น้ำอ้อม


สิ่งเหล่านี้ คือ คุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในตัวบุคคล ของชุมชนบ้านน้ำอ้อม ที่พร้อมจะพัฒนาควบคู่ไปกับนโยบายของรัฐที่สอดคล้องกับความต้องการจริงของชุมชนในท้องถิ่น

 

         

         

    

     ตอเฟืองเรียงส่ายหลายไปมาตามกระแสลม ซึ่งกระหน่ำลงท้องนาปลายเดือนสอง ย่างเข้าสู่เดือนสามต้อนรับฤดูร้อยที่กำลังจะมาถึง บางตอยังตั้งชูทรงตัวไม่ล้ม บางตอก็คะมำต้นลงกับพื้นดินผสานกับบวกควายแห่งๆ (บวกควาย-แหล่งน้ำที่พักผ่อนของควาย) มองริบหรี่ออกไปต้นไม้น้อยใหญ่ยืนหยัดเก้งก้างสลับลับล่อบังตอเฟืองห่างๆ (ตอเฟือง-ตันข้าวที่นวดเอาเมล็ดออกแล้ว,ฟางข้าวก็เรียก) ฝูงควายแหงนคอดูฟากฟ้าพร้อมกับเสียงโหยหวน งอ...งอ... อ่อนกำลังด้วยความหิว งอแงเหมือนเด็กขี้อ้อน รวนเร ไม่รู้จะไปทางไหน...มันกว้างและกันดารจริงๆ ท้องนาที่บรรพบุรุษขุดปั้นคันนา (แนวดินที่พูนขึ้นสำหรับกั้นน้ำ) ด้วยมือกำยำทั้งสองข้างหนาๆ หยาบๆ กลายเป็นเอกลักษณ์ลูกผู้ชายลูกข้าวเหนียวตัวจริง "ต้องมือหนามือหยาบ" และเป็นที่หมายปองของแม่เฒ่า (คุณแม่ของภริยา,เมีย)

     แสงตะวันร้อนระอุชูเปลวเล่น เยื้องกรายลีลาศเสมือนนางน้อยเมขลาร่ายรำลงมาจากฟากฟ้าโอบอุ้มพระมหาชนก กลิ่นอายของบรรยากาศท้องนาอัตคัดความแห้งแล้งเริ่มต้นเข้ามาเยือน แสงแดดคลุกเคล้าท้องนา,ตอเฟือง,ต้นไม้,และควาย ขยำให้เข้ากันกลมเกลียว พร้อมเพรียงเป็นที่พึ่งของกันและกันได้ตลอดช่วงมรสุมจะผ่านพ้นไป

     น้ำอ้อม เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ในการปกครองของ ต.เมืองเตา อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ห่างจากตัวอำเภอฯ ประมาณ 30 กิโลเมตร ประชากรของหมู่บ้านทั้งหมด 310 คน 62 ครัวเรือน เป็นชาย 161 คน เป็นหญิง 149 คน

     โดยมีนายปาน,นายชม,นางอ๊อก เพชรจันทร์ และนายทร,นางอุ่ม พะมุลิลา สองสามีภริยาเป็นผู้มาตั้งบ้านน้ำอ้อม เดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์ เข้ามาอยู่ที่เนินสูงหรือโนนสูง มีหนองน้ำล้อมรอบ สมัยนั้น อาจมีช่างปั้นดินเผาเพราะว่าเห็นเศษกระเบื่อง เช่น หม้อ,ครก,สาก เมื่อปี พ.ศ. 2415 ทางการจึงตั้งชื่อให้ว่าบ้านน้ำอ้อม เมื่อปี พ.ศ. 2415 ปัจจุบัน นายวิรัตน์ จันทร์สิงห์ เป็นผู้ใหญ่บ้าน

     เมื่อวันที่ 27 ม.ค 2551 ที่ผ่านมา คณะ นักศึกษาฯ ในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต และ ดร.ศักดิ์พงศ์ หอมหวล พร้อมด้วยทีมอาจารย์โรงเรียนบ้านเม็กดำ หัวหอกนำพานักเรียนหลายวัยๆ พุ่งตรงสู่หมู่บ้านโนนจาน ต.เมืองเตา อ.พยัคฆ์ฯ จ.มหาสารคาม ซึ่งปัจจัยสำคัญที่มาในครั้งนี้ คือ

  1. หักด้ามชน คือ ตาต่อตา ปากต่อปาก เรียนให้มันเห็นจริงรู้จริงและทำเป็น

  2. หมูไปไก่มา คือ แสดงน้ำใจไมตรีตอบแทนกันและกัน

     ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และอาจารย์โรงเรียนบ้านโนนจาน จัดต้อนรับแบ่งฐานเรียนรู้ออกเป็น 5 ฐาน ซึ่งกระผมผู้เขียนได้ไปเรียนรู้อยู่ที่ฐาน 5 คือ บ้านน้ำอ้อม ห่างจาก บ้านโนนจาน ประมาณ 2 กิโลเมตร ฐานเรียนรู้แห่งนี้ มีการรวมตัวกันจัดกลุ่มทำเกษตรแบบสวนผสมผสาน ในพื้นที่เล็กๆ ประมาณ 3 ไร่ มีการเพาะปลูกผักปลอดสารพิษ เลี้ยงสัตว์ฯ มีบ่อเลี้ยงปลา และโรงสีข้าว

     สิ่งที่กระผมสนใจ คือ ศักยภาพ ของท้องถิ่นที่อยู่ในชุมชนบ้านน้ำอ้อม อาจนำมาพัฒนาให้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ก็ได้ ทีมของเราจึงแยกและวิเคราะห์ชาวบ้านออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มผู้ใหญ่และกลุ่มเยาวชน จากการสำรวจพบว่า

  • กลุ่มผู้ใหญ่ พฤติกรรมเกี่ยวกับสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน,ชอบการเป็นอยู่อย่างเกื้อกูลธรรมชาติ,ช่วยกิจกรรมศาสนาเป็นประจำ

  • กลุ่มเยาวชน พฤติกรรมเกี่ยวกับจิตวิญญาณ เช่น เชื่อว่าการกระทำดีต้องใช้ความอดทน,ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของศาสนิกชนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ

     สิ่งเหล่านี้ คือ คุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในตัวบุคคล ของชุมชนบ้านน้ำอ้อม ที่พร้อมจะพัฒนาควบคู่ไปกับนโยบายของรัฐที่สอดคล้องกับความต้องการจริงของชุมชนในท้องถิ่น 

     ขากลับพวกเรารวมตัวกันที่ศาลาวัดบ้านโนนจาน และรวบรวมปัจจัยเป็นเงินทั้งสิ่น 13,923 บาท แบ่งเป็นสองกองทุน ถวายทำบุญทะนุบำรุงศาสนา 2,000 บาท มอบให้โรงเรียนบ้านโนนจาน (ไฟไหม้อาคารเรียน) สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เป็นเงิน 11,923 บาท เราภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ โรงเรียนบ้านเม็กดำ ครับ

 

Pic_0005

 

Pic_0004

 

Pic_0037

 

Pic_0079

 

%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%ad%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1

 

Pic_0112

 

Pic_0137

 

Pic_0151

 

Pic_0123

 

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบันทักนี้ครับ

 

     

หมายเลขบันทึก: 161895เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2008 15:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)
สวัสดีค่ะ คนเดินดิน ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ g2k

สวัสดีครับberger0123

  • กำลังเขียนบันทึกอยู่พอดีครับ
  • ขอบคุณครับ
  • แวะมาอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
  • ดีใจที่เห็นเขียนบันทึกใหม่แล้ว
  • กิจกรรมดีๆแบบนี้น่าส่งเสริมและสนับสนุนนะคะ

สวัสดีครับ naree suwan

  • บุญนั้นย่อมส่งถึงผู้อนุโมทนาบุญครับ
  • วันนี้ทำรายงานเยอะและก็เขียนบันทึกเลยเบอร์ๆครับ
  • เขียนผิดเขียนถูกต้องแก้ไขอยู่เรื่อยๆ
  • ขอบคุณครับ 
  • Pic_0123
  • โอ้ยเหนื่อยแทน ไม่อ่านหนังสือสอบหรือไง กิจกรรมมีทุกวันเลยหรือคะ  คนดี ....ของสังคม  เขียนได้ดีมากเลยนะ  ตาต่อตา  ปากต่อปาก  ไม่มีฟันต่อฟันเหรอ  จะสอบแล้วแวะเข้ามาเยี่ยม
  • ได้ตารางสอบแล้วยัง  คิดว่าได้แล้วนะ
  • ถ้ายังไม่ได้จะบอกเกริ่นๆเอาไว้ วันที่ 2 กพ.  มนุษย์กับการพัฒนาตน     สุขภาพวิถีชุมชน   ทักษะภาษาอังกฤษ
  • วันที่ 3 กพ. สุขอนามัยชุมชน   เทคโนโลยี  วิจัยสังคม
  • วิชาละชั่วโมงกว่าๆ  เริ่มสอบ  8.30 น.คะ
  • คงเป็นกำลังใจให้กันและกันเช่นเคยนะคะ
  • สอบเสร็จแล้ว  ว่างจะเข้ามาอ่านใหม่  ระยะนี้เว้นวรรคก่อนคะ
  • อาจารย์ศักดิ์พงษ์หอมหวล  คุณนารีสุวรรณ  หญ้าบัวไม่ได้ข่าวเลยพลทหารรักชาติเป็นอย่างไร  สอบให้ได้นะคะ
  • ขอให้รุ่งเรือง สมกับความหมายของดอกดาวเรือง ทุกๆท่านที่อ่านนะคะ  เป็นกำลังใจให้เจ้าของบล็อคคะ บ๋ายบาย อ่านหนังสือก่อน
  • มีคุณสุนัข  มาร่วมกิจกรรมด้วยหรือคะ มีเรื่องวิจัยคนแล้ว  แล้วมีวิจัยสุนัขด้วยไหมคะ ดูเขาสนอกสนใจยิงกว่ามนุษย์อีก พากันจดๆ  จดอะไรกันน้อ  เป็นนักศึกษาหรือชาวบ้าน มีคนหลายวัยจริงๆด้วย  จดอะไรกันน้อ  คนก็ได้แต่จดๆ  สุนัขก้ได้แต่จ้องๆ  มันคงคิดเหมือนกัน  ทำอะไรกันน้อ  ไม่เห็นมีใครสนใจฉันเลย ฉันคิดอยากเป็นคน  คิดผิดหรือเปล่าน้อ  โฮ่ง  แฮ๋ๆๆ

สวัสดีครับคนรุ่นเก่าพัฒนา

  • ถ้ามีฟันต่อฟันด้วยกลัวว่าจะนัวเนียพัลวันกันยุ่งๆ นะสิครับ คริ คริ...
  • วันนี้ก็คงงกๆ เงิ่นๆ ทำรายงานกับท่านรักชาติทั้งวันแหละครับ
  • ขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจที่ดีตลอดมา

สวัสดีครับ ไม่แสดงตน 

  • ภาพนี้ โฮ่ง ขอเป็นพระเอกล่ะกัน
  • และพิสูจน์ถ้าด้วยใครตั้งใจเรียนมากกว่ากัน คิคิ...
  • เป็นความน่ารักของสุนัขตัวหนึ่งที่หาญกล้าี่คิดนอกกรอบแบบ โฮ่ง โฮ่ง...
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

แวะมาเก็บเกี่ยวความรู้ที่ดีๆค่ะ

สวัสดีครับ MSU-KM :panatung

กระผมแปลกใจครับ ชุมชนท้องถิ่น ทุกๆ คน มีขีดจำกัดของความสามารถ ความดี ความเก่งกันทุกคน ตามความเป็นจริงของเขา ซึ่งไม่เท่ากัน และไม่เหมือนกันเลย ขออนุญาตนำบทความตอนนี้มานะครับ ถูกใจตรงๆ ดีมากครับ

ในเมื่อเป็นเช่นนี้  การพัฒนาหรือการส่งเสริม ควรเน้นและศึกษาถึง "ศักยภาพ" ของชุมชนว่าเขามี "ศักยภาพ" ด้านใดแล้วก็พัฒนาหรือส่งเสริมแบบจริงๆ ด้านนั้น ไม่ใช่เอาแต่ทุน "เงิน" ไปถิ่มไห้... แล้วหาผลประโยชน์จากชุมชนเหมือนนักการเมืองบางคนบางพรรค เสร็จแล้วก็กากระบาลใส่ร้ายชุมชนว่าเป็นคนโง "ขายเสียง" เยอะที่สุดก็อีสานนี้แหละครับ

ถ้าจะเอาทุนคือ "เงิน" มาลงทุนกันจริงๆ ผมคิดว่า น่าจะเลือกสรรหาบุคคลในชุมชนทุกหมู่บ้านในประเทศไทย หมู่บ้านละ 1 คน มีทุนให้ศึกษาเรียนต่อในระดับ ปริญญาตรี เช่น ทุน กรอ. (ที่ผูกติดกับร้ายได้) เหมือนอย่างที่  โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต ทำอยู่ปัจจุบันนี้ เรียนจบก็ตั้งองค์กรเล็กๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการจริงของคนในชุมชน และอยู่ในชุมชนจริงๆ แล้วก็ตั้งเงินเดือนให้เขา เงินเดือนนั้นก็จะหมุนเวียนไปส่งคืนทุน กรอ. ดีกว่าเอาเงินไปแจกฟรีๆ แล้วก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นมา (ปัจจุบันทุน กรอ. ยุบแล้วครับ)

เมื่อวานนี้กระผมก็ได้รับเงินจากนักการเมือง 100 บาท ช่วงนี้ทางจังหวัดมหาสารคาม เลือกตั้ง อบจ.ได้รับกับมือตัวเองถึงพูดได้ไม่ใช่แค่พูดพร่อยๆ นะครับ มีหลักฐานเก็บไว้อย่างดี

เล่นอีแบบนี้ อาจารย์อนงค์ จะกล้าเก็บเกี่ยวด้วยหรือเปล่าครับ โตไผโตมันเด้อ คริ คริ... 

   
 

ดีใจที่ได้อ่านบันทึกรูปแบบนี้ค่ะ ได้ความรู้จริงๆ ของพื้นที่จริงๆเลย เขียนไปเรื่อยๆค่ะ ชอบอ่านด้วยค่ะ

สวัสดีครับ Sasinanda

กระผมขอทำความเข้าใจก่อนนะครับ เดิมแรกกระผมเขียนบันทึกอยู่ที่บล็อกของ " เม็กดำ กลุ่ม 9 นาดูน" ก็ได้เขียนพูดคุยกับคุณศศินนท์ บ้างเป็นบางครั้ง และมีช่วงหน่ึง g2k กำลังฮิต "คิดถึง" ประกอบกับกระผมสมัครบล็อกเป็นของตนเองได้สำเร็จ ก็เลยมานั่งตรึกตรองดูว่าเรามีคนคิดถึงไหม และจะทำอย่างไรให้คนที่เราคิดถึงรู้จัก เลยไปเขียนต่อท้ายเม็กดำกลุ่ม 9 นาดูน ที่บล็อกคำถาม-ตอบ นั้นแหละครับ คิคิ

หวังว่าคุณศศินนท์ คงไม่รังเกียดคนบ้านนอกอย่างกระผมนะครับ และกระผมจะพยายามค้นหาความสามารถที่มีแฝงอยู่ในตัวออกมา เพื่อความใฝ่ฝันและจุดสูงสุดของชีวิตครับ

กระผมรู้สึกภาคภูมิใจครับที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับทุกๆ ท่านใน g2k แห่งนี้และยังคิดอีกว่าทุกท่านเป็น"ครู" ซึ่งไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะเป็นไปได้ที่คนระดับฐานล่างเช่นกระผม ซึ่งมีอาชีพเดินดินขายกาแฟ,นมเย็น ฯลฯ ถุงล่ะ 10  บาท จะมีคนระดับดอกเตอร์หรือคนที่มีฐานันดรสูงกว่ามาพูดคุยดูเป็นกันเอง กระผมจะจดจำและสำนึกในมิตรไมตรีดีๆ นี้ไว้ในใจเสมอครับ

ขอขอบพระคุณ คุณศศินนท์ และทุกๆ ท่านใน g2k ครับ 

Pรอศักยภาพแบบคนเดินดิน  เมื่อไหร่จะจบหนอ  จบแล้วแข่งกันไหม ว่าความดี สามารถเป็นตัวแทนชาวบ้านได้  โดยไม่ต้องจ่ายเงิน  ระหว่างความคิดบุคคลรุ่นเก่าและความคิดบุคคลรุ่นใหม่ แบบมีเหตุผล  ก็คงจะต้องอาศัยนักศึกษา คนหลายวัยในมหาวิทยาลัยชีวิต อีกปีเดียวก็จบแล้ว  เข้ามาช่วยแก้ปัญหา เพราะรู้เรื่องวิถีชีวิต และความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริงและนักศึกษาแต่ละคนก็มาจากท้องถิ่นของตนจริงๆ  ถ้าให้โอกาศนักศึกษาแต่ละคนในท้องถิ่น ได้ให้เขามีโอกาศได้ดูแลท้องถิ่นของตน ตามที่ได้เรียนรู้ จุดอ่อน จุดแช็ง วิเคราะห์ วิจัยเป็น แม้แต่การเขียนโครงการก็ได้ฝึกอย่างถูกต้อง  เก่งหลายอย่างแล้ว แต่จะมาสร้างประสบการณ์ที่ดี  จากการเป็นตัวแทนชาวบ้าน โดยไม่ต้องใช้เงิน  ก็คงจะได้พิสูจน์จากนักศึกษารุ่นบุกเบิกนี้กันหละ  ผู้ว่าทางพยัคภูมิพิสัย ก็ให้เป็นคนเดินดินเป็น  ส่วนผู้ว่าทางกระนวน  ก้ให้ว่าที่บัณฑิตเป็น  ขอเสียงตบมือหน่อย   เก่งทั้งสองผู้ว่าเลยคะ  (ว่าไปเถอะ) ฮิ ฮิ ขำจัง  อ่านหนังสือมากเพี้ยนแล้ว พักสมองเลยแวะเข้ามาว่า 

ขอให้โชคดีในการสอบนะคะ  ผู้ว่า พยัคภูมิ

  • สวัสดีค่ะไม่ได้เรียนค่ะ
  • แต่เป็นการเข้าสนามรบจริง ๆ
  • การเรียนยังผิด ถูกได้ค่ะ
  • แต่นี้พลาดไม่ได้
  • แต่ยังติดตามอยู่นะค่ะ

 

 

Pผู้ชอบว่าพยัคภูมิ  เป็นไงเข้าสนามรบจริงๆ  ใน2วันนี้ การเรียนในห้องยังมีผิดแก้ตัวใหม่ได้  แต่สนามรบครั้งนี้  ถ้าผิดเป้าหมายตนเอง ไม่มีโอกาสแก้ไข  หรือแก้ตัว  ว่าตามครูกิ่งนะ  เป็นเรื่องเดียวกัน หรือคนละเรื่องเดียวกันน้อ

  • เป็นอย่างไร พ่อเนื้อหอม  เขียนอะไรก็น่า ว่าตามนะ
  • แต่ คิดว่า เป็นเด็กมีปัญหาหรือเปล่า  เห็นมีนักวิจัยจิตวิทยามาให้กำลังใจนักศึกษา ว่านักศึกษารุ่นบุกเบิกมีปัญหาในการเรียนหรือไม่
  • สอบแล้ววันนี้  ง่ายมาก  ไม่ต้องอ่านหนังสือเลยก้สอบได้  เพราะเป็นข้อสอบแบบ วิเคราะห์  วิจัย  สังเคราะห์  ต้องใช้สมองให้ดี
  • ระวังข้อสอบลวงเรานะ  อย่าเชื่อใคร ให้เชื่อตนเอง
  • เจ้าของบล้อค ติดแต่ดูหนังสือ ไม่มาดูว่าใครมาเยียมเลย เอาจริงเอาจัง  ถ้าสอบแบบนี้ ยห.อย่าห่วง เพราะเป็นคนชอบคิดอยุ่แล้วเตรียมเรื่องมาเขียนใหม่ได้เลย  สอบเสร็จจะแวะไปเยี่ยมทุกๆคนให้ได้  ให้กำลังใจตนเอง  ใบศักยภาพอยู่แค่เอื้อม  ยื้ออีกนิด เย้ว เย้ว

สวัสดีครับ คนรุ่นเก่าพัฒนา ว่าที่บัณฑิต

มีอยู่ช่วงหนึ่งครับ ที่มีการรณรงค์การซื้อสิทธิ์ขายเสียง เป็นเรื่องผิดกฎหมาย รู้สึกจะเป็นช่วงเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ผ่านมานี้เอง เปิดทีวีช่องไหนก็มักจะเห็นข่าวเกี่ยวกับการรณรงค์กันทั้งนั้น การเลือกตั้งจบลงการรณรงค์ก็จบตามไปด้วย การซื้อสิทธ์ขายเสียงหรือการทุจริตการเลือกตั้ง เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมไทยมาช้านานแล้ว และก็เป็นเรื่องผิดหมายเลือกตั้งด้วย แม้ว่าปัจจุบันกลวิธีการทุจริตการเลือกตั้งจะมีหลากหลายรูปแบบหลากหลายวิธีการพูดง่ายๆ คือ มีการพัฒนาวิธีการไปก้าวหน้ามากแต่หากถูกจับได้มีโทษไม่น้อยเหมือนกัน

สำหรับบทลงโทษของการสุจริตของผู้ ซื้อสิทธิ์ขายเสียง จะถูกจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งถึง 10 ปี

เป็นเช่นนี้ประชาชนทั่วไปก็เลยเกิดความกลัว เพราะว่ามันผิดกฎหมายทั้งคนที่ซื้อสิทธิ์และคนที่ขายเสียง แน้นอนคนขายเสียงย่อมเป็นประชาชน เลยทำให้เกิดความกลัวเหมือนเต่าหดอยู่ในกระดอง กลัวว่าจะผิดหรือติดคุกเลยไม่กล้าออกมาพูดหรือเปิดเผยความจริง

ผมคิดว่าน่าจะมีมาตรการความร่วมมือแบบจริงใจไม่เอาจิงโจ้ระหว่างภาครัฐกับประชาชน  ทำกันจริงๆ และเปลี่ยนคำรณรงค์ใหม่ว่า

  1. คนซื้อสิทธิ์ ผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำและปรับ...
  2. คนขายเสียง ผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำและปรับ...(แต่ถ้าส่งหลักฐานมาให้รัฐไม่ผิด และรัฐมีรางวัล...ให้)

รัฐต้องพิจารณาด้วยว่าหลักฐานนั้นเป็นจริงหรือเป็นการกลั่นแกล้งกัน เพื่อไม่ให้เป็นการกลั่นแกล้่ง ประชาชนต้องหาหลักฐานที่มีน้ำหนักสักหน่อย เช่น หัวคะแนนนำเงินมาให้ก็ให้เขาเขียนชื่อและเบอร์ของผู้สมัครคนนั้นให้ด้วย (ต้องหาอุบายหลอกว่ากลัวจำชื่อและเบอร์ไม่ได้) หลักฐานถึงจะมีน้ำหนักน่าเชื้อถือ

สิ่งที่สำคัญ คือ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและประชาชน ไม่ใช่ภาครัฐและกลุ่มอำนาจต่างๆ ทางการเมือง

ส่วนประเด็นผู้ว่าหรือผู้ชอบว่านั้นค่อยพูดกันอีกที่ครับ

ขอบคุณครับ 

 

สวัสดีครับครูกิ่ง

  • คนผู้น้อยข้อหล่อเป็นตาหลูโตนฮ้าย
  • เข้าสนามรบ ต้องการบอดีกาดบ่
  • เป็นแฮงใจไฮ้สู่มือเด้อ ฮู้บ่ 

สวัสดีครับ คนรุ่นเก่าพัฒนา ว่าที่บัณฑิต

ต้องขอโทษพี่เล็กด้วนนะครับที่ตอบช้า เพราะกระผมมีข้อกำจัดในเรื่องของเวลาในการเข้าเล่นอินเทอร์เน็ต ใช่ระบบมือถือ GPRS คือ เดือนหนึ่งเล่นได้ 50 ชั่วโมง หรือ 3,000 นาที คิดเป็นวันก็ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน (เดือนละ 200 บาท) ต้องใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุดครับ

กระผมก็ยังต้องเคลียงานที่ยังข้างอยู่ให้แล้วเสร็จก่อนสอบปรายภาค  วันสองวันนี้ก็ยังคงยุ้งๆ ลุยงานกับท่านรักชาติอีกเหมือนเดิมครับ ทางกระนวนสอบเสร็จแล้วก็สบายใจขึ้นนะครับ

ขอบคุณครับ 

 

 

 

  • PP  ฝังใจเมื่อไหร่ ชาวบ้านจะรู้จักเลือกคนดี ศรีสังคม  เมื่อไหร่ชาวบ้านจะหู ตาสว่าง  พูดเป็น คิดวิเคราะห์เป็น เมื่อไหร่ชาวบ้าน จะยอมรับในความสามารถของคนดี  เมื่อไหร่คนดีจะได้ครองเมือง เมื่อไหร่คนดีจริงๆ  ชาวบ้านจะเลือกเป็น  ก็คงต้องให้ชาวบ้าน รุ่นเก่าแก่ มาซ้อมใหม่ เหมือนที่เป็นอยู่นี่แหละ  แต่คนแก่บางคน ก็ไม่เอาด้วย เพราะอยากปลงซะแล้ว แล้วแต่อะไรมันจะเกิด  เพราะเหลือเวลาเล่นกับชีวิตอยู่อีกไม่กี่ปี  ให้คนรุ่นใหม่ไฟแรง เป็นตัวตั้ง ตัวตี และเป็นคนดีด้วย แสดงนำไปก่อนนะ
  • ชาวบ้านคนไทยเรา  เป็นคนใจบุญสุนทาน  ใครให้เงินก็ถือว่าเป็นหนี้บุญคุณ  บุญคุณต้องทดแทน นี่คือจุดอ่อน
  • และเมื่อรู้จุดอ่อนตรงนี้ ชาวบ้านก็ไม่วิเคราะหือีก  เพราะบางคนมาให้เป็นหนี้บุญคุณตอนหาเสียงนี่แหละ  ชาวบ้านถึงจำได้
  • เพราะบางคนสร้างความดีมาตลอดสมควรจะได้รับการเลือกตั้งและสนับสนุนให้โอกาสเขา  เพียงแต่ไม่มีเงินก็แพ้เขาเสียแล้ว  นี่แหละทำให้คนที่คิดจะเป็นคนดีตลอดไป ต้องใช้วิชามารช่วย ในบางครั้ง เพราะรู้จุดอ่อน ถ้าไม่ใช้คนอื่นเขาก็ใช้ ต้องทันเกมส์
  • เงินใช้เวลานิดเดียว ซื้อใจคน  แต่ความดีต้องใช้เวลานาน ต้องทน
  • คนที่จะเล่นการเมือง  จะมาใช้ความดี ซื้อใจคน ต้องใช้เวลานาน ฉนั้นใครที่คิดจะเล่นการเมือง  แบบไม่ใช้เงิน จะต้องเป็นคนดีตลอดไป ทำอะไรมีแต่สิ่งดีๆให้ชาวบ้าน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มันจะใช่หรือ  ไม่หวังสิ่งตอบแทน  ก็อยากเป็นผู้แทนท้องถิ่นทุกระดับที่มีอยู่ เอาความดีสู้แล้วชนะใจประชาชน ลองวิเคราะห์ซิ
  • การเป็นผู้นำท้องถิ่น  มันเป็นความภาคภูมิใจ ที่ตนเองได้รับจากประชาชน เป็นเกียรติประวัติให้แก่ครอบครัว  มีหน้ามีตาในสังคม
  • ซึ่งส่วนมาก ผู้ที่ตั้งใจมาเป็น ก็ตั้งใจมา โกยทั้งนั้น  ไม่ว่าเล็กว่าน้อย แต่อย่าลืมว่า  อย่างน้อยชาวบ้านรุ่นหนึ่งที่กำลังรียนอยู่นี้จะมาเป็นยามได้ ก็ขอให้นักเรียนนักศึกษารุ่นนี้ จงเป็นปากเป็นเสียงแทนชาวบ้าน ชี้ถูกชี้ผิด ว่าใครสมควรได้รับการเลือกตั้ง เนี่ยมันถึงต้องใช้เวลาไง (รปภ.การเมือง ต้องดูแลเมื่อเรียนจบ)
  • จับผู้สูงอายุที่มีไฟอยู่มา เรียนวิเคาระห์  วิจัยให้หมด จะได้ช่วยกัน
  • และหลักการเมืองอีกอย่างหนึ่งคือ  มีพี่น้องมาก ก็จะได้คะแนนมาก ทำอย่างไรคนที่ไม่มีพี่น้องเยอะ จะได้คะแนน ให้เงินเขาเอาแต่เขาไม่กาเรา ฉะนั้นทุ่มลงไป ถ้าไม่วิเคราะห์
  • เหมือนคนเดินดินว่านั่นแหละ  กว่าจะได้เลือกตั้งแต่ละที  เอาเงินที่คิดว่าตั้งใจจะทุ่มนั้น  นำมาให้ เสียสละ ตั้งแต่ต้นๆ  จะเป็นประโยชน์มากกว่า มาทุ่มตอนนี้ เพราะมาทุ่มแข่งกันตอนวันคืนมาหอน  จะได้ประโยชน์อะไร  เพราะคืนนั้นทุกผู้แทนก็มาทุ่มกัน กลายเป็นเงินไม่มีประโยชน์ไปแล้ว ผู้แทนเอ๋ยเจ้าช่าง ช่างอะไรดี
  • เจ้าช่างโง่  เอาเงินไปให้หัวคะแนน  สมมุติให้หัวละ  300 บาท เกกันกับผู้แทนอื่นๆ ต้องให้มากกว่า  แต่รู้ไหมเงินเยอะที่เกกันนี้  ใครได้ผลประโยชน์  ก็หัวคะแนนฮุบเอาไง  ให้หัวละ 300 บาท แต่เวลาไปแจกจริงๆ  ให้ 100  บาท  หัวคะแนนฮุปเอาไปแล้ว  200
  • คนเดินดิน ได้ 100 บาทที่บอกมา หัวคะแนนเอาไปแล้ว 200
  • ยังไม่พออาชีพหัวคะแนน ว่าเป็นอาชีพเลยนะ  เป็นหัวคะแนนให้หลายพรรค นี่แหละที่น่าชอกชำมากที่สุด แต่เชื่อไหม ผู้แทนทุกอย่าง จะว่าตาบอดก็ว่าได้  สร้างความดี มันสร้างยากนักหรือไง
  • และหัวคะแนนบางคน  ทำให้ผู้แทนเสียคะแนนนิยมไปก็มี  ฉะนั้นผู้แทน ก็ขาดวิสัยทัศน์ตรงนี้  ก็พ่ายไป
  • เห็นไหม ผู้ว่ากระนวน  ว่ามากไปแล้ว ผู้ว่าพยัคฆภูมิจะว่าอย่างไร
  • เราต้องพูดคุยกันเช่นนี้แหละครับ
  • ความรู้ที่มันฝังรากหยั่งลึกจะได้ออกมามืนตาอ้าปากกับเขาบ้าง
  • เวลาเน็ตใกล้จะหมดอีกแล้วและวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายซะด้วย
  • ก่อนจะหมดจริงๆ ขอเขียนบันทึกสักเรื่องก็แล้วกัน
  • ใช้เวลาให้มันคุ้มค่ากับการลงทุนหน่อย คริ คริ...
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท