เจอเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้รู้ว่าการระงับความโกรธเนี่ย ยังเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เขียนอยู่มาก มากจริงๆ เพราะแค่นึกถึงก็โกรธมากมาย
ช่วงนี้เด็กๆ ปิดเทอม หน้าร้อนที่ออสเตรเลียจะมืดช้า สองทุ่มกว่าๆ ก็ยังสว่างอยู่เลย ดังนั้นเมื่อวาน ขณะที่ผู้เขียนรอรถเมล์อยู่กับเพื่อน roommate เวลาก่อนทุ่มนิดๆ เพื่อจะขึ้นรถเมล์รอบ 7.07pm จึงยังสว่างอยู่ และที่ป้ายรถเมล์ไม่มีที่นั่ง ก็นั่งรอที่ฟุตบาท (ผู้เขียนและเพื่อนจะไปเลี้ยงส่งเพื่อนอีกคนที่ในเมือง)
นั่งๆ มองไปรอบๆ ก็ไม่มีผู้คนเท่าไหร่ แต่ก็เป็นป้ายรถเมล์ป้ายหลังหอ ใกล้นิดเดียว ก็ไม่ได้คิดอะไร
เห็นเด็กวัยรุ่น อายุไม่น่าถึง 18 ตัวเล็กๆ ผอมๆ เดินกันมาสี่คนอีกด้านของถนน สองคนดื่มแป็บซี่กระป๋อง เห็นละมันดูกวนๆ แกล้งเอาน้ำแป็บซี่สาดรถที่จอดอยู่ เด็กอีกคนเห็นรถวิ่งมาก็แกล้งทำท่าวิ่งแข่งกันรถ ยังว่าจะกระซิบเพื่อนว่า เด็กพวกนี้มันเมาแป็บซี่หรือไง
สี่คนนี้ก็ข้ามถนนมาฝั่งที่ผู้เขียนนั่ง สองคนเดินแยกไปด้านขวา อีกสองคนเดินแยกมาด้านซ้าย มีคนนึงถือแป็บซี่ซึ่งเป็นเจ้าคนที่วิ่งซ่าส์ และสาดน้ำใส่รถ เห็นล่ะมันเดินอ้อมมาด้านหลังผู้เขียน ผู้เขียนก็หันหลังมองตาม
นึกในใจว่ามันต้องแปลกๆ แล้ว แล้วเด็กนี่ก็ถอดรองเท้าแตะ เท่านั่นแหละที่นึกๆ ก็ใช่เลย มันสาดแป็บซี่มาใส่หัวผู้เขียน แล้วก็วิ่งอ้อมไปทางด้านซ้าย ไปทางถนนด้านหลัง ระหว่างวิ่งก็ยังคงสาดต่อจนแป็บซี่หมด แล้วยังจะโยนกระป๋องมาใส่อีก
ผู้เขียนมองตาม คิดว่าจะทำไงดี (นึกได้ตอนหลังว่าทำไมไม่ยืนเพื่อจะหลบน้ำได้ง่ายหน่อย ทีตอนนั้นล่ะคิดไม่ทัน) นึกออกอีกทีกำลังจะวิ่งไปคว้ากระป๋องมันเพื่อโยนกลับ แต่มันขวางไปไกลไปหน่อย ก็ยังงงตัวเองว่าจะเอาไงดี มันก็วิ่งหนีกะเพื่อนไป วิ่งหนีไปก็หัวเราะไป แล้วก็ตะโกน F*** ใส่เราอีก ไอ้พวกนี้นี่
หันมามองพวกด้านขวา เอ้า...ไปหลับหลังต้นไม้ใหญ่อีกด้านของรั้ว แอบมองพวกผู้เขียน พอเห็นผู้เขียนมองก็วิ่งหนีขึ้นไปทางถนน hi-way เอ้า..ยังนึกในใจ นี่ถ้ามันโดนรถชน ก็กรรมสนองเร็วไปมั้ยเนี่ย สองคนนี้ไปยื่นอยู่ตรงกลาง hi-way แล้วหันมาพยายามถกขากางเกงโชวร์ของน้อยๆ ของน้องเค้า แต่ดันโชวร์ไม่ได้ ขากางเกงแคบไป (ในใจยังคิดว่าถ้ามันโชวร์ จะล้อว่าเล็กซะให้เป็นปมด้อยไปเลย) เด็กพวกนี้เลยเปลี่ยนใจ สองคนหันหลังถกกางเกงเห็นก้นขาวๆ ให้เราดู
เออ ดูกะมันสิ แล้วสองคนที่สาดน้ำก็วิ่งไปสมทบที่เกาะกลาง hi-way ส่งสัญญาณมือ และร้องทักทาย F*** เป็นที่สนุกสนาน
เพื่อนจากที่พยายามนึกคำด่าเป็นภาษาอังกฤษ แล้วคิดวิธีส่งสัญญาณมือด่ามัน แต่จำไม่ได้ว่านิ้วไหน (ทำไมมาลืมอะไรตอนนี้อ่ะนะ) เพื่อนก็นึกได้ว่าถ้าเราทำเต้นๆ มันก็ยิ่งสนุกใหญ่ เลยหัวเราะตูดน้อยๆ ของมันกัน ต่างฝ่ายต่างท้าให้ข้ามมาหากัน แต่ถ้ามันข้ามมาจริงๆ ก็ยังไม่รู้เหมือนกันนะเนี่ย ว่าจะยังไง แต่รู้ว่าไม่กล้าหรอกพวกนี้ ถึงจะมีสี่คน เยอะกว่าเราสองคน แต่ก็เก่งแต่จะลอบกัดผู้หญิงเอเชีย และวิ่งหนีล่ะ
แล้วสี่เด็กบ้าก็ข้ามถนนไปอีกด้าน
ด้วยอารมณ์ขุนมัว นั่งรถเมล์ไปหาเพื่อน ก็ไประบายกะเพื่อน ช่วงที่พูดถึง อารมณ์ก็หงุดหงิดอีก นึกในใจ เราควรจะทำยังไงดี ทำอะไรได้บ้าง แต่ก็..ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ได้แต่โกรธ
เคยคิด เคยอ่าน เคยรู้ ว่าความโกรธไม่ดี เจอแบบนี้ระงับไม่ไหวจริงๆ นี่คงต้องฝึกจิตอีกนานเลยนะเนี่ย
เพื่อนผู้ชายแนะนำว่า ให้ตามไปบ้านให้เจอ ไปจัดการขู่ให้กลัวเลยว่าเรารู้ว่ายูอยู่ที่ไหน
เออ...ไม่คิดว่าเราเป็นผู้หญิงหรือไงเนี่ย เดี๋ยวมันเตะเอาดิ
เพื่อนผู้หญิงอีกคนบอกว่า งี้ผมแนนก็สลวยเลยสิ ได้หมักแป็บซี่ทั้งคืน
เออ...ขำค่ะขำ แต่ตอนโดนขำไม่ออก
เพื่อนรู้ใจบอกว่า เดี๋ยวจะไปเตะให้
เอ้อ...ก็แค่คิด อยู่ก็ตั้งไกล
เพื่อนออสซี่แนะว่า ให้ไปแจ้งตำรวจไว้ ลงบันทึก แต่ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้หรอกนะ แต่เป็นสิทธิ์ที่เราควรจะไปแจ้งไว้ ถ้ามีครั้งที่สองกะเราหรือกะคนอื่น ตำรวจจะได้ทำอะไรได้บ้าง
เฮ้อ...เด็กมันยังไม่ถึง 18 ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
โกรธต้องระงับด้วยความไม่โกรธ
ยังโกรธอยู่ ก็ระบายด้วยการเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง
#!@$#!$@$#%
นึกซะว่าได้เห็นก้นเด็กละกัน เหอะๆ
ถูก
เค้าชอบแกล้งแต่คนเอเชีย ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงด้วย
เพื่อนเจอไถเงินกะโดนไถมือถือบ่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกวัยรุ่นออสซี่ที่ชอบไถ
ตัวผู้ใหญ่ออสซี่เอง ยังส่ายหัวกะพฤติกรรม
เฮ้อ...
เป็นเรื่องปกติของ racial discrimination ไหมครับ ตอนผมอยู่อเมริกาก็เจอมาไม่น้อยครับ ส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีแผ่เมตตาไป คิดไปว่าเราเป็นผู้มีปัญญาเหนือกว่าคนเหล่านั้น เพราะเบื้องลึกแล้วเขา discriminate เราเพราะเรามีสิ่งที่เขาไม่มีครับ
เรื่อง racial discrimination นี่เหมือนจะเป็นเรื่องทั่วไปที่คนไทยที่ไปเรียนต่างประเทศต้องเจอครับ ส่วนจะเจอมากเจอน้อยก็แล้วแต่จังหวะของแต่ละคน
นึกไปก็ใช่ว่าบ้านเราจะไม่มีสิ่งเหล่านี้ บ้านเราไม่ค่อยมี racial discrimination เราก็มี social class discrimination ไม่น้อยทีเดียวครับ
สวัสดีค่ะดร.ธวัชชัย
ก็ยังเป็นค่ะ racial discrimination ยังมี แต่ก็น้อยลงจากเมื่อก่อน (ตามที่คนที่อยู่นานๆ เล่า)
เพียงแต่ไม่เข้าใจ พวกวัยรุ่นยังเด็กๆ เนี่ย จะมาไม่ชอบคนเอเชียเพราะอะไร
คนเอเชียคงเข้ามาเพิ่มขึ้น ขยันกว่า ได้งานทำดีๆ ก็เยอะ เค้าคงจะไม่พอใจแทนพ่อแม่กระมัง
สงสัยต้องแผ่เมตตาให้อย่างอาจารย์ว่าล่ะค่ะ
...
มนุษย์หนอมนุษย์
สวัสดีจ้าพี่ Little Jazz
อ๋อ ถ้าให้ทำตัวบ้าๆ บอๆ
งั้นง่ายเลย บ้าบออยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เหอะๆ แต่จะได้ผลกะเด็กบ้า(กว่า)ที่นี่มั้ยนะ
555
เจ้าพวกนี้ ยังไม่รู้ฤทธิ์น้าแนน ซะแล้ว
ระวังตับไต ไส้พุงไว้ด้วยนะ(เด็ก)ชายสี
...
น้าแนน ก็มีสติดีนะตอนนั้น ขอให้หมดเรื่องร้ายๆด้วยนะจ๊ะ
อยู่ดี มีสุขนะ
สวัสดีค่ะพี่นารี
พวกเด็กที่นี่ชอบแกล้งคนต่างชาติค่ะ ไถเงินเนี่ย เจอบ่อยๆ แต่...แกล้งฟังไม่ออกแล้วก็เดินไป คือเด็กมันตัวเล็กๆ ค่ะ คิดว่าอยู่ประถม
ถ้าเจอพวกโตหน่อยเนี่ยก็คงให้ๆ มันไป (รึเปล่ายังไม่แน่ใจตัวเอง) แต่เพื่อนผู้ชายบอกว่า เค้าโชว์ท่าแม่ไม้มวยไทย มันก็เดินหนีไป ไม่ยุ่ง ลือกันว่าพวกนี้ไม่ค่อยแน่จริงเท่าไหร่ (ก็อย่าให้มันแน่จริงเล้ย เดี๋ยวจะหนาว)
ที่ได้ยินมา ที่ซิดนี่ย์ก็ประมาณที่พี่นารีเล่าแหละค่ะ มีน้องของเพื่อนเจอจี้ด้วยมีดเอาเงินเดือนที่เพิ่งได้ไปหมดเลย ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ (ไม่เคยได้)
แต่จริงๆ แล้ว ทุกๆ ที่ก็มีอันตรายแหละเน้อ เพียงแต่แต่ก่อนคิดว่า เมืองนอก มันน่าจะเจริญกว่านี้อ่ะนะ
เพื่อนฝรั่งบอกว่า
Idiots live everywhere!!
ฮืม... ถูก
แต่คนดีๆ ก็มีอยู่ทั่วทุกที่เหมือนกันเน้อ
หวังว่าปีใหม่นี้ และต่อๆ ไปขอให้พี่นารีไม่เจอเรื่องแย่ๆ อีกละกันนะจ๊ะ (me too)
^__^
สวัสดีตาหยู
หายหน้าหายตาไปนานเลยนะ
ตาหยูหมายความว่าไง
ให้ระวังตับไตเนี่ย -_-"
มันน่า...มั้ยล่ะเนี่ยตาหยู
---
ไม่ได้มีสติอ่ะดิ ตอนนั้นสติแตกอ่ะ ประมาณแค้นฝังหุ่นเลยนะ
แต่..ตอนนี้จำหน้าพวกเด็กๆ มันไม่ได้แล้วล่ะ จำได้แต่ก้นอ่ะตอนนี้ ฮ่าฮ่า
^ ____ ^