ค่าดูหนัง


การให้

สอนคุณธรรมอย่างไร

ให้มีความพอเพียง

บทที่ 16/8

การให้

                                                                                    จุดประสงค์ :   เพื่อรู้ รัก และฝึกจนเคยชิน

นิทานคติ  เรื่อง : ค่าดูหนัง

เป็นหนึ่ง เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวใหญ่ของเมือง เจ้าสัวส่งเขาให้เรียนโรงเรียนประจำจังหวัด เขาจึงแสดงความเป็นลูกคนรวยเพื่อข่มเพื่อนคนอื่นๆ นั่นเป็นเหตุทำให้เขาไม่มีเพื่อนสนิทเลย ทุกคนดูเหมือนจะอิจฉาที่เขาแต่งตัวดี มีนาฬิกายี่ห้อแพงๆ ใส่ รองเทาเปลี่ยนคู่ใหม่ทุกสัปดาห์ เสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่ทุกเดือน ทั้งที่มันไม่จำเป็นเลย ทุกวันหยุดเป็นหนึ่งจะไปเที่ยว และเอารูปมาอวดคนอื่นๆ  ทุกวันเจ้าสัวจะให้คนรถขับมารับและส่งเป็นหนึ่งที่โรงเรียน อย่างไรก็ตามเป็นหนึ่งก็ยังเชิญเพื่อนๆ ไปงานปาร์ตี้ที่บ้านบ่อยๆ แต่เพื่อนๆ ก็มักรู้สึกว่าเขาชอบโชว์และอวดของต่างๆ ในบ้าน มากกว่าที่ต้องการให้เพื่อนๆ มาสนุกกัน

 ดูนี่ซิ นาฬิกานี่พ่อเราซื้อให้จากสวิสเชียวนะ

เพื่อนๆ เราไปเที่ยวเชียงใหม่มา ถ่ายรูปมาเยอะเลย มาดูซิ

นี่เราไปเดินเล่นห้างมา เห็นมันน่ารักดี ก็เลยซื้อมาห้อยกระเป๋านะ

เราได้เกมส์ใหม่มา ใครสนใจจะเล่นกับเราไหมละ เกมส์ใหม่ล่าสุดเลยนะ 

เวลาที่เขาอวดของ เพื่อนๆ ก็มักจะตอบรับไปอย่างนั้น ไม่นานเป็นหนึ่งก็รับรู้ว่าเขายังไม่มีเพื่อนจริงๆ เลย ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะสนิทกับเพื่อน อนัคเป็นคนหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆ เขาเป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่นๆ และเขายังเป็นคนที่เรียนใช้ได้ทีเดียว เป็นหนึ่งจึงเข้าไปตีสนิท และมักจะซื้อของกินมาให้อนัคบ่อยๆ

อนัคไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร พ่อกับแม่เป็นแค่พนักงานในบริษัทเล็กๆ เท่านั้น เป็นหนึ่งจึงมักจะหยิบยื่นเงินให้อนัคเมื่อเห็นว่าอนัคไม่มีเงินพอที่จะซื้อของที่ต้องใช้ในชั้นเรียน หรือเวลาไปเดินห้างด้วยกัน แต่อนัคก็มักจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่เคยว่าเป็นหนึ่ง เพราะว่าสำหรับอนัค เป็นหนึ่งก็คือเพื่อนคนหนึ่งเช่นกัน แม้จะมีเพื่อนคนอื่นๆ มาบอกบ่อยๆ ว่าเป็นหนึ่งชอบทำข่มอนัค แต่อนัคก็ไม่สนใจ 

แม่ของอนัคมักจะสอนเขาว่า ความเป็นมิตรไม่อาจซื้อได้ด้วยเงิน แต่ถ้าจะทำอย่างนั้น ก็จะไม่ได้เพื่อนแท้ และเราไม่ควรรับเงินของใคร แม้เราจะจนแต่เราไม่ใช่ขอทาน 

ในบางครั้งอนัคก็ขอยืมเงินของเป็นหนึ่ง แต่ในไม่ช้าเขาก็จะคืนให้เสมอ เพราะว่าเขาถือว่านั่นเป็นมาตรฐานในชีวิตของเขา  เวลาที่เขาคืนเงินที่ยืมไป เป็นหนึ่งก็จะรับคืน แต่จะพูดเสมอว่า

วันหลังนายไม่ต้องคืนหรอก เงินแค่นี้ เราไม่ใส่ใจหรอก 

ต่อมาเมื่อเศรษฐกิจเริ่มตก เจ้าสัวพ่อของเป็นหนึ่งประสบปัญหาทางธุรกิจ เขาต้องขายกิจการไปหลายอย่าง แม้บ้านก็ติดอยู่กับธนาคาร  รถที่เคยมีก็ต้องขายไป  เป็นหนึ่งมีเงินน้อยลง เขาไม่มีของมาอวดอีก และเริ่มเก็บตัว ไม่ค่อยพูดกับใคร เป็นหนึ่งกลัวว่าเขาจะไม่เป็นที่สนใจของใครอีก เขาไม่มีเงินแล้ว  

อนัคสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ วันหนึ่งอนัคจึงเดินไปนั่งลงข้างๆ เป็นหนึ่งแล้วถามว่า

ช่วงนี้ นายเป็นไง เห็นเงียบๆ ไป

เป็นหนึ่งมองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็ไม่ตอบอนัครู้ว่าอีกฝ่ายอึดอัดใจ จึงเอามือตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ แล้วก็พูดว่า

เรายังเป็นเพื่อนกันนะ

อนัคบอกแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป เป็นหนึ่งมองตามเพื่อนคนเดียวที่เขาคิดว่าเขามีตอนนี้เย็นวันนั้นอนัคและเพื่อนๆ จะไปดูหนังกัน อนัคเห็นเป็นหนึ่งยังไม่กลับบ้าน จึงเข้าไปชวนเป็นหนึ่งให้ไปด้วย เป็นหนึ่งรับคำเมื่อทั้งหมดไปถึงโรงหนัง ทุกคนไปซื้อตั๋วกันแล้วแต่เป็นหนึ่งยังคงยืนอยู่ เขาพบว่าเขาเหลือเงินไม่พอค่ารถกลับบ้านถ้าเขาซื้อตั๋วดูหนัง อนัคเดินไปหาอีกฝ่าย เป็นหนึ่งจึงบอกว่า

อนัค เราขอไม่ดูหนังนะ เรามีเงินไม่พอ

พูดจบเป็นหนึ่งก็ก้มหน้าลง เขารู้สึกอายมากที่ต้องบอกเพื่อนว่าเขาไม่มีเงินอนัคโอบแขนไปรอบคออีกฝ่าย แล้วลากไปทางที่จองตั๋ว พลางบอกว่า

เราซื้อให้เอง เพื่อนกัน ไม่เห็นเป็นไรเลย

เป็นหนึ่งเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเพื่อนแท้เป็นอย่างไร และเห็นถึงการให้ของเพื่อนที่ไม่หวังอะไรจากเขาเป็นหนึ่งจึงพูดขึ้นเบาๆ ว่า

ขอบใจนะเพื่อน            

ช่วยกันขยายความเพื่อสร้างความเข้าใจ           

๑) ให้ช่วยกันหาคติพจน์และสุภาษิตส่งเสริมการให้           

๒) ให้ช่วยกันหาคำสอนของศาสนาต่างๆ ที่กล่าวถึงการให้           

ในทั้งสองกรณีให้มีอาสาสมัครรวบรวมบันทึกไว้ เพื่อทำเอกสารแจกให้เก็บไว้ โดยลงวันที่ไว้ด้วย 

ฝึกคุณธรรม            

๑) ฝึกรู้รอบ : เรื่องนี้เหมาะสมสำหรับสอนเรื่องการให้หรือไม่ เพียงใด  

๒) ฝึกแข็งขัน : เราจะให้ได้อย่างไร ในโอกาสไหน และบ่อยแค่ไหน           

๓) ฝึกพอเพียง : การให้อย่างไร จึงเรียกว่า พอเพียง                                   

- อย่างไรเรียกว่าขาด                                   

- อย่างไรเรียกว่าเกิน           

๔) ฝึกความยุติธรรม : การให้อย่างไม่ยุติธรรมมีหรือไม่ ให้ช่วยกันยกตัวอย่าง 

กิจกรรมสันทนาการ

๑.     หาอาสาสมัครมาเล่าถึงสิ่งที่เขาเคยให้แก่บุคคลต่างๆ เช่น พ่อแม่ เพื่อน

๒.     หาอาสาสมัครมาเล่าถึงการได้รับ สิ่งที่ได้รับจากบุคคลรอบข้าง

๓.      ให้ทั้งหมดเล่าถึงความรู้สึกที่มีการจากให้และการได้รับ 

 เอนก สุวรรณบัณฑิต                                                           

ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการคุณธรรมและจริยธรรม                                                           

สภานิติบัญญัติแห่งชาติเอกสารคุณธรรมและจริยธรรมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ปรับจากหนังสือ Discovering the Real Me, Universal Peace Federation Edition

คำสำคัญ (Tags): #การให้#คุณธรรม
หมายเลขบันทึก: 152883เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2007 19:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท