สมศักดิ์ สินธุระเวชญ์ (2540 : 3) กล่าวว่าการประกันคุณภาพการศึกษา ทำให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับประโยชน์ ดังนี้ |
1. | ผู้เรียนจะมีความรู้ ความสามารถ และมีคุณลักษณะต่าง ๆ ครบตามความคาดหวังของหลักสูตร |
2. | ประชาชน จะเกิดความมั่นใจในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนในสถานศึกษาต่าง ๆ ว่าแต่ละแห่งมีคุณภาพการศึกษาในมาตรฐานกลางเดียวกัน |
3. | หน่วยงานต่าง ๆ สามารถผู้สำเร็จการศึกษาเข้าทำงานด้วยความมั่นใจ |
4. | สังคม มั่นใจในการจัดการศึกษาของสถาบันการศึกษา |
5. | สถานศึกษา มีทิศทางการจัดการศึกษาที่ชัดเจนตามมาตรฐานกลางที่กำหนด มีระบบบริหารคุณภาพ ระบบควบคุมคุณภาพ มีการทำงานที่เป็นมาตรฐาน ทำงานเป็นทีม และมีการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง |
กรณีศึกษา: การประเมินคุณภาพการศึกษา |
เสนอความเห็นว่าในเชิงที่ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าใดนัก ต่อการประกันคุณภาพการศึกษาแบบประเมินสถาบันทั้งองค์รวมในออสเตรเลีย เขากล่าวว่ามหาวิทยาลัยต้องการทราบว่าในปี 1995 รัฐบาลต้องการประเมินสิ่งใดระหว่าง |
1. | คุณภาพของมหาวิทยาลัย หรือ |
2. | คุณภาพของงานเขียนที่รัฐบาลกำหนดให้ส่ง คุณภาพที่แท้จริงอาจจะยังค้นหาไม่พบ สิ่งที่พบอาจจะเป็นเพียงคุณภาพของการนำเสนอข้อมูล เท่านั้น |
การประกันคุณภาพการศึกษาในประเทศออสเตรเลีย
ซึ่งเป็นเหมือนกับการตรวจสอบประสิทธิภาพ |
รัฐบาลตั้งคณะกรรมการประกันคุณภาพการอุดมศึกษา (Committee for Quality Assurance in Higher Education: CQAHE) เพื่อดำเนินการประเมินคุณภาพ และเสนอความเห็นต่อรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณ ถึงแม้จะมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับธรรมชาติของกระบวนการประเมินคุณภาพที่จะนำมาใช้ แต่ท้ายที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า การประเมินคุณภาพควรจะต้องทำในบริบทของภารกิจของสถาบัน และใช้การประเมินตนเอง (Self-Assessment) เพื่อทราบระดับความมีประสิทธิภาพในการประกันคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัย ผลลัพธ์ที่ได้จากมหาวิทยาลัยก็ถูกตรวจสอบด้วยเช่นกัน มีการใช้แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) เพื่อตอบคำถามต่อไปนี้ |
|
การตรวจสอบคุณภาพแบบมององค์การทั้งองค์รวม เพื่อที่จะประกันคุณภาพการศึกษานั้น เป็นวิธีการวัดที่มีความคลุมเครือเกินไป กระบวนการประเมินแบบนี้ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความไม่กระจ่างชัด และวิธีการไม่ชัดเจนหรือมีน้ำหนักเพียงพอที่จะโต้แย้งคำวิพากษ์วิจารณ์ได้ การประเมินแบบนี้ไม่ใช่กระบวนการที่จะนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพ ที่ต่อเนื่องและพัฒนาวัฒนธรรมการประกันคุณภาพในมหาวิทยาลัย |
กระบวนประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัยไม่มีความเที่ยงตรง มหาวิทยาลัยที่มีผลการประเมินสูงมักจะได้รับงบประมาณมาก ในขณะที่มหาวิทยาลัยที่มีผลการประเมินต่ำต้องอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ |
มหาวิทยาลัยควรมีเสรีภาพในการกำหนดภารกิจของตน รัฐบาลควรรับผิดชอบที่จะกำกับในระดับชาติ ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยควรได้รับอนุญาตให้ประเมินตนเอง ผลการประเมินของกลุ่มมหาวิทยาลัยประเภทเดียวกันมักเข้าข้างกันเอง เพราะหากแสดงความแตกต่างอาจไม่ใช่ความฉลาด ถ้าหากมหาวิทยาลัยเหล่านั้นต้องการงบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งการจัดอันดับมหาวิทยาลัยเพื่อคำนวณส่วนแบ่งงบประมาณเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เพราะเป็นการสร้างลำดับชั้นทางสังคม (Public Rank Ordering) ซึ่งมีผล (และจะมีผลต่อไป) ต่อชื่อเสียงเกียรติคุณของมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับต่ำ หากการจัดอันดับยังจำเป็นต่อการทำงานของคณะกรรมการ ก็ควรจัดอันดับโดยการจำแนกประเภทและเปรียบเทียบสิ่งที่เหมือนกันเท่านั้น แต่ด้วย เหตุผลนานาประการ รวมทั้งความต้องการที่จะขจัดอิทธิพลทางการเมืองออกจากกระบวนการประเมิน Massaro เห็นด้วยกับวิธีการประเมินแบบใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐาน การให้มหาวิทยาลัยผลัดกันประเมินกันเองภายในกลุ่ม (Peer Review Programs) แต่ประเมินระดับโปรแกรม หรือสาขาวิชาเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งองค์รวมหรือทั้งมหาวิทยาลัยเช่นที่ทำอยู่ในเวลานี้ |
กล่าวโดยสรุป การประกันคุณภาพการศึกษา เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เกี่ยวข้องกับการศึกษาว่า จะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด และเป็นแนวทางการดำเนินงานของสถาบันการศึกษาอีกด้วย วิธีการประกันคุณภาพที่ใช้กันอยู่สามารถจำแนกได้ ๓ แบบ คือ |
1. | แบบภาคพื้นยุโรปที่เน้นการประกันคุณภาพโดยภาคราชการดูแลอย่างใกล้ชิด |
2. | แบบอังกฤษ ที่มีองค์กรอิสระคอยตรวจสอบคุณภาพ และ |
3. | แบบอเมริกันซึ่งควบคุมคุณภาพโดยระบบการรับรองวิทยฐานะ และการอนุญาตออกใบประกอบวิชาชีพ |
สำหรับประเทศในแถบเอเชียและแปซิฟิคได้นำแนวทางของทั้ง 3 กลุ่มมาปรับใช้แตกต่างกันออกไปตามบริบทของแต่ละประเทศ |
การประกันคุณภาพที่เหมาะสม น่าจะเป็นการประกันที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงเกินไป เป็นวิธีที่อาจารย์และนักวิชาการยอมรับ และให้ความร่วมมือ ใช้ระเบียบวิธีการประเมินที่หลากหลายเช่น |
1. | การประเมินตนเอง |
2. | การวิเคราะห์สารสนเทศทางสถิติ |
3. | การสำรวจความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และ |
4. | การทดสอบความรู้ ทักษะ และความสามารถของผู้เรียน |
จากประสบการณ์การประกันคุณภาพการศึกษาของประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลีย น่าจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถสร้างระบบการประกันคุณภาพที่เหมาะสม และควรเป็นวิธีที่สถาบันการศึกษาสร้าง หรือประยุกต์ระบบการประกันคุณภาพด้วยตนเอง ผลักดันให้ประเมินผลการดำเนินงานตนเอง ตรวจสอบกันเองภายในกลุ่ม เพื่อที่จะไม่เป็นการสร้างความเครียดให้แก่สถาบัน ให้องค์กรอิสระมีส่วนร่วมในการประเมินที่ต้องอาศัยความเที่ยงตรงสูง และควรรายงานผลต่อภายนอกอย่างชัดเจนและมีความหมาย |
ไม่มีความเห็น