แด่ผู้ล่วงลับ


ตะวันคล้อยลอยเลื่อนลับเหลี่ยมฟ้า ฉายดาราส่องวาววับแวมไหว ระยิบระยับลาเลื่อนหนอเดือนไกล สุรีย์ไวว่องโผล่เฉิดโชว์องค์ เอ๋ยสุรีย์เลื่อนลู่สู่ฟ้ารอน สุรีย์อ่อนแสงอับอัศดงค์ หนึ่งชีวิตเวียนว่ายมลายลง เกิดและดับสลับปลงเถิดใจเอย

เฝ้าไถ่ถามใจฉันเอง ฉันเกิดมาทำไม ฉันจะเดินไปถึงไหน จุดหมายของฉันคืออะไร เฝ้างุนงงกับปรากฎการณ์รอบกาย บางคนเศร้า บางคนร้องไห้ บางคนหัวเราะ บางคนสนุกสนาน บางคนกำลังเมามาย บางคนกำลังหยอกล้อ บางคนกำลังวิ่ง บางคนนั่งคิด บางคนขณะที่มือจับพวงมาลัยบังคับรถแต่ใจเลื่อนลอยหาจุดหมายไม่ได้....นี่อะไรกัน

เฝ้าไถ่ถามใจฉันเอง ฉันพยายามทำงานไปเพื่ออะไร ทั้งที่ทำไปแล้วหยิบได้แค่ความเปล่าดาย เหมือนสายน้ำที่ญาติเทรดบนมือซากศพในวันอาบน้ำศพฉะนั้น หรือว่า ฉันสามารถนำสิ่งที่ทำในวันนี้ไปข้างหน้าได้ โลกหน้ามีอยู่จริงหรือ ฉันสามารถนำสิ่งที่ฉันทำในวันนี้ไปโลกหน้าได้หรือ ถ้าอย่างนั้นอดีตที่ผ่านมา ฉันย่อมนำมันกลับคืนมาได้ ก็ไหนล่ะความรักที่ฉันมอบให้แด่คนหนึ่งซึ่งเขาไม่กลับมาอีกแล้ว ก็ไหนล่ะเพื่อนๆ ที่เคยสนุกสนานในวัยเด็ก ก็ไหนล่ะย่าที่ฉันรัก ท่านหายไปไหนแล้ว คนที่แม่บอกว่านี้คือปู่ ตัวจริงของท่านเป็นอย่างไรหนอ ทำไมถึงนำสิ่งเหล่านี้มาไม่ได้ ทั้งที่ฉันอยู่ในอนาคตของอดีต ใช่แล้ว ทุกวินาทีชีวิตฉันก็ตายไป ในวันหนึ่งๆ ฉันนับไม่ได้ว่าฉันตายไปกี่หน เมื่อตายแล้วจะหวนคิดถึงอดีตทำไม ปล่อยให้มันไหลผ่านไปเหมือนสายน้ำที่ไหลลงจากที่สูงสู่ที่ต่ำเถิด.....แด่ผู้ล่วงลับที่เต็มไปด้วยอวิชชา

คำสำคัญ (Tags): #ศาสนาและปรัชญา
หมายเลขบันทึก: 15744เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2006 15:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท