ฉลาด


เพิ่อมความฉลาด

ใครที่รู้สึกว่าสมองอ่อนล้า  เฉื่อยชา  และความจำถดถอย  เรามีวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำให้กับสมอง  เพราะจากผลการวิจัยบอกว่ายิ่งทำได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อสมองของเรา


1.  บริหารสมองอยู่เสมอ
ยิ่งเราใช้สมองมากและบ่อยเท่าไหร่  เซลล์สมองจะยิ่งเจริญเติบโตมากขึ้นเท่านั้น  ซึ่งนั่นก็จะส่งผลให้ความสามารถในการจำดีขึ้นตามไปด้วย  วิธีบริหารสมอง  เช่น  การเล่นหมากฮอส  ต่อจิ๊กซอว์  หรือเล่นครอสเวิร์ดในเวลาว่าง

2.  กินยาเสริมความจำ
มีผลการวิจัยยืนยันว่าหลังจากการกินโสมในปริมาณ  400 มิลลิกรัมไปแล้ว  1 ชั่วโมง  จะทำให้ความสามารถในการจำดีขึ้นและส่งผลต่อไปอีกถึง  6 ชั่วโมง  แปะก๊วยก็มีการยืนยันว่าส่งผลดีต่อระบบความจำเหมือนกัน  เพราะจะไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในสมอง  นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในอเมริกาพบว่า  Vinpocetine  ที่สกัดได้ขากต้น  Periwinkle (ไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่มีดอกสีฟ้า  ใบเข้มเป็นมัน)  นั้นจะช่วยเพิ่มความจำและความจดจ่อในสิ่งที่กำลังทำอยู่ให้มากขึ้นได้

3.  กินผักและผลไม้สด
เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่สูงในผักและผลไม้สดจะไปทำลายอนุมูลอิสระซึ่งเกิดจากการสะสมเป็นเวลานอนของเนื้อเยื่อไขมันอันจะทำให้สมองอ่อนแอลง  และช่วยชะลออาการความจำถดถอยในผู้สูงอายุ  อาทิ  ผมไม้ที่มีสีแดง  ม่วง  และน้ำเงิน  โดยเฉพาะตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ  จะมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดที่มีความเข้มข้นสูงที่เรียกว่า  Anthocyanidin

4.  ลดปริมาณแอลกอฮอล์
เพราะจะส่งผลต่อการปลดปล่อยสาระสำคัญในสมองโดยจะไปขัดขวางความสามารถในการสร้างความจำใหม่ ๆ  โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นชื่อ  ตัวเลข  และเหตุการณ์ณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น  ยิ่งไปกว่านี้  ความสามารถในการระลึกเหตุการณ์ณ์หรือเรื่องราวเก่า ๆ  ในอดีตก็จะถูกบั่นทอนไปด้วย


5.  ออกกำลังกาย
ขณะที่ร่างกายของเราเคลื่อนไหวนั้นสมองจะได้รับเลือดมากเป็นพิเศษซึ่งนั่นหมายถึงว่าสมองจะได้รับกลูโคสและออกซิเจนมากขึ้นทำให้สมองแข็งแรงขึ้น  นอกจากนี้การออกกำลังกายยังไปเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นความจำของสารเคมีในสมองที่เรียกว่า Brain-Derived  Neurotrophic  Factor)  ให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย  แต่การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไปกลับไม่เกิดประโยชน์ต่อระบบความจำ

6.  จดบันทึกช่วยจำ
เพราะโดยธรรมชาติของสมองเรานั้นเมื่อจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งตรงหน้า  ความสามารถในการจดจำสิ่งอื่นก็จะลดลง  ฉะนั้นการย้ายข้อมูลจากสมองมาเก็บไว้ในสมุดบันทึกอย่างคอมพิวเตอร์  ปาล์ม  หรือโทรศัพท์มือถือ  ก็เหมือสเป็นการช่วยลดความหนาแน่นของข้อมูลหรือเพิ่มพื้นที่ว่างในสมองเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

7.  ทำสมาธิ
สมองของคนเรานั้นทำงานที่ความถี่หรือคลื่นสมองที่แตกต่างกัน  ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรากำลังทำหรือคิดอยู่  ภายใต้ความเครียดที่เกิดขึ้น  คลื่นเบต้าของสมองจะทำงานเร็วขึ้นซึ่งจะส่งผลให้สมองลืมสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น  ฉะนั้นเราควรคิดให้ช้าลง  โดยการทำสมาธิ  หลับตาลงช้าๆ  หายใจเข้าเบาๆ  ช้าๆ  โดยตั้งสติอยู่ที่ปลายจมูก  จากนั้นหายใจออกช้าๆ  โดยตั้งสติอยู่ที่ช่องจมูกทางขวา  จากนั้นหายใจเข้าอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้เวลาผ่อนลมหายใจออกให้ตั้งสติที่ช่องจมูกทางซ้าย  ทำเช่นนี้สลับกันประมาณ  10 นาที  ทุกวันรับรองว่าสมองตื้อๆ  ตันๆ  จะกลับมาโล่งโปร่งใสเหมือนเดิม

หมายเลขบันทึก: 164290เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2008 15:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
ยอดเยี่ยมมากครับที่นำของดีๆมาฝาก
ไม่มีรูป
1. ตาคม
เมื่อ ส. 09 ก.พ. 2551 @ 15:48
541946 [ลบ]

ยอดเยี่ยมมากครับที่นำของดีๆมาฝาก
 สวัสดีครับ
ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม

 สวัสดีค่ะครูดอย

         เพิ่มได้ด้วยเหรอคะ  ความฉลาดเนี่ย  เพิ่งรู้  เดี๋ยวต้องทำตามวิธีการ

แล้วล่ะเผื่อจะฉลาดเพิ่มขึ้นอีกสักนี้ดนึงเนอะ 

                                                                   Librarian

P 3. Librarian
เมื่อ จ. 11 ก.พ. 2551 @ 16:56

 

สวัสดีครับพี่  มีหนังสือ ดีๆอ่านรึปล่าวครับในช่วงปิดภาคเรียน

ถ้ามีก็บอกนะครับ

เป็นบันทึกที่ดีค่ะ

จะนำไปปฏิบัติดูค่ะ 

 

ขอบคุณครับ

ที่แวะเข้ามาอ่าน

และยินดีที่ได้รู้จักครับ

นักศึกษาฝึกงาน...ดูแลบล็อกค่ะ

ขอบคุณมากสำหรับบทความดีๆค่ะ แต่ถ้านำมาจากที่ใดก็ควรบอกแหล่งที่มาหรือแหล่งอ้างอิงของข้อมูลด้วยค่ะ....

ครับ ขอบคุณมากครับที่ให้คำแนะนำ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท