วันนี้ขอนำเสนอ กล่องทิชชูประหลาด : งานสร้างสรรค์ดีๆ เล็กๆ น้อยๆ ของชาวบังกลาเทศ: The little innovative thing of Bangladeshi.
วันนี้เป็นวันศุกร์ (15 ก.พ. 2551) เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ของชาวบังกลาเทศ คนที่นี่จะหยุดกันวันศุกร์ และวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์จะไปทำงาน เหมือนกับเป็นวันจันทร์ของประเทศอื่นๆ ค่ะ สาเหตุที่หยุดวันศุกร์กันก็เนื่องจากว่า คนที่นับถือศาสนาอิสลามต้องไปมัสยิด ทุกวันศุกร์
ดังนั้น วันศุกร์ช่วงครึ่งวันเช้าไปจนเกือบบ่าย 2 โมง ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิด และถนนหนทางจะโล่ง การจราจรไม่ติดขัดเหมือนเช่นทุกวัน มีพี่ข้าราชการของสถานทูตฯ ท่านหนึ่ง ถึงกับกล่าวเชิงติดตลกว่า วันศุกร์เช้า นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขหรือ (Happy hour) ของพี่ท่านนี้ เพราะคนที่นี่ต้องไปมัสยิด ทำให้ถนนโล่ง พี่ท่านนี้ จะต้องรีบตื่นแต่เช้า ออกไปสำรวจ ถนน หนทาง และหากอยากไปเที่ยวที่ไหน ต้องรีบฉวยโอกาสทอง (ช่วง Happy hour) นี้ไว้
พอตกบ่ายๆ พี่ท่านนี้ก็จะกลับมาพักผ่อนที่บ้าน เพราะคนท้องถิ่นเริ่มออกมาข้างนอก ร้านค้า ก็เริ่มเปิดทำการตามปกติแล้ว ตามท้องถนน ผู้คนพากันเดินขวักไขว่ ราวกับมีงานมหกรรมอะไร รถติดยาวเป็นขบวน ยาวกว่าขบวนรถติดที่ สยามเมืองยิ้ม ของเราเสียอีก พร้อมกับจะได้ยินเสียงแตรรถที่ดังตลอดเวลา ไฟเขียว ไฟแดง ไม่เคยมีความหมายในสายตาของคนที่นี่ หากฉันจะไป ฉันก็จะไป ทางเอก ทางโท คืออะไร ฉันไม่รู้จัก
ฟังดูเหมือนเป็นสภาพที่เลวร้าย ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย แต่ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีสองด้านเสมอ มีมืด ก็ย่อมมีสว่าง มีขาวก็ต้องมีดำ ดังนั้น สิ่งที่เป็นอีกด้านหนึ่งของสภาพการณ์ดังที่กล่าวข้างต้นนี้ก็คือ ผู้คนที่นี่ไม่ค่อยทะเลาะกัน หรือมีเรื่องชกต่อยกันเพราะการขับรถชนกันเล็กๆ น้อย ๆ (ซึ่งเล็กๆ น้อยๆ ในที่นี้หมายถึง รถที่ถูกชนจะเป็น รอยสีถลอก เป็นแถบแหว่งๆ หรือรอยสีถลอกนั้น อาจจะเป็นของแถมที่มาพร้อมกับรอยบุบ เล็กๆ บุ๋มๆ เหมือนคนมีลักยิ้ม :) อะไรประมาณนั้น หน่ะค่ะ)
หากเป็นที่เมืองไทยแล้ว แค่ขับรถปาดหน้ากัน ก็ถึงกับจะยิงกันตาย แต่สำหรับคนที่นี่ การขับรถปาดหน้ากัน ถือเป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นทุกวินาที ขนาดสามีของแณณ ที่เพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ ครบสองเดือนวันที่ 16 ก.พ. 2551 นี้ เมื่อตอนหัวค่ำ ที่ออกไปทานข้าวข้างนอกกันมา ก็ยังขับรถแบบชาวบังกลาเด๊ช-ฉิ ได้อย่างคล่องแคล่ว จากที่อยู่เลนส์ซ้ายสุด คันแรกๆ แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าจะต้องเลี้ยวขวา ก็ยังสามารถปรับตัวได้ไวยิ่งกว่าจิ้งจก ขนาดชาวพื้นเมืองถึงกับต้องยกนิ้วให้ว่า คุณทำได้เนียนมาก มาอยู่ที่นี่ได้ไม่ทันไร ขับรถได้เสมอเหมือนกับเป็นชาวบังกลาเด๊ช-ฉิ มาตั้งแต่กำเนิดเลยทีเดียว นี่เป็นคุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่งของนักการทูตหรือนี่กระไร การปรับตัวให้ไว อืม...คงจะใช่กระมัง
วันนี้ทั้งวันเราสองคนจึงไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นในช่วง Happy hour กับพี่ท่านนั้น เนื่องจากวันนี้ ต้องดูแลและช่วยแม่บ้านที่มาทำความสะอาดบ้านให้เรา ซึ่งเธอจะมาทุก สอง หรือสามวัน หลังจาก แม่บ้านกลับไปแล้วในช่วงบ่าย เราสองคนจึงมีเวลาที่จะกระหนุงกระหนิงกันบ้างตามประสาคนรัก หลังจากทั้งสัปดาห์ที่สามีกลับบ้านมืด พอมาถึงสักพัก ทานข้าวเย็นเสร็จแล้ว (คนที่นี่ทานข้าวเย็นกันประมาณ 3 ทุ่ม) พี่แกก็จะหลับเลย ไม่สนใจว่าภรรยาอยากจะเล่นด้วย คุยด้วย หรืออยากจะดูหนังด้วยกันบ้าง ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภรรยาต้องมาเป็นนักเขียนเรื่องเล่าตามเว็บ แก้เหงา ดังเช่น ณ บัดนาว แต่เราก็มีความสุขและรู้สึกดีที่ได้ดูแลกันและกัน ได้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และสร้างครอบครัวเล็กๆ ของเรา ในประเทศนี้
เอาหล่ะค่ะ เข้าเรื่องเสียทีนะคะ ช่วงบ่าย เราก็นั่งเล่น อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังเพลง กันไป จู่ จู่ แณณที่กำลังพยายามหยิบทิชชูที่ใกล้หมดออกจากกล่องเพื่อมาใช้เช็ดน้ำหวานที่หกบนโต๊ะ ก็เหลือบไปเห็นว่า ใต้กล่องกระดาษทิชชูของที่นี่ ช่างมีสิ่งที่ creative เสียนี่กระไร เจ้าสิ่งที่ว่านี้ก็คือ..รู..ค่ะ รูสามเหลี่ยม ใต้กล่องกระดาษเล็กๆ สองรู ที่สามารถ ใช้นิ้ว จิ้มลงไปดันแผ่นกระดาษทิชชู ที่กำลังจะหมดอยู่รอมร่อ นั้น ให้เราหยิบขึ้นมาใช้ได้ง่ายและสะดวก
บางท่านที่อาจจะเคยเห็นกล่องกระดาษทิชชูที่เป็นแบบนี้แล้วก็อาจจะ งง ว่า คุณยายเชย นี่ จะตื่นเต้น อาราย กันนัก กันหนา แต่แณณ ไม่เค๊ย ไม่เคย เห็นกล่องกระดาษทิชชู แบบนี้ เลยค่ะ ไม่ว่าจะในเมืองไทย ในญี่ปุ่น หรือว่า ในอังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส ก็ตาม
สามีกับแณณก็พากันชี้ชวนกันดูอยู่พักใหญ่ ก็รู้สึกว่า อื้ม... คนประเทศนี้ก็คิดอะไรที่เป็น practical innovation ได้ดีนะ เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมาย แต่ดีมีประโยชน์และสามารถใช้งานได้จริง
ก็ยังคุยกันต่อไปอีกว่า เอ..อันที่จริง การคิดอะไรที่สามารถแก้ปัญหา เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้ น่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่นะ แต่...ทันใดนั้นเอง....แณณก็เหลือบไปเห็นใต้กล่องใกล้ๆ เจ้ารูสามเหลี่ยมนั่นหละค่ะ ว่า "Made in Bangladesh by Nissho Koeki Tissue Paper Co. Ltd."
เราก็เลยหัวเราะกันจนถึงบางอ้อ ค่ะ ว่า อืม... ที่แท้ก็ Made in Bangladesh by Japanese Company นี่เอง....นึกว่าอาราย หนูอุตส่าห์กำลังเชียร์พี่บังฯ อยู่เชียว
เอ..วัง.
แณณ ประณยา จองบุญวัฒนา 16 ก.พ.2551
สวัสดีค่ะน้องแณณ
ขอบคุณค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ รักและคิดถึงค่ะ
หน้าตาสวยกว่าลุงเอกเยอะเลย เรื่องก็น่าอ่านมาก จุดแข็งอยู่ตรงนี้เอง ชักอิจฉาแล้วนะ ฮิฮิ
ลุงเอกพูกฝรั่งเศสไม่ได้หรอกได้แต่เศษฝรั่งน่ะพอใหว
คุณครูพี่อ้อยคะ
คุณ Stardust คะ
คุณขจิตคะ
ลุงเอกขา
แณณ
เผลอแป๊ปเดียว น้องคนเก่งของเรา เป็นบล๊อคเกอร์ที่มีอนาคตแล้ว
ดีใจด้วยจริงๆ จ๊ะ
เราจะได้อ่านเรื่องดีๆ มุมมองดีๆ เพิ่มขึ้นอีก
ความรู้นี่ ยิ่งแลกเปลี่ยนยิ่งขยายตัวแพร่กระจายไปได้กว้างมากมาย
ขอบใจนะจ๊ะ
พี่พลเดชคะ