วันนี้ได้รับอีเมล์จากเพื่อนรักที่นาน ๆ จะเจอกันตามยอดดอยสักทีนึง พออ่านแล้วมันช่างน่าสนใจเสียนี่กระไร...เอิ้กๆ คำเตือน บันทึกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสังสรรค์เป็นอาจิณ" หลายคนอาจจะพอทราบมาบ้าง เลยเอามาฝากสำหรับนักดื่มที่ยังไม่ทราบกันค่ะ
เทคนิคการดื่มวิสกี้ ตระกูล ‘Label’ หรือ ‘เลเบิ้ล’แบบเทพๆ!!!
ดื่มอย่างไรไม่ให้เสียของพร้อมสัมผัสกับรสชาดที่แอบซ่อน(ลอกเค้ามา)
รู้จักคำว่า'เสียของ'กันบ้างมั้ย?คนไทยเราน่ะชอบทำให้เสียของอยู่เรื่อยโดยเฉพาะนิสัย' การดื่มแบบผสมมิกเซอร์'ทั้งหลาย นั่นแหละคือการทำให้วิสกี้ชั้นดีที่บางทีไม่ควรผสมใดๆต้อง'เสียของ' วันนี้จะหยิบเอาเรื่องวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่วอล์กเกอร์มาพูดกันซะหน่อย เพราะว่าตระกูลนี้มีหลาย'เลเบิ้ล'เหลือเกินซึ่งมีวิธีการดื่มเฉพาะซะด้วย
เริ่มจาก 'เรดเลเบิ้ล' (Red Label) กันก่อนเลยดีกว่า
จอห์นนี่วอล์กเกอร์เรดเลเบิ้ลน่าจะดูถูกใจคนไทยที่สุด
เพราะน้องเล็กสุดขวดนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อการดื่มตลอดค่ำคืน
พูดง่ายๆก็คือกินได้นานๆสนุกสนานกันทั้งคืนนั่นแหละ
แถมวิธีการกินที่ถูกต้องนั้นก็ต้องผสมกับ'มิกเซอร์'ทั้งหลาย
อันเป็นวิธีการดื่มที่นิยมในหมู่คนไทยอยู่แล้วซะอีก
ตอนนี้จอห์นนี่วอล์กเกอร์เรดเลเบิ้ลก็เลยขายดีที่สุดไปโดยปริยาย
ง่ายๆจะใส่น้ำแข็งผสมโคล่าชามะนาวหรือโซดาก็ได้ทั้งนั้น
สุดแล้วแต่ว่าจะชอบรสชาติแบบไหนหลังผสมมิกเซอร์แล้วเท่านั้นเอง
แต่นักดื่มมืออาชีพมักนิยมผสมน้ำก่อนแล้วจึงผสมโซดาตามลงไป
ในอัตราส่วน2:1หรือที่เรียกกันว่า "โซดาลอย"นั่นเอง...
ผสมเสร็จก็เอ็นจอยดริ๊งกิ้งกันได้ทั้งคืน(แต่อย่าขับรถหลังดื่มนะ)
โตขึ้นมาหน่อย กับความเคร่งขรึมแบบจอห์นนี่วอล์กเกอร์แบล็คเลเบิ้ล(BlackLabel)
วิสกี้ชั้นดีจากการหมักบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่คลาสสิกที่สุดนานถึง12ปี
วิธีการดื่มที่ถูกต้องนั้นก็คลาสสิกไม่แพ้รสชาติของตัววิสกี้
ง่ายๆเท่ๆดูดีด้วยสไตล์ที่เรียกกันว่า'ออนเดอะร็อก'นั่นเอง
หรือถ้าอยากย๊ากอยากจะผสมมิกเซอร์เหลือเกิน
ก็ต้องใส่น้ำแข็งเข้าไปเยอะๆ วิสกี้ครึ่งแก้ว และโซดาอีกครึ่งแก้ว
แค่นี้แหละ ก็จะได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล
มาถึงวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ที่ไม่ค่อยจะเห็นบ่อยนักบ้างดีกว่า
เริ่มจากจอห์นนี่วอล์กเกอร์โกลด์เลเบิ้ล (GoldLabel) อายุ18 ปีกันก่อน
แค่นำ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล ไปใส่ในช่องแช่แข็งสัก 24 ชั่วโมง
ถ้าที่ในช่องแช่แข็งยังเหลือก็นำแก้วทรงสูงเปล่าๆ แช่ไว้ด้วย
พอได้เวลา ก้รินใส่แก้วที่แช่ไว ้ข้างกันๆ นั่นแหละ แล้วดื่มเข้าไปเลย
ทันทีที่วิสกี้เย็นจัดปะทะกับความอุ่นในปาก กลิ่นหอมหวนนุ่มลิ้นจะอบอวล
แหม...ยิ่งถ้ามีช็อกโกแล็ตดีๆไว้กินเข้าคู่ล่ะก็ จะเป็นความสุขที่ลืมไม่ลงเลยเชียว
ส่วนจอห์นนี่วอล์กเกอร์ กรีนเลเบิ้ล (GreenLabel) ที่มีจำหน่ายแบบจำกัดประเทศนั้น
หาน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ สักก้อน ใส่ในแก้วปากกว้างเพียงแค่ก้อนเดียว
ไม่ต้องกลัวว่าน้ำแข็งก้อนนั้นจะเหงา เพราะเราจะเฝ้ามองอย่าทะนุถนอม
จากนั้นรินจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล ลงไปไม่ต้องท่วมน้ำแข็ง
แกว่งแก้วเล็กน้อย ให้อุณหภูมิของวิสกี้ชะอุณหภูมิของน้ำแข็งก้อนโต
ดมกลิ่นวิสกี้ที่ระเหยขึ้นมาเล็กน้อยก่อนลิ้มรสวิสกี้ที่อุณหภูมิพอเหมาะพอดี
งานนี้จะได้ รสชาติ กลิ่น และแสงที่วิสกี้ตกกระทบกับก้อนน้ำแข็งชวนมอง
(อันนี้เคยเสียของมาครั้งหนึ่งแล้ว)
ปิดท้ายกันที่วิสกี้ชั้นสูง จอห์นนี่วอล์กเกอร์บลูเลเบิ้ล(BlueLabel)อายุ25ปี
ที่หมักบ่มจากมอลต์คุณภาพสูงตามวิธีการคลาสสิกแบบศตวรรษที่19
วิธีการดื่มวิสกี้ชั้นสูงนี้ก็คลาสสิกมากเตรียมแก้วบรั่นดีสวยๆไว้สัก2ใบ
แก้วนึงรินวิสกี้รอไว้ส่วนอีกแก้วนึงรินน้ำแร่เย็นๆ ไว้เช่นกัน
ดื่มน้ำแร่เย็นๆเพื่อปรับอุณหภูมิในช่องปากกันก่อน
จากนั้นจิบจอห์นนี่วอล์กเกอร์บลูเลเบิ้ลในแก้วบรั่นดีอีกใบตาม
เมื่อน้ำแร่เย็นๆที ่หลงเหลืออยู่ในช่องปากผสมกับวิสกี้ชั้นดีนี้
รสชาติที่แอบซ่อนจะซึมผ่านเพดานปากไปมัดใจนักดื่มเหล้าทั้งหลายไม่รู้ลืม
เสร็จสิ้นครบทั้ง 5 เลเบิ้ลของตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กันแล้ว
ต่อจากนี้นักดื่มเหล้าชาวไทยทั้งหลาย ก็จะดื่มได้แบบไม่เสียของกันแล้ว
แต่ที่สำคัญที่สุด ดื่มแล้วจะมึนน้อยหรือมึนมาก ก็อย่าขับรถเลย
เก็บชีวิตที่มีค่าไว้สัมผัสกับสิ่งดีๆ ที่รอเราอยู่มากมายในวันข้างหน้าดีกว่า …
ตามกลิ่น เอ๊ย ตามหัวข้อที่สะดุดตา สะดุดใจมาอ่านค่ะ
ไม่ได้ชอบดื่มค่ะ ชอบอ่านบันทึกพวกนี้เป็นประสบการณ์เฉย ๆ
ขอบคุณค่ะ สำหรับเรื่องดี ๆ ที่มีประโยชน์ค่ะ อิอิ
ชีวิตที่เกิดมา หวังสุขอุราไม่ว่าผู้ใด........................................มะ ริน มารินสุรา (เพลงปรัชญาขี้เมา) เข้าบรรยากาศหน่อยครับ
ชีวิตที่ผ่านมา เคยยินยอมให้เรดกับแบล็ก ในตระกูลนี้ผ่านเข้าไปในลำคอแล้ว ส่วนสีอื่นยังไม่ได้สัมผัส (เยี่ยมจริง ต่อไปไม่ใช้มิกเซอร์แล้วล่ะ)
ขอบคุณที่ให้ความรู้ทางด้านนี้ ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ
ขออภัยครับ
ถึงโรงเหล้าเต่ากลั่นควันขโมง
มีคันโยงผูกสายไว้สายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี่ประจำทุกค่ำคืน...
ปล. มนุษย์โลกนี้คงรู้จักดื่มเหล้าเมามายมาแต่ยุคหินโน้นกระมังเนอะ !!!