ทบทวนเรื่องเล่าที่เคยเกิดขึ้นในโรงพยาบาล เมื่อมีคนไร้รัฐไร้สัญชาติเข้ารับการรักษา
ในชุดโครงการวิจัย “A1” ได้เล่าเรื่องการที่คนไร้รัฐสักคนเข้าไปใช้บริการที่โรงพยาบาล โดยไม่มีหลักประกันสุขภาพของรัฐ ได้แก่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สวัสดิการรักษาพยาบาลสำหรับข้าราชการ และประกันสังคมสำหรับผู้ประกันตน ในขณะเดียวกันยังสะท้อนสถานการณ์ว่าโรงพยาบาล ปฏิบัติอย่างไรกับคนไร้รัฐ แรงงานข้ามชาติ ที่ไม่มีหลักประกันสุขภาพอย่างไรบ้าง เนื่องจากการทบทวนวรรณกรรมยังไม่พบกรณีศึกษาในประเด็นดังกล่าว จึงนำการสำรวจสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้น และบันทึกไว้ ในพื้นที่สื่อสาธารณะและชุมชนออนไลน์ต่างๆ เพื่อประมวลสิ่งที่เกิดขึ้นมาก่อนดำเนินการวิจัยครั้งนี้
อนึ่งแม้การกระทำนั้นจะเรียกโดยสรุปว่าเป็นการกระทำของ ”โรงพยาบาล” แต่ก็เป็นการกระทำของโรงพยาบาลในฐานะ “สถาบัน” ที่สะท้อนผ่านการกระทำของบุคลากรในแผนกต่างๆ ตั้งแต่แผนกลงทะเบียน คัดกรองอาการ แผนกการเงิน แผนกสังคมสงเคราะห์
กรณีศึกษา |
สถานะบุคคล |
การดำเนินการด้านการรับรักษา |
การดำเนินการด้านค่ารักษาพยาบาล |
ป้าจำเรียง (นามสมมติ) หญิงสูงอายุ อยู่ในชุมชนแออัด กรุงเทพฯ เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ครอบครัวและป้าเจรียงไม่มีเงินพอจะรักษาโดยเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด จึงหวังจะทำบัตรทองเพื่อรับการรักษา เพราะบุตรมีบัตรประชาชนไทยแต่ไม่สามารถทำบัตรประชาชนเพื่อทำบัตรทองได้ ป้าจำเรียงจึงตัดสินใจไม่ไปรักษา เพราะไม่มีเงิน ต่อมาไม่นานก็เสียชีวิต (มติชนรายวัน 09 กรกฎาคม พ.ศ. 2549) |
คนไทยไม่มีเอกสารพิสูจน์ตน |
โรงพยาบาล(รัฐ) ในกรุงเทพฯ ไม่รับรักษา ในระบบประกันสุขภาพ แจ้งว่าผู้ป่วยต้องออกค่ารักษาพยาบาลเอง |
ไม่ได้รักษา ต่อมาก็เสียชีวิต |
เด็กหญิงพลอย(นามสมมติ) มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ร่างกายไม่แข็งแรงมาแต่เกิด มารดาได้รับสัญชาติไทยหลังจากเด็กหญิงพลอยเกิด แต่เด็กหญิงพลอยไม่สามารถแปลงสัญชาติเป็นไทยตามมารดา ทำให้ขาดสิทธิในหลักประกันสุขภาพ โรงพยาบาลท้องถิ่นแจ้งว่าไม่สามารถรักษาได้ ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลที่เมืองใหญ่ ครอบครัวมีฐานะยากจนจึง ไม่สามารถรับการรักษาอย่างต่อเนื่องได้ หลังจากการต่อสู้เพื่อให้เด็กหญิพลอยได้สัญชาติตามมารดา และได้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เด็กหญิงพลอยเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งเดิม แต่รักษาได้สักระยะเด็ก หญิงพลอยก็เสียชีวิต http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=2&s_id=57&d_id=58) |
บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่มีข้อขัดแย้งทางทะเบียน ทำให้ถูกลงรายการเป็นคนต่างด้าว |
โรงพยาบาลท้องถิ่นในเชตคนต่างด้าวหนาเเน่น/ ชายแดน “ส่งต่อ” ให้ไปรักษา โรงพยาบาลในตัวเมือง ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ฯลฯ สูงกว่า |
เมื่อไปรักษาโรงพยาบาลในเมืองโดยไม่มีหลักประกันสุขภาพแต่ไม่สามารถจ่ายค่าบริการได้ มารดาจึงต้องทำหนังสือกู้ยืมเงินกับโรงพยาบาล ต่อมาเมื่อมีหลักประกันสุขภาพ ก็ใช้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกครั้งละ 30 บาท |
กรณีศึกษา |
สถานะบุคคล |
การดำเนินการด้านการรับรักษา |
การดำเนินการด้านค่ารักษาพยาบาล |
เด็กชายณุ (นามสมมติ) ติดตามครอบครัวซึ่งอพยพมาจากนอกประเทศไทยเป็นเวลานานแล้ว โดยทั้งครอบครัวไม่มีเอกสารพิสูจน์ตน อันจะแสดงตัวตนทางกฎหมายและรับรองสิทธิอยู่อาศัยชั่วคราวสำหรับคนต่างด้าว เด็กชายณุป่วยเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ ต้องผ่าตัด แต่ครอบครัวไม่มีเงินพอ หลังจากการผลักดันแข่งกับเวลาเพื่อให้ณุได้ผ่าตัด เจรจาได้รับการยกเว้นค่ารักษาพยาบาล และต่อรองให้ ณุไม่ต้องถูกส่งตัวไปที่ ต.ม. เพราะเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ไม่มีบัตรประจำตัวแสดงสิทธิในการได้รับผ่อนผันให้อาศัยชั่วคราวและออกมานอกพื้นที่ๆได้รับอนุญาต ณุกลับบ้านไป โดยครอบครัวไม่ต้องหมดเนื้อหมดตัวและเป็นหนี้เพราะค่าผ่าตัดไส้ติ่ง หรือต้องไปอยู่หลังลูกกรงของห้องกักในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ชลฤทัย แก้วรุ่งเรือง 2550 ) |
คนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ไม่มีเอกสารพิสูจน์ตน |
โรงพยาบาล(รัฐ)ในเขตปริมณฑลรับรักษา หลังจากโรงพยาบาลได้รับคำยืนยันจนแน่ใจว่าสามารถรักษาผู้ไม่มีเอกสารพิสูจน์ตน ซึ่งอาจถูกตีความว่าเป็น “คนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย” ได้ |
ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาลยินดีอนุเคราะห์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด |
โห.. ใจตรงกันเลย--จ๊อบ..
ทำตารางเหมือนกัน หน้าตาคล้ายแบบไม่คล้ายกันเท่าไร
เพิ่งลองทำตอนอ่านโกโมจากแก้ว เลยเอามาใช้เป็นเคสตัวทดสอบตารางอ่ะค่ะ
กรณีศึกษา |
ข้อเท็จจริงเบื้องต้น | สภาพปัญหา |
... | ||
โกโม | -แรงงานขึ้นทะเบียนตามมติครม. ปี | -ไม่สามารถใช้บัตร 30 บาทในกรณีฉุกเฉิน (ประสบอุบัติเหตุ)/ไม่ สามารถเข้าถึงหลักประกันสุขภาพได้อย่างแท้จริง |