สู่เส้นทางแห่งความสุข


สวัสดี Blog7 สุดท้ายแล้วจ้า..

สู่เส้นทางแห่งความสุข        ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านบทความตามอัธยาศัย จึงได้หยิบเรื่องราวดีๆมาฝากกัน เนื่องด้วยสภาวะปัจจุบันสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมโดยเฉพาะสังคมเมืองมีความสับสนวุ่นวาย ต้องดิ้นรนแย่งชิงความได้เปรียบกันอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความอยู่รอดของตนเองเป็นหลัก แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามก็คือ ความสุขจากการมองโลกในแง่ดี ซึ่งเป็นความสุขในแนวนำจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ ความสุขของมนุษย์มีหลายอย่างหลายมิติ บางอย่างก็ฉาบฉวย ผิวเผิน บางอย่างก็ลึกซึ้ง แต่ความสุขเป็นสิ่งดีที่ใครๆ ก็อยากได้ แม้จะรู้ว่ามักจะอยู่กับเราไม่นานนัก ถ้าเราไม่ฝึกใจฝึกนิสัยให้มีความสุขอย่างแท้จริง ความสุขก็หลุดล่องลอยไปจากตัวเราได้ง่าย มนุษย์ทั่วไปมักจะมองโลกชีวิตตัวเอง และคนอื่นเป็น 3 แบบคือ

มองโลกในแง่ดี หรือบวก (+)

มองโลกในแง่ไม่ดี หรือลบ (-)


และมองโลกในแง่กลางๆ หรือศูนย์ (0)

ตัวอย่างเช่น
ถ้าเรานั่งอยู่คนเดียวในห้องโถงใหญ่ของโรงแรมชั้นหนึ่งที่มีผู้คนมาใช้บริการปะปนอยู่ จู่ๆมีผู้ชายคนหนึ่งที่คุณไม่รู้จัก ท่าทางดี แต่งกายดี อายุกลางคน เดินยิ้มเข้ามาทักทายคุณว่า สวัสดีครับ ไปไหนมาครับ?”คุณคิดอย่างไรในแวบแรก
·        ถ้าคิดว่าเขาก็แค่คนๆ หนึ่ง คงทักคนผิด ก็เท่ากับคุณคิดแบบกลางๆ·        ถ้าคิดว่าเขาอาจเป็นเพื่อนเก่าที่คุณจำไม่ได้ หรือเขาอยากรู้จักและเป็นมิตรใหม่กับคุณ ก็ถือว่าคุณคิดแบบบวก (+) มองโลกในแง่ดี·        ถ้าคิดว่าเขาอาจเป็นพวกมิจฉาชีพ จะมาต้มตุ๋น หรือผิดปรกติทางจิต

หรือเปล่าก็ถือว่าคุณคิดในแบบลบ (-) มองโลกในแง่ไม่ดี

       เคยมีรายงานว่าคนที่คิดแบบบวก หรือมองโลกในแง่ดีจะมีความสุขมากกว่าอีก 2 ชนิด เพราะในช่วงที่คิดแบบบวกนั้นจะมีการหลั่งสารของความสุขออกมา ทำให้เกิดความหวังในชีวิตเสมอ มีกำลังใจ มองตัวเองและคนอื่นแบบมีค่าและมีศักดิ์ศรี มีมิตรเพิ่มขึ้น เข้ากับผู้คนได้ง่าย ได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่นเสมอ และสามารถแก้ไขอุปสรรคในชีวิตและการทำงานได้ดี ขอโทษเป็น มีอารมณ์ขันได้ ไม่กังวลใจ หรือสงสัยในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และรู้จักทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเล็กได้ด้วย สิ่งดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ทำให้มีความสุขทั้งสิ้น คนที่มองโลกในด้านดีมักมีจิตใต้สำนึกที่ดี เคยได้รับความรักและความสนใจจากครอบครัวมาก่อน หรือเป็นเพราะเห็นแบบอย่างและประโยชน์จากการมองโลกในด้านดี จากสิ่งแวดล้อม หรือครอบครัวมาก่อน หรือเป็นเพราะมีการฝึกจิตใจให้มองโลกในด้านดีเสมอมา การพัฒนาความคิดจาก (-) ให้ (+) ใน

ระดับจิตใต้สำนึก เพื่อจะได้มองโลกในแง่ดี รู้จักตัวเองมากขึ้น อยากทำกิจกรรมดีๆ เพื่อตัวเอง เช่น การออกกำลังกาย การสร้างความสัมพันธ์ดีๆ กับเพื่อนมากขึ้น ได้สอนวิธีให้ความรัก ถนอมความรัก วิธีการให้อภัยตนเองและคนอื่น รวมทั้งวิธีลดความเครียด มองข้ามความหยุมหยิม ไม่ทำตัวหน้าเบื่อจำเจ และรู้จักลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ซาบซึ้งความดีของตนเองและคนอื่น รู้จักยิ้มและมีความสุขได้แม้ในยามลำบาก หรือไม่มีความสุข ทำให้ชีวิตมีพลังของการคิดในแนวบวก

        นอกจากนี้ ซอนย่า ลูบอเมอร์สกี้ และคณะนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้เสนอบันไดแปดขั้น ซึ่งก็คือทางแห่งความสุข ประกอบด้วยขั้นที่ 1 จดบันทึกความรู้สึกดี ๆ ขั้นที่ 2 ฝึกเป็นคนเมตตากรุณา ขั้นที่ 3 ซึมซับความสุขสดชื่นในชีวิต

ขั้นที่ 4 ขอบคุณท่านผู้ชี้แนะ ให้ความช่วยเหลือ

ขั้นที่ 5 เรียนรู้ที่จะให้อภัย ขั้นที่ 6 ให้เวลาเพื่อน ๆ และครอบครัว ขั้นที่ 7 ดูแลร่างกายของคุณให้ดี ขั้นที่ 8 หาวิธีการคลายเครียดและจัดการกับปัญหายาก ๆ

       เพียงเริ่มต้นด้วยการทำตามข้อใดข้อหนึ่งที่ทำได้ คุณจะได้สัมผัสความสุขง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง
คำสำคัญ (Tags): #km : knowledge management
หมายเลขบันทึก: 159306เขียนเมื่อ 15 มกราคม 2008 09:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 23:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (27)
คงต้องรีบน้อมรับและนำไปปฏิบัติโดยด่วนล่ะครับจะได้มีความสุขกับเขาบ้าง เพราะผมเองเป็นคนละเอียดเรียกได้ว่าเกินเหตุ และมักจะมองโลกในแง่ร้ายเสมอ แต่ทั้งนี้ก็เพราะไม่อยากประมาทเกินไปนั่นแหละครับ ( ก็ยังเข้าข้างตัวเองอยู่ดี )
เมื่อได้อ่านแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีเหมือนกันนะ แต่ก็ยังไม่เต็มร้อยคงต้องนำแนวทางไปกระทำแล้ว
พรพิสิทธิ์ เลี้ยงอยู่

เส้นทางแห่งความสุข 

ก่อนที่เราจะหาเส้นทางแห่งความสุข ผมว่า เราถามก่อนดีกว่าว่า "ความสุข" คืออะไร เพราะความสุขของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ความสุขที่เกิดจากวัตถุ เงินทอง สิ่งอำนวยความสะดวก หรือความสุขที่เกิดจากใจ  เมื่อใจเราเป็นสุข  ก็มีความสุขแล้ว  เช่นเมื่อเราได้ไปทำบุญ แล้วรู้สึกสบายใจ ก็ถือว่ามีความสุขแล้ว  แต่ถ้าหากทำบุญแล้วหวังสิ่งตอบแทนหรือยังรู้สึกเสียดายเงินทองที่ทำบุญไป การทำบุญนั้นย่อมทำให้ไม่มีความสุข 

ฉะนั้น "เส้นทางแห่งความสุข"  ย่อมเกิดจากใจของเราเอง  การที่เราทำอะไรด้วยความมีสติ  รู้สึกผิดชอบชั่วดี เมื่อทำดี ไม่ต้องมีใครมาสรรเสริญ แต่เรารู้ตัวเราเองว่า ได้ทำดี แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว 

ผมว่ามันก็จริงนะครับ ความสุขหรือความทุกข์มันอยู่ที่ตัวเราเอง คือถ้าเรามองสิ่งนั้นดี ก็คือความสุข แต่ถ้าเรามองสิ่งนั้นไม่ดี ก็คือความทุกข์

ได้อ่านบทความแล้วรู้สึกดีมากเลยคะ  และก็คิดว่าเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับตนเองแล้วบางครั้งก็มองโลกทั้งในแง่บวกและลบบ้าง แต่อันที่จริงแล้วความสุขของคนเราก็อยู่ที่จิตใจจริงๆนะ   และดิฉันก็จะลองนำไปปฏิบัติดูคะเพื่อจะให้มีความสุขในชีวิตมากขึ้น   ขอบคุณสำหรับบทความดีๆมีสาระมากคะ

ณัฐญา สว่างพันธุ์

ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้คนเราสุข หรือทุกข์นั้น มันขึ้นอยู่กับตัวเรา ว่า คนเราเลือกที่จะคิด และจดจำแบบไหน เลือกที่จะรับ หรือไม่รับอะไร อย่างคนที่อกหักแล้วเกิดความเกลียดชังคนที่ทิ้งเราไป นั่นเป็นเพราะ เขาเลือกที่จะมองในมุมที่ไม่ดี จำด้านไม่ดีของใครคนนั้นไว้ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ตอนอยู่ด้วยกันก็มีอะไรดีดีตั้งมากมาย เสร็จแล้วตัวเองก็มานั่งเป็นทุกข์เพราะความแค้นที่สร้างขึ้นเองอีก นึกแล้วก็แย่นะ 

สำหรับบทความข้างต้น ใครที่ได้อ่านแล้วสามารถปรับใช้กับตัวเองได้มันจะดีมากทีเดียว แต่ก็อย่าประมาทมากไป เพียงเท่านี้ชีวิตก็มีความสุขได้้างแล้วล่ะ

เป็นบทความที่ดีมาก  เพราะทุกวันนี้ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่   คนเราจะมองหรือโทษแต่สิ่งที่ไม่ดี     จนละเลยที่จะมองค้นหาในด้านที่ดีๆ  ซึ่งแอบซ่อนอยู่   และส่วนหนึ่งในใจอาจมองเห็นสิ่งที่ดีแต่ก็จะนำสิ่งที่ไม่ดีมาปิดบังเอาไว้    ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนไทย   เพราะเราจะถูกสอนให้ไม่กล้าแสดงออก หรือเถียงผู้ใหญ่  จนทำให้การยอมรับความจริงในสิ่งที่เป็นด้านบวก  ถ้ามีคะแนนน้อยจะถูกมองข้ามไป    ซึ่งสถาบันครอบครัวจะมีส่วนช่วยอบรมเลี้ยงดูให้เรามีวิสัยทัศน์มองโลกในแง่ดี หรือไม่ด้วยเช่นกัน   รวมทั้งจิตใจที่พร้อมจะยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น   เพื่อจะได้นำมาซึ่งหนทางแห่งความสุขในชีวิต

การมองโลกว่าจะดีหรือไม่ดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับด้วยสภาพแวดล้อมที่มามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย บางทีการมองโลกในแง่ดีจนเกินไปก็ไม่ดีนักหรือการมองโลกในแง่ร้ายก็ส่งผลเสียเช่นกัน  ดังนั้นการที่เราจะมองโลกว่าจะดีหรือจะร้ายนั้นเราควรใช้สติในการตัดสินใจและคิดอย่างรอบคอบ แต่การคิดดีก็ย่อมส่งผลดีต่อตัวเราและคนรอบข้างเสมอ

หนูว่าบางครั้งการมองโลกในแง่ดีเกินไปก็อาจนำอันตรายมาสู่ตัวเราเองก็เป็นได้ เพราะเรารู้หน้าแต่ไม่รู้จักนิสัยใจคอของอีกบุคคลนึง ว่าจะเป็นคนดีหรือเปล่า

การมองโลกในแง่ดีอาจเป็นความสุขส่วนใหญ่ของทุกคน แต่ก็อาจนำความทุกข์มาให้เราได้เช่นกัน

จากข้อความที่ข้าพเจ้าได้อ่านข้างต้นนั้นทำให้ข้าพเจ้าได้ทราบว่าการมองโลกในแง่ดีนั้นมีความสุขเพียงใดแต่ข้าพเจ้าคิดว่าปัจจุนี้หากคนเราจะมองโลกในแง่ดีเป็นส่วนมากก็ไม่ได้โดยเฉพาะในสังคมเมืองหลวงจะเห็นว่ามีปัญหาหรือเหตุการที่เกิดขึ้นบ่อยเช่น การหลอกไปค้าประเวณี หลอกไปขายแรงงานในต่างประทศ เป็นต้นส่วนหนึ่งข้าพเจ้าคิดว่ากลุ่มคนที่ถูกหลอกตกเป็นเยื่อนี้อาจเป็นเพราะพวกเขามองโลกแน่แง่ดีด้วยค่ะ

กระผมเองเป็นคนมองโลกในแง่ค่อนข้างดีครับ แต่สภาพแวดล้อมในบางทีอาจนำพาให้เรามองโลกในแง่ร้ายก็ได้ครับ
สิทธิ์พงศ์ กลิ่นพิโรจน์

การมองโลกในเเง่ดีนั้น เป็นเรื่องดีที่สุดที่ทำให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข เเต่ถ้าเรามองโลกในเเง่ดีมากเกินไปโดยไม่สนใจโลกภายนอกเลยว่าจะเปลี่ยนเเปลงไปในทิศทางใดก็จะเกิดผลเสียต่อตัวของเราเอง สวัสดีค่ะ

นวลปรางค์ ขันตยาภรณ์
เป็นเรื่องจริงค่ะ ถ้าในโลกปัจจุบันมองอย่างที่อาจารย์กล่าวไว้ในบทความก็คงดีค่ะ คนเราถ้าหาความสุขให้ตนเองได้แค่นี้ก็ดีแล้วค่ะ ถึงแม้จะเป็นความสุขเพียงเล็กน้อยก็ตาม
นายวีรวุฒิ ปกรณ์เลิศตระกูล
เราควรที่จะถามตัวเองก่อนว่า "ความสุข" หมายถึงอะไร ถ้าหากเราไม่รู้ว่าความสุขที่ตัวเองหมายถึงอะไร เราก็ไม่สามารถจะมีความสุขได้ตลอดเวลา และความสุขแบบไหนที่จะทำให้เรามีความสุขได้มากที่สุด
นั่งยิ้มทั้งวันก็มีความสุขครับ แม้ใครเขาจะว่าติ๊งต๊อง
น.ส.อรอนงค์ เอื้อสถาพรกิจ

ข้าพเจ้ารู้ว่าการมองทุกสิ่งทุกอย่างในแง่ดีมันเป็นสิ่งที่ดีนะค่ะแต่ข้าพเจ้าส่วนตัวเป็นที่มองโลกในแง่ร้ายซะส่วนใหญ่แต่มันก็ทำให้เราไม่สบายใจแล้วก็เคลียดด้วย  แต่พอมาอ่านข้อความข้างต้นแล้วรู้สึกดีและสบายขึ้นและทำให้ข้าพเจ้าอย่างมองทุกสิ่งทุกอย่างในแง่ดีจังเลยค่ะเพราะว่าคนที่ได้ประโยชน์ในการมองโลกในแง่ดีก็คือเราเองซึ่งจะทำให้เราสบายใจและไม่เคลียดด้วยค่ะ

น.ส. สุปราณี ศรีสว่าง

ก่อนอื่นเราควรจะถามตัวเราเองก่อนว่า  ความสุข  ในความคิดของเราคืออะไร  และการที่เรามองโลกในแง่ดีก็จะทำให้เรามีแต่ความสุข  แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีจนเกินไปก็จะเป็นอันตรายต่อตัวเราได้เช่นกัน  เพราะเรารู้น่าแต่เราไม่รู้จักใจคอของบุคคลนั้นดีพอ

นางสาวมาลินี แพบำรุง
เราควรที่จะรู้ว่าความสุขนั้นหมายถึงอะไร ความสุขนั้นมีทั้งแง่ดีและร้ายปะปนกันไป เพราะเราไม่ว่าคนที่เราคุยด้วยนั้นเป็นบุคคลประเภทใด
นางสาวจุฑารัตน์ สุขสวัสดิ์
เราควรที่จะรู้ความหมายของความสุขซะก่อนว่า ความคิดเรานั้นแปลว่าอะไร ความสุขมีหลายประเภท เช่น ความสุขจากครอบครัว ความสุขจากครูอาจารย์ และความสุขจากเพื่อน ฯลฯ ความสุขนั้นก็มีแง้ร้ายด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความรัก เพราะถ้าหากเรารักแบบผิดๆจนทำให้เกิดสิ่งที่ผิดพลาดในหลายๆอย่างเช่นกัน
นางสาวพรชนก สมาธิวัฒน์
หนูคิดว่าการที่เรามองโลกในแง่ดีเกินไปนั้นบางทีมันก็อาจจะไม่ดีเสมอไป เพราะอาจจะทำให้เราไม่ทันคนที่เข้ามาคุยกับเรา แต่บางครั้งเราก็ควรที่จะมองโลกในแง่ดีบ้างไม่ใช่คิดแต่เรื่องร้ายๆจะทำให้เราคิดมากและทำให้เราไม่มีความสุขตามไปด้วย ดังนั้นเราควรที่จะมองโลกแบบกลางๆจะดีกว่า
นางสาวกนกอร สมาธิวัฒน์

ส่วนตัวของหนูเองเป็นคนมองโลกในแง่ดี

ทำให้ตัวเองรู้สึกมีความสุข ไม่ซีเรียสอะไร

แต่บางครั้งเราก็อาจจะเกิดความทุกข์แก่ตัวเราได้เหมือนกัน

น.ส. วีรินทร์ ไพทยะทัตย์

หนูเป้นคนที่มองโลกในแง่ดีสุดๆๆ

จนบางครั้งคนที่อยู่ด้วยพูดว่า..มองโลกในแง่ดีเกินไปรึป่าว

บางครั้งหนูก็ถามตัวเองเหมือยกันว่า..เรามองทุกอย่างดีจริงๆๆหรอ

แต่มันก็มีความสุขที่เห็นอะไรๆๆในสิ่งที่ดี สวยงานทุกครั้งที่มอง..

ถ้าอาจาร์ว่างก็เข้าไปมองโลกในด้านดีดีของหนูบางนะค่ะ

วันไหนที่อาจารย์เครียดๆๆจากงานอาจจะทำในอาจารย์ยิ้มบางก็ได้ค่ะ

น.ส. วีรินทร์ ไพทยะทัตย์

นี่ค่าๆๆ ความสุขเล้กๆๆน้อยๆๆที่หนูนำมาฝาก

www.konddd.multiply.com

นายสุรศักดิ์ รัตนมังสังค์
ผมว่าการมองโลกในแง่ดีก็เป็นสิ่งที่ดีแต่การมองโลกในแง่ดีเกินก็อาจจะเป็นทุกข์ได้ เราควรมองโลกในด้านดีและไม่ดีก็อาจช่วยได้
นางสาวอริสรา อินทรขุนทศ
การมองโลกในแง่ดีย่อมส่งผลทางจิตใจให้คิดในด้านดี ทำให้จิตใจเราคิดดีเพราะมันจะส่งผลต่อการกระทำของเราในการทำดีไปด้วย แต่ถ้าคนเราทุกคนมองโลดในก้สนดีมากเกินไปนั้นบางครั้งเรื่องบางเรื่องไม่ได้ดีไปซะหมดเราควรช่างใจก่อนที่จะคิด ควรคิดและมองให้ออก แต่ถ้าทุกคนมองโลกในแง่ดีก็จะทำให้เราเจอแต่สิ่งดีๆด้วยกันทุกคน
ชารวี บุตรบำรุง ( ผู้เขียน )
       ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น รอยยิ้มและความรู้สึกดีดีที่มอบให้กัน " คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสู่สิ่งที่ดี " สวัสดีค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท