ตำนานผีล้านนาตอนเสือผี


เสื่อผีมักจะทำร้ายคนที่ทำผิดขึ้ดในป่า

สิ้นหน้านาผู้คนเก็บข้าวใส่หลองหรือเยียข้าว(ยุ้งฉาง)หนุ่มสาวที่อยู่ใกล้ป่าเหมี้ยง ก็ชวนกันไปรับจ้างเก็บใบเหมี้ยงตามสวนเหมี้ยงที่อยู่แทรกในป่าสูง  เจ้าของสวนเหมี้ยงมักเป็นผู้มีเงิน ผู้คนเรียกขานเขาว่า" พ่อเลี้ยง"

ตามสวนเหมี้ยงต้องมีที่พักอาศัยให้ลูกจ้างเรียกกันว่า"ตูบ" มุงด้วยใบตองปูและกั้นฝาด้วยฟากไม้ไผ่ แบ่งเป็นโรงนอนของลูกจ้างชายหญิงแยกกัน โรงหนึ่งอาจนอนได้สามสี่สิบคน  ตื่นเช้าทุกคนต่างสะพายก๋วยเหมี้ยง(ตะกร้า)พร้อมกับขอไม้เพื่อเหนี่ยวกิ่งเหมี้ยงลงมาเก็บใบ 

ชีวิตในสวนเหมี้ยงหลังจากเก็บเหมี้ยงมากันแล้วบางครั้งหนุ่มๆก็พากันเดินข้ามเขาไปแอ่ว(เที่ยว)สาวสวนเหมี้ยงใกล้เคียง บ่อยครั้งที่หนุ่มและสาวต่างสวนได้พบปะและเกิดรักกัน  ด้วยเหตุนี้ บางวันที่ไม่เก็บเหมี้ยงหนุ่มจะนัดสาวไปนั่งคุยตามป่าเขา

เช้าวันที่หมอกลงจัด ในฤดูที่เรียกกันว่าเหมี้ยงซ้อยก็ราวปลายหนาวนี่แหละ  ผู้คนต่างแตกตื่นเรียกหาปู่อาจ๋ารย์(หมอพิธีกรรม)เพื่อมาดูรอยโหวกแหวกใบตองที่มุงหลังคาพร้อมกับค้นหาสาวลูกจ้างเก็บเหมี้ยงชื่อบัวผัด

ท่ามกลางความอกสั่นขวัญหายของผู้คนสวนเหมี้ยงกำลังล้อมดูรอยเท้าเสือกว้างเกือบๆศอกปู่อาจ๋ารย์แหวกวงล้อมขึ้นไปดูรอยโหว่  ด้วยประสบการณ์ในผืนป่าปู่อาจ๋ารย์บอกกับผู้คนว่า "  หันก่อ  นี่มันขึ้ด  อาถรรพ์เจ้าป่าเจ้าเขา  ที่รอยโหว่หลังคาใบตองตึง  ขนาดคนลอดได้นั่นคือเสือผี มันมาเอาอี่นางบัวผัดไปแล้ว   เก่งแต๊ๆ  ทั้งๆที่นอนอยู่กันหลายคนแต่มันมาจ้ก(ล้วง)เอาแต่อี่นางบัวผัดคนเดียวไปแล้ว "

ปู่อาจ๋ารย์ได้ร่วมกับชาวบ้านสำรวจรอยเท้าเสือที่ใหญ่ผิดปกติกว่าเสือทั่วไป ร่องรอยมันเดินเวียนรอบตูบไม่ต่ำกว่าสามสี่รอบ ปู่อาจ๋ารย์บอกว่า "เสือผีมันเตียวแวดตูบเพื่อใช้มนต์สะกดผู้คนให้หลับสนิทแล้วมันจึงขึ้นไปบนหลังคาแหวกหลังคาใบตองใช้ปากงับคอใช้เท้าคู่หน้าอุ้มเอาอี่นางบัวผัดไปกิน  "  ประสบการณ์ของปู่อาจ๋ารย์ในป่าบอกว่ามันจะต้องลากศพไปกินไม่ไกลจากที่นี่มากนัก     เขาชวนลูกบ้านพร้อมอาวุธสินาด(ปืนยาว) หลายกระบอกไปด้วยกัน ตามรอยเสือถึงริมห้วย เห็นศพอี่นางบัวผัดเหลือแต่ท่อนบน ส่วนที่ตะโพกหายไป  พ่อปู่อาจ๋ารย์จึงบอกผู้คนที่ไปด้วยว่า " แมวกิ๋นหัว  เสือกิ๋นก้น " หมายความว่าถ้าเป็นแมวกินซากสัตว์มักจะกินแค่หัว  ส่วนเสือกินซากสัตว์มักจะกินส่วนก้นหรือสะโพก

ปู่อาจ๋ารย์บอกว่า" อี่นางบัวผัดมันมีผัวแล้ว แสดงว่ามันมาลักเหล้นกับไอ่หนุ่มคนใดคนหนึ่งเป็นแน่  มันถึงเป็นแบบนี้  "

ผู้คนล้านนามักสอนกันว่า หากหญิงใดก็ตามได้นอนหลังแตะดินเสพสมกับชาย แม่พระธรณีจะสาบแช่งให้เป็นหญิงกาลีตลอดไป

ศพของอี่นางบัวผัดถูกชาวบ้านนำไปฝังใกล้ลำห้วย เพราะถือว่าเป็นศพที่เจ้าป่าเจ้าเขามาจัดการไว้แล้ว  ผู้คนสมัยก่อนจะไม่นำศพที่เป็นซากเสือผีกลับไปทำพิธีที่บ้านหรือที่วัด

เรื่องเสือผีเกิดขึ้นที่สวนเหมี้ยงแห่งหนึ่งที่เป็นแดนรอยต่อระหว่างเมืองเชียงใหม่กับเมืองเชียงรายราวปี พ.ศ.  2406 -2408 โดยที่ท่านผู้เล่าปัจจุบัน(พ.ศ.2550) ท่านอายุได้ 94 ปีท่านได้ยินผู้เฒ่าเล่าต่อกันมาเป็นทอดๆและเล่าเรื่องให้ผู้เขียนได้ฟังจนล่าสุดก็มาถึงท่านผู้อ่านนี่แหละครับ

เสือผีเป็นเสือที่ไม่อาจเสาะหาตัวจริงมันได้ แต่มันมีรอยเท้าเสือและซากศพที่มันกิน  ที่สร้างความฉงนใจแก่ผู้คนว่า  มันงึ้ดแต๊ๆ

 



ความเห็น (2)

สวัสดีครับ

  • อ่านแล้วสยองดีครับ แต่ก่อนป่าไม้คงหนากว่านี้ เข้าป่าก็ดูน่ากลัว สมัยนี้ป่าไม่ค่อยมี สงสัยว่าสิงสาราสัตว์ และความเชื่อเรื่องผีคงหายๆ ไปเหมือนกันนะครับ
  • เปลี่ยนรูปใหม่แล้ว เท่เลยครับ ;)

ยกมือสิบนิ้ว  ก่ายกิ๊วเก๋ศา  นอบนบวันตาจักมาขอไหว้......

ขอบคุณมากครับ..อาจารย์ธวัชชัย  ที่ได้ให้ข้อคิดเห็นต่างๆ  หมู่นี้ผมขึ้นไปนิเทศโรงเรียนตามป่าเขา ก็ได้เรื่องราวเกี่ยวกับป่า และสมุนไพรมาฝากพวกเรามากมาย คงจะทยอยเล่าๆกันไป

เรื่องรูปขอเปลี่ยนหน่อยเถอะครับ รูปเก่าดูๆคอมันยาว  สมาชิกเว้บเราหลายคนเมื่อไปเห็นตัวจริงที่สวนชาปิ้งหินไฟ ต่างก็เสวนากันตามประสาและบอกว่าน่าจะเปลี่ยนรูป ผมก็เลยทำตามโดยเฉพาะหลานๆสาวๆไปอบสมุนไพร ก็กล่าวถึงคุณธวัชชัยเหมือนกัน ขอบคุณมากครับ

ไหว้สาลาไปก่อนเน้อครับ......จากลุงหนาน

                                         พรหมมา

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท