ในชีวิตของ บุญคม ชารีรักษ์ ไม่มีทรัพย์สินอะไรมากไปกว่าจักรยานเก่า ๆ หนึ่งคัน ชายวัยสี่สิบหก เลี้ยงชีพด้วยการเข็นรถเร่ขายนมดัชมิลล์ที่จังหวัดกาฬสินธุ์
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2550 ได้ยินข่าวจากทางโทรทัศน์ ซึ่งอาจจะล่าช้ากว่าคนอื่น ๆ แต่ก็ทำให้ชายยากจนตัดสินใจเร็วที่สุดในชีวิต
นั่นคือ คว้าหมวกกันน็อก แล้วปั่นจักรยานคันเก่าจากบ้านที่กาฬสินธุ์มายังโรงพยาบาลศิริราช โดยใช้เวลา 2 วัน 2 คืน ปั่นมาโดยไม่กลัวอด ไม่กลัวหิว ในกระเป๋าไม่มีเงินติดตัวสักบาท ไม่มีสัมภาระใด ๆ ไม่กลัวแม้กระทั่งว่าจะต้องมาหลงทางอยู่กลางมหานคร
"เวลาในหลวงขึ้นเขาลงห้วยไปช่วยราษฎรในที่ไกลกันดาร พระองค์ท่านลำบากกว่าเราอีก ฝนตก ฟ้าร้อง ท่านก็ไป ไอ้เรื่องที่ปั่นจักรยานจากกาฬสินธุ์มาถวายพระพรท่านนี่ถือว่า เล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับสิ่งที่ท่านทำให้คนไทย"
จักรยานคันเก่า ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ พาเขามาเหยียบเมืองกรุงได้เป็นครั้งแรกในชีวิต แม้จะถูกความจอแจพาไปหลงทางอยู่แถวพหลโยธินอยู่ค่อนวันได้ อาศัยถามทางมาเรื่อย ๆ จนถึงศิริราช
นับแต่วันที่ 20 ตุลาคม หนุ่มใหญ่เลือดอีสานขนานแท้ก็กินนอนอยู่ที่ลานหญ้าหน้าตึก 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช จนกระทั่งถึงวันที่ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ความรักที่คนไทยมีต่อในหลวงนั้นมากมายเหลือคณานับ และมันยังเอ่อล้นมาถึงคนบ้านนอกจน ๆ อย่างเขา ให้ได้อิ่มหนำจากอาหารสามมื้อที่ใครคนที่เขาไม่รู้จักผลัดกันนำมาเลี้ยง รวมถึงสิ่งของพระราชทานจากสำนักพระราชวัง เสื้อผ้าเหม็นสาบก็มีเปลี่ยน
ถ้าไม่ได้ออกเดินทางไกล เขาคงไม่ได้เห็นบรรยากาศอันไม่อาจอธิบายได้ด้วยคำ และยิ่งทำให้ความรักต่อพระองค์ล้นพ้นทวี
"ถ้าเอาชีวิตผมไปแล้วพระองค์ท่านหายประชวร ทรงเป็นอมตะได้ ผมพร้อมใจทันที"
หัวใจของบุญคมอยู่ที่ชั้น 16 แม้กระทั่งเสมียนร้านนม โทร.มาตามให้กลับไปทำงาน เพราะหายหัวมานานเป็นอาทิตย์ เขากลับไม่เป็นเดือดเป็นร้อน
"ถ้าจะต้องออกจากงานก็ยอมล่ะ ผมไม่ได้มากินเหล้าเมายาที่ไหน แต่เดินทางมาถวายพระพรให้พระเจ้าแผ่นดิน เราเป็นคนไทย การที่ในหลวงป่วยหรือเป็นอะไรมันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด อะไรจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่ขอให้ได้มาเฝ้าท่าน"
จวบจนกระทั่งได้เห็นในหลวงมีพระพลานามัยแข็งแรงดีดังเดิม บุญคมถึงกับน้ำตาไหล แล้วก็รู้ว่าถึงเวลาจะต้องกลับบ้านเสียที เกือบ 500 กิโลเมตรไปกาฬสิทธุ์ เขาบอกว่า ไม่รู้ขามาปั่นมาได้อย่างไรแค่สองวัน เที่ยวกลับคงต้องนานกว่านี้มาก เพราะไม่ต้องรีบร้อนอะไร
เขากระชับหมวกกันน็อกให้เข้าที่ก่อนออกเดินทาง แต่ก็ไม่ลือให้คำมั่นว่า 5 ธันวาคม จะปั่นจักรยานลงมาถวายพระพรพระองค์ท่านที่สนามหลวงอีก
บางทีชีวิตเขาเมื่อกลับถึงกาฬสิทธุ์อาจไม่เหมือนเดิม บางทีอาจไม่ได้เดินขายนมอีก เพราะถูกไล่ออก
"เรื่องงาน ผมหาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่เดินขายนม เรายังทำไร่ เดินเก็บขยะขายได้"
"แต่พระเจ้าแผ่นดินอย่างนี้เราหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว"
ขอบคุณนิตยสาร Kor Kon Magazine ประจำเดือนธันวาคม 2550
ผมรักในหลวง
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
สวัสดีค่ะ อ.วสวัตดีมาร
เบิร์ดพยายามเข้าระบบแต่ไม่สำเร็จเลยมาโผล่แบบไม่ล็อคอินแทนนะคะ
อ่านแล้วยิ้มแบบน้ำตารื้นเหมือนๆกับทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่าน ( เบิร์ดอ่านทุกบันทึกของอาจารย์นั่นแหละค่ะ แต่เข้ามาแสดงความเห็นบ่ได้ )
พระมหาชนกว่ายน้ำ เจ็ดวัน
เพียรเพื่อเพียรผลพลัน หลุดพ้น
ในหลวงยิ่งยอดขยัน เสียสละ
ทำเพื่อธรรมท่วมท้น ทั่วทั้ง ถิ่นไทย
พระวรกายเหนื่อยล้า โรยแรง
น้ำพระทัยยังแสดง ดื่มได้
เยี่ยมพระพี่นางแสวง สุขสวัสดิ์
ทุกข์ยิ่งเทิดองค์ไท้ มุ่งสร้างบารมี
แปดสิบปีผ่านแล้ว ผ่านเลย
กาลไม่กลับดังเคย ค่ำเช้า
พระเกียรติยศยิ่งงอกเงย สงบสง่า
แปดสิบปีเหนือเกล้า แกร่งกล้า เหนือกาล
..จากมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 7 - 13 ธค.2550 ค่ะ
้
ขอบคุณมากครับ ... คุณเบิร์ด
เรามาทำดีเพื่อในหลวงกันนะครับ
ส่วนเรื่องระบบ วันนี้ดูแปลก ๆ จริงด้วยนะครับ
อัพรูป ขึ้น แล้วก็ หาย ครับ
หลาย ๆ ท่านน่าจะพบปัญหาแบบนี้เหมือนกัน
:) ขอบคุณที่มีความรู้สึกเหมือนกันครับ
สวัสดีค่ะ..อ.วสวัตดีมาร
คนข้างขึ้น..มาเยี่ยมคนข้างแรมค่ะ.. ดีใจค่ะ..ที่พบคนรักในหลวงเหมือนอาจารย์.. เดี๋ยวนี้..จะกราบพระองค์ทุกครั้งที่เห็นพระองค์ในจอทีวีค่ะ..พระองค์อยู่ใกล้เรามาก.. ถ้ามีการแลกเปลี่ยนกันได้จริง ๆ ก็สามารถทำได้เช่นลุงบุญคมค่ะ..ด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ..รักพระองค์มากเหลือเกิน..ค่ะ คุณพระคุ้มครอง..อาจารย์ค่ะ
ขอบพระคุณครับ ท่านอาจารย์วัชราภรณ์ คนข้างขึ้น 555
:)
ผมรักในหลวง
รักในหลวงเช่นกันครับ คุณ สุดา :)
ขอบคุณครับ
น่าชื่นชมคุณลุงบุญคมมากครับ
ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร
ขอบคุณครับ คุณทหารจาก ร.2 พัน.2 รอ. ;)
ขอบคุณครับ คุณ ไพรทูรย์ ;)