สวัสดีครับทุกท่าน
สบายดีกันไหมครับ วันก่อนนำเสนอเรื่องระบบการเช็คสภาพคลื่นทะเลจากทุ่น DART กันไปแล้วนะครับ หรือที่เรียกว่า Tsunameter ครับ
ภาพนี้ชวนทุกท่านวิดน้ำออกจากทะเล จนน้ำแห้ง เราก็จะได้ภาพดังนี้นะครับ (ว่าแต่ว่าจะวิดน้ำไปเก็บไว้ที่ไหนครับ อิๆๆ)
ปกติแล้วเรามีทุ่นเอาไว้เตือนภัย เพื่อให้เราวิ่งหนีกันแค่นั้น ไม่ได้มีทางออกว่าจะป้องกันคลื่นโจมตีชายฝั่งได้อย่างไร ทำได้แค่หนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น แต่ทางออกในการลดความแรงของคลื่นสึนามินั้นมีหลายๆ ทาง เช่น ปลูกต้นไม้บริเวณชายฝั่งเช่น ชายเลยปลูกโกงกาง หรือบริเวณทั่วไปที่มีต้นเตย ก็อาจจะช่วยได้ระดับหนึ่ง ทางญี่ปุ่นก็มีการสร้างสิ่งประดิษฐ์เช่นกำแพงกันคลื่น พร้อมวางแท่งปูนรูปแบบต่างๆเพื่อลดแรงต้านและให้คลื่นแตกกระจายเมื่อชนฝั่ง
วันนี้ผมมาลองมั่วๆ ดูนะครับ คือใช้หลักการเอาหินที่อยู่ในทะเลอยู่แล้ว ขอยืมพระธรรมชาติมาจัดเรียงใหม่ เพื่อจัดเรียงรอรับคลื่น นับว่าใช้ ธรรมชาติ(หิน) รอรับต้อนรับธรรมชาติ(สึนามิ) เพื่อป้องกันธรรมชาติ (ชายฝั่ง)
ลองคลิกเข้าไปดูได้จากที่นี่ครับผม สำหรับการจัดเรียงหินตัวอย่าง พร้อมการเคลื่อนที่ของคลื่นและชนก้อนหินในแบบต่างๆ และมีการจำลองสึนามิในส่วนท้ายของคลิปวีดีโอด้วยครับ เป็นเวลาประมาณ สิบนาที 16.6 Mb ครับ
http://www.schuai.net/TsunamiSim/index.html
และเวอร์ชั่นถัดมาจำลองมีก้อนหินที่อยู่ใต้น้ำ และโผล่พ้นน้ำ และชายหาดให้ด้วยครับ ผมลองเอาไปใส่ไว้ใน youtube ดังนี้ครับ
หากท่านได้แนวคิดในการเรียงหิน ลองวาดแล้วส่งมาได้ครับ
แนวคิดการเรียงหินนี่ มีคนเคยนำเสนอและโจมตีมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ผมก็อยากทำจำลองดู อยากน้อยเห็นรูปแบบการกระทบของคลื่นและการสะท้อนพร้อมการเลี้ยวเบนในรูปแบบต่างๆ จะทำให้เข้าใจคลื่นมากขึ้น อย่างน้อยทำให้เราเข้าใจก่อนจะสร้างอะไร นี่คือข้อดีของการทำ จำลอง Simulation
จากการทดลองนี้ หากจะนำไปใช้จริง ต้องศึกษาให้ดีก่อนครับ และมีข้อสังเกตดังนี้
ต่อไปเป็นตัวอย่างการสร้างเขื่อนกันคลื่น ที่ บริเวณ นาทับ จ.สงขลานะครับ ผลกระทบเกิดขึ้นอย่างไร ชาวบ้านในพื้นที่คงได้รับกันแน่นอนครับ ไม่มากก็น้อย ผมทำหน้าที่จำลองดูแนวทางของการโจมตีของคลื่นในวงของการจำลองเท่านั้นครับ ซึ่งคลื่นจริงอาจจะไม่รุนแรงอย่างนีครับ เพียงแต่มีการกัดกร่อนที่ชายฝั่งแน่นอนครับ มาดูภาพกันนะครับ
สำหรับกรณีต่อไป ผมได้ลองจำลองในบริเวณแหลมตาชีและบริเวณชายฝั่งปัตตานีในอ่าวปัตตานี และบริเวณพื้นที่งอกของ มอ.ปัตตานี เพราะเกิดการพัดพาจากตะกอนที่แหลมตาชีมากองในฝั่งของบริเวณ มอ.ปัตตานี และประกอบกับตะกอนที่ไหลมาจากแม่น้ำปัตตานี มาลงในอ่าวครับ มาดูบริเวณที่ว่ากันนะครับ
ท่านมีความเห็นในด้านใดๆ ก็ฝากและเสนอแนะไว้ได้นะครับผม
กราบขอบคุณมากครับผม
เม้งครับ
เม้ง สมพร
ช่วงเช้าๆผมโหลดตามที่เพื่อนส่งมาให้ใน MSN ปรากฏว่า มันโหลดได้ช้าครับ แต่โหลดแล้วก็เป็นภาพที่สวยดี สำหรับผมอาจมองไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่จินตนาการไปถึงคลื่นจริงๆในทะเล ที่ไม่ต่างกัน หากเราวสามารถคำนวณได้แม่นยำในการพุ่งเข้าหาฝั่งของคลื่น ผมคิดว่าเกิดประโยชน์มากกับประเทศของเรา
มาถึงเรื่อง "ไฟป่า" พี่ชาย (เสธฯปิยวุฒิ) ท่านได้โทรมาพูดคุยเหมือนกันครับ ผมเองไม่ทราบว่าต้องเก็บข้อมูลอะไรบ้างเพื่อวางแผนทำโปรแกรมดูไฟป่าเล็กๆ ตามที่ท่านตั้งใจ
ทราบว่า Thesis ใช้ทุนของ ADB.ด้วยครับ หากเราได้โปรแกรมที่คิดว่าน่าจะเกิดประโยชน์กับ กระบวนการป้องกันไฟป่า ในเนื้อหาส่วนหนึ่งเป็นเชิงสังคม ที่เน้นการมีส่วนร่วมของคนในการป้องกันไฟป่า
ผมให้ความเห็นไปว่า ทุกๆผลลัพธ์จากไฟป่านั้นเกิดจาก "คน" ทั้งหมดทั้งสิ้น ปัจจัยอื่นก็น้อยมากๆ ดังนั้นหากจะแก้ไขปัญหานี้ก็คงต้องมองที่ "คน" ก่อนอันดับแรก
เล่าสู่กันฟังครับ เพื่อนครับ
พักผ่อนบ้างนะ- - -สู้ๆ
ดีมากครับ
ผมว่าอาจต้องเรียงหินแนวยาวแนวนอนสลับกันให้มากกว่านี้เพื่อให้น้ำทะเลกระทบกันเองครับ
คลิกไปแล้ว โหลดช้าหน่อยค่ะ
สวัสดีครับทุกท่าน
ลองโหลดกันดูก่อนนะครับ แล้วมาลองวิจารณ์และแนะนำกันดูนะครับ ไม่แน่อาจจะได้แนวทางที่ดีร่วมกันครับ เป้าหมายที่เดียวกันครับ
ขอบพระคุณมากครับ
หวัดดีครับน้องบ่าว
คำแนะนำเพิ่มเติม หรือข้อสงสัย?
มีข้อขัดแย้งนะคะในกรณีของจะเอาหินมาวางได้ยังไง จะรับแรงกระแทกได้แค่ไหน จะกลายเป็นการซ้ำเติมด้วยหินหรือเปล่าในกรณีที่หินปลิวตามแรงคลื่นนะคะฯลฯ เพราะการวิจัยใดๆต้องมีข้อคำถามและแย้งเสมอ แต่ก็น่าสนใจ ถ้าสามารถตอบคำถามพื้นๆเหล่านี้ได้