนังสือที่ต้องการหาเซียน เช่น เซี่ยนสารานุกรม เซี่ยนการ์ตูน เซียนนวนิยาย เซี่ยนเรื่องสั้น เซี่ยนกีฬา เซียนดาราศาตร์ เซี่ยนหนังสือพิมพ์ ข่าวกีฬา ข่าวการเมือง ข่าวบันเทิง ฯลฯ 2)เปิดรับสมัครผู้จะเป็นเซียนแบบกว้างไม่แบ่งระดับชั้น 3) มีการแข่งขันโค่นเซี่ยน 4) จัดแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
การจัดกลุ่ม กิจกรรมเซี่ยนโค่นเซียน เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 กลุ่มคือ นกกล่มที่1 คือพวกกรรมการ มอบหมายให้นักเรียนที่เก่งหรือคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายวิชาการ เป็นกรรมการฝ่ายคำถาม มีหน้าที่อ่านให้มากและ จัดทำคำถาม-พร้อมเฉลย (ทำไว้ประมาณ3ชุด ง่าย กลาง ยาก) เหมาะมากสำหรับโรงเรียนเปิดสอนถึงระดับช่วงชั้นที่ 4 ผลที่เห็นชัดกลุ่มนี้เก่งมาก กลายเป็นนักอ่านที่รู้ลึก รู้จริง มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถสร้างโปรแกมcomputer ถามตอบได้ แสดงความสามารถในการเป็นพิธีกร แรกๆก็เป็นผู้ช่วยครูจัดกิจกรรมนานๆเข้าเป็นเจ้าของกิจกรรม ครูจะมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคอยช่วยแก้ปัญหา หารางวัล แต่สำหรับช่วงชั้นที่1-2 ครูเป็นผู้จัดกิจกรรม นกกล่มที่2 เป็นผู้ที่สมัครเป็นเซี่ยน ไม่จำกัดระดับชั้น รับรองค่ะว่าท่านจะเห็นเซี่ยนตัวเล็กที่กล้าหาญโค่นเซี่ยนเซียนตัวโตๆ ลองเอาไปพัฒนานะคะ วันประเมินกรรมจะขอพบแชมป์อ่าน หรือพบเซี่ยน เพื่อท้าพิสูจน์
ขอบคุณคุณotd ที่เข้ามาทักทาย โรงเรียนในฝัน(lab school ไม่ใช่ dream school) โรงเรียนในโครงการ จะได้รับการสนับสนุน computerเพิ่มเติมจากที่โรงเรียนมีอยู่แล้ว จากโครงการฯส่วนกลาง ส่วนหนึ่งนะคะ computerมีน้อยใช้อย่างรู้ค่า มีมากใช้อย่างคุ้มค่า computer เป็นเครื่องมือ เป็นตัวช่วยนะคะ ช่วยเป็นแหล่งสืบค้น ช่วยในการนำเสนอความรู้ และช่วยสร้างงานฯลฯ แต่ที่เน้นคือการปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอนมากกว่าค่ะ ปรับอย่างไรคราวหน้าคุยกันนะคะ
มีตัวอย่างกิจกรรมรักการอ่านมาเล่า ชื่อ " เจ้าแห่งหนอน หรือเจ้าหนอนน้อย" มีวิธีการดังนี้
1.ตั้งคณะกรรมการสรรหาหนอน (สมาชิกชมรมห้องสมุด /คณะกรรมการนักเรียน)
กติกาเลือกหนอนเพื่อเข้าสู่การเลือก เป็นเจ้าหนอน
1.1 ชอบเข้าห้องสมุด (สังเกต และพิจารณาจากสถิติเข้าห้องสมุด)
1.2 ชอบอ่านและมีหนังสือเล่มโปรดมากกว่า1เล่ม หรือ 1ประเภทหนังสือ
1.3 เล่าเรื่องจากหนังสือเล่มโปรด บอกชื่อผู้แต่งได้
2.จัดกิจกรรมเลือกเจ้าหนอน "สัปดาห์เลือกเจ้าหนอนน้อย "
2.1 คณะกรรมการฝ่ายคำถาม จัดทำคำถามที่เกี่ยวกับหนังสือที่หนอนชอบ (หนอนที่ได้เลือกตาม ข้อ1.1-1.3) 2.2 เชิญหนอนตอบคำถาม หนอนคนใดตอบได้ถูกต้องมากที่สุดได้เป็นเจ้าหนอนน้อย
2.3เจ้าหนอนน้อย ที่ได้รับเลือกจะไปหาสมาชิกเพิ่ม เป็นครอบครัวหนอน และมีการแข่งขันครอบครัวหนอนต่อไป
ท่านใดนำกิจกรรมนี้ไปทำต่อ บอกด้วยนะคะจะตามไปดู จะไปแจกรางวัลเจ้าหนอนน้อยและ ครอบครัวเจ้าหนอนน้อยค่ะ
ไปนิเทศและเยี่ยมโรงเรียนในฝันรุ่นที่2 ( ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี ) เห็นความกระตือล้นในการพัฒนางานหลายเรื่อง เพื่อพร้อมรับวันเปิดภาคเรียนใหม่ โดยเฉพาะการจัดสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่ น่าเรียน โรงเรียนสนับสนุนแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เห็นการพัฒนาห้องสมุด ห้องเรียนที่เป็นห้องปฏิบัติการโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์(บางแห่งไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานาน) พัฒนาสื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านICT และเห็นความพยายามที่จะปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอนเพื่อให้ คุณภาพปรากฎกับนักเรียน ที่สอดคล้องกับโครงการ ระหว่างนี้ครูได้ 1.ปรับจากการเป็นผู้ส่งผ่านความรู้เพียงอย่างเดียวเช่น บอกให้จด ให่อ่านหนังสือเล่มเดียวแล้วตอบคำถาม ให้ทำแบบฝึกหัด ให้ทำตามแบบ เท่านั้น เป็นออกแบบกิจกรรมให้นักเรียนเรียนรู้จากหาข้อมูล หาข้อความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ หลายๆแหล่งมากขึ้น ออกแบบกิจกรรมให้นักเรียนหาคำตอบจากการลงมือปฏิบัติ จากการทดลองมากขึ้น คำถามครู เปลี่ยนไปเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบอย่างเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น คำตอบที่เชื่อมโยงข้อมูลเป็นคำตอบยาวๆ คำตอบเป็นผลงาน เป็นชิ้นงานมากขึ้น นักเรียนทำงานจากบัตรงานเดียวกันแต่มีผลงานที่หลากหลายต่างกันมากขึ้นฯลฯ 2.ครูพัฒนาตนเองด้าน ความสามารถในการใช้ computer มากขึ้นมี (e-mail ใช้Internet) เพราะครูรู้ดีว่าจะปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอนดังที่กล่าวไว้ในข้อ1 จะปฏิเสธ computerไม่ได้ เพราะ Computerเป็นทั้งเครื่องมือในการแสวงหาข้อความรู้ เป็นสื่อช่วย เป็นตัวช่วยในการจัดการเรียนการสอน โครงการฯได้แนะนำสื่อมากมาย (เข้ามาใน labschool.net เช่นคุยกับครูไผ่จะเจอข้อความรู้ ตัวอย่างกิจกรรมการเรียนการสอน มากมายชนิดที่เรียกว่าปิดเทอมไม่ต้องไปอบรมที่ไหนเลย) และ computer ช่วยสร้างงาน 3.วันนี้ครูโรงเรียนในฝันไม่ถามว่าจะได้อะไรแต่จะ ถามและวางแผนว่าจะจัดการเรียนการสอนอย่างไรให้นักเรียนโรงเรียนในฝัน มีความสามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง มีทักษะการคิดวิเคราะห์ มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รักท้องถิ่นและพร้อมก้าวสู่สากล
โรงเรียนในฝันรุ่นที่1 หรือต้นแบบโรงเรียนในฝันพัฒนาต่อยอดมากมาย เช่นโรงเรียนปทุมรัตต์พิทยาคม สพท.ร้อยเอ็ดเขต 2 วันนี้ต่างจากวันที่ประเมิน (ติดตามต่อไปนะคะจะนำภาพมาฝาก) โรงเรียนหนองสองห้องวิทยาคม สพท.ขอนแก่นเขต 3 กำลังจะก้าวสู่การเป็นวิทยาลัยอาชีวะ เช่นเดียวกับ มัญจาศึกษา สพท.ขอขแก่น2 โรงเรียนนนทบุรีพิทยาคม สพท.นนทบุรีเขต1(บรรยากาศน่าเรียนมาก) และอีกหลายๆโรงเรียนที่เพิ่มพูนด้านศักยภาพนักเรียน มีสถิติการสอบเข้าเรียนต่อในระดับสูงเพิ่มขึ้นจากเดิม เพิ่มความน่าเชื่อถือกับชุมชน และผู้ปกครอง ไม่ต้องส่งลูกไปเรียนไกลบ้านอีดต่อไป
ดีใจที่ได้ยินคำพูดของผู้บริหาร และครูว่าถ้าเราไม่ได้เข้าโครงการฯเราคงไม่พัฒนาเร็วเหมือนเช่นวันนี้ และเรา จะไม่ทำให้โครงการฯผิดหวัง
ขอเป็นกำลังใจนะคะ (จะพยายามลงภาพให้ ส่งมานะคะ)
ชัดเจน ไทยแท้
ไปนิเทศโรงเรียนในฝันรุ่น2 และได้แวะเยี่ยมต้นแบบโรงเรียนในฝัน(โรงเรียนในฝันรุ่น1 ) บังเอิญเห็นการสอนที่ครูไม่ตั้งใจจะสอนให้ดูที่โรงเรียนปทุมวิทยากร สพท.อุบลฯเขต1(เปิดสอนระดับก่อนประถม-ม.3)
สอนวิทยาศาสตร์ชั้นม.1 เห็นการสอนโดยการลงมือปฏิบัติจริง ใช้สื่ออุปกรณ์ที่มีอยู่ในห้องวิทยาศาสตร์ และนักเรียนมีการสืบค้นข้อมูลต่อ เห็นการบันทึกและสรุปรายงานโดยใช้ computerเป็นสื่อและเครื่องมือ
เรื่องแรงโน้มถ่วง การวัดแรงโน้มถ่วง
คำถามก่อนการทดลอง คือ 1.แรงที่อ่านได้จากเครื่องช่างสปริงมีความสัมพันธ์กับจำนวนก้อนของวัตถุอย่างไร? 2.ถ้าเพิ่มจำนวนวัตถุที่มีมวลเท่ากันจากเดิมเป็น 6 ก้อน แรงดึงที่อ่านได้จะเป็นเท่าใด ? การทดลอง 1. แขวนวัตถุ 1 ก้อน เข้ากับเครื่องช่างสปริง สังเกต จดบันทึก
2.ใช้มือดึงสปริง สังเกตเข็ม อ่านค่าแรงและจดบัทึก 3 ทดลองซำๆโดยการเพิ่มวัตถุที่มวลเท่ากันทีละ1กอ้นจนครบ 6 สังเกต จดบันทึก 4.เขียนกราฟ แสดงความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนก้อนวัตถุและค่าแรงที่อ่านได้
ครูมีคำถามที่กระตุ้นให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลต่อ 1. หน่วยของแรงโน้มถ่วงเรียกว่า อะไร? 2.มวลวัตถุ 1 กิโลกรัมมีแรงโน้มถ่วงหรือถูกโลกดึงดูดด้วยแรงเท่าใด? เห็นวิธีสอนที่ ก่อนทดลองมีคำถาม ระหว่างทดลองให้สังเกตุ จดบันทึก สรุปเป็นคำตอบ หลังทดลอง มีคำกระตุ้นให้ศึกษาต่อ ใช้สื่ออย่างเหมาะสม ใช้Computer อย่างรู้ค่า
ขอชื่นชมในความมุ่งมัน ความขยันคุณชัดเจน ไทยแท้ ที่ได้มีส่วนสร้างหรือให้โรงเรียนต่าง ๆ ได้แสดงศักยภาพของตน พวกเขายินดีที่จะนำเสนอ ถ้ามีใครหลายคนเป็นเช่นท่าน โรงเรียนต่าง ๆ ก็อยากที่จะโชว์ผลงานทั้งนั้น และเห็นความสนใจ ในด้านวิทยาศาสตร์ ผมเป็นคนหนึ่งที่มีอาชีพครูวิทยาศาสตร์ รวมทั้งอาชีพชาวนา การผสมผสาน 2 อาชีพ กำลังสับสน ทั้ง ๆ ที่ ผมเกิดจากชาวนา สืบสันดานแท้เป็นเกษตรกร หลักสูตรการศึกษาที่ให้สถานศึกษามีหลักศุตรและการกระจายอำนาจการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา จนเป็นหลักสูตรโรงเรียน.... พ.ศ. 2546 แล้ว ผมจะรอลูกศิษย์อีกกี่ปีจึงจะนำหลักสูตรปี 46 นี้ กลับมาใช้ในท้องถิ่น ยังไม่พบผลงานวิจัย ยังไม่พบนักวิทยาศาสตร์เพื่อท้องถิ่น ยังไม่พบนักการจัดการบริหารท้องถิ่น หรือ ความเป็นท้องถิ่น ที่พึ่งตนเองได้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง "ปัญหาข้าวยาก หมากแพง" ดั่งพระอัจฉริยภาพขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระเนตรถึงปัญหาที่เกิดได้ในปัจจุบัน และอนาคตที่ทั่วโลกประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ประเทศไทยเรามีจุดแข็งด้านแหล่งผลิตอาหาร แหล่งท่องเทียว ไม่จำเป็นต้องเป็นหนึ่งในโลกด้านอื่น ขอเพียงสิ่งที่คนไทยผลิต เลี้ยงตนเองได้ และมีความสุขทั้งประเทศ(GDH)
แต่การศึกษาที่เราจะผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ายิ่ง เหมือนกำลังสวนทางกระแสพระราชดำรัส เราเป็นข้าใต้ฝ่าละลองธุลีพระบาท ใยไม่ตระหนักและเชื่อว่า ถ้ามีลูกศิษย์ที่ดีของครู ในอนาคตเขาก็จะเป็นศิษย์ที่ดีและมีคุณภาพของประเทศ เขาก็จะตระหนักไหมว่า รากหญ้า รากแก้ว ทั้งหลายกำลังประสบปัญหา ต้นทุนผลผลิตสูง ทั้งที่แต่ก่อนเคยใช้ต้นทุ่นผลิตที่ต่ำก็ทำได้ เช่นการศึกษาปัจจุบัน ทำไมต้นทุนการผลิตจึงสูง โรงเรียนในฝันมีต้นทุนการผลิตที่สูง และจะยังคงสูงอีกอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ชุมชน หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ จะเข้ามามีส่วนร่วม แต่หลักการจัดการบริหารการศึกษา ก็ยังใช้ต้นทุนที่สูง นักเรียน หรือบัณฑิตที่จบการศึกษา เคยเรียนในสถบันที่ใช้ต้นทุนผลิตสูงแต่หลังจากจบออกมาแล้วเจอสภาพที่แท้จริง ก็เอ่ยอ้างถึง ปัญหาที่ ขาดงบ ขาดอุปกรณ์ ขาดสารพัด ไม่เหมือนที่เล่าเรียนศึกษามาดังต่างประเทศ จะศึกษาอีครั้งก็ต้องสั่งซื้ออุปกรณ์ต่างประเทศ จะทดลองหรือตรวจสอบคุณภาพก็ต้องเอาไปวิเคราะห์ต่างประเทศ การพึ่งตนกลับกลายเป็นว่า กระทำไม่ได้ เพราะนักเรียนที่ไปศึกษานั้นไปศึกษาเพียงวิธีการใช้ ไม่ได้ศึกษาวิธีการสร้าง ผมโชคดีมีโอกาสรับทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะเยอรมัน ทำไมเขาถึงจะออกงบประมาณหรือทุนการศึกษาให้เราทั้งหมด และทำงานใช้ทุนเขาเพียง 2 ปี กำไรของคนไทยแน่ ๆ ผมครุ่นคิดนอนคิด ๆ เราได้โดยรวม แต่ในอนาคตเราเสียเปรียบ อย่างที่เอ่ยมา สุดท้ายตัดสินใจไม่ไป ทุกคนที่ได้รับรู้คำตอบจากผมกลายเป็นว่าผมเป็นคนที่โง่ที่สุด คิดมากไป ถ้าถามย้อนกลับ เยอรมันก็ยังประสบปัญหาด้านการศึกษาต่าง ๆ ก็มีมาก ยังมีคนที่ไม่ได้รับการศึกษาขั้นสูงอีกหลายคนในประเทศ ทำไมเขาไม่ส่งเสริมคนในประเทศเขา หรือเขาเอาเราเป็นเครื่องมือบางอย่าง แอบแฝง ถ้าเราจะเรียนเราก็จะเลือกเรียนสาขาที่เรามุ่งมันต้งใจ
ความมุ่งมันตั้งใจที่จะศึกษา ของนักเรียน นักเรียนสามารถเลือกเรียน บัณฑิตก็สามารถเลือกเรียน ได้จริง? โรงเรียนมีกรอบปรัชญาที่ชัดเจน แต่เมื่อเข้าผ่านหลังปรัชญาของโรงเรียน ก็กลายเป็นชื่อหนัง กับเรื่องไม่ใช่เรื่องเดียวกัน นักเรียนที่จะเลือกเรียนมันกลายเป็นโรงเรียนอเนกประสงค์ จัดการศึกษาอย่างหลากหลาย นโบยภาครัฐ ต่าง ๆ สะสมดำเนินงาน กลายเป็นต้นทุนการศึกษาราคาแพง เพราะ รัฐ กลัวทับชื่อ โปรเจก คนอื่น แต่ไม่คิดถึงทุน นักเรียนเลือกเรียนเพราะ ไปกับเพื่อน เพราะไม่มีให้เลือก เพราะไม่มี ...... หลาย ๆ อย่าง
แนวร่วมของโรงเรียนในฝันก็จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลง เพราะนโยบายการศึกษาไปอีรูปแบบใหม่ ยังไม่มีความลงตัว และก้ยังไม่สามารถสรุปถึง ผลผลิตในระยะยาวได้
การมอบอำนาจการบริหารจัดการศึกษาแก่โรงเรียน ส่วนกลางมีบทบาทยิ่งในด้านขวัญกำลังใจ ที่ฝ่ายท้องถิ่นต้องการ การที่ยอมปล่อยให้เขาเดินตามลำพัง แต่ไม่ทอดท้งเขาก็เป็นสิ่งที่จะได้ผลดีทุกฝ่าย
ผู้เขียนมีความมุ่งหมายที่อยากจะให้การศึกษาของประเทศเป็นการศึกษาที่พึ่งตนเองได้ และเป็นที่พึ่งแก่ชุมชนอย่างแท้จริง การที่นักเรียนเขาสามารถแสดงออกได้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่อยากให้เป็นการแสดงที่เกิดจากเบื้องหลังของสิ่งที่ใช้ต้นทุนแพง แต่เป็นต้นตุนที่มีความพอเพียง จะส่งผลต่อการศึกษาที่ยั่งยืนมากกว่า
ขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็นดีๆ ท่านเป็นอีกคนหนึ่งที่ช่วยดูแลการศึกษา ความคิดเห็นของทุกท่านมีคุณค่า คุณค่าที่เราไม่หยุดนิ่ง ข้อเสนอแนะของทุกท่าน อะไรก็ตามที่อยู่ในวิสัยที่ทำได้ บอกได้ พูดได้ ดิฉันจะลงมือเลย
อย่างไรก็ตามการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ผลงานที่เกิดจากความคิดของนักเรียนเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอ ดิฉันเห็นความสามารถของนักเรียนประถมโรงเรียนชุมชนวังสะพุงเล่นอังขลุงเดี่ยวทึ่งมาก(จะพยายามหาภาพลงต่อไป) computer เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้เขาเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว เป็นสือ เป็นเครื่องมือในการสร้างงาน เป็นทางเลือกที่ไม่อาจปฏิเสธได้มีน้อยใช้อย่างรู้ค่า มีมากใช้อย่างคุ้มค่า
ติดตามต่อนะคะกับบันทึกบนถนนการนิเทศ
มีผู้สนใจโทรถามและให้แนะนำว่าควรเตรียมตัวอย่างไร? ในวันตรวจเยี่ยม หรือวันประเมินเพื่อรับรองต้นแบบโรงเรียนในฝัน เป็นข้อเสนอแนะนะคะ
แนวคิดหลัก " วันประเมินเป็นวันที่โรงเรียนนำเสนอสภาพโดยรวมและกิจกรรมดีๆที่โรงเรียนดำเนินการอย่างต่อเนื่องและส่งผลต่อคุณภาพนักเรียน เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบโรงเรียนในฝันเพราะ ทุกกิจกรรมที่นำเสนอจะเป็นการสะท้อนการจัดการเรียนการสอน สะท้อนการบริหารจัดการที่ส่งผลต่อนักเรียนเป็นสำคัญ "
สภาพทั่วไปและกิจกรรมที่นำเสนอ จัดเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่1 เป็นสถานที่ สภาพสิ่งแวดล้อม อาคารเรียน อาคารประกอบแหล่งเรียนรู้ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการต่างๆ ห้องหรือสถานที่ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ห้องพักครู ห้องส้วม มีความสะอาด ปลอดภัย พร้อมใช้ พร้อมต่อการเรียนรู้ กลุ่มที่ 2 เป็นการนำเสนอกิจกรรมที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มีผลแล้วและผลปรากฎต่อ นักเรียนเช่น โครงงานต่างๆ ศิลปะ กีฬา คนตรี นาฏศิลป ผลงานเกี่ยวกับการงานและอาชีพ สิ่งประดิษฐ์ งานส้างสรรค์ กิจกรรมที่ประสบผลได้รับรางวัล นำเสนอในรูปที่หลากหลายตามศักยภาพของโรงเรียน เช่นนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการ ที่นิ่ง และหรือเคลื่อนใหว นำเสนอผ่านระบบ ICTโดยนักเรียนเป็นผู้นำเสนอ กลุ่มที่3 เป็นการนำเสนอการเรียนการสอนที่เน้นการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง เรียนรู้จากสื่ออุปกรณ์ที่เหมาะสม เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย รวมถึงการเรียนรู้ผ่านระบบ ICT นักเรียนสามารถเชื่อมโยงข้อมูล ที่ได้จากการเรียนรู้ เป็นคำตอบ เป็นข้อสรุป หรือเป็นผลงานที่หลากหลายอย่างสร้างสรรค์ ได้แก่ การเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ที่เน้นการเรียนรู้จากการทดลอง การปฏิบัติ การสืบค้นข้อมูล การนำเสนอผลงานผ่านระบบ ICT การเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการ Computer การเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการคณิตศาสตร์ ห้องปฏิบัติการทางภาษา การใช้บริการห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ รวมถึงผลสะท้อนจากกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่าน กิจกรรมการเรียนรู้โดยการฝึกปฏิบัติในสหกรณ์ บริษัทจำลอง คณะกรรมการนักเรียน และหรือเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้อื่นตามศักยภาพของโรงเรียน (แต่ละห้องมีรายละเอียดค่ะ)
สวัสดีค่ะปรมาจารย์ของครูอ้อย
- สุดยอด ยอดเยี่ยม เอี้ยมเฟี้ยมเลยค่ะ อาจารย์
- ครูอ้อย ชอบมากๆ แนวทางการดำเนินการของอาจารย์
- อย่างนี้เรียกว่า คิดแล้วทำ ทำจริงเห็นจริง
- แต่ทำไมหนอ.....คะแนน ภาษาไทย NT จึงตกกันมาก น่าเป็นห่วง
- ข้อสอบไม่ดี หรือ สอนไม่ดี หรือนักเรียนไม่ฉลาด
- แต่ ภาษาไทยนะ ยังขนาดนี้ แล้วภาษาต่างประเทศ จะขนาดไหน
ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์ มาร่วมด้วยช่วยกันค่ะ
สบายดีนะคะพยายามต่อไปภาษาไทยของเราเอง ขอบคุณที่ติดตามงาน
พี่กำลังจเรียนรู้ที่จะนำเสนอรูปเกี่ยวกับกิจกรรม ดีๆกำลังเรียนรู้IT เพราะพบอะไรดีๆเยอะอยากบอกต่อ ลองอ่านบนถนนการนิเทศ นำประสบการณ์มาบอกต่อเล่าสบายสบาย
สวัสดีคะ คุณครูชัดเจน ครูนกขออนุญาตเรียกแบบนี้นะคะ
ก่อนอื่นขอรายงานตัวคะ
ศศิธร เดชไทย โรงเรียนผาอินทร์แปลงวิทยา อ.เอราวัณ จ.เลย คะ หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาต่างประเทศคะ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา คุณครูได้แวะไปเยี่ยมพวกเราชาวผาอินทร์แปลงที่โรงเรียนภาคบ่าย ครูนกจำได้แม่นสนิทใจและสนิทตาเลยคะ เพราะว่าเป็นคนนึงที่ค่อนข้างจะซีเรียสกับการที่มีกรรมการระดับประเทศเข้ามาเยี่ยมชมโรงเรียนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของอำเภอที่ค่อนข้างห่างไกลจากจังหวัดพอสมควร แถมยังเป็นโรงเรียนที่พึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นโรงเรียนในฝันรุ่นที่ 2 ด้วยคะ
คงต้องขออนุญาตเกริ่นนำหน่อยนะคะ (แบบว่าอัดอั้นตันใจมากละคะ) ครูนกไม่กล้าที่จะเข้ามาโพสเขียนข้อความใน Blog ของคุณครูชัดเจนคะ คิดอยู่นานมาก นานจริง ๆ คะ ไม่กล้า ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนะคะ ตัวครูนกเองก็ค่อนข้างจะเข้าเว็บนั้นออกเว็บนี้ ดู blog คนนั้น ดู blog คนนี้อยู่บ่อย ๆ เป็นคนชอบอ่านมากกว่าจะบันทึกคะ แต่ไม่รู้ว่าว่าวันนี้ทำไมถึงได้กล้าที่จะมาโพสข้อความนะคะ ยังไงคุณครูอย่าดุครูนกนะคะ ครูนกอยากเข้ามาปรึกษานะคะ ยังไงก็คงต้องขอคุณครูชัดเจนเป็นที่ปรึกษาอีกท่านนึงนะคะ ด้วยความเคารพอย่างสูงคะ ถ้าคุณครูอนุญาต ครูนกจะเข้ามาปรึกษาบ่อย ๆ คะ
อ้อ....ลืมเล่าไปคะ คือว่าวันที่ 9-10 เมษายน 2551 ครูนกได้ไปช่วยอบรมคุณครูที่โรงเรียนชุมชนวังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย คะ เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเบื้องต้น ให้กับคุณครูที่โรงเรียนคะ (ท่านผอ.กับคุณครูปิยาณี รู้จักกับครูนก ก็เลยชวนให้มาเล่าประสบการณ์ใช้อินเทอร์เน็ตให้กับคุณครูที่โรงเรียนนี้คะ) ได้ผลเกินคาดคะคุณครูชัดเจน คุณครูที่โรงเรียนชุมชนวังสะพุง สนุกสนานกับการอบรมคอมพิวเตอร์ครั้งนี้คะ แถมคุณครูแต่ละคนยังเล่น blog ของ gotoknow เพียบเลยคะ (อย่าว่าครูนกแอบบอกนะคะ) ขอบคุณมากนะคะ แล้วครูนกจะเข้ามาขอคำปรึกษาใหม่คะ
ครูนกคะ
ดึใจมาก เรียกแบบนี้ก็ดี ชอบค่ะ เราเรียนรู้ด้วยกันนะคะ ยินดีให้คำปรึกษาแต่ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือไม่ ฝากความคิดถึงและส่งความปราถนาดีมาให้ทุกท่านนะคะ ตอนนี้มีเรื่องชวนหาเรื่อง(เรียนรู้)ลองอ่านนะคะ
สวัสดีค่ะ ขอเป็นอีกคนนะค่ะที่จะขอเรียกว่าคุณครูชัดเจน เพราะชื่นชมและชื่นชอบเมื่อได้พบและปลื้มมาก
ดิฉันเป็นครูโรงเรียนชุมชนวังสะพุง เป็นโรงเรียนที่คุณครูได้ไปนิเทศเยี่ยมชมเมื่อไม่นานมานี้รู้สึกภูมิใจที่ได้รับคำชื่นชมจากคุณครูว่ามีเด็กโรงเรียนชุมชนวังสะพุงที่ทำให้ท่านทึ่งในความสามารถทางโรงเรียนจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไป
และต้องขอขอบคุณครูนกนะคะที่ทำให้ดิฉันได้แสดงความรู้สึกต่อคุณครูเพราะหลังจากอบรมมาแล้วก็ขอใช้ความรู้เพื่อจะได้ขอคำปรึกษาและนำความรู้ต่างๆผ่าน biog gotoknow ก็แล้วกันนะคะ
ยินดีค่ะ
ดีใจจังมีลูกศิษย์ คิดว่าเปิดเทอมครูคงได้ไปประเมินโรงเรียนนะคะ ฝากความคิดถึงไปยังท่านผอ.เพื่อนครู และเด็กๆ เด็กๆน่ารักนะคะ คิดว่าวันประเมินเขาจะกล้าตอบมากขึ้นเขาคงไม่ตื่นเต้นเมื่อพบคนแปลกหน้า ต้องให้เขามีกิจกรรมบ่อยๆ แล้วเจอกันนะคะ
ช่วงปิดเทอมคงได้ทบทวนวิธีสอน ทบทวนการสอน ได้วางแผนการสอน ลองเปิดไปอ่าน "ชวนหาเรื่อง(เรียนรู้)ตอนวันสำคัญ " คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์หรือเป็นแนวทางได้ โดยเฉพาะนำสู่การจัดการเรียนรู้ ผ่านโครงงาน(Project Approach) หรือการเรียนรู้โดยโครงงาน ซึ่งเป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างเป็นรูปธรรม ขอแสดงความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนนะคะ โดยเฉพาะโครงงานทางสังคม หรือทางภาษา......
1. การเรียนรู้โดยโครงงานเป็นการเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ด้วยตนเองอย่างลึกซึ้ง
2.อธิบายคำว่าลึกซึ้ง ดว้ย 2.1 มีวิธีการเรียนรู้หลายๆวิธี หรือเรียนรู้จากหาข้อมูล อย่างหลากหลายวิธี เช่น จากการอ่านหนังสือหลายๆเล่ม Web Site หลายๆเรื่อง จากการสัมภาษณ์หลายๆคน จากการลงมือปฏิบัติ ฯลฯ 2.2 การได้เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับการสนับสนุนของโรงเรียนในฝันที่ส่งเสริมและสนับสนุน ด้านทักษะ และการใช้เครื่องมือในการแสวงหาความรู้ สนับสนุนแหล่งเรียนรู้ อย่างหลากหลาย 2.2 ข้อมูลที่ได้นำมาเรียบเรียงเป็นผลงาน เป็นคำตอบ ครูเป็นผู้ที่ติดตามถามถึง และกระตุ้นให้นำข้อมูลมาชื่อมโยงเเป็นคำตอบ ให้นำเสนอได้อย่างหลากหลาย
3.ก่อนการเรียนรู้โดยโครงงาน นักเรียนต้องมีคำถามหน้าที่ของครูคือกระตุ้นให้นักเรียนมีคำถามมากๆ และกระตุ้นให้หาคำตอบ
4.นักเรียนควรได้วางแผน ซึ่งเป็นการบอกได้ว่าคำถามคืออะไรบ้าง ? จะไปหาคำตอบอย่างไร? (บอกหลายๆวิธี) หาที่ไหน? ต้องบอกแหล่ง บอกชื่อหนังสือ บอกชื่อ web site บอกวิธีที่จะนำเสนอคำตอบได้ (การวางแผนถือว่าเป็นการเรียนรู้ ครูควรให้น้ำหนักต่อการที่นักเรียนไปหาหนังสือ ไปหาweb มาก่อน และให้นำมาเสนอก่อนลงมือทำโครงงาน ลักษณะนี้ถือว่ามีคุณค่ามาก เพราะว่าเรากำลังช่วยกันสนับสนุนให้นักเรียนของเรารักการอ่าน รักการค้นคว้าไม่ใช่หรือ)
5.ขณะที่นักเรียนเรียนรู้ตามแผน ครูควรต้องหมั่นถามถึงข้อมูล จากการค้นคว้า จากการเรียนรู้ อาจมีคำถามเพิ่มเติมและควรหาคำตอบอย่างต่อเนื่อง แล้วให้เชื่อมโยงเป็นคำตอบ กระตุ้นให้นำเสนออย่างหลากหลาย
6.ผลของโครงงานคือความรู้ของนักเรียนที่ได้ มีมากยิ่งดี
7.การเรียนรู้โดยโครงงานหนึ่งเรื่องนักเรียนควรมีผลงานอย่างหลากหลายตามความต้องการที่จะรู้ ต้องการที่จะนำเสนอ ตามความถนัด เมื่อนักเรียนเรียนรู้โดยโครงงานเรื่องเดียวกันแต่ละคนไม่จำเป็นต้องนำเสนอเหมือนกัน
8. การเรียนรู้โครงงานต้องใช้เวลา
ประเมินโรงเรียนในฝันคราวนี้ เจอโครงงาน คำถามที่จะถาม คำถามแรกตือ"โครงงานนี้มีคำถามว่าอะไร? หรือต้องการรู้เรื่องอะไร?" อยากเห็นการเรียนรู้และนำเสนอโครงงานที่หลากหลาย ไม่ติดกับรูปแบบ งานวิจัย 5 บท ซึ่งดีใจที่เห็นการนำเสนอโครงงานที่หลากหลายตามแนวทางนี้ ที่โรงเรียนนาเชือกพิทยาคม วันนั้นประทับใจการนำเสนอโครงงาน"ปูทูลกระหม่อม" ซึ่งนักเรียนนำเสนอผลงานอย่างหลากหลายทั้งๆที่เรียนรู้เรื่องเดียวกัน Concept ที่ครูสอน และนักเรียนทำได้ และนำเสนอในวันนั้น ตรงกับแนวความคิดที่นำเสนอในที่นี้ค่ะ แม้เวลาจะผ่านมานานดิฉันจำได้ ถ้าบังเอิญครูที่โรงเรียนนาเชือกพิทยาคม ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้อยากให้ทำต่อนะคะ
เพื่อนครูโรงเรียนในฝันรุ่น 2 คะ ใกล้เปิดเทอมแล้ว วันนี้เพื่อนครูคงจะคิดและวางแผนตลอดจนลงมือช่วยทำให้โรงเรียนได้รับการรับรองเป็นต้นแบบโรงเรียนในฝันแล้ว
การเป็นต้นแบบโรงเรียนในฝัน ให้ความสำคัญกับคุณภาพของนักเรียน นักเรียนโรงเรียนต้นแบบฯ มีลักษณะสำคัญคือ มีคุณธรรม จริยธรรม รักความเป็นไทย ภูมิใจในท้องถิ่น และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองซึ่งในประเด็นนี้ พิจารณาที่ มีทักษะ ความสามารถในการใช้เครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ดังนั้น นักเรียนต้องมีความคล่องแคล่ว ในการใช้ภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และใช้computer มีทักษะและความสามารถในการคิด-วิเคราะห์ นักเรียนมี ผลงานเชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งผลงาน ที่ปกติ ผลงานใช้ ICTหรือเกี่ยวข้อง ICT ผลงานทีมีelectronic มาเกี่ยวข้องฯลฯ
เพื่อนครูทุกท่านได้เตรียมการ ได้ลงมือทำอะไรบ้างที่ช่วยให้นักเรียนของเรามีลักษณะที่กล่าวถึงข้างต้น เล่าสู่กันบ้างนะคะและวันนี้การจัดการเรียนการสอนของทุกท่าน สนับสนุนให้ นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูล ช่วยให้เขารักการอ่าน รักการค้นคว้า สามารถเชื่อมโยงข้อมูลเป็นผลงาน เป็นคำตอบ เป็นข้อความรู้ ช่วยให้เขาเก่งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คล่องแคล่วComputer และหวังว่าวันนี้เพื่อนครูคงจะมีความคุ้นชินกับการใช้สือ ICT ใช้computerช่วยในการเรียนการสอนบ้างแล้วไม่มากก็น้อย
ในขณะเดียวกันโรงเรียนคงให้ความสำคัญต่อแหล่งเรียนร้ ตลอดถึงเครื่องมือที่ช่วยเรียนรู้ เช่นมี computer และเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการสืบค้นข้อมูล พัฒนาห้องสมุดให้มีขีดความสามารถให้บริการ (ตามความสามารถของโรงเรียน) มีห้องปฏิบัติการที่จำเป็นต่อการเรียนการสอนที่มีความจำเป็นในการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ เช่นห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการ Computer และ แหล่งเรียนรู้ ตลอดจนห้องปฏิบัติการที่สนับสนุนการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มทักษะและ ความสามารถให้นักเรียน เช่นห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องปฏิบัติการคณิตศาสตร์ เป็นต้น ทุกสิ่งที่กล่าวเป็นไปตามขีดความสามารถของโรงเรียนแต่ละโรงเรียน
ขอเป็นกำลังใจนะคะ
เรียนคุณครูที่สนใจ
ลองเปิดเข้าไป ชวน(หาเรื่อง)เรียนรู้ ซิคะอาจจะได้สาระการสอนโดยโครงงาน เหมาะมากสำหรับ กลุ่มสาระสังคมฯ ตอนนี้เป็นเรื่องการเรียนรู้ประวัติศาสตร์จากจังหวัดของเรา ให้นักเรียนทำโครงงานสืบค้นข้อมูลต่อ (ให้มีความหลากหลายในการเรียนรู้) เมื่อมีข้อมูลแล้วประมวลเป็นข้อความรู้ของตนเอง แล้วนำเสนออย่างหลากหลาย
นายสุริยะ บัวบาน
คำสำคญ เป็นกำลังใจสู่เส้นทาง "โรงเรียนในฝัน รุ่นที่ 2" ...ทุกสิ่งเป็นไปตามขีดความสสามารถของโรงเรียน นับถือ...ท่านอาจารย์มาก
ตามอ่าน ต่อยอดต้นแบบนะคะ จะมีกำลังใจ
ครูออมทิพย์
สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นครูโรงเรียนบึงสามพันวิทยาคม จ.เพชรบูรณ์ ดิฉันกำลังอยู่ในช่วงเตรียมประเมินวิชาชีววิทยา อยากให้คุณครูชัดเจนช่วยเล่าประสบการณ์การการประเมินปฎิบัติการชีววิทยาให้ทราบหน่อยคะว่าควรจะจะต้องเตรียมอะไรบ้าง นำเสนออย่างไร
ดิฉันได้เตรียมสาธิตการทดลองดังนี้
1. การศึกษาการแบ่งเซลล์
2. การสกัดสาร DNA จากพืช อย่างง่าย
3. การศึกษาโครงสร้างสัตว์ทดลอง (ผ่ากบ)
4. การศึกษาระบบท่อลำเลียงพืช
อยากให้ช่วยแนะนำด้วยคะ ขอบคุณค่ะ
ดี่ใจจังที่ถาม จะลองเสนอแนะนะคะ
สอนชั้นไหนคะ ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเป็นหลักการว่า
1. เป็นการสอนที่ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ ลงมือทดลอง ดังนั้น ขณะที่ปฏิบัติหรือทดลอง นักเรียนโรงเรียนในฝันควรมีลักษณะดังนี้ 1.1 ตอบคำถามเชื่อมโยงความรู้เดิม กับเรื่องที่กำลังปฏบัติได้ 1.2สรุปผลการทดลองหรือการเรียนรู้จากการปฏิบัติหรือการทดลองได้ 1.3 นำเสนอความรู้ได้ (ควรแสดงความสามารถด้านICT)1.4 นำความรู้ที่ได้ไปทำอะไรต่อ ต่อยอดเป็นะไร ลงมือมือทำเลย นักเรียนควรมีผลงานการต่อยอด
2.ก่อนสอนให้ทดลองหรือปฏิบัติครูต้องวางแผนก่อน ต้องให้นักเรียนมีคำถาม ว่าอยากรู้อะไร รู้แล้ว เชื่อมโยงเป็นอะไร(จะนำความรู้ไปทำอะไรต่อ)
3.การที่จะสอนให้ครอบคลุมตามข้อ 1 อาจต้องสอนหลายชั่วโมงและควรสอนจริงสอนทุกคน ให้ทุกคนได้เรียนรู้ สำหรับวันประเมินเป็นการนำเสนอเสมือนหนึ่งการสาธิตการสอน ที่ลงมือปฏิบัติจริง จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าสอนแบบนี้บ่อยๆ เป็นเรื่องที่สอนแล้ว และควรนำเสนอหลายๆเรื่อง วันประเมินมีเวลาจำกัดจึงควรนำเสนออย่างครบทุกประเด็นตามข้อ 1 ทั้งนี้เพราะ
4.วันประเมิน เป็นวันที่จะยืนยัน คุณภาพ ครู อุปกรณ์ แหล่างเรียนรู้ วิธีสอน และคุณภาพนักเรียนโรงเรียนในฝัน ว่าครูโรงเรียนนี้ปรับเปลี่ยนวิธีสอนจริงๆ สอนวิทยาศาสตร์เป็นไปตามข้อ 1 และสนับสนุนการค้นคว้าต่อ ใช้ระบบe-leaning ช่วย จนเป็นความเคยชิน จึงเห็นการสืบค้นผ่านระบบ การแก้ปัญหา การใช้สื่ออุปกรณ์วิทยาศาสตร์อย่างคล่องแคล่ว แสดงให้เห็นการสนับสนุนให้ใช้ห้องวิทยาศสาตร์ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอย่างคุ้มค่า นักเรียนคล่องแคล่ว มีความรู้จริง แก้ปัญหาได้ สามารถเรียนรู้ผ่านระบบICTใช้ICTได้
เรื่องที่ถาม
1. การแบ่งเชลสัตว์ใช่หรือไม่ จะเปรียบเทียบหรือไม่ ความรู้เดิมหรือความรู้ที่เชื่อมโยงกับเรื่องนี้คืออะไร รู้เรื่องเรื่องนี้แล้วทำอะไรต่อ (ต่อยอดความรู้ให้สูงขึ้น หรือเอาไปใช้ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้อย่างไร คืออะไร
2.เรื่อง DNA ความรู้เดิม DNA คืออะไร ควรให้เรียนรู้โดยค้นคว้าก่อน มีอุปกรณ์ที่เป็นโมเดล DNA ที่จับต้องได้หรือไม่ ศึกษาก่อนให้ค้นทาง Net จากนั้นก็ศึกษาของจริง โดยใช้อุปกรณ์ที่มีอย่างเต็มที่เมื่อรู้แล้ว ทำรายงานได้ (รายงานที่ใช้ความสามารถด้านCom) จากนั้นนำคว่ามรู้ไปทำอะไรต่อ โดยนำเรื่องที่ศึกษาไปเชื่อมโยงให้ได้ เช่นเรื่องการตัดแต่งพันธุกรรมเป็นต้น นักเรียนควรมีผลงานการต่อยอด
3. การผ่ากบ ผ่าทำใม จะรู้เพียงโครงสร้างเท่านั้นคงไม่คุ้ม ต้องกำหนดให้ชัด ก่อนอื่นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกบก่อน ว่าเป็นสัตว์ประเภทใด ไฟลัมอะไร มีความเป็นอยู่อย่างไร การผ่ากบ 1ตัว ต้องมีคำถามที่อยากรู้ให้มาก ให้นักเรียนตั้งคำถามก่อน เช่าระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ ระบบเลือด (ปิด -เปิด) จะศึกษาเปรียบเทียบสัตว์ที่มีจำนวนห้องหัวใจต่างกันมั๊ยคะ เป็นการต่อยอดไปในเวลาเดียวกัน (อุปกรณ์ผ่าตัด ต้องเหมาะสมนะคะ งานนี้ต้องแสดงประสิทธิภาพการสนับสนุน อ่างล้างมือต้องใช้แน่นอน อย่าลืมที่จะให้ความสำคัญนะคะ) ถ้านักเรียนจะต่อยอดโดยทำโครงงานผลิดอาหารกบเป็นเม็ดก็สุดยอดนะคะ
4. เรื่องการศึกษท่อลำเลียงพืชก็เช่นกัน จะเปรีบยเทียบพืชประเภทใบเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงคู่มั๊ยคะ เปรียบเทียบแล้ว ขยายพันธ์มั๊ยคะ
พอเป็นแนวทางได้ไหมคะ
ท่านทีสนใจ
ขณะนี้ได้จัดทำคู่มือประเมินโรงเรียนในฝันแล้วค่ะและแจกให้ผอ.และ Roving Teams แล้วใช้เป็นคู่มือการพัฒนาด้วยนะคะ
ครูนี นครศรี
คุณชัดเจน ไทยแท้
ดิฉันจะประเมินโรงเรียนในฝัน 15 ส.ค.51 ยังกังกวลมากเมื่อได้อ่านแนวทางของคุณรู้สึกโล่งค่ะ แต่ไม่ทราบผลจะเป็นอย่างไร
คุณครูนี นครศรี คะ
เป็นกำลังใจนะคะ ได้รับเอกสารเพื่อนร่วมทาง(คู่มือประเมิน)แล้วนะคะ อ่านแล้วจะสบายใจขึ้น ไม่อยากเลย เราอยากให้โรงเรียนเป็นโรงเรียนดี ที่อยู่ใกล้บ้านเด็กๆจริงๆ ทุกรายการในการประเมินเป็นเรื่องที่โรงเรียนทำอยู่แล้ว
ฝากให้ดูรายการประเมินห้องสมุดด้วยนะคะ เมื่อการประเมินเสร็จ สภาพที่คนทั่วไปมองเห็นด้วยตาเปล่า และคงอยู่คือ ห้องสมุดที่ดี โรงเรียนที่สะอาด เด็กๆที่กระตือรือล้นชอบค้นคว้า ชอบอ่าน คุณครูกระตือรือล้นไม่กลัวICT และพัฒนาต่อไป นะคะ มีอะไรเล่าให้ดิฉันอ่านเราเป็นเพื่อนกัน ขอให้โชคดี เสียดายที่ไม่มีโอกาสประเมินโรงเรียนท่าน แต่จะรอฟังข่าวนะคะ
ท่านที่สนใจคะ
เวลานี้โรงเรียนในฝันรุ่น 2 หลายโรงเรียนมีความพร้อมที่จะขอรับการประเมินฯ เป็นกำลังนะคะ ลองศึกษาคู่มือประเมิน สามารถ เป็นเพื่อร่วมทางสู่ต้นแบบโรงเรียนในฝันได้
ฝากให้ทบทวนแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญแหล่งหนึ่งคือห้องสมุด มีลักษณะสำคัญเช่นนี้ไหมคะ
1.สภาพภายในห้องสมุด การจัดวาง การตกแต่ง มีความเหมาะสมและบรรยากาศเชิญชวนให้ใช้บริการ
2.มีสื่อสนับสนุนการสืบค้นข้อมูลอย่างหลากหลาย เพียงพอ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อ TCT
3.มีกิจกรรมส่งเสริมการใช้ห้องสมุดอย่างเป็นสากล
4.จัดกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่านอย่างหลากหลาย จัดอย่างต่อเนื่องเป็นระบบครบวงจรและมีผลงานที่ปรากฎต่อกลุ่มเป้าหมายในเชิงประจักษ์
5.ลักษณะกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่านมีความเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระ
6.คุณภาพด้านการรักการอ่านของนักเรียนปรากฎในเชิงประจักษ์(ขณะที่ประเมินฯ กรรมการจะสุ่มนักเรียนเป็นตัวอย่างเพื่อประเมิน)
7.ครูผู้รับผิดชอบงานห้องสมุด มีความรู้ ความสามารถ ในการบริหารจัดการห้องสมุดอย่างเป็นสากล
8.โรงเรียนนำระบบ ICT มาใช้ในการบริหารจัดการห้องสมุด
9.ครูผู้รับผิดชอบบริหารจัดการห้องสมุดมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการผ่านระบบICT
สวัสดีครับท่านอาจารย์
มาแวะเยี่ยมเป็นกำลังใจให้ท่านสู้ต่อไปเพื่อโรงเรียนดีใกล้บ้านเด็กจะไม่ได้หนีจากหมู่บ้านไปเรียนที่อื่น(แต่ความเป็นจริงเป็นเช่นไร)โรงเรียนดีใกล้บ้านรุ่นสองเตรียมการบริหารการเป็นหนี้รุ่นสองเพื่อการศึกษาของไทย..สู้ ๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณค่ะที่ป็นกำลังใจ ขอส่งกำลังใจและแนวทางพัฒนาต่อนะคะ
ท่านที่กำลังดำเนินการพัฒนาโรงเรียนดีใกล้บ้าน อยากให้ครูทุกคนอ่านคู่มือค่ะ
สิ่งที่ขอยืนยันคือคณภาพนักเรียน couputer น่าจะเป็นของแพงที่สุด มีน้อยใช้อย่างรู้ค่า มีมากใช้อย่างคุ้มค่า
ไม่ค่อยสบายใจ ที่พบว่ายังไม่ให้ความสำคัญต่อคุณภาพ นักเรียนทุกคน และพบว่านักเรียนไม่มีทักษะในการใช้เครื่องมือในการแสวงหาความรู้ (ภาษาไทย -อังกฤษไม่คล่องแคล่ว ไม่สมกับระดับชั้น)ยังไม่รักการอ่าน อ่านหนังสือน้อย ยังไม่รักการค้นคว้า เท่าที่ควรจะเป็น ยังคิด แก้ปัญหาไม่ได้ คิดสร้างงาน(สร้างชิ้นงาน)ไม่ได้ ยังลอกงาน ทุกเรื่องที่กล่าวถึงขึ้นอยู่ที่การ สอน อยู่ที่วิธีสอน ราคาไม่แพง แต่ต้องกล้า อดทนยอมเสียเวลาที่จะปลูกฝัง ที่จะสอน ไม่ให้เป็นภาระของใครคนใดคนหนึ่ง เราคงต้องช่วยกันสนับสนุนครูที่รักการอ่านการค้นคว้าเพื่อนำมาพัฒนานักเรียนจริงๆ สนับสนุนครูคนที่กล้าปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน ครูที่อดทนสอนให้ค้นคว้ามากขึ้น(ทุกสาระ) ครูที่สอนวิทย์ให้ทดลองมากขึ้น ครูที่สอน กพอ.ไม่เพียงสอนให้ทำได้ แต่สอนให้คิด สอนให้ออกแบบเป็น สอนให้วางแผนสร้างมูลค่าเพิ่มเป็น ถ้าทบทวนให้ดีเป็นเรื่องพื้นๆ แต่ทำจริง ทำต่อเนื่อง หวังผลต่อนักเรียนทุกคน เป็นหนี้มากเท่าไรก็ไม่เป็นผล อยากให้อ่านคู่มือนะคะ
สำหรับท่านที่สนใจเข้ามาอ่านเรื่องการประเมินโรงเรียน ในฝัน
ขอเรียนยืนยันว่าวันประเมินเป็นวันสะท้อนการปฏิบัติงาน สะท้อนการเรียนการสอนที่ดำเนินการเป็นปกติตามแนวทางของโรงเรียนในฝัน อย่างต่อเนื่อง และจะดูผลที่เกิดกับนักเรียนเป็นสำคัญ ประกอบด้วย
นักเรียนทั่วไป หมายถึง นักเรียนที่กรรมการพบเจออย่างไม่เป็นทางการ ได้แก่นักเรียนที่ต้อนรับ นักเรียนทีพบโดยไม่ตั้งใจ หรือนักเรียนที่เป็นนักแสดง กรรมการจะทักทาย พูดคุย ถามหาผลงาน ชักชวนให้ใช้ computer ถามให้สืบค้นข้อมุล ถามหาหนังสือที่ชอบ สำหรับระดับประถมจะให้อ่านหนังสือ เป็นต้น นักเรียนกลุ่มเจาะจง หมายถึงนักเรียนที่นำเสนอผลงาน หรือนักเรียนที่นำเสนอกิจกรรมการเรียนการสอนในห้องปฏิบัติการต่างๆ และ/หรือในแหล่งเรียนรู้ ดังนั้นนักเรียนโรงเรียนในฝันควรได้รับการดูแลทุกคน และสมำเสมอ เพราะเป็นการแสดงว่า ครูทุกคนได้ปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน จากเป็นผู้ส่งผ่านความรู้โดยเป็นผู้จัดการเรียนรู้ มีรายการพิจารณา ขั้นต่ำ 8 รายการ และสะท้อนว่าครูโรงเรียนในฝันมีความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของโครงการ มีรายการประเมินขั้นต่ำ อีก 6 รายการ
นอกจากนี้ยังสะท้อนการสนับสนุนด้านแหล่งเรียนรู้ การบริหารจัดการของโรงเรียนที่สอดคล้องกับแนวทางโรงเรียนในฝัน (อ่านรายละเอียดในคู่มือนะคะ)
สำหรับท่านที่สนใจเข้ามาอ่านการประเมินโรงเรียนในฝันให้ลองเปิดอ่านการประเมินต้นแบบโรงเรียนในฝันรุ่น 2นะคะ จะเห็นตัวอย่างเพิ่ม ดิฉันจะเล่าให้อ่านเรื่อยๆค่ะ
ขอความอนุเคราะห์แนะนำ การยิ้มไหว้ทักทาย ของนักเรียนที่ต้องการให้ผ่านการประเมิน ควรเป็นระดับใด
เครียดมากเลยค่ะ
ช่วยหน่อยได้ไหมค่ะโจทย์สถิติข้อนี้ทำไม่ได้เลย
ซิกม่าiเท่ากับ3ถึง5(Fiยกกำลัง2-Yiยกกำลัง2+Xi)เท่ากับเท่าไหร่ใครรู้ช่วยส่งคำตอบ
มาที่อีเมล์นี้ที [email protected]
นายขวัญใจ อุดมรัตน์
สวัสดีครับผมขวัญใจ อุดมรัตน์ผอ.โรงเรียนบ้านแกวิทยาคม(ในฝันรุ่น3)กลับจากประช่มที่เชียงใหม่เลยมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมครั้งแรก ขอบคุณที่ท่านได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาโรงเรียนในฝันสมกับชื่อตาสว่างจริงจริงผมนั่งอ่านสองสามรอบโดยเฉพาะแนวการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนในฝันเพื่อเตรียมรับการประเมินซึ่งจะส่งผลต่อผู้เรียนอย่างแท้จริง
ขอให้ท่านจงมีแต่ความสุขเป็นทีปรึกษาในการพัฒนาการศึกษาต่อไป
ขอบคุณครับ
ต้องขอขอบคุณท่านและต้องขออภัยที่ไม่ได้ตอบ ขอบคุณ คุณขวัญใจ ที่ให้กำลังใจ ติดตามต่อนะคะ
ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำดีๆจากท่านดร.ชัดเจนค่ะ