ปีนี้ผู้ใหญ่ใจดีจากหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ยังยืนหยัดจัดงานวันเด็กสาระฮาเฮกันเหมือนเช่น ทุกปี
วันเด็กสาระฮาเฮ
ส่วนคุณแม่ใจดีอย่างผู้เขียนหลังจากที่ช่วยกันแพ๊คของก็ขอลามิตรสหายพาลูกๆ นำของไปบริจาคกับชมรมร่วมใจแบ่งปันและพันธมิตรของคุณพ่อผู้ใจดี ไปไกลถึงเขาสอยดาว จันทบุรี ทั้งสองงานมีสิ่งที่เหมือนกันคือวันนี้เป็นวันเด็กๆของผู้ใหญ่ วันใหญ่ๆของเด็กๆ สรุปแล้วอิ่มอกอิ่มใจกันทั้งสองงาน ส่วนงานหลังแม้จะไปโรงเรียนบ้านทรายทอง แต่หาได้อัครสถานดั่งบ้านทรายทองในละครไม่ เพราะพอเลี้ยวรถจากถนนสายหลักสู่ถนนเข้าโรงเรียน ถนนที่ตัดผ่านเขา ผ่านไร่มันสำปะหลังที่พื้นถนนยังขรุขระและเต็มไปด้วยฝุ่นฟุ้ง เด็กๆนั่งรอร้อรอผู้ใหญ่อย่างพวกเราอย่างอดทน ซึ่งกว่าจะไปถึงก็โน่นสิบเอ็ดโมง แต่ทั้งครูและนักเรียนก็ดีใจที่มีคนใจดีนำอุปกรณ์การศึกษาไปมอบให้อย่างมากมายและมีคำสัญญาว่าจะไปทำสนามเด็กเล่นให้ใหม่ทั้งหมด ส่วนรายการที่เด็กตื่นเต้นมากที่สุดคือการได้ถ่ายรูปและสัมผัสมือกับฝา-หรั่ง เมืองไทยของเรายังมีเด็กยังขาดแคลนอีกมากมายและยังต้องการความช่วยเหลือ สิ่งที่ได้จากการไปแบบนี้คือลูกทั้งสองเข้าใจในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการให้และความเต็มใจที่จะให้ เข้าใจเห็นใจถึงคนที่ลำบากกว่าอย่างรู้แจ้งเห็นจริงโดยไม่ต้องพร่ำสอน บ่ายสามโมงก็บ้ายบายเด็กๆ เพราะพวกเราที่ไปจากต่างทิศต่างที่จะกางเต็นท์นอนกันที่เขาสอยดาวซึ่งนับได้เกือบสามสิบเต้นท์ ดาวสวยในคืนหนาวนั้นมอบเป็นกำลังใจให้ทุกคน
เด็กที่บ้านทรายทอง
ตื่นเต้นมาก
สวัสดี moonlight เรียนเป็นไงบ้าง ก่อนหน้าไปเขาสอยดาวเจ้ไปวังน้ำเขียวด้วยแหละ สวยมากๆตรงแปลงดอกไม้ ส่วนตรงอื่นฝุ่นเยอะมากค่ะ
สวัสดีสุ น้องเต็มเป็นเด็กยักษ์ไปซะแหล่วด้วยน้ำหนักสามสิบสองถ้วนกับวัยเจ็ดขวบ กะลังมีแพลนไปภาคเหนือค่ะ