โยคะ บริหารสุขภาพกายใจ

         เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมาสำนักหอสมุด จัดให้มีกิจกรรม โยคะ เพื่อบริหารสุขภาพกายใจขึ้น โดยเชิญวิทยากรจากโรงพยาบาลพุทธชินราช อ. จินตนา ปาริวนิช (พี่ใหม่) นักกิจกรรมบำบัด 7 มาให้ความรู้และแนะนำวิธีการออกกำลังกายแบบโยคะ ให้พวกเรา คุณปริญดา เดชะฤกษ์ เป็นผู้ประสานงานทั้งหมด แต่เนื่องจากคนสนใจล้นหลาม จึงจัดให้มีการทำกิจกรรม 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เริ่มเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมาและกลุ่มนี้จะฝึกทุกวันศุกร์ เป็นเวลา 2 ชั่วโมงติอต่อกันไป 5 ครั้ง และชุดต่อไปจะมาเริ่มต่อในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ไปจนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2551

         ชุดแรก ประกอบด้วย อ. หนึ่ง (รองวิชาการ) พี่เนตรนภา พี่ดารณี ป้อม ปริญดา ผู้ประสานงาน น้องนาต ขนัญชิดา รัชวรรณ ขวัญ (ชาย) จรัญ (ผู้สร้างวีรกรรม ฮา) ดรีม สมัทรชา เอ็ด อนุรักษ์ สำอางค์ แก่น วรรณาภรณ์ (งานนี้นึกว่าน้องแก่นจะเล่า  วันนี้ไม่เห็นเลยต้องเล่าเอง) แดง ชลลดา และดิฉัน วันเพ็ญ เราเริ่มมาพบกันที่ห้องศูนย์เทปธรรมะ ท่านผู้หญิงมณรัตน์ บุนนาค เนื่องจากเป็นห้องที่ปูพรมไว้แล้วและสามารถจัดการกับสิ่งกีดขวางในห้องง่ายที่สุด เวลา 14.00 น. ตรง

         มีพิธีเปิดง่ายๆ ไปแล้วอย่างรวดเร็วโดย อ. หนึ่ง จากนั้นเราก็เริ่มเข้าสู่กิจกรรม เตรียมความพร้อม ด้วยการนอนหงานปล่อยกายใจตามสบาย ฝึกหายใจเข้าให้ท้องป่อง หายใจออกท้องแฟ่บ ดูอกยก อกแฟ่บไปแล้ว จากนั้นฝึกการผ่อนคลายแบบลึก เอาใจไปดูตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าไล่ขึ้นมาทุกส่วนจนถึงกระหม่อม ใช้เวลานานโข น่าจะสัก 20 นาที

         จากนั้นก็เริ่มจากท่าศพ และการวอร์มอัพให้ร่างกายพร้อมกับการออกกำลังกายแบบโยคะแล้ว ก็ฝึกท่าอาสนะต่างๆ เริ่มจาก ยกขาทีละข้างช้าๆ 30องศา 60 องศา 90 องศา โห ปวดขาน่าดู อาจารย์ใหม่ แนะนำว่า สำหรับคนที่ปวดหลังให้ระวังบางท่าด้วย แสดงว่า โยคะบางท่าก็ไม่เหมาะกับคนป่วยบางโรค จึงต้องมีอาจารย์มาคอยช่วยแนะนำ พอฝึกอาสนะไปท่า 2 ท่า อาจารย์ก็ให้พักใน ท่าศพ บ้าง ท่าจระเข้ บ้างพร้อมอธิบายว่า การฝึกโยคะ ใหม่ๆ ไม่ควรทำทีเดียวหลายๆ ท่าจะเหนื่อยมาก เห็นด้วยเลยค่ะ เหนื่อยและตึงมากๆ ฝึกกันไปเรื่อยๆ จนถึงเวลา 16.00 น. แบบไม่รู้ตัว นี่พึ่งฝึกอาสนะได้ไม่กี่ท่าเองนะคะ ก็หมดเวลาซะแล้ว อ้อ หลังจากฝึกท่าอาสนะต่างๆ แล้ว ต้องมาผ่อนคลายแบบลึกกันอีกรอบนึงก่อนแยกย้ายกันไป อาจารย์กำชับมาด้วยว่า ให้ไปฝึกที่บ้านด้วย เพื่อจะได้ต่อท่าอื่นๆ ได้เร็วขึ้นและควรหาโอกาสทำบางท่าในขณะทำงานแก้ปวดเมื่อยและยืดเส้นยืดสายได้ด้วย

         ผู้ประสานงานใจดีเตรียมขนม และ น้ำไว้เลี้ยง แต่อาจารย์ใหม่แนะนำว่า ทั้งก่อน (ประมาณ 2 ชั่วโมง) และ หลังเล่นโยคะ ไม่ควรทานอะไรนอกจากจิบน้ำ จนกว่าจะผ่านไประยะหนึ่งให้หายเหนื่อยก่อน

         สิ่งที่ได้จากการฝึกโยคะ ก็คือ ความปวดเมื่อยในวันถัดมาโดยเฉพาะ ขา และ หน้าท้อง และการฝึกสมาธิก่อนเริ่มเล่นที่ทำให้น้อง 2 คน หลับไปได้อย่างรวดเร็ว ส่วนจะเป็นใครนั้น ต้องถามไถ่กันเอาเอง ก็เด็กกำลังกินกำลังนอนมาให้นอนนิ่งๆ ไล่ความรู้สึกจากเท้าถึงกระหม่อม น้องเอ็ดบอกว่า "แค่ถึงเอวก็หลับซะแล้ว มีแอบกรนนิดหน่อยอีกต่างหาก" (ฮา)

          ส่วนภาพกิจกรรม ต้องรอช่างภาพ จัดการเลือกบางภาพมาให้ก่อนค่ะ จะเอามาให้ดูทีหลังนะคะ