การเรียนรู้ตลอดชีวิตในศตวรรษที่21 : ขุมทรัพย์ในตน


เชิญแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันค่ะ

 

การเรียนรู้ตลอดชีวิตในศตวรรษที่21 : ขุมทรัพย์ในตน           ความเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาในสหัสวรรษใหม่ ทำให้หลายประเทศเตรียมการเสริมศักยภาพของประชาชน ทั้งในด้านทักษะความรู้ ทัศนคติ ค่านิยม โดยการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่านทางด่วนสารสนเทศ ทั้งนี้เพื่อเป็นปัจจัยสำหรับการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และธำรงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมของประเทศในยุคโลกาภิวัตน์            ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นกุญแจสำคัญเปิดเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 นั้น ประกอบด้วย สี่เสาหลักที่เป็นรากฐานของการศึกษา อันได้แก่ ·        การเรียนเพื่อรู้ หมายถึง การรวมความรู้สามัญอย่างกว้างๆเข้าด้วยกัน โดยให้มีความเป็นไปได้ที่จะมีการศึกษาลงลึกในบางวิชาที่เลือกไว้ ซึ่งภูมิหลังกว้างๆเช่นนี้ จะเป็นใบเบิกทางนำไปสู่การศึกษาตลอดชีวิต ช่วยวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับคนมีจิตใจชอบแสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลา·        การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติได้จริง เป็นการเรียนรู้ในลักษณะที่จะช่วยสร้างความสามารถให้มนุษย์ดำรงชีพ อยู่ในสถานการณะต่างๆได้ ซึ่งความสามารถและทักษะดังกล่าว สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ ถ้าผู้เรียนรู้ได้มีโอกาสได้ทดลอง และพัฒนาความสามารถของตน โดยมีส่วนร่วมในโครงการประสบการณ์งานอาชีพ หรืองานทางสังคมอย่างจริงจัง·        การเรียนรู้เพื่อชีวิต โลกในศตวรรษที่ 21 ทุกคนจำเป็นต้องมีความคิดเป็นอิสระและรู้จักตัดสินใจ ประกอบกับมีความรู้สึกรับผิดชอบโดยส่วนตัวอย่างแรงกล้าต่อการที่จะบรรลุเป้าหมายร่วมกันกับผู้อื่น·        การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน โดยพัฒนาความเข้าใจในผู้อื่นทั้งแง่ประวัติศาสตร์ ธรรมเนียมประเพณี และค่านิยมทางจิตใจ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำหรับการรังสรรค์จิตวิญญาณใหม่ ที่ตระหนักสำนึกถึงการต้องพึ่งพาอาศัยกัน รวมทั้งการวิเคราะห์ความเสี่ยง และความท้าทายของอนาคตร่วมกัน   ทุกสังคมในโลกล้วนมีเป้าหมาย ที่จะเคลื่อนไปสู่โลกแห่งอุดมการณ์อันหลีกเลี่ยงมิได้ และจะไม่มีความสามารถใดๆของมนุษย์คนใดที่ถูกละเลย ดังนั้น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ..2542 มาตรา 8 ได้ระบุชัดเจนว่า การจัดการศึกษาให้ยึดหลักดังนี้ 1.    เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน2.    ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา3.    การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราต้องทบทวนและขยายแนวคิด เรื่องการศึกษาตลอดชีวิต ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ทั้งนี้ มิใช่เพียงเพื่อปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กับสภาพของการงานอาชีพเท่านั้น หากแต่จะต้องเข้าไปสร้างกระบวนการหล่อหลอมปัจเจกบุคคลในองค์รวมให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยครอบคลุมทั้งในด้านความรู้ เจตคติ วิจารณญาณ และความสามารถในทางปฏิบัติไปพร้อมๆกัน เพราะการเรียนรู้ตลอดชีวิตจะช่วยให้ผู้คนสามารถพัฒนาจิตสำนึก ความตระหนักรู้ในเรื่องเกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมให้มีบทบาททางสังคม ทั้งด้านการงานและชุมชนด้วย ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้าง องค์กรแห่งการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ครอบครัว ชุมชน สถานศึกษา รัฐบาลและเอกชน ต้องเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้ว่า เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้คนและองค์กรต่างๆ สามารถรับมือกับกระแสความเปลี่ยนแปลง และสามารถพลิกวิกฤตการณ์ให้กลายเป็นโอกาสได้ รวมทั้งคนไทยทุกคน ต้องตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญ คุณค่าของการศึกษาตลอดชีวิต และการเรียนรู้ตลอดชีวิตว่าเป็น หัวใจและพลังในการสร้าง คน                

 

คำสำคัญ (Tags): #km : knowledge management
หมายเลขบันทึก: 154396เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2007 10:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 09:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (52)
ดีจังค่ะข้อความนี้ทำให้รู้ค่าของการศึกษาขึ้นอีกเยอะว่ามันไม่มีวันหมดเลยถ้ามีข้อมูลดีดีจะนำมาแบ่งปันให้ค่ะ
บทความชัดเจนดีแล้วค่ะ ที่คณะครุศาสตร์ของจุฬา ฯ ก็มีอาจารย์ที่สอน Knowledge management อยู่เหมือนกันค่ะ อาจลอง search หาดู เผื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ

สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่นขอชมว่าบทความสร้างสรรค์นะคะ  น่าอ่านมาก  อยากเสนอ idea เรื่องการจัดหน้านิดเดียวเพราะเวลาอ่านแล้วมันดูเขียนเป็นหนึ่ง paragraph ไปนิด  ถ้าลองแลกเปลี่ยนความเห็นก็ 

- เขียนเป็น bullet ในตรงสีน้ำเงิน

- ขึ้นย่อหน้าใหม่ส่วนที่เป็นข้อ

ก็ยิ่งจับประเดินที่ต้องการให้ เป็นจุดสนใจง่ายขึ้นนะคะ  ดีไหมนะ  คนอ่านคนอืนช่วยออก idea ด้วยนะคะ

บทความเนื้อหาชัดเจน อ่านเข้าใจง่ายค่ะ แล้วก็เห็นด้วยอย่างมากเกี่ยวกับการเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด และพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้คนเติบโตขึ้นมาแล้วมีความรู้ ความสามารถนั้นต้องเริ่มจากการดูแลจากครอบครัวซึ่งเป็นจุดเล็กๆๆ จุดแรกแล้วขยายไปสู่สังคมที่กว้างขึ้น สำหรับการเขียนขอแนะนำให้แบ่งเป็นย่อหน้าก็จะทำให้อ่านง่ายขึ้นนะคะ แต่โดยรวมถือว่าเขียนดีแล้วค่ะ

เป็นบทความที่น่าสนใจค่ะ แบ่งเป็นหมวดหมู่ได้อย่างชัดเจน และเห็นด้วยกับบทความที่ว่า การศึกษาเป็นหัวใจและพลังในการสร้างบุคลากรของประเทศชาติ

 เห็นด้วยกัน คุณมุก คห3 เกี่ยวกับการจัดหน้า อ่ะค่ะ

ในส่วนของเนื้อหา ส่วนตัวไม่ค่อยถนัด บทความวิชาการเท่าไหร่ พออ่านแล้ว ราบรื่นเข้าใจง่ายในช่วงต้นช่วงท้าย

แต่ในส่วนตั้งแต่ " การเรียนรู้เพื่อชีวิต.....       การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน โดย....อนาคตร่วมกัน" ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ สองหัวข้อนี้ กับเนื้อหาที่บรรยาย หัวข้อว่าเรียนรู้เพื่อชีวิต แต่เนื้อหาน่าจะเป็นการเรียนรู้เพื่อการตัดสินใจ หรือ อะไรประมาณนี้มากกว่า (สงสัยเป็นเพราะเราไม่ได้ศึกษามาด้านนี้มั่งค่ะ เลยข้องข้างงง) แล้วก็ คำว่า รังสรรค์จิตวิญญาณใหม่ นี่ ส่วนตัวรู้สึกว่าค่อนข้างกำกวมนะค่ะ ไม่แน่ใจว่าผู้เขียนต้องการสื่อถึงอะไร

ไม่แน่ใจว่าเป็นประโยชน์หรือเปล่า แต่ขอบคุณที่แชร์ เนื้อหาดี ดีให้อ่านค่ะ

ชอบบทความนี้คะ เป็นการสะท้อนถึงสังคมที่ต้องมีการพัฒนาการเรียนรู้ จากจุดเล็กๆไปสู้สังคมใหญ่ เพราะการเรียนรู้นำไปสู่ การวางรากฐานของชีวิต ...

เนื่อหาของบทความถือว่าเปิดประเด็นเกี่ยวความสำคัญและความจำเป็นของการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับศตวรรษ 21 นี้ ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ความสำคัญและความจำเป็นทั้งหมดยังหาจุดเชื่อมต่อกันและสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ไม่ดีนัก จึงทำให้อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเอาหลายๆบทความมายัดไว้ด้วยกันโดยไม่ได้คำนึงถึงความต่อเนื่องและเกื้อหนุนซึ่งกันและกันเอาไว้ ควาวนี้ลองมาดูในรายละเอียดที่ให้ไว้นะครับ ผมรู้สึกว่ามีประเด็นหลักกว้างขวางและหลากหลายเกินไปจนทำให้น่าเบื่อและยากต่อการเข้าใจถึงเนื่อหาหลักของบทความนี้ นอกจากนี้บางประเด็นยังดูซ้ำซ้อนกันเองเพราะสามารถชักนำผู้อ่านไปสู่บทสรุปเบื้องต้นที่คล้ายคลึงกัน เช่น การเรียนรู้เพื่อชีวิตกับการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ซึ่งหากจะยังคงเนื้อหาทั้งหมดเอาไว้ น่าจะใช้เทคนิคการนำเสนอแบบแผนภาพเพื่อทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจและทำให้ผู้อ่านเข้าถึงเนื้อหาหลักที่ต้องการนำเสนอได้อย่างลึกซึ่ง และใช้การยกตัวอย่างเรื่องราวที่มีเนื้อหาทุกๆอย่างที่ต้องการนำเสนออยู่ในนั้นอย่างครบครัน อย่างเช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะช่วยให้เข้าถึงปรัชญาดังกล่าวได้ง่ายขึ้นและคุณก็อธิบายได้ง่ายขึ้นด้วยนะ

อ่านบทความแล้วรู้สึกเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าทุกวันนี้การเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญมากๆ คนเราไม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้อยู่ในชั้นเรียนเพื่อให้ได้ความรู้เพียงอย่างเดียวทุกๆที่ก็สามารถเป็นสร้างการเรียนรู้ได้หมดและการเรียนรู้ก็สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิตไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเด็กๆ ถึงจะเกิดการเรียนรู้ เพราะบางครั้งผู้ใหญ่ก็ยังรู้ได้ไม่หมดในหลายๆเรื่องซึ่งต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ และแน่นอนว่าบางครั้งการเรียนรู้ทฤษฏีอย่างเดียวก็อาจจะไม่แตกฉานพอบางอย่างเราจะต้องฝึกปฏิบัติเพื่อให้รู้จริงว่าขั้นตอนการทำงานเป็นอย่างไร ซึ่งบางครั้งการฝึกปฏิบัตินอกจากจะทำให้เรารู้กระบวนการทำงานแล้วยังทำให้เรารู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่นซึ่งนั่นก็เป็นการสร้างให้เรารู้จักการปรับตัวเข้ากับอื่นได้ด้วย

"อย่าลืมเรียนรู้ทุกๆอย่างด้วยความมีสตินะ" 

แต่ขอ comment นะตรงแต่ละข้อน่าจะขึ้นบรรทัดใหม่นะจะได้อ่านง่ายขึ้น

เขียนดีแล้วคับ ทำให้มีมุมมองในด้านการเรียนมากขึ้น ทำให้มีความสนใจในการเรียนมากขึ้น สะท้อนความสำคัญของการศึกษาต่อสังคมปัจจุบัน

ชื่อเรื่องและเนื้อหาน่าสนใจมาก อยากให้คนไทยได้ตระหนักถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้มากขึ้น  เพื่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เนื่องจากการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์จะเป็นรากฐานที่สำคัญ ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาในด้านอื่นๆ  ตามมา ได้แก่  ด้านเศรษฐกิจ  สังคม  การเมือง  เป็นต้น  การเรียนรู้ตลอดชีวิตจะช่วยพัฒนาให้ทรัพยากรมนุษย์มีคุณภาพและมีคุณค่าเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา

ก่อนอื่นต้องขอชมผู้เขียนที่มีความตั้งใจที่จะสื่อให้ทราบถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต

แต่การจัดรูปแบบของเอกสารควรเว้นบรรทัด  ย่อหน้า  พร้อมทั้งควรยกตัวอย่าง  และอธิบายความหมายเพิ่มเติมของคำศัพท์ที่ใช้  เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ถ้าสามารถแนะนำเอกสารอ้างอิง บทความ  หรือเวบไซด์  เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ก็จะเป็นการดียิ่งขึ้น

ผมมั่นใจว่าบทความต่อๆไปจะสามารถพัฒนา ปรับปรุง แก้ไขให้ถูกใจผู้อ่านมากขึ้น

พรพิสิทธิ์ เลี้ยงอยู่

เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วครับ การพัฒนาคนเรานั้น จำเป็นต้องสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้  แต่การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ จะสร้างได้อย่างไร  เมื่อมีความรู้แล้วจะทำอย่างไรให้คน เข้าถึงความรู้เหล่านั้นเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเอง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กรหลาย ๆ องค์กร มีการจัดการความรู้ (KM) Knowledge Management แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรหรือไม่บรรลุวัตถุประสงค์การทำKM เพราะในเรื่องของ KM นั้นคือการรวมรวมข้อมูลที่เชื่อถือได้  มีความถูกต้อง  รวมกันเป็นฐานข้อมูล  จากหลาย ๆ ฐานข้อมูล รวมกัน เพื่อจัดหมวดหมู่เป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อให้คนเข้าถึงได้ ซึ่งเรียกได้หลายอย่าง เช่น คลังข้อมูล, การจัดการความรู้ KM แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็คือการรวบรวมข้อมูลเข้าไว้ด้วยกัน และวัตถุประสงค์ของการทำระบบ KM ก็คือ ให้คนรับรู้และเข้าถึงเพื่อพัฒนาไปสู่ปัญญา (Wisdom) นั่นเอง ซึ่งการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ นั้น จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือเข้ามาช่วยในสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ

ตอนนี้Blog 2 มาแล้วนะ..ติดตามได้ที่

http://gotoknow.org/blog/A-Charawee

 

การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับสำหรับทุกคน และผมก็เชื่อว่าการศึกษาไม่มีวันหมดหรือจบสิ้นครับ

ความผิดพลาดใหญ่หลวงของกระบวนการเรียนรู้ในวิถีชีวิตของตนไทยนั้นอาจผิดพลาดมาตั้งแต่อดีตการณ์ ให้ลองสังเกตุ การสอนลูกส่วนมากจะเป็นการห้ามเสียอย่างเดียว การเรียนหนังสือก็จะเป็นการยัดเยียดสิ่งที่ผู้เขียนหลักสูตรอยากให้รู้ เพื่อให้เด็กจำเสียมากกว่า ครูเองเมื่อผ่านระบบการศึกษามาแบบเก่า แล้วมิได้เกิดการเรียนรู้เพิ่มเติมที่ดีผลร้ายก็ตกอยู่กับเด็ก อยูกับคนรุ่นหลังอีก ทั้งหมดล้วนเป็นวงจรที่หาทางออกยากยิ่ง และด้วยความคิดแบบสังคมไทย(บางคนนะ)ที่ยึดหลักผู้ใหญ๋ถูกเสมอโดยไม่ฟังเหตูผลก็ยิ่งหนักไปกันใหญ่ทำให้เกิดการหยุดการพัฒนาองค์ความรู้ไปดื้อๆ สุดท้ายผมมองว่า การพัฒนาการเรียนรู้นั้นเหมาะสมแล้วเป็นสิ่งที่ขาดในสังคมปัจจุบัน หากเร่งปลูกฝังวันนี้ คงอีกไม่นานคนที่มีคุณภาพก็จะเกิดขึ้น คนที่กรอบความคิดเปิดกว้างพร้อมที่จะรับฟังเรื่องใหม่ๆก็จะช่วยให้การพัฒนาเร็วยิ่งขึ้น

"การศึกษาคือการพัฒนาตน พัฒนาชาติ"

บทความเรื่อง การเรียนรู้ตลอดชีวิตในศตวรรษที่21 : ขุมทรัพย์ในตน เป็นบทความที่ดีทำให้ตระหนักถึงคุณค่าของการศึกษามากยิ่งขึ้นค่ะ

ชอบบทความมากค่ะ สื่อให้เข้าใจได้ว่าการเรียนรู้มีหลายด้าน ไม่มีเพียงในตำรา ซึ่งการเรียนรู้หลากหลาย จะทำให้มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้การดำรงชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 21 มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใช้เหตุและผลที่ถูกต้องเหมาะสมในการดำเนินชีวิตมากขึ้น....สำหรับรูปแบบการนำเสนอบทความเสนอให้ทำเป็นภาพ แผนผังฯ ประกอบด้วยจะดีมาก น่าจะทำให้คนอ่านเพลิดเพลินกับการอ่านมากขึ้นค่ะ

อ่านบทความนี้แล้วทำให้เกิดความคิดเชื่อมโยงกลับไปสู่แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯฉบับที่ 8 ที่เน้นคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาในแทบทุกเรื่อง  ประเทศชาติจะพัฒนาได้มากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนในชาตินั้นว่าเป็นเช่นไร   สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ณ ตอนนี้ การพัฒนา "คน " ของบ้านเราเป็นไปในทิศทางใด  

  เห็นด้วยกับบทความข้างต้นเป็นอย่างยิ่งเรื่องความสำคัญของการเรียนรู้ ทั้ง 4 ลักษณะ  ยิ่งสังคมโลกมีการเปลียนแปลงอย่างรวดเร็วและเชื่อมหรือถ่ายทอดระหว่างวัฒนธรรม  เราจึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น   และต้องพัฒนาตนเองเรียนรู้ไปตลอดชีวิต   จะเป็นประโยชน์อย่างมากหากเรียนรู้แล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง    ขอบคุณสำหรับบทความดีดี   

ขอComment นิดเรื่องจัดหน้าเอกสาร  ควรเพิ่มย่อหน้า  และแบ่งเป็นหัวข้อ  จะสวยงามและอ่านง่ายกว่านี้นะ 

ชีวิตของคนเราอาจมีทั้งยั่งยืนและไม่ยั่งยืน คนบางคนอาจเลือกที่จะทำบางสิ่งบางอย่างซ้ำๆอยู่กับที่โดยที่ไม่คิดจะศึกษาหาความรู้ ต่างจากคนอีก 1 คนที่มักมองหรือแสวงหาความสำเร็จของวันข้างหน้าด้วยความเพียรพยายามจะแสวงหาขุมทรัพย์หรือสมบัติอันสามารถติดตัวไปจนตายนั่นคือการศึกษาหาความรู้ ต่อให้มีคนมาแย่งชิงแต่ความรู้ก็มิสามารถหายไปจากตัวเราได้ ดังนั้นถ้าเรามีโอกาสที่จะเรียน หรือศึกษาในสิ่งต่างก็ไม่ควรที่จะละทิ้งโอกาสนั้นนะค่ะ

บทความนี้เป็นบทความที่ดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วทำให้เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของการศึกษา แม้ว่าอายุเราจะมากสักเพียงใดก็สามารถจะศึกษาหาความรู้ได้ วันทุกวันเราก็สามารถที่จะศึกษาอะไรได้ตั้งมากมาย "จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อรู้จักเติมเต็มความรู้ตลอดเวลา"

เป็นบทความที่ไม่ยาวเกินไป อ่านแล้วได้ความรู้ดีค่ะ มีการแบ่งใจความหลัก ๆ ของเนื้อหาไว้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้อ่านไปตามเนื้อหาที่ต้องการถ่ายทอดได้ดีค่ะ ในส่วนของรูปแบบ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ปรับให้มีช่องว่างระหว่างเนื้อหาแต่ละตอนอีกนิดก็จะดีมาก ๆ ค่ะ

เห็นด้วยครับ แต่ต้องไม่ลืมว่า ทุกข้อมูลที่ผ่านออกมาจากคนจะถูกกำกับด้วยอคติ ทั้งทางด้านสื่อ และตัวสื่อ เช่น คนๆหนึ่งอาจจะโกหก แต่เขาสามารถอธิบายเป็นวิชาการมีตารางสถิติประกอบ ขณะที่คนอีกคนหนึ่งเขาพูดความจริงแต่เขาสื่อไม่เป็น พูดติดอ่างซะอีก เหมือนคนพูดไม่จริง ทายซิผู้คนจะเชื่อคนไหน ฝากประเด็นนี้ไว้ด้วยครับ 

เห็นด้วยนะครับว่า การเรียนรู้จะต้องมีการจัดการให้เป็นระบบมากขึ้น ซึ่งประเด็นที่สำคัญก็คือ เราจะจัดการแบบบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร ตรงนี้ยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับการการเรียนรู้และการศึกษาของไทย ผมคิดว่าเป็นการริเริ่มที่ดีที่ทุกคนควรให้ความสนใจในเรื่องนี้ครับ ขอขอบคุณสำหรับแนวคิดในเรื่องนี้ครับ

การเรียนรู้ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญยิ่ง ต่อการดำรงชีวิตให้อยู่ในยุคของโลกาภิวัฒน์ได้ อย่างที่เคยได้ยินมาว่า "ไม่มีใครแก่เกินเรียน" การเรียนไม่มีวันจบ และไม่มีวันสิ้นสุด เพราะโลกของเราเปลี่ยนไปตอนเวลา และยิ่งมีการแข่งขันกันมากขึ้น ผู้ที่รู้เท่านั้นถึงจะใช้ชีวิตร่วมในโลกนี้ได้ การที่เรานั้นเรียนรู้กับสิ่งรอบด้านอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เรานั้นทันต่อความคิดและการดำเนินชีวิตของคนอื่นๆ ได้ ดังนั้นเราต้องเป็นคนที่ตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นคนช่างสังเกตุและเป็นคนช่างคิด จะทำให้เรานั้นฝึกสมองอยู่ตลอดเวลา ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ถือว่าเรานั้นยังต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เพื่อให้ตัวเราเองนั้นมีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อคนรอบข้างและสังคมด้วย

           ขอเพิ่มเติมคำพูดของนักเขียนชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า Richard Bach   ที่กล่าวว่า " การเรียนรู้คือการได้ค้นพบว่าเรารู้อะไรแล้วบ้าง การได้ลงมือปฏิบัติคือการได้ทดลองให้แน่ใจว่าเรารู้จริง การสอนผู้อื่นทำให้เราทราบว่าผู้อื่นรู้เรื่องนั้น ๆ เช่นเดียวกับเราเอง ดังนั้นเราควรเป็นทั้งผู้เรียน ผู้ปฏิบัติ และผู้สอน"

           ส่วนองค์ประกอบที่สำคัญของการจัดการความรู้ คือ คน เทคโนโลยี และกระบวนการความรู้  โดยคนเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในส่วนของเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยค้นหา จัดเก็บและแลกเปลี่ยน และนำความรู้ไปใช้ได้เร็วขึ้น ส่วนกระบวนการความรู้ เป็นการบริหารจัดการเพื่อนำความรู้จากแหล่งความรู้ไปใช้เพื่อให้เกิดการปรับปรุงนวัตกรรม  ทั้ง 3 อย่างต้องเชื่อมโยงและบูรณาการเข้าด้วยกันค่ะ

ปัจจุบันการเรียนรู้และการศึกษา ได้พัฒนาไปไกล ซึ่งสังคมมุ่งเน้นการเรียนรู้ และการแข่งขั้นเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งในศตวรรษที่ 21 คงจะไม่มีคำว่า"แบ่งปัน" และ "คน" คงจะมีแต่คำว่า "ผลประโยชน์" และ "มนุษย์" เท่านั้น  ...A-kung

 

Everyone said that but how to do sucess.

 

 

ปัจจุบันการเรียนรู้มีหลายทางมากและมีไม่สิ้นสุด กล่าวได้ว่าเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะทุกอย่างบนโลกใบนี้สามารถเรียนรุ้ได้ทั้งนั้น ในบทความนี้ได้ทำได้รู้ว่าการเรียนรู้นั้นมีประโยชน์กับทุกท่าน

เนื้อหาในบทความนี้สามารถเป็นจุดขยายไปสู่การเรียนรู้ทีไม่มีที่สิ้นสุดได้

การเรียนรู้ คือ ขุมทรัพย์ของเรา ที่แต่ละคนมีไม่เท่ากันแล้วแต่ว่าคนอยากเรียนรู้ อยู่ตลอดเวลาหรือไม่ หรือจะหยุดการเรียนรู้เพียงแค่นี้ ฉะนั้น การเรียนรู้เปรียบเสมือนเพื่อนที่อยู่กับเราตลอดเวลา จนกว่าเราจะหยุดการเรียนรู้ เพื่อนคนนี้จะร่วมทุกข์ร่วมสุข ไปพร้อมๆกับเรา ทุกวันที่เราศึกษาหาความรู้ใส่ตัวของเราวันละนิด วันละหน่อย ก็จำเป็นสำหรับเรา ดีกว่าเราไม่ศึกษาหาความรู้ใส่ตัวของเราเองเพื่อประโยชน์ และความสำเร็จ ของตัวเราเอง
ณัฐธิดา ดาวกระจาย
การเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากในโลกปัจจุบันเพราะสามารถทำให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยการปรับใช่สิ่งที่เราเรียนรู้มาให้เกิดประโยชน์สูงสุดในชีวิตเรา

ต่อไปในศตวรรษที่ 21 มนุษย์ก็คงจะเอาแต่แสวงหาความรู้ที่เข้ามาใหม่อยู่เรื่อยๆจนลืมที่จะสนใจในเรื่องวัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตต่างๆก็จะไม่มีแม้แต่คำว่า"ครอบครัวอบอุ่น "เพราะจะมีแต่การที่จะพัฒนาความรู้ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นเรื่องของการแข่งขันไปในที่สุด และความขัดแย้งก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ
 
 

รัตนา ลิขิตพิทักษ์
 - การเรียนรู้จากผู้ที่มีความรู้นั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ต้องมีบางอย่างที่จะต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองบ้าง และที่สำคัญครอบครัวถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ จะให้เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่มีใว้ให้ก็ไม่ได้ดีไปเสียทั้งหมดต้องมีการกล่อมเกลาจากสิ่งแวดล้อมอยู่ดี
จริงอยู่ที่การเรียนรู้จะสามารถรับมือกับกระแสความเปลี่ยนแปลง และสามารถพลิกวิกฤตการณ์ให้กลายเป็นโอกาสได้ แต่ความรู้เพียงอย่างเดียวก็ยังไม่สามารถทำให้โอกาสนั้นเป็นโอกาสที่ดีพอ ซึ่งจะต้องมีทั้งคุณธรรมและจริยธรรมเข้ามาร่วมด้วย เพราะความรู้อาจนำมาซึ่งผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่คุณธรรมและจริยธรรมจะนำมาซึ่งความเอื้อเฟื้อต่อกัน ฉะนั้นคนเราจึงต้องมีองค์ประกอบทั้ง 3 นี้ คือ เรียนรู้ คุณธรรมและจริยธรรม จึงจะทำให้คนๆนั้นเป็นบุคคลที่มีความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี
อุกฤษฎ์ เลี่ยงสกุล

ปัจจุบันการเรียนรู้และการศึกษา ได้พัฒนาไปไกล ซึ่งสังคมมุ่งเน้นการเรียนรู้ และการแข่งขั้นเป็นประเด็นสำคัญ Richard Bach   ได้กล่าวไว้ว่า " การเรียนรู้คือการได้ค้นพบว่าเรารู้อะไรแล้วบ้าง การได้ลงมือปฏิบัติคือการได้ทดลองให้แน่ใจว่าเรารู้จริง การสอนผู้อื่นทำให้เราทราบว่าผู้อื่นรู้เรื่องนั้น ๆ เช่นเดียวกับเราเอง ดังนั้นเราควรเป็นทั้งผู้เรียน ผู้ปฏิบัติ และผู้สอน" ส่วนองค์ประกอบที่สำคัญของการจัดการความรู้ คือ คน เทคโนโลยี และกระบวนการความรู้  โดยคนเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในส่วนของเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยค้นหา จัดเก็บและแลกเปลี่ยน และนำความรู้ไปใช้ได้เร็วขึ้น  ในการที่จะเรียนรู้ให้ได้ดีนั้นต้องขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยว่าจะตั้งใจมากน้อยเพียงใด...ขอบคุณครับ

จันทนา ลีรักพานิช 48473100132

 เห็นด้วยอย่างยิ่งสำหรับการเน้นเรื่องความรู้ให้เป็นสิ่งสำคัญ เเละเราก็สามารถถือได้ว่าความรู้เป็นสิ่งที่คู่กับคนเรามาตั้งเเต่เกิดเลยก็ว่าได้ ความรู้เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักวิธีการคิด การเริ่มต้นที่จะกระทำการใดๆก็เเล้วเเต่ ล้วนเเต่ต้องเกิดจากการที่เรามีความรู้ในเรื่องนั้นๆก่อน การศึกษาก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับเราได้มาก สิ่งใดก็ตามที่มีค่าไม่สามารถนำมาเปรียบกับความรู้ได้เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหาซื้อได้ เเต่เราเองที่จะสามารถนำความรู้ที่เรามี มาเปลี่ยนเป็นรายได้ก้อนโตที่จะทำให้เราดำรงชีวิตได้ไปจนตาย เเต่ถ้าเรามีความรู้อย่างเดียวมันคงไม่พอ เราต้องรู้จักปฎิบัติตามไปด้วยเพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ของเราให้เกิดความชำนาญ ส่วนความรู้ไม่ใช่ว่ารู้สึกว่ามีความรู้พอเเล้วจะไม่ค้นคว้าต่อมันไม่จริง เราต้องขวนขวายหาความรู้ใส่ตนเองเสมอๆ เพื่อให้เป็นคนที่ทันบ้านทันเหตุการณ์ รู้จักเเยกเเยะ วิเคราะห์ ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด ถ้าเราไม่มีความรู้ ก็เปรียบเหมือน คนไร้การศึกษาที่ไม่สามารถเข้ากับสังคมในปัจจุบันได้ เเต่ถ้าเรามีความรู้เเล้วนำมาใช้ไม่ถูกวิธี ไม่ถูกเรื่อง มันอาจสร้างปัญหาให้กับตนเองเเละผู้อื่นก็เป็นได้ ความรู้ที่เรามีเราต้องรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเเละสำคัญที่สุดคือต้องใช้ให้ได้ประโยชน์กับตนเองเเละผู้อื่น คนมีความรู้ต้องไม่อยู่นิ่ง ต้องรู้จักทำมาหากินที่สุจริต ไม่งั้นจะเป็นดั่งคำสุภาษิตที่ว่า "ความรู้ท่วมหัว  เอาตัวไม่รอด"

บทความนี้ให้ความสำคัญเกี่ยกับเรื่องของการเรียนรู้ ว่าถ้าประเทศมีการพัฒนาเกี่ยกับการเรียนรู้มากขึ้น ประชาชนก็จะมีความเจริญก้าวหน้า และการเรียนรู้ก็จะมีทั้ง การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติได้จริง เราสามารถเรียนแล้วนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเราเอง และคนอื่นๆ ได้ การเรียนรู้เพื่อชีวิต เราสามารถเรียนรู้ เพื่อนำไปประกอบอาชีพ หารายได้ให้กับตนเอง การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน เราเรียนรู้เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ สามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นๆ ได้อย่างมีความสงบสุข
การเรียนรู้..คือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ค่อนข้างถาวร โดยเป็นผลจากการฝึกฝนเมื่อได้รับการเสริมแรง มิใช่เป็นผลจากการตอบสนองตามธรรมชาติที่เรียกว่า ปฏิกิริยาสะท้อน การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อันเป็นผลจากการฝึกฝนและประสบการณ์ แต่มิใช่ผลจากการตอบสนองที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ การเรียนรู้เป็นการแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง อันเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์ที่แต่ละคนได้ประสบมา การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่บุคคลได้พยายามปรับพฤติกรรมของตน เพื่อเข้ากับสภาพแวดล้อมตามสถานการณ์ต่าง ๆ จนสามารถบรรลุถึงเป้าหมายตามที่แต่ละบุคคลได้ตั้งไว้

สำหรับตัวข้าพเจ้าคิดว่าการศึกษาเป็นสิ่งที่และทุกคนควรจะมีติดตัว ปัจจุบันนี้มีคนได้กล่าวการศึกษาไม่มีที่สิ้นสุด แสดงว่าชีวิตคนเรานั้นไม่สายหากจะศึกษาต่อไป ถือว่าการศึกษานั้นเป็นสิ่งที่กว้างขว้าง

สิทธิ์พงศ์ กลิ่นพิโรจน์

การเรียนรู้นั้นเรียนได้ตลอดชีวิตไม่มีอายุมากั้นขวาง เรียนรู้เพื่ออนาคตของตนเอง ครอบครัว สังคม เเละประเทศชาติที่พัฒนาขึ้นไปในทางที่ดีเพราะตัวของเราเองที่มีนิสัยชอบเรียนรู้ตลอดเวลาเเม้กระทั่งดูการ์ตูนก็ต้องมีสักจุดที่เราสามารถเรียนรู้ในทางที่ดีได้ถ้าเรารู้จักวิเคราะห์เเละนำมาประยุกต์ใช้ได้เป็น

ความรู้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด         จงอย่าหยุดค้นหาความรู้นั้น

ทั่วทุกผืนร่วมมือเเละช่วยกัน      เเบ่งปันสิ่งที่ดีให้ทุกคน

นายวีรวุฒิ ปกรณ์เลิศตระกูล
การเรียนรู้นั้นเป็นวิชาที่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต เช่น การสมัครงาน การศึกษา เป็นต้น การเรียนรู้จะไม่มีวันสิ้นสุดจนการชีวิตเราจะดับลงไป การเรียนรู้ควรที่จะรู้ว่าเราเรียนไปนำไปใช้อะไรในชีวิตประจำวันเราได้บ้างหรือไม่
ภาณุพงศ์ ซอรักษ์ 49473100071

ปัจจุบันการเรียนรู้มีหลายทางมากและมีไม่สิ้นสุด กล่าวได้ว่าเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะทุกอย่างบนโลกใบนี้สามารถเรียนรุ้ได้ทั้งนั้น ในบทความนี้ได้ทำได้รู้ว่าการเรียนรู้นั้นมีประโยชน์กับทุกท่าน

เนื้อหาในบทความนี้สามารถเป็นจุดขยายไปสู่การเรียนรู้ทีไม่มีที่สิ้นสุดได้

น.ส.อรอนงค์ เอื้อสถาพรกิจ

ข้าเจ้าว่าการศึกษาการเรียนรู้มันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วทั้งตัวเราเองแล้วถ้าเราเป็นคนเก่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแล้วไปประกวดเกี่ยวกับการศึกษาที่เราเรียนแล้วถ้าเราได้รางวัลก็ช่วยสร้างชื่อให้กับประเทศไทยด้วยไงค่ะและก็เป็นความภูมิใจของเราและคุณพ่อคุณแม่ของเราด้วย เห็นไหมค่ะว่าเจอแต่สิ่งดีดีกับตัวเราทั้งนั้นเลยค่ะ

นวลปรางค์ ขันตยาภรณ์

เป็นเรื่องจริงค่ะเห็นด้วยกับทุกๆข้อความค่ะ

น.ส.สุปราณี ศรีสว่าง 026

การเรียนรู้ในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีด้วยกันแล้วแต่ใครจะใช้วิธีไหน  เพราะทุกวิธีจะมีแบบไม่สิ้นสุด  เราสามารถที่จะเรียนรู้กันได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเด็กหรือแก่  เพราะการเรียนรู้สามารถศึกษาได้ตลอดชีวิตอยู่ที่เราจะศึกษามันมากน้อยเพียงใด

นางสาวมาลินี แพบำรุง
การเรียนรู้ในปัจจุบันมีด้วยกันหลายวิธี เช่น 1.การอ่านหนังสือ 2.การศึกษาค้นคว้าจากห้องสมุด 3.การศึกษาจากเพื่อน เป็นต้น ไม่ว่าจะวิธีไหนหรือไม่ว่าจะเป็นวัยประเภทใด ก็สามารถเรียนรู้ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะว่าเรียนรู้อยู่คู่กับเราไปตลอดชีวิตไม่ว่าเป็นการสมัครงานหรือทำความรู้ที่ได้นั้นมาสอนให้กับผู้อื่น
นางสาวจุฑารัตน์ สุขสวัสดิ์

การเรียนรู้จะอยู่คู่กับเราไปตลอดชีวิต การเรียนรู้มีด้วยกันหลายหลายวิธีที่เราศึกษากัน เพียงแค่เรานำความรู้นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากน้อยเพียงใด

นางสาวพรชนก สมาธิวัฒน์
การเรียนรู้นั้นไม่ว่าจะนานแค่ไหนเราก็สามารถที่จะเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ความรู้นั้นมันไม่มีที่สิ้นสุดไม่ว่าเราจะอายุมากแค่ไหนก็ตาม เราควรที่จะศึกษาเอาไว้มากๆเพื่อที่จะทำให้เรานั้นมีความรู้เพิ่มขึ้น ปัจจุบันการที่เราจะแสวงหาความรู้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับมนุษย์ทุกคน ดังนั้นเราทุกคนควรที่จะหาความรู้ไว้ให้มากๆไม่ว่านานแค่ไหนความรู้ก็จะติดตัวเราไปตลอดเวลา
นางสาวกนกอร สมาธิวัฒน์

เราทุกคนควรมีความรู้บ้างเพื่อการอยู่รอดของเรา

ถ้าเราไม่มีความรู้ตัวเราเองก็จะลำบากในอนาคต

เราควรที่จะหาความรู้ไว้ให้มากๆ เพราะความรู้อยู่คู่กับเราไปตลอดชีวิต

 

นายสุรศักดิ์ รัตนมังสังค์

ปัจจุบันการศึกษาและการเรียนรู้ประชาชนทุกคนควรที่จะเรียนรู้ให้มากขึ้นและควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพราะมันส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศชาติ

นางสาวอริสรา อินทรขุนทศ

การเรียนรู้เป็นทักษะต่างที่ส่งผลต่อพฤติกรรม เรามีการเรียนรู้ได้หลายวิธี เราอาจจะเรียนรู้ด้วยตัวของเราเอง หรือจากบุคคลอื่น หรือสิ่งรอบข้างตัวเรา ดังนั้นเพียงแค่เรารู้จักนำความรู้ที่ได้มามาสร้างให้เกิดประโยชน์และผลดี มันก็ย่อมส่งผลโดยตรงกับเราเองอีกด้วย

ชารวี บุตรบำรุง ( ผู้เขียน )
        อันดับแรก ต้องขอขอบคุณทุกความคิดเห็นที่แสดงเข้ามา จริงๆแล้ว การเรียนรู้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และตลอดชีวิต เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกทาง อย่างต่อเนื่อง และเห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ว่า " การเรียนรู้คือการได้ค้นพบว่าเรารู้อะไรแล้วบ้าง การได้ลงมือปฏิบัติคือการได้ทดลองให้แน่ใจว่าเรารู้จริง การสอนผู้อื่นทำให้เราทราบว่าผู้อื่นรู้เรื่องนั้น ๆ เช่นเดียวกับเราเอง ดังนั้นเราควรเป็นทั้งผู้เรียน ผู้ปฏิบัติ และผู้สอน" ขอบคุณค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท