วัยรุ่นเข้าวัด ผู้ใหญ่เข้าโรงแรม


ความต้องการที่แตกต่างของวัยรุ่นและวัยทำงาน

      24-25 พฤศจิกายน 2550 (วันลอยกระทง)พานักศึกษาร่วมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ายจิตอาสา สปสช.เป็นผู้จัดที่โรงแรมวรบุรีอโยธยา จ.อยุธยา กลางคืนหลังเสร็จภาระกิจโรงแรมจัดงานลอยกระทงให้แก่ลูกค้า นอกจากนักศึกษาจำนวน43สถาบันๆละ5คนแล้ว มีผู้ใหญ่วัยทำงานพาลูกหลาน(วัยรุ่น)มาน้อยกว่า วัยทำงานที่พาพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่มาเป็นจำนวนมาก ลูกหลานเดินตักกับข้าว(อาหารบุพเฟ่ต์)ผลไม้ ไอศครีมและเครื่องดื่มให้พ่อแม่/ญาติ คุยเฮฮาหยอกล้อ ดึงกันออกไปร้องเพลงร่วมกับวงดนตรี ผู้สูงอายุหลายคนร้องเพลงสุนทราภรณ์ได้เพราะมาก บางเพลงเรายังไม่รู้จักเลย  บางคนร้องไม่จบก็เต้นลืมวัยได้ท่าเก่งเรียกเสียงฮากัน และส่งลูกหลานไปร้องเพลงแก้ตัวให้ บรรยากาศกันเองราวกับสนุกอยู่ที่บ้าน ผู้สูงอายุรอลุ้นรางวัลใจจดจ่อเหมือนเด็กรอของขวัญเลย พี่ไทยหนุกหนานกันพักใหญ่ลูกค้าจีนและไต้หวันขอแจมด้วย ขำมาก ที่ต่างคนต่างพูดกันไม่รู้เรื่องแต่สามารถแบ่งคิวร้องเพลงกันได้ลงตัว พอเริ่ม ดึก ส.ว.ชักไม่ยอมลงจากเวทีช่วงของไต้หวันร้อง สว.ไทยก็เชียร์ปรบมือและโยกตามพอมันในอารมณ์บนเวที ลูกๆนั่งหัวเราะอยู่ที่โต๊ะกัน หลานๆไปรอจูงขึ้น/ลงจากเวที สว.ร้องสู้ไม่ได้เรียกหลานมาช่วย เพลงที่ปะสานเสียงกันได้ทั้งไทย ลาว จีน ฮ่องกง ไต้หวัน คือ เพลงกระบี่ไร้เทียมทาน(โป้วฉี่ตั่วซานโต้ว โป้ฉินแหม่ฉินโก...มั่วกันไปไทยจีน) และเปาปุ้นจิ้น น่ารักมากลูกหลานเรียกท่านยังไม่ยอมลงจากเวที พอจับฉลากรางวัล ให้คุณยายอ่านภาษาไทยและให้ไต้หวันอ่านภาษาจีน คุณยายก็ย้ำอ่านภาษาจีนแบบไทยล้อเลียนเค้าสนุกสนานเชียว

          บรรยายกาศนี้ คือการปรับตัวและกลยุทธ์การตลาดของโรงแรมจริงๆ คงทำการตลาดพบว่าข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้สูงอายุจะเติบโตระยะยาว สอบถามว่าทำไมงานนี้ สว.มากจังพบว่า ลดราคาให้ผู้สูงอายุที่มากับบุตรหลาน50%(ต้องมีบุตรหลานมาดูแลบอกว่าสร้างสัมพันธ์ครอบครัวด้วยประเพณีไทย)การจัดการแบบ Creative Management เพื่อเพิ่มมูลค่าและกลุ่มเป้าหมายใหม่สำหรับเมืองประวัติศาสตร์ที่สัมฤทธิผลและได้รับความพึงพอใจลูกค้าในระดับสูงมาก 

        คืนเดียวกันมีปัญหาเรื่องการเคลียร์ห้องของเจ้าหน้าที่มีคนแอบมั่วรับกุญแจห้องเราไปกับนักศึกษา5คนไม่มีที่นอน อาจได้ห้องหลังเที่ยงคืน จึงพานักศึกษาไปเที่ยวลอยกระทงที่วัดพนัญเชิง อนุญาตให้ไปเที่ยวเจอที่รถ23.30น.ตรง ก่อนแยกกันบอกว่าลองดูน่ะบรรยากาศงานวัดที่แท้จริง ถ่ายรูปไว้บ้างน่ะ ชิงช้าสวรรค์ใหญ่มาก ลิเกประยุกต์เวทีแบบคอนเสิร์ต รำตัด หนังกลางแปลง เวทีเต้นแบบสาวรำวง แม่ค้าแม่ขายแบบเดิมๆห่างหายไปนาน หรือเราห่างจากการเที่ยวงานวัดไปนานก็ไม่รู้ นั่งรอนักศึกษาอยู่กับเพื่อนใต้ต้นไทร ข้างโบสถ์ ตั้งแต่นั่งมองนับผู้คนเข้าออกเป็นผู้ใหญ่(น่าจะอายุ25ปีขึ้นไป)ได้เพียง2คน ตลอดเวลา 45 นาที  บอกเพื่อนถึงข้อสังเกตุเพื่อนว่าบ้า ว่างมากเหรอ คิดได้งัย มีแต่เด็กวัยรุ่นผู้หญิงใส่ขาสั้นบ้าง การเกงยีนส์Super lowบ้าง เดินจูงมือ ป้อนข้าวป้อนน้ำกัน ไอ้ที่นั่งข้างหลังก็อ้อนกันเสียจนเราอาย(ไม่มีคนอ้อน) เดินต่อไปใกล้ๆโบสถ์ควันธูปมาก (เกือบหอบไม่ได้เอายาไปด้วย) มีวัยรุ่นไปไหว้พระมากกว่าผู้ใหญ่เช่นกัน อาจใช้ตัวเลขประมาณว่าร้อยละ90 เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง15-20 ปีด้วยซ้ำ พระก็ซ้อนเก้าอี้ปีนดูการแสดงไม่แอบเลย ดูจะจะเป็นทิวแถวแบบอาการไม่สำรวมด้วยน่ะ

         กลยุทธ์แบบ Dhamma Delivery เชิง Creative management ของพระมหาสมปองหรือเปล่าน่ะ เด็กวัยรุ่นในสังคมโพสโมเดิร์นที่คนต่างอายุ ต่างมีโลกของตนเองเชนนี้ โลกวัยรุ่นจึงหลั่งไหลเข้าวัดขนาดนี้  คำตอบมีเฉลยเมื่อดึกลงเรื่อยๆ เด็กวัยรุ่นแยกกันหาที่มุมมืด นั่งกอด ล้วงทวงถามความสัมพันธ์กันที่มุมมืดในวัด เสียงคิกคักในโลกเสมือนจริงต่างจากเสียงที่โรงแรมที่เพิ่งผ่านมา สว.มีเงินก็ไปซื้อความสนุกสนานสะดวกสบายแบบสำเร็จรูป อบอุ่นน่าชื่นชม ส่วนวัยรุ่นมาพรอดรักที่วัดแบบเก็บเล็กผสมน้อย ใครผ่านมาก็ชำเลืองดูว่าจะนั่งใกล้ไหม ตอนแรกนั่งดูและเม้าท์ให้เพือนฟังไปๆเพื่อนร่วมเม้าท์ด้วย  กำลังมองว่าเกิดอะไรในสังคมไทย อาจเกิดจาก 1. เด็กเงินน้อยเข้าวัดดีกว่า2. บอกแม่ว่าไปวัดกับเพื่อนดูดีน่าเชื่อถือ 3.บรรยากาศมันเป็นใจดีมีเสียงเพลงเคล้า หรือ 4.เพื่อนเยอะดีมีแนวคิดเดียวกัน     การเรียนรู้และการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถาการณ์และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ทั้งที่สถิติการเสียตัวของหญิงสาวในวันลอยกระทงเป็นรองจากวันวาเลนไทม์เล็กน้อยเท่านั้น

          ปัญหาอยู่ที่.....ไม่รู้ว่าเด็กที่มานั่ง/นอนกอดกันที่วัด พ่อแม่เค้าพาปู่ย่าไปเที่ยวที่โรงแรมหรือเเปล่า? นี่คือเรื่องจริงที่พบด้วยตัวเอง รีบโทรศัพท์หาลูกชายในทันที(นี่ก็เหมือนกัน.....สังคมลูกคนเดียวที่ต้องการสัญญลักษณ์เฉพาะหรือSymbolism) เสียงงัวเงียง่วงนอน...(แกล้งป่าวว้าาาา) ค่อยโล่งใจเพราะปฏิเสธลูกที่ให้ไปรับกลับบ้าน เพราะต้องมาอยุธยาในวันนี้....ไม่รู้ว่าดีใจกับลูกตัวเอง...ได้นานแค่ไหน....กลับบ้านเรา...รักรออยู่......ความสับสนของสถานที่พักผ่อนที่แตกต่างกันของคน2วัย ด้วยต้องการโลกเสมือนจริง วัยรุ่นจึงเข้าวัด วัยทำงานและสว.ที่สวัสดิการไม่ตอบสนองความต้องการเพียงพอจึงเข้าโรงแรม ..กลุ่มเป้าหมายทางการค้าที่แตกต่าง เนื่องมาจากความสามารถในการจ่าย มุมมองลูกค้าเป็นสำคัญนั่นเอง.......ที่นี่ประเทศไทย2550

 

 

หมายเลขบันทึก: 152405เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2007 18:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 23:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท