สวัสดีครับberger0123
สวัสดีครับ naree suwan
สวัสดีครับคนรุ่นเก่าพัฒนา
สวัสดีครับ ไม่แสดงตน
สวัสดีค่ะ
แวะมาเก็บเกี่ยวความรู้ที่ดีๆค่ะ
สวัสดีครับ MSU-KM :panatung
กระผมแปลกใจครับ ชุมชนท้องถิ่น ทุกๆ คน มีขีดจำกัดของความสามารถ ความดี ความเก่งกันทุกคน ตามความเป็นจริงของเขา ซึ่งไม่เท่ากัน และไม่เหมือนกันเลย ขออนุญาตนำบทความตอนนี้มานะครับ ถูกใจตรงๆ ดีมากครับ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การพัฒนาหรือการส่งเสริม ควรเน้นและศึกษาถึง "ศักยภาพ" ของชุมชนว่าเขามี "ศักยภาพ" ด้านใดแล้วก็พัฒนาหรือส่งเสริมแบบจริงๆ ด้านนั้น ไม่ใช่เอาแต่ทุน "เงิน" ไปถิ่มไห้... แล้วหาผลประโยชน์จากชุมชนเหมือนนักการเมืองบางคนบางพรรค เสร็จแล้วก็กากระบาลใส่ร้ายชุมชนว่าเป็นคนโง "ขายเสียง" เยอะที่สุดก็อีสานนี้แหละครับ
ถ้าจะเอาทุนคือ "เงิน" มาลงทุนกันจริงๆ ผมคิดว่า น่าจะเลือกสรรหาบุคคลในชุมชนทุกหมู่บ้านในประเทศไทย หมู่บ้านละ 1 คน มีทุนให้ศึกษาเรียนต่อในระดับ ปริญญาตรี เช่น ทุน กรอ. (ที่ผูกติดกับร้ายได้) เหมือนอย่างที่ โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต ทำอยู่ปัจจุบันนี้ เรียนจบก็ตั้งองค์กรเล็กๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการจริงของคนในชุมชน และอยู่ในชุมชนจริงๆ แล้วก็ตั้งเงินเดือนให้เขา เงินเดือนนั้นก็จะหมุนเวียนไปส่งคืนทุน กรอ. ดีกว่าเอาเงินไปแจกฟรีๆ แล้วก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นมา (ปัจจุบันทุน กรอ. ยุบแล้วครับ)
เมื่อวานนี้กระผมก็ได้รับเงินจากนักการเมือง 100 บาท ช่วงนี้ทางจังหวัดมหาสารคาม เลือกตั้ง อบจ.ได้รับกับมือตัวเองถึงพูดได้ไม่ใช่แค่พูดพร่อยๆ นะครับ มีหลักฐานเก็บไว้อย่างดี
เล่นอีแบบนี้ อาจารย์อนงค์ จะกล้าเก็บเกี่ยวด้วยหรือเปล่าครับ โตไผโตมันเด้อ คริ คริ...
สวัสดีครับ Sasinanda
กระผมขอทำความเข้าใจก่อนนะครับ เดิมแรกกระผมเขียนบันทึกอยู่ที่บล็อกของ " เม็กดำ กลุ่ม 9 นาดูน" ก็ได้เขียนพูดคุยกับคุณศศินนท์ บ้างเป็นบางครั้ง และมีช่วงหน่ึง g2k กำลังฮิต "คิดถึง" ประกอบกับกระผมสมัครบล็อกเป็นของตนเองได้สำเร็จ ก็เลยมานั่งตรึกตรองดูว่าเรามีคนคิดถึงไหม และจะทำอย่างไรให้คนที่เราคิดถึงรู้จัก เลยไปเขียนต่อท้ายเม็กดำกลุ่ม 9 นาดูน ที่บล็อกคำถาม-ตอบ นั้นแหละครับ คิคิ
หวังว่าคุณศศินนท์ คงไม่รังเกียดคนบ้านนอกอย่างกระผมนะครับ และกระผมจะพยายามค้นหาความสามารถที่มีแฝงอยู่ในตัวออกมา เพื่อความใฝ่ฝันและจุดสูงสุดของชีวิตครับ
กระผมรู้สึกภาคภูมิใจครับที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับทุกๆ ท่านใน g2k แห่งนี้และยังคิดอีกว่าทุกท่านเป็น"ครู" ซึ่งไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะเป็นไปได้ที่คนระดับฐานล่างเช่นกระผม ซึ่งมีอาชีพเดินดินขายกาแฟ,นมเย็น ฯลฯ ถุงล่ะ 10 บาท จะมีคนระดับดอกเตอร์หรือคนที่มีฐานันดรสูงกว่ามาพูดคุยดูเป็นกันเอง กระผมจะจดจำและสำนึกในมิตรไมตรีดีๆ นี้ไว้ในใจเสมอครับ
ขอขอบพระคุณ คุณศศินนท์ และทุกๆ ท่านใน g2k ครับ
รอศักยภาพแบบคนเดินดิน เมื่อไหร่จะจบหนอ จบแล้วแข่งกันไหม ว่าความดี สามารถเป็นตัวแทนชาวบ้านได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ระหว่างความคิดบุคคลรุ่นเก่าและความคิดบุคคลรุ่นใหม่ แบบมีเหตุผล ก็คงจะต้องอาศัยนักศึกษา คนหลายวัยในมหาวิทยาลัยชีวิต อีกปีเดียวก็จบแล้ว เข้ามาช่วยแก้ปัญหา เพราะรู้เรื่องวิถีชีวิต และความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริงและนักศึกษาแต่ละคนก็มาจากท้องถิ่นของตนจริงๆ ถ้าให้โอกาศนักศึกษาแต่ละคนในท้องถิ่น ได้ให้เขามีโอกาศได้ดูแลท้องถิ่นของตน ตามที่ได้เรียนรู้ จุดอ่อน จุดแช็ง วิเคราะห์ วิจัยเป็น แม้แต่การเขียนโครงการก็ได้ฝึกอย่างถูกต้อง เก่งหลายอย่างแล้ว แต่จะมาสร้างประสบการณ์ที่ดี จากการเป็นตัวแทนชาวบ้าน โดยไม่ต้องใช้เงิน ก็คงจะได้พิสูจน์จากนักศึกษารุ่นบุกเบิกนี้กันหละ ผู้ว่าทางพยัคภูมิพิสัย ก็ให้เป็นคนเดินดินเป็น ส่วนผู้ว่าทางกระนวน ก้ให้ว่าที่บัณฑิตเป็น ขอเสียงตบมือหน่อย เก่งทั้งสองผู้ว่าเลยคะ (ว่าไปเถอะ) ฮิ ฮิ ขำจัง อ่านหนังสือมากเพี้ยนแล้ว พักสมองเลยแวะเข้ามาว่า
ขอให้โชคดีในการสอบนะคะ ผู้ว่า พยัคภูมิ
ผู้ชอบว่าพยัคภูมิ เป็นไงเข้าสนามรบจริงๆ ใน2วันนี้ การเรียนในห้องยังมีผิดแก้ตัวใหม่ได้ แต่สนามรบครั้งนี้ ถ้าผิดเป้าหมายตนเอง ไม่มีโอกาสแก้ไข หรือแก้ตัว ว่าตามครูกิ่งนะ เป็นเรื่องเดียวกัน หรือคนละเรื่องเดียวกันน้อ
สวัสดีครับ คนรุ่นเก่าพัฒนา ว่าที่บัณฑิต
มีอยู่ช่วงหนึ่งครับ ที่มีการรณรงค์การซื้อสิทธิ์ขายเสียง เป็นเรื่องผิดกฎหมาย รู้สึกจะเป็นช่วงเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ผ่านมานี้เอง เปิดทีวีช่องไหนก็มักจะเห็นข่าวเกี่ยวกับการรณรงค์กันทั้งนั้น การเลือกตั้งจบลงการรณรงค์ก็จบตามไปด้วย การซื้อสิทธ์ขายเสียงหรือการทุจริตการเลือกตั้ง เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมไทยมาช้านานแล้ว และก็เป็นเรื่องผิดหมายเลือกตั้งด้วย แม้ว่าปัจจุบันกลวิธีการทุจริตการเลือกตั้งจะมีหลากหลายรูปแบบหลากหลายวิธีการพูดง่ายๆ คือ มีการพัฒนาวิธีการไปก้าวหน้ามากแต่หากถูกจับได้มีโทษไม่น้อยเหมือนกัน
สำหรับบทลงโทษของการสุจริตของผู้ ซื้อสิทธิ์ขายเสียง จะถูกจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งถึง 10 ปี
เป็นเช่นนี้ประชาชนทั่วไปก็เลยเกิดความกลัว เพราะว่ามันผิดกฎหมายทั้งคนที่ซื้อสิทธิ์และคนที่ขายเสียง แน้นอนคนขายเสียงย่อมเป็นประชาชน เลยทำให้เกิดความกลัวเหมือนเต่าหดอยู่ในกระดอง กลัวว่าจะผิดหรือติดคุกเลยไม่กล้าออกมาพูดหรือเปิดเผยความจริง
ผมคิดว่าน่าจะมีมาตรการความร่วมมือแบบจริงใจไม่เอาจิงโจ้ระหว่างภาครัฐกับประชาชน ทำกันจริงๆ และเปลี่ยนคำรณรงค์ใหม่ว่า
รัฐต้องพิจารณาด้วยว่าหลักฐานนั้นเป็นจริงหรือเป็นการกลั่นแกล้งกัน เพื่อไม่ให้เป็นการกลั่นแกล้่ง ประชาชนต้องหาหลักฐานที่มีน้ำหนักสักหน่อย เช่น หัวคะแนนนำเงินมาให้ก็ให้เขาเขียนชื่อและเบอร์ของผู้สมัครคนนั้นให้ด้วย (ต้องหาอุบายหลอกว่ากลัวจำชื่อและเบอร์ไม่ได้) หลักฐานถึงจะมีน้ำหนักน่าเชื้อถือ
สิ่งที่สำคัญ คือ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและประชาชน ไม่ใช่ภาครัฐและกลุ่มอำนาจต่างๆ ทางการเมือง
ส่วนประเด็นผู้ว่าหรือผู้ชอบว่านั้นค่อยพูดกันอีกที่ครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับครูกิ่ง
สวัสดีครับ คนรุ่นเก่าพัฒนา ว่าที่บัณฑิต
ต้องขอโทษพี่เล็กด้วนนะครับที่ตอบช้า เพราะกระผมมีข้อกำจัดในเรื่องของเวลาในการเข้าเล่นอินเทอร์เน็ต ใช่ระบบมือถือ GPRS คือ เดือนหนึ่งเล่นได้ 50 ชั่วโมง หรือ 3,000 นาที คิดเป็นวันก็ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน (เดือนละ 200 บาท) ต้องใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุดครับ
กระผมก็ยังต้องเคลียงานที่ยังข้างอยู่ให้แล้วเสร็จก่อนสอบปรายภาค วันสองวันนี้ก็ยังคงยุ้งๆ ลุยงานกับท่านรักชาติอีกเหมือนเดิมครับ ทางกระนวนสอบเสร็จแล้วก็สบายใจขึ้นนะครับ
ขอบคุณครับ